28 กันยายน 2568

สถานทูตมาเลเซียจัดงานฉลองวันชาติครบรอบ 68 ปี ตอกย้ำมิตรภาพแน่นแฟ้นไทย-มาเลเซีย

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย นำโดยนายบอง ยิก จุย (H.E. Mr. Bong Yik Jui) อัครราชทูตที่ปรึกษา รักษาการแทนเอกอัครราชทูต จัดงานเลี้ยงฉลองวันชาติครบรอบ 68 ปีของมาเลเซีย (Merdeka Day) อย่างยิ่งใหญ่ ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ โดยมีแขกผู้มีเกียรติทั้งจากแวดวงการเมือง การทูต ภาครัฐ และเอกชน เข้าร่วมอย่างคับคั่ง ภายในงานได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญ อาทิ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ตลอดจนเอกอัครราชทูตจากประเทศต่าง ๆ สะท้อนถึงความสำคัญของงานเฉลิมฉลองครั้งนี้ในการเป็นเวทีเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ





นายบอง ยิก จุย กล่าวในพิธีว่า ไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความใกล้ชิดกับมาเลเซียมาอย่างยาวนาน ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือรอบด้านเพื่อเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน และยังคงรักษาสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างประชาชน โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยว ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียกว่า 2.3 ล้านคนเดินทางมาเยือนไทย








ไทยและมาเลเซียสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตตั้งแต่ปี 2500 โดยมีพรมแดนติดต่อกันทั้งทางบกและทางน้ำใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังเป็นประเทศผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ด้วยกัน ทั้งนี้ มาเลเซียซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของอาเซียนดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2025 โดยให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง และการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ที่จะขับเคลื่อนอาเซียนให้เป็นประชาคมที่มั่นคง มั่งคั่ง และมีเอกภาพ
การจัดงานครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยในการเป็นสื่อกลางเชื่อมสัมพันธ์และเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างสองประเทศ ตอกย้ำถึงมิตรภาพและความร่วมมือที่ยั่งยืนของไทย-มาเลเซีย


27 กันยายน 2568

ททท. จัดพิธีพระราชทานรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) ครั้งที่ 15

ททท. จัดพิธีพระราชทานรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) ครั้งที่ 15 ประจำปี 2568 สู่ 3 ทศวรรษรางวัลแห่งเกียรติยศ มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเดินหน้าสู่ความยั่งยืน


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดพิธีพระราชทานรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) ครั้งที่ 15 ประจำปี 2568
โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธาน พระราชทานรางวัลแก่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม โดยมี นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. คณะผู้บริหาร ททท. คณะกรรมการพิจารณาตัดสินรางวัลฯ และหน่วยงานพันธมิตร เข้าร่วมงาน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพมหานคร




นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. ได้จัดการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) ขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องเชิดชูผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่มีการพัฒนาคุณภาพ และรักษามาตรฐานการให้บริการที่มีความเป็นเลิศ สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล รางวัลนี้จึงเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศ ที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่หน่วยงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ซึ่งจะช่วยรับรองการส่งมอบประสบการณ์ทรงคุณค่าและน่าประทับใจ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวคุณภาพ เสริมสร้างขีดความสามารถของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้มีความโดดเด่น ทั้งด้านประเพณี วัฒนธรรม อัตลักษณ์ความเป็นไทย ตลอดจนการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน อันเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในเวทีโลก เพื่อให้ประเทศไทยสามารถรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันและยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก




สำหรับพิธีพระราชทานรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 15 ประจำปี 2568 เป็นส่วนหนึ่งของ Grand Celebration ภายใต้แคมเปญ Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 โดยในปีนี้ได้มีการแบ่งประเภทการประกวดออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ ประเภทแหล่งท่องเที่ยว ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว ประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ประเภทรายการนำเที่ยว และประเภทองค์กรสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน ซึ่งมีผลงานที่ได้รับรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 151 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลเกียรติยศ (Hall of Fame) จำนวน 6 รางวัล รางวัลยอดเยี่ยม (Thailand Tourism Excellence Awards) จำนวน 17 รางวัล รางวัลดีเด่น (Thailand Tourism Outstanding Awards) จำนวน 59 รางวัล และรางวัลแห่งความยั่งยืน (Thailand Tourism Sustainability Awards) ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษที่มอบครั้งแรกในปีนี้ ให้แก่ผู้ประกอบการที่มีความยอดเยี่ยมในด้านการบริหารจัดการความยั่งยืน และรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม จำนวน 69 รางวัล

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายชื่อสถานประกอบการและแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยครั้งที่ 15 ประจำปี 2568
ได้ที่เว็บไซต์ www.tourismthailand.org/tourismawards หรือ Facebook Page : thailandtourismawards

กรมการท่องเที่ยวตอกย้ำบทบาท “ผู้นำท่องเที่ยวยั่งยืน”

กรมการท่องเที่ยวตอกย้ำบทบาท “ผู้นำท่องเที่ยวยั่งยืน” เตรียมประกาศ Thailand Green Tourism Plan 2030 บนเวที Green Destinations 2025 ณ เมืองมงเปอลีเยร์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส

กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเข้าร่วมงาน Green Destinations 2025 Occitanie ณ เมืองมงเปอลีเยร์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส พร้อมแสดงบทบาทของประเทศไทยในเวทีนานาชาติด้านการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เปิดตัวภารกิจ Thailand Green Tourism Plan 2030 พร้อมร่วมแสดงความยินดีกับแหล่งท่องเที่ยวของไทยที่ได้รับรางวัล Green Destinations Awards & Top 100 Stories ประจำปีนี้

งาน Green Destinations 2025 จัดโดย Green Destinations Foundation องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ถือเป็นเวทีประชุมระดับนานาชาติด้านการท่องเที่ยวยั่งยืน โดยมีผู้แทนภาครัฐ เอกชน นักวิชาการและชุมชนจากทั่วโลกเข้าร่วมงาน เป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า “การเข้าร่วมงานดังกล่าว นับเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยในการยืนยันเจตนารมณ์และศักยภาพด้านการท่องเที่ยวยั่งยืน ตลอดจนแสดงความพร้อมของประเทศไทยในการยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวให้ทัดเทียมระดับนานาชาติ และเป็นผู้นำการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบในภูมิภาค ซึ่งกรมการท่องเที่ยวได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ Green Destinations Foundation เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อร่วมกันสร้างและพัฒนาตัวชี้วัดด้านการท่องเที่ยว อย่างยั่งยืนของประเทศไทย ให้มีความเข้มแข็งและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนแหล่งท่องเที่ยวและผู้ประกอบการที่สามารถยกระดับสู่มาตรฐานสากลอย่างน้อย 30 รายต่อปี”




การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ กรมการท่องเที่ยวจะร่วมกิจกรรม Partners Day กับภาคีเครือข่ายที่ทำงานด้านความยั่งยืนจากทั่วโลกกว่า 400 คน ซึ่งนับเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ มุมมอง และประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวยั่งยืน รวมถึงโอกาสในการหารือความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืนของประเทศไทยในระยะ 5 ปีข้างหน้า ตามกรอบแผนงาน Thailand Green Tourism Plan 2030

ในโอกาสนี้ ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่จะเข้าร่วมพิธีมอบรางวัล Green Destinations Awards & Top 100 Stories เพื่อยกย่องและเผยแพร่ความสำเร็จของแหล่งท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นด้านความยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงสร้างชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในระดับโลก แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนาการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้มีแหล่งท่องเที่ยวของไทยได้รับรางวัลดังกล่าวกว่า 10 แห่ง กรมการท่องเที่ยวจึงเปรียบเสมือนตัวแทนของประเทศไทยที่ไปกล่าวแสดงความความยินดี และประกาศความภาคภูมิใจในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยไปสู่ความยั่งยืนบนเวทีโลก

พ.อ.พิเศษ เกษม รัตนปราณี ชวนมาฝึกทักษะ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวเอง

สมาคมฝึกการพูด แห่งประเทศไทย "The Speech Training  Association of Thailand"

พ.อ.พิเศษ เกษม รัตนปราณี (นายกสมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย) ชวนมาฝึกทักษะ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวเอง ด้วยการฝึกพูดที่สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

วัตถุประสงค์และจุดเด่น:-

✨️พัฒนาทักษะการพูด ให้ตรงประเด็น กระชับ ไม่เยิ่นเย้อ

✨️พูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ และปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

✨️ควบคุมความประหม่า และความตื่นเต้นขณะพูด

✨️ปรับปรุงบุคลิกภาพ สร้างความมั่นใจในการแสดงความคิดเห็น

✨️มีไหวพริบในการโต้ตอบ พร้อมรับฟังความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์



สถานที่ฝึกอบรม:-
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย ทุกวันเสาร์ (1pm – 6pm)

🚩ณ. อาคารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย (ถนนสุขุมวิท ซอยทองหล่อ 25) กรุงเทพฯ

เริ่มต้นพัฒนาตัวเองได้แล้ววันนี้!
เพิ่มมูลค่าให้ตัวคุณ ด้วยทักษะการพูดอย่างมืออาชีพ ! 

สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย,   อาคารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียล,
(สุขุมวิท ซอยทองหล่อ 25) กรุงเทพฯ

25 กันยายน 2568

“CILA 4.0” ตอกย้ำ 6 ปีแห่งความสำเร็จ Hybrid Learning เปิดตัว “Sqill Up”

ยกระดับบุคลากรสู่ต้นแบบองค์กรแห่งการเรียนรู้


6 ปีแห่งความสำเร็จของ Hybrid Learning ผ่าน CILA Application ได้รับการตอกย้ำอีกครั้ง เมื่อเครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล เปิดตัวนวัตกรรมล่าสุด “Sqill Up” บน CILA 4.0 (Center for Interactive Learning Academy) แพลตฟอร์ม Digital Learning ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนก้าวสู่เวอร์ชันใหม่ สื่อการเรียนรู้รูปแบบ Gamification นี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้การพัฒนาทักษะเป็นเรื่องสนุก กระชับ และเห็นผลชัดเจน พร้อมต่อยอดบทบาทของ CILA ในการขยายสู่ B2B Learning Platform สำหรับองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

การเปิดตัวครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นายอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, นางสุภาพร บัญชาจารุรัตน์ ผู้อำนวยการสายทรัพยากรบุคคล, และ ดร.นิรุธ ศรีพวาทกุล ผู้อำนวยการสายพัฒนาคุณค่าธุรกิจและเพิ่มพูนการเรียนรู้ เครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล ร่วมสะท้อนวิสัยทัศน์การยกระดับศักยภาพบุคลากรทั้งเชิงวิชาชีพและเชิงบริการ โดยเน้นว่า “หัวใจสำคัญของการบริการสุขภาพยุคใหม่คือความเข้าใจมนุษย์” และบทบาทขององค์กรคือการสร้างเครื่องมือ ความรู้ และแรงบันดาลใจ ให้บุคลากรพร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากเครื่องมือภายใน สู่แพลตฟอร์มองค์กร ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา CILA เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของบุคลากรกว่า 10,000 คนใน 11 โรงพยาบาลในเครือฯ ด้วยการพัฒนาหลักสูตรกว่า 800 รายวิชา ครอบคลุมทั้งด้านการแพทย์ พยาบาล และทักษะพัฒนาตนเอง ด้วยสถิติการใช้งานมากกว่า 4 ล้านครั้ง เพิ่มการเติบโตด้านการเรียนรู้กว่า 20 เท่า และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรมได้กว่า 139 ล้านบาทต่อปี ภายใต้ความร่วมมือทางวิชาการกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

CILA 4.0: UX/UI ใหม่ ใช้งานง่าย ปลอดภัย และเข้าถึงได้ทุกบทบาท

เวอร์ชันล่าสุดมาพร้อมฟีเจอร์ที่สะท้อนเสียงผู้ใช้จริง อาทิ

• Single Login รองรับผู้ที่มีหลายบทบาทในองค์กร

• Avatar Creator สร้างตัวตนการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น

• Self-service Forgot Password ลดปัญหาการเข้าถึง

• Short Video Learning เนื้อหากระชับ ตอบโจทย์เวลาจำกัด

SQILL UP: Gamification + MicroLearning

นวัตกรรมล่าสุดที่ทำให้การเรียนรู้ไม่ใช่ภาระ แต่เป็นประสบการณ์ที่สนุกและต่อเนื่อง ผ่านการทบทวนเพียงวันละ 5 นาที ด้วย Quiz และ Scenario เสริมระบบคะแนน–รางวัล–Leaderboard ที่สร้างแรงจูงใจตลอดเวลา

เรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด เพื่อคนไข้และสังคม สิ่งที่ CILA 4.0 มอบให้องค์กรไม่ใช่เพียงการลดต้นทุนหรือเพิ่มทักษะ แต่คือการสร้าง “วัฒนธรรมการเรียนรู้” ที่ทำให้บุคลากรพร้อมส่งต่อคุณค่าถึงผู้ป่วยและผู้รับบริการจริง เครือรพ.พญาไท–เปาโลเชื่อว่าความสำเร็จขององค์กรไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก “คน” ที่ได้รับการเสริมพลังในการเติบโต วันนี้ CILA 4.0 จึงไม่ใช่แค่การอัปเกรดระบบ แต่คือการยกระดับ “คน” และ “องค์กร” ไปพร้อมกัน

“การลงทุนใน CILA 4.0 ไม่ใช่เพียงการลงทุนในระบบการเรียนรู้ แต่คือการลงทุนใน ‘คน’ ของเรา เพราะบุคลากรคือหัวใจของการบริการสุขภาพ วัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจะช่วยยกระดับศักยภาพและหล่อหลอมให้บุคลากรของเรากลายเป็น Empathic Guardians ที่เข้าใจและดูแลผู้ป่วยได้ด้วยหัวใจอย่างแท้จริง ผมเชื่อมั่นว่าการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด และนี่คือพลังที่จะขับเคลื่อนเครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน— นายอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล

ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ฉลองครบรอบ 30 ปี


ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ฉลองครบรอบ 30 ปี ปักหมุดแลนด์มาร์กสุดคิ้วท์  FUTUREPARK X SHEWSHEEP 2025 สร้างรอยยิ้มด้วยคาแรคเตอร์เจ้าแกะเหลือง“ชูชีพ” ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในย่านกรุงเทพฯ ตอนเหนือ   

• สนับสนุนผลงานศิลปินไทยรุ่นใหม่ ให้มีพื้นที่แสดงความสามารถจาก Online สู่ On-ground พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจแห่งความสุขเพื่อทุกคน

• สัมผัสมุมถ่ายภาพสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เจ้าแกะเหลืองชูชีพ “SHEWSHEEP” บนก้อนเมฆแห่งจินตนาการ ผลงานศิลปิน POPTODAY 

• ส่งต่อโมเม้นท์แห่งความสุข พร้อมตะลุยอีทของอร่อยกว่า 100 ร้านค้าดัง ทั่วทั้งศูนย์การค้าฯ 

• ร่วมกิจกรรม POST & SHARE ลุ้นรับของที่ระลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เฉพาะในงานนี้เท่านั้น


ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ฉลองครบรอบ 30 ปี เดินหน้าสร้างรอยยิ้มแห่งความสุขอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “วันธรรมดาที่แสนพิเศษ” ประกาศจับมือศิลปินไทยสุดอาร์ต ป๊อป-สุมิตร สีมากุล ดีไซเนอร์เจ้าของคาแรคเตอร์ SHEWSHEEP (ชูชีพ) เจ้าแกะจอมกินเก่งผู้โด่งดังจากเพจ Eat All Day ที่มีเหล่าแฟนคลับติดตามมากมายทั้งไทยและต่างประเทศ ร่วมส่งมอบประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้า ด้วยการออกแบบคาแรกเตอร์ใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์โดยเฉพาะ เริ่มตั้งแต่แคมเปญ Art Toy & Sneaker ต่อด้วย Foodie Tubbie และล่าสุด Installation Art ผลงาน Collaborate กับความน่ารักของ “SHEWSHEEP” หรือ “ชูชีพ” นำมาเชื่อมโยงไลฟ์สไตล์กับมาสคอตฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ “น้องฟิวและน้องเปล” สุดคิ้วท์ได้อย่างลงตัว โดยเนรมิตสีสันความสุขบนก้อนเมฆแห่งจินตนาการ ส่งต่อแรงบันดาลใจ พร้อมออกตามหาความสุขผ่านของกินแสนอร่อย ทั่วทั้งศูนย์การค้าฯ ตั้งแต่วันนี้ - 28 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ 

นางสาวกัลยา กมลรัตน์  ผู้อำนวยการด้านการตลาด ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 30 ปี ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ตอกย้ำการเป็นมากกว่าศูนย์การค้าฯ ก้าวสู่จุดหมายปลายทางแห่งการ Shopping, Lifestyle & Community ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในย่านกรุงเทพฯ ตอนเหนือ พร้อมส่งต่อความประทับใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกเจนเนอเรชั่นอย่างแท้จริง โดยได้ร่วมมือกับศิลปินไทยที่มากไปด้วยความสามารถ POPTODAY สุมิตร สีมากุล ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของคาเร็คเตอร์แกะชูชีพสุดน่ารัก สร้างสรรค์เป็นผลงานสุดคิวท์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Extraordinary Day เปลี่ยนวันธรรมดาให้แสนพิเศษ ทั่วทั้งศูนย์การค้าฯ พร้อมให้ทุกคนได้ค้นหาความสุขแบบเต็มอิ่ม ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์

ด้าน นายสุมิตร สีมากุล  ดีไซเนอร์เจ้าของคาแรคเตอร์ SHEWSHEEP (ชูชีพ) เผยว่า รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ มอบพื้นที่และร่วมสนับสนุนศิลปินไทย ให้มีโอกาสแสดงผลงานของตัวเองใน Online สู่ On-ground ได้พบปะเหล่าแฟนคลับของ SHEWSHEEP (ชูชีพ) ตัวจริง ซึ่งการสร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้ ได้นำความโดดเด่นของคาเร็คเตอร์เจ้าชูชีพจอมกิน มาเล่าเรื่องผ่านจินตนาการรอบตัวที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เหมือนก้อนเมฆบนท้องฟ้าที่มีลักษณะรูปร่างแตกต่างกันในทุกวัน เกิดเป็นไอเดียนำเสนอเป็นความสนุกสนานของชูชีพที่โลดแล่นบนก้อนเมฆแห่งสีสันและความตื่นเต้น สะท้อนความสุขที่ไม่ธรรมดาของศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ที่ทุกคนต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง 

พบความน่ารักสุดทะเล้นของ SHEWSHEEP (ชูชีพ) แกะสีเหลืองจอมกินและผองเพื่อน บนก้อนเมฆแห่งจินตนาการ แบบไม่เคยแสดงที่ไหนมาก่อน เปลี่ยนวันธรรมดาให้แสนพิเศษไปด้วยกัน กับบรรยากาศจุดถ่ายรูปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ถ่ายมุมไหนก็ชิคจนอยากแชร์ ทั่วทั้งศูนย์การค้าฯ วันนี้ - 28 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์

#FutureParkxShewsheep 

#FuturePark30YearsAnniversary

#FutureParkandZpell

24 กันยายน 2568

(u/n)branded. จับมือพันธมิตรญี่ปุ่น MW Inc.

ยกระดับแบรนด์ดิ้ง-สื่อสารการตลาด ไทย–ญี่ปุ่นสู่ความสำเร็จในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

24 กันยายน 2568 – กรุงเทพฯ, (u/n)branded. (อันแบรนด์เด็ด) เอเจนซี่การตลาดจากประเทศไทย ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) กับบริษัท MW Inc. ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การตลาดจากญี่ปุ่น เพื่อร่วมมือกันพัฒนากลยุทธ์การตลาดและการสื่อสารข้ามพรมแดน เสริมศักยภาพทางธุรกิจไทย–ญี่ปุ่น และขยายโอกาสในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การจับมือครั้งนี้เป็นการผสานจุดแข็งของทั้งสององค์กร โดย (u/n)branded. เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ การสื่อสาร การตลาดดิจิทัล และการใช้ AI เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจ ขณะที่ MW Inc. มีเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งและความเข้าใจตลาดญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถพัฒนากลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ทั้งมิติทางวัฒนธรรมและธุรกิจการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นางศศินันท์ ออลแมนด์ ผู้อำนวยการบริหารประจำประเทศไทย (u/n)branded. กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้แบรนด์ต่างประเทศสามารถเข้ามาทำตลาดในไทยได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการสนับสนุนจากทีมงานที่เข้าใจทั้งตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ธุรกิจไทยมีช่องทางและความพร้อมมากขึ้นในการขยายสู่ตลาดญี่ปุ่นผ่านกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์และเข้ากับความต้องการของผู้บริโภค

ด้านนายมาซาโนริ วาตานาเบะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท MW Inc. ระบุว่า จุดแข็งด้านการวางกลยุทธ์และศักยภาพการใช้เทคโนโลยี ดิจิทัลที่ทันสมัยและความคิดสร้างสรรค์ของ (u/n)branded. จะช่วยเสริมเครือข่ายองค์กรญี่ปุ่น พร้อมยกระดับศักยภาพการแข่งขันของลูกค้าทั้งสองประเทศในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพการเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ทั้งนี้ ความร่วมมือจะครอบคลุมการทำแคมเปญการตลาดระหว่างประเทศ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านวัฒนธรรม และการศึกษาเชิงลึกผู้บริโภคในแต่ละประเทศ โดยมุ่งสร้างผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง และต่อยอดให้ไทยและญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญในภูมิภาค

ความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนวิสัยทัศน์ของ (u/n)branded. ในฐานะ เอเจนซี่มืออาชีพระดับสากล ที่พร้อมยกระดับมาตรฐานการสื่อสารการตลาดของไทย ด้วยการผสานความคิดสร้างสรรค์ เครื่องมือดิจิทัล และเทคโนโลยี AI เพื่อสร้างคุณค่าและการเติบโตให้กับแบรนด์และธุรกิจในระยะยาว

#unbranded #unbrandedAgency #MWJapan #unbrandedxMW #CrossBorderMarketing  #MarketingInnovation #DigitalMarketing #AIPoweredSolutions
#MarketingStrategy #GlobalPartnership #ThailandJapan #เอเจนซี่ไทย #กลยุทธ์การตลาด

23 กันยายน 2568

รฟฟท.รับรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนประเภทรัฐวิสาหกิจ ระดับ “ดีเด่น” ประจําปี 2568


บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) รับรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 (Human Rights Awards 2025) ประเภทองค์กรรัฐวิสาหกิจ ระดับ ”ดีเด่น” จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม 



นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เข้ารับมอบรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน “ระดับดีเด่น” ประจำปี 2568 (Human Rights Awards 2025) จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2568 โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลฯ ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร



โดยท่านสามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง โซเชียลมิเดียทุกแพลตฟอร์ม Facebook Fan Page, Twitter , Instagram, Youtube, Tiktok พิมพ์ชื่อ “RED Line SRTET” หรือส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง และ www.srtet.co.th

“มากกว่าการเดินทางคือ ...ความพิเศษ”
รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง