

ททท. จัดพิธีพระราชทานรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) ครั้งที่ 15 ประจำปี 2568 สู่ 3 ทศวรรษรางวัลแห่งเกียรติยศ มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเดินหน้าสู่ความยั่งยืน
กรมการท่องเที่ยวตอกย้ำบทบาท “ผู้นำท่องเที่ยวยั่งยืน” เตรียมประกาศ Thailand Green Tourism Plan 2030 บนเวที Green Destinations 2025 ณ เมืองมงเปอลีเยร์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส
กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเข้าร่วมงาน Green Destinations 2025 Occitanie ณ เมืองมงเปอลีเยร์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส พร้อมแสดงบทบาทของประเทศไทยในเวทีนานาชาติด้านการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เปิดตัวภารกิจ Thailand Green Tourism Plan 2030 พร้อมร่วมแสดงความยินดีกับแหล่งท่องเที่ยวของไทยที่ได้รับรางวัล Green Destinations Awards & Top 100 Stories ประจำปีนี้
งาน Green Destinations 2025 จัดโดย Green Destinations Foundation องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ถือเป็นเวทีประชุมระดับนานาชาติด้านการท่องเที่ยวยั่งยืน โดยมีผู้แทนภาครัฐ เอกชน นักวิชาการและชุมชนจากทั่วโลกเข้าร่วมงาน เป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า “การเข้าร่วมงานดังกล่าว นับเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยในการยืนยันเจตนารมณ์และศักยภาพด้านการท่องเที่ยวยั่งยืน ตลอดจนแสดงความพร้อมของประเทศไทยในการยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวให้ทัดเทียมระดับนานาชาติ และเป็นผู้นำการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบในภูมิภาค ซึ่งกรมการท่องเที่ยวได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ Green Destinations Foundation เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อร่วมกันสร้างและพัฒนาตัวชี้วัดด้านการท่องเที่ยว อย่างยั่งยืนของประเทศไทย ให้มีความเข้มแข็งและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนแหล่งท่องเที่ยวและผู้ประกอบการที่สามารถยกระดับสู่มาตรฐานสากลอย่างน้อย 30 รายต่อปี”
ในโอกาสนี้ ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่จะเข้าร่วมพิธีมอบรางวัล Green Destinations Awards & Top 100 Stories เพื่อยกย่องและเผยแพร่ความสำเร็จของแหล่งท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นด้านความยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงสร้างชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในระดับโลก แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนาการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้มีแหล่งท่องเที่ยวของไทยได้รับรางวัลดังกล่าวกว่า 10 แห่ง กรมการท่องเที่ยวจึงเปรียบเสมือนตัวแทนของประเทศไทยที่ไปกล่าวแสดงความความยินดี และประกาศความภาคภูมิใจในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยไปสู่ความยั่งยืนบนเวทีโลก
สมาคมฝึกการพูด แห่งประเทศไทย "The Speech Training Association of Thailand"
พ.อ.พิเศษ เกษม รัตนปราณี (นายกสมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย) ชวนมาฝึกทักษะ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวเอง ด้วยการฝึกพูดที่สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
วัตถุประสงค์และจุดเด่น:-
✨️พัฒนาทักษะการพูด ให้ตรงประเด็น กระชับ ไม่เยิ่นเย้อ
✨️พูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ และปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
✨️ควบคุมความประหม่า และความตื่นเต้นขณะพูด
✨️ปรับปรุงบุคลิกภาพ สร้างความมั่นใจในการแสดงความคิดเห็น
✨️มีไหวพริบในการโต้ตอบ พร้อมรับฟังความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์
🚩ณ. อาคารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย (ถนนสุขุมวิท ซอยทองหล่อ 25) กรุงเทพฯ
เริ่มต้นพัฒนาตัวเองได้แล้ววันนี้!
เพิ่มมูลค่าให้ตัวคุณ ด้วยทักษะการพูดอย่างมืออาชีพ !
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย, อาคารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียล,
(สุขุมวิท ซอยทองหล่อ 25) กรุงเทพฯ
ยกระดับบุคลากรสู่ต้นแบบองค์กรแห่งการเรียนรู้
การเปิดตัวครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นายอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, นางสุภาพร บัญชาจารุรัตน์ ผู้อำนวยการสายทรัพยากรบุคคล, และ ดร.นิรุธ ศรีพวาทกุล ผู้อำนวยการสายพัฒนาคุณค่าธุรกิจและเพิ่มพูนการเรียนรู้ เครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล ร่วมสะท้อนวิสัยทัศน์การยกระดับศักยภาพบุคลากรทั้งเชิงวิชาชีพและเชิงบริการ โดยเน้นว่า “หัวใจสำคัญของการบริการสุขภาพยุคใหม่คือความเข้าใจมนุษย์” และบทบาทขององค์กรคือการสร้างเครื่องมือ ความรู้ และแรงบันดาลใจ ให้บุคลากรพร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากเครื่องมือภายใน สู่แพลตฟอร์มองค์กร ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา CILA เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของบุคลากรกว่า 10,000 คนใน 11 โรงพยาบาลในเครือฯ ด้วยการพัฒนาหลักสูตรกว่า 800 รายวิชา ครอบคลุมทั้งด้านการแพทย์ พยาบาล และทักษะพัฒนาตนเอง ด้วยสถิติการใช้งานมากกว่า 4 ล้านครั้ง เพิ่มการเติบโตด้านการเรียนรู้กว่า 20 เท่า และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรมได้กว่า 139 ล้านบาทต่อปี ภายใต้ความร่วมมือทางวิชาการกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
CILA 4.0: UX/UI ใหม่ ใช้งานง่าย ปลอดภัย และเข้าถึงได้ทุกบทบาท
เวอร์ชันล่าสุดมาพร้อมฟีเจอร์ที่สะท้อนเสียงผู้ใช้จริง อาทิ
• Single Login รองรับผู้ที่มีหลายบทบาทในองค์กร
• Avatar Creator สร้างตัวตนการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น
• Self-service Forgot Password ลดปัญหาการเข้าถึง
• Short Video Learning เนื้อหากระชับ ตอบโจทย์เวลาจำกัด
SQILL UP: Gamification + MicroLearning
นวัตกรรมล่าสุดที่ทำให้การเรียนรู้ไม่ใช่ภาระ แต่เป็นประสบการณ์ที่สนุกและต่อเนื่อง ผ่านการทบทวนเพียงวันละ 5 นาที ด้วย Quiz และ Scenario เสริมระบบคะแนน–รางวัล–Leaderboard ที่สร้างแรงจูงใจตลอดเวลา
เรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด เพื่อคนไข้และสังคม สิ่งที่ CILA 4.0 มอบให้องค์กรไม่ใช่เพียงการลดต้นทุนหรือเพิ่มทักษะ แต่คือการสร้าง “วัฒนธรรมการเรียนรู้” ที่ทำให้บุคลากรพร้อมส่งต่อคุณค่าถึงผู้ป่วยและผู้รับบริการจริง เครือรพ.พญาไท–เปาโลเชื่อว่าความสำเร็จขององค์กรไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก “คน” ที่ได้รับการเสริมพลังในการเติบโต วันนี้ CILA 4.0 จึงไม่ใช่แค่การอัปเกรดระบบ แต่คือการยกระดับ “คน” และ “องค์กร” ไปพร้อมกัน
“การลงทุนใน CILA 4.0 ไม่ใช่เพียงการลงทุนในระบบการเรียนรู้ แต่คือการลงทุนใน ‘คน’ ของเรา เพราะบุคลากรคือหัวใจของการบริการสุขภาพ วัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจะช่วยยกระดับศักยภาพและหล่อหลอมให้บุคลากรของเรากลายเป็น Empathic Guardians ที่เข้าใจและดูแลผู้ป่วยได้ด้วยหัวใจอย่างแท้จริง ผมเชื่อมั่นว่าการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด และนี่คือพลังที่จะขับเคลื่อนเครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน— นายอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล
• สนับสนุนผลงานศิลปินไทยรุ่นใหม่ ให้มีพื้นที่แสดงความสามารถจาก Online สู่ On-ground พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจแห่งความสุขเพื่อทุกคน
• สัมผัสมุมถ่ายภาพสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เจ้าแกะเหลืองชูชีพ “SHEWSHEEP” บนก้อนเมฆแห่งจินตนาการ ผลงานศิลปิน POPTODAY
• ส่งต่อโมเม้นท์แห่งความสุข พร้อมตะลุยอีทของอร่อยกว่า 100 ร้านค้าดัง ทั่วทั้งศูนย์การค้าฯ
• ร่วมกิจกรรม POST & SHARE ลุ้นรับของที่ระลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เฉพาะในงานนี้เท่านั้น
นางสาวกัลยา กมลรัตน์ ผู้อำนวยการด้านการตลาด ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 30 ปี ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ตอกย้ำการเป็นมากกว่าศูนย์การค้าฯ ก้าวสู่จุดหมายปลายทางแห่งการ Shopping, Lifestyle & Community ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในย่านกรุงเทพฯ ตอนเหนือ พร้อมส่งต่อความประทับใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกเจนเนอเรชั่นอย่างแท้จริง โดยได้ร่วมมือกับศิลปินไทยที่มากไปด้วยความสามารถ POPTODAY สุมิตร สีมากุล ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของคาเร็คเตอร์แกะชูชีพสุดน่ารัก สร้างสรรค์เป็นผลงานสุดคิวท์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Extraordinary Day เปลี่ยนวันธรรมดาให้แสนพิเศษ ทั่วทั้งศูนย์การค้าฯ พร้อมให้ทุกคนได้ค้นหาความสุขแบบเต็มอิ่ม ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์
ด้าน นายสุมิตร สีมากุล ดีไซเนอร์เจ้าของคาแรคเตอร์ SHEWSHEEP (ชูชีพ) เผยว่า รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ มอบพื้นที่และร่วมสนับสนุนศิลปินไทย ให้มีโอกาสแสดงผลงานของตัวเองใน Online สู่ On-ground ได้พบปะเหล่าแฟนคลับของ SHEWSHEEP (ชูชีพ) ตัวจริง ซึ่งการสร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้ ได้นำความโดดเด่นของคาเร็คเตอร์เจ้าชูชีพจอมกิน มาเล่าเรื่องผ่านจินตนาการรอบตัวที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เหมือนก้อนเมฆบนท้องฟ้าที่มีลักษณะรูปร่างแตกต่างกันในทุกวัน เกิดเป็นไอเดียนำเสนอเป็นความสนุกสนานของชูชีพที่โลดแล่นบนก้อนเมฆแห่งสีสันและความตื่นเต้น สะท้อนความสุขที่ไม่ธรรมดาของศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ที่ทุกคนต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง
พบความน่ารักสุดทะเล้นของ SHEWSHEEP (ชูชีพ) แกะสีเหลืองจอมกินและผองเพื่อน บนก้อนเมฆแห่งจินตนาการ แบบไม่เคยแสดงที่ไหนมาก่อน เปลี่ยนวันธรรมดาให้แสนพิเศษไปด้วยกัน กับบรรยากาศจุดถ่ายรูปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ถ่ายมุมไหนก็ชิคจนอยากแชร์ ทั่วทั้งศูนย์การค้าฯ วันนี้ - 28 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์
#FutureParkxShewsheep
#FuturePark30YearsAnniversary
#FutureParkandZpell
ยกระดับแบรนด์ดิ้ง-สื่อสารการตลาด ไทย–ญี่ปุ่นสู่ความสำเร็จในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
24 กันยายน 2568 – กรุงเทพฯ, (u/n)branded. (อันแบรนด์เด็ด) เอเจนซี่การตลาดจากประเทศไทย ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) กับบริษัท MW Inc. ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การตลาดจากญี่ปุ่น เพื่อร่วมมือกันพัฒนากลยุทธ์การตลาดและการสื่อสารข้ามพรมแดน เสริมศักยภาพทางธุรกิจไทย–ญี่ปุ่น และขยายโอกาสในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การจับมือครั้งนี้เป็นการผสานจุดแข็งของทั้งสององค์กร โดย (u/n)branded. เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ การสื่อสาร การตลาดดิจิทัล และการใช้ AI เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจ ขณะที่ MW Inc. มีเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งและความเข้าใจตลาดญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถพัฒนากลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ทั้งมิติทางวัฒนธรรมและธุรกิจการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นางศศินันท์ ออลแมนด์ ผู้อำนวยการบริหารประจำประเทศไทย (u/n)branded. กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้แบรนด์ต่างประเทศสามารถเข้ามาทำตลาดในไทยได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการสนับสนุนจากทีมงานที่เข้าใจทั้งตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ธุรกิจไทยมีช่องทางและความพร้อมมากขึ้นในการขยายสู่ตลาดญี่ปุ่นผ่านกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์และเข้ากับความต้องการของผู้บริโภค
ด้านนายมาซาโนริ วาตานาเบะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท MW Inc. ระบุว่า จุดแข็งด้านการวางกลยุทธ์และศักยภาพการใช้เทคโนโลยี ดิจิทัลที่ทันสมัยและความคิดสร้างสรรค์ของ (u/n)branded. จะช่วยเสริมเครือข่ายองค์กรญี่ปุ่น พร้อมยกระดับศักยภาพการแข่งขันของลูกค้าทั้งสองประเทศในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพการเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ทั้งนี้ ความร่วมมือจะครอบคลุมการทำแคมเปญการตลาดระหว่างประเทศ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านวัฒนธรรม และการศึกษาเชิงลึกผู้บริโภคในแต่ละประเทศ โดยมุ่งสร้างผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง และต่อยอดให้ไทยและญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญในภูมิภาค
ความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนวิสัยทัศน์ของ (u/n)branded. ในฐานะ เอเจนซี่มืออาชีพระดับสากล ที่พร้อมยกระดับมาตรฐานการสื่อสารการตลาดของไทย ด้วยการผสานความคิดสร้างสรรค์ เครื่องมือดิจิทัล และเทคโนโลยี AI เพื่อสร้างคุณค่าและการเติบโตให้กับแบรนด์และธุรกิจในระยะยาว
#unbranded #unbrandedAgency #MWJapan #unbrandedxMW #CrossBorderMarketing #MarketingInnovation #DigitalMarketing #AIPoweredSolutions
#MarketingStrategy #GlobalPartnership #ThailandJapan #เอเจนซี่ไทย #กลยุทธ์การตลาด
โดยท่านสามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง โซเชียลมิเดียทุกแพลตฟอร์ม Facebook Fan Page, Twitter , Instagram, Youtube, Tiktok พิมพ์ชื่อ “RED Line SRTET” หรือส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง และ www.srtet.co.th
“มากกว่าการเดินทางคือ ...ความพิเศษ”
รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง