เที่ยวทั่วไทย อร่อยทั่วโลก อัพเดทข่าวรายวัน Lifestyle บันเทิง ทันทุกกระแสข่าว!

28 เมษายน 2567

หมอจุ๊บ ไพ่เทพ ผ่าดวง จับมือ ศูนย์การค้า Fortune Town ศูนย์รวมแห่งไอทีระดับประเทศ

ถือฤกษ์ดีแห่งปี จัดพิธี บวงสรวงใหญ่พระแม่ลักษมี ประดิษฐานด้านหน้า Fortune Town          

ศูนย์การค้า Fortune Town ศูนย์รวมแห่งไอทีระดับประเทศ  ร่วมกับ หมอจุ๊บ ไพ่เทพ ผ่าดวง นักพยากรณ์ชื่อดัง ซึ่ง ขึ้นชื่อว่ามีความรู้ด้านองค์เทพเป็นอย่างดี โดยเฉพาะองค์เทพทางประเทศอินเดีย และ มีความรู้ด้าน ศาสตร์ฮินดูโบราณ  ได้ร่วมกันจัดสร้างพระแม่มหาลักษมี เทพซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเทพที่ ประทานพร ในด้าน โชคลาภ ความร่ำรวย และด้านความรัก  โดยทางศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ร่วมกับหมอจุ๊บไพ่เทพ ผ่าดวง ได้จัดพิธีบวงสรวงใหญ่ และเป็นการ Grand opening ขึ้น ณ ลานฟอร์จูนสตรีท (ด้านหน้า) ฟอร์จูนทาวน์

โดยภายในงาน นอกจากจะมีการบวงสรวงอย่างเป็นทางการแล้ว ยังมีการแสดงนาฏยะลีลาบูชาพระแม่ลักษมี จากโรงเรียนบูรณะศึกษา, การแสดงจาก ศิลปะ วง XWYNN และการแสดงพุดเดิ้ลโชว์ จากคุณพุดเดิ้ลอีกด้วย และในงานนี้ยังได้รับเกียรติจาก เซเลบริตี้ อาทิ คุณวีรินทร์ บุญร่วม, คุณณภัสวรรณ จิลลานนท์, คุณศศิวิมล ดารารัตนโรจน์, คุณปิยะมาลา ดำริกาญจน์, ปัทมวดี  เสนาณรงค์  ฯลฯ



คุณชัยวัฒน์  เอมวงศ์  ผู้อำนวยการอาวุโส  บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND ในฐานะผู้บริหารฟอร์จูนทาวน์   กล่าวว่า “ต้องบอกอย่างนี้ก่อนว่าศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ซึ่งทำเลถือว่าดีมากๆ บนสี่แยก ถนนรัชดา -พระราม 9 ซึ่งเรามีพระพิฆเนศที่วางประดิษฐานไว้ปีนี้เป็นปีที่สองแล้วและก็ยังมีกิจกรรมที่ทำอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน พอได้มาเจอหมอจุ๊บ ก็เลยปรึกษาหารือกัน และได้ความเห็นตรงกันว่าควรจะจัดสร้างพระแม่ลักษมีมาประดิษฐานบริเวณหน้าฟอร์จูนทาวน์เพื่อให้คนต่างชาติ และผู้คนบริเวณนี้ได้เข้ามาสักการะ ซึ่งพอผมได้เห็นรูปปั้นขององค์พระแม่ลักษมีก็รู้สึกชื่นชอบมากครับ ซึ่งที่เราจัดตั้งบริเวณเดียวกับองค์พระพิฆเนศวรก็เกี่ยวกับฮวงจุ้ยด้วยครับ เพราะฟอร์จูนทาวน์ของเรายาวเป็นแนวเดียวกัน ซึ่งตามความเชื่อของอินเดียพระพิฆเนศกับพระแม่ลักษมี ก็มีความเกี่ยวข้องกัน จึงเป็นที่มาของการประดิษฐานอยู่บริเวณเดียวกัน  และที่สำคัญประชาชนที่มาสักการะนั้นเดินทางสะดวก สามารถเข้ามาสักการะและขอพรได้ตลอดเวลาเลยครับ 


ซึ่งปีนี้ถือว่าเป็นปีมูเก็ตติ้ง  ก็คือ Marketing กับมูเตลูมาร่วมกัน ดังนั้นการที่เราเป็นศูนย์การค้าเราก็คาดหวังว่าประชาชนทั้งคนไทยและต่างชาติที่มีความศรัทธาในองค์พระพิฆเนศวรและองค์พระแม่ลักษมี ที่จะมาร่วมขอพรซึ่งไม่ต้องไปไหนไกลครับ ขึ้นรถรถไฟฟ้าใต้ดินมาก็เจอสะดวกในการเดินทาง ซึ่งเราก็มองว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี การที่เราเป็นศูนย์การค้าพอประชาชนได้เข้ามาสักการะองค์เทพก็อาจจะได้มีโอกาสเข้าไปช้อปปิ้งหรือทานอาหารด้านในศูนย์การค้าของเราด้วย

หมอจุ๊บ ไพ่เทพ ผ่าดวง กล่าวว่า “สำหรับพระแม่มหาลักษมี ฟอร์จูนทาวน์ เป็นการจัดสร้างพระแม่ลักษมีปางธนลักษมี ซึ่งเราเน้นการประทานพรด้านความรัก ความร่ำรวย ให้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ทางศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ และได้เปิดโอกาสให้ผู้ศรัทธาโดยทั่วไปคนในย่านใจกลางเมืองรัชดา พระรามเก้า มากราบไหว้ขอพรพระแม่ลักษมีได้สะดวกมากยิ่งขึ้น อย่างที่เราทราบๆ กันว่า พระแม่ลักษมีก็จะมีประดิษฐานที่ใจกลางเมืองอย่างห้างเกษรบ้าง หรือวัดแขกบ้าง ครั้งนี้ที่เราจัดสร้างก็อยากให้คนย่านรัชดา ลาดพร้าวหรือ ที่ใกล้เคียงได้มาสักการะ แบบง่ายๆ ใกล้บ้านบ้าง และฟอร์จูนทาวน์ก็ถือเป็นแหล่งที่เดินทางไปมาสะดวกด้วยค่ะ

สำหรับความเชื่อ เกี่ยวกับพระแม่ลักษมีนั้น เชื่อกันว่าท่านเป็นพระเทวีผู้ประทานพรในเรื่องความมั่งคั่งร่ำรวย มีโชคในเรื่องการเงิน การค้าธุรกิจ และที่สำคัญคือขอพรเรื่องความรักแท้คู่ครองที่ดี ถือว่าเป็นกระแสการมู การขอพรองค์เทพที่คนทั่วไปนิยมมาขอพรท่านกันแบบไม่ขาดสาย จนเกิดเป็นกระแส I told พระแม่ลักษมี ทำให้คนมากราบไหว้สักการะขอพรพระแม่ลักษมีเทวีมากมายอย่างในปัจจุบันค่ะ

พระแม่มหาลักษมี ฟอร์จูนทาวน์  จัดสร้างตามความเชื่อว่าหากท่านสถิตอยู่ ณ สถานที่เป็นมงคลจะยิ่งมีพลังแห่งความสำเร็จ ตามความหมายของพระแม่คือ Fortune ซึ่งตรงกับชื่อฟอร์จูนทาวน์  (Fortune Town) นับว่าเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง กับผู้ที่ได้มาบูชาขอพรสำเร็จสมหวัง  สำหรับใครที่เป็นสายมู หรือใครที่อยากได้ที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ สามารถเดินทางมาสักการะท่านกันได้นะคะ ที่นี่สามารถมาสักการะได้ทุกวันค่ะ เรียนเชิญทุกๆ ท่านได้เลยนะคะ


คุณแอร์ วีรินทร์ บุญร่วม เจ้าของธุรกิจนำเข้าผลไม้สดจากต่างประเทศ บริษัท นวธัญ เวิล์ด ฟรุ๊ต ( nvt)
ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสายมูตัวแม่ และมีความเชื่อและนับถือองค์เทพมาก กล่าวว่า "ถ้าจะถามว่าแอร์มีความเชื่อเกี่ยวกับพระแม่ลักษมีมากแค่ไหน จริงๆ ก็เชื่อมากนะคะ แอร์มีไปสักการะถึงแหล่งก็คือ ที่ประเทศอินเดีย ทุก 2 เดือน สำหรับประเทศไทยก็ไปทุกวันนะคะโดยเฉพาะวัดแขก

ปกติไปวัดแขกกับห้างเกษรตลอด สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ที่ไปขอแล้วคิดว่าได้ก็เรื่องงาน เรื่องเงิน ส่วนใหญ่ก็จะประสบความสำเร็จ สำหรับปางที่ด้านหน้าฟอร์จูนทาวน์ ปางนี้ไม่เคยเห็นแต่ก็เคยมาสักการะที่นี่แล้วก็สำเร็จ ถ้าถามว่าดีใจมั้ยที่มีในย่านรัชดาก็ดีใจเพราะที่เห็นย่านนี้จะมีแต่พระพิฆเนศวร พระศิวะ แต่พอมีพระแม่ลักษมีมาประดิษฐานก็ดีใจนะคะ แอร์เคยมาขอที่นี่หลายครั้งตั้งแต่ก่อนยังไม่ได้เปิดให้สักการะอย่างเป็นทางการ มาขอแต่ละครั้งก็ได้นะคะ ใครที่ชื่นชอบอยากให้ลองมาสักการะที่นี่ดูค่ะ


26 เมษายน 2567

วันสถาปนาสภากาชาดไทย



26  เมษายน 2567 ครบ 131 ปี วันสถาปนาสภากาชาดไทย ขอเชิญชวนดาวน์โหลดสติกเกอร์ไลน์ภาพวาดฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย

ชุด "แชทได้บุญ แชร์ได้กุศล" ชุดที่ 4 (Chat & Charity EP.4) 

.💜อนุโมทนาสาธุ💜

ขอให้ทุกท่านมั่งมีศรีสุข อายุมั่นขวัญยืน ประสบความสําเร็จในทุกประการ

.ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ผ่าน LINE แอปพลิเคชัน ทั้งระบบ iOS และ Android ค้นหาคำว่า "chat&charity" หรือ "สภากาชาดไทย" จากเมนู "สติกเกอร์" (stickers)

หรือที่เว็บไซต์ https://store.line.me/stickershop/product/25019758/en

รายได้สบทบทุนโครงการ "เงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ สภากาชาดไทย"

นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ


#แชทได้บุญแชร์ได้กุศล #ChatandCharityV4

#DonationHUBรับเพื่อให้ #redcrosslinesticker #สภากาชาดไทย

เปิดตัวนิทรรศการ Immersive Disney Animation สุดยิ่งใหญ่ในประเทศไทย


กรุงเทพมหานคร - 25 เมษายน 2567 - นิทรรศการสุดอลังการ “Immersive Disney Animation” ได้เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการแล้ว  ณ  ชั้น 1 เอ็มทาวเวอร์ ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์  เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของดิสนีย์  นิทรรศการ "Immersive Disney Animation" ขอเชิญผู้มีเกียรติทุกช่วงวัย ได้เข้ามาร่วมสัมผัสประสบการณ์อันน่าทึ่ง ดื่มด่ำไปกับมรดกอันทรงคุณค่าของแอนิเมชั่นดิสนีย์ โดยนิทรรศการครั้งนี้จะพาคุณไปพบกับมนต์เสน่ห์อันตราตรึงและความมหัศจรรย์อย่างไร้ขอบเขต ที่หล่อหลอมเข้ากับรูปแบบการเล่าเรื่องที่มีมานานหลายชั่วอายุคน จุดประกายจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดได้ที่นี่




การจัดงานครั้งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง บริษัท เบส เอนเตอร์เทนเม้นท์ เอเชีย และ วอลท์ ดิสนีย์ อนิเมชั่น สตูดิโอ โดยงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา มีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานมากมาย อาทิ คุณก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ พร้อมบุตรชาย และแขกคนสำคัญ อาทิ Ms. Dorothy McKim โปรดิวเซอร์จาก วอลท์ ดิสนีย์ อนิเมชั่น สตูดิโอ(Walt Disney Animation Studios producer), Mr. Vicente Fusco ผู้บริหารฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท สตาร์บอกซ์ (Global Business Development at Starvox) , Ms. Chantal Prudhomme ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบส เอนเตอร์เทนเม้นท์ เอเชีย(Chief Executive Officer of Base Entertainment Asia), คุณปัณณ์ธารี สกุลทอง Project Executive Director Sunday Creations และ Mr. Armando Tolomelli ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม ดิสทริค (Chief Executive Officer of EM DISTRICT) 

Immersive Disney Animation ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนอย่างน่าภาคภูมิใจจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , EMSPHERE ในฐานะสถานที่จัดงานหลัก, บัตร M Card ในฐานะบัตรสมาชิกอย่างเป็นทางการ, TIKTOK ในฐานะพาร์ทเนอร์สื่ออย่างเป็นทางการ, VIU ในฐานะดิจิทัลพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการ, ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ ในฐานะผู้จำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการ, และ Trip.com ในฐานะบริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์อย่างเป็นทางการ


โดยนิทรรศการ Immersive Disney Animation เปิดตัวในรูปแบบใหม่เป็นครั้งแรก! ชวนผู้เข้าชมร่วมเดินทางสู่ประสบการณ์สุดพิเศษ ผ่านโลกแห่งภาพยนตร์แอนิเมชั่นอันเป็นตำนานของดิสนีย์มาตลอด 100 ปีนิทรรศการใช้เวลาเข้าชมทั้งหมด 90 นาที แบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยโซนแรกจะเป็นการต้อนรับผู้เข้าชมด้วยโปสเตอร์ภาพยนตร์กว่า 62 เรื่อง ที่ครอบคลุมช่วงเวลา 100 ปีของแอนิเมชั่นสุดคลาสสิคจากดิสนีย์ นอกจากนี้ ยังมีโมเดลตัวละครดิสนีย์หายาก และของสะสมล้ำค่าจากห้องวิจัย Walt Disney Animation ที่จะมาเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์อันน่าจดจำของ วอลท์ดิสนีย์ (Walt Disney) ผู้สร้างอาณาจักรแห่งจินตนาการ ไฮไลท์สำคัญคือ รูปโมเดล Mickey Mouse ที่มีขนาดความสูงถึง 3.6 เมตร ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนสะท้อนถึงจุดกำเนิดรูปตุ๊กตา มิกกี้เมาส์ขนาดยักษ์ สูงถึง 3.6 เมตร ถือเป็นฉากหลังสุดอลังการสำหรับการถ่ายรูป



ผู้เข้าชมยังจะมีโอกาสได้เห็นเบื้องหลังของศิลปะ เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้ภาพร่างของนักวาดภาพเคลื่อนไหวประดุจดั่งมีชีวิตขึ้นจริงๆ ตั้งแต่การได้เห็นวิวัฒนาการของฉาก ตัวละคร และเพลงดิสนีย์สุดโปรด ไปจนถึงการสำรวจโต๊ะทำงานของนักวาดภาพเคลื่อนไหวที่จัดแสดงไทม์แลปส์การสร้างตัวละคร และการแนะนำนักวาดภาพเคลื่อนไหวผู้มากความสามารถและอยู่เบื้องหลังตำนานนี้ นิทรรศการนี้จะมอบประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดสำหรับทุกคน นอกจากนี้ ยังตอกย้ำไปถึงความหลากหลายของภูมิทัศน์อันงดงามในภาพยนตร์ของดิสนีย์ นิทรรศการแห่งนี้ นำเสนอสถานที่ต่างๆ จากภาพยนตร์ดิสนีย์ทั่วโลก เพื่อเชื้อเชิญผู้เข้าชมให้เจาะลึกไปยังสถานที่จริงที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเรื่องราวอันเป็นที่รัก - ตั้งแต่ฉากประเทศจีน ที่ปรากฏใน “มู่หลาน” ไปจนถึง ฝรั่งเศส ใน “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” และ Alaska ในเรื่อง “brother of bear” นอกจากนี้ บนโต๊ะวาดภาพ ผู้ที่ชื่นชอบไม่ว่าคุณจะมีทักษะระดับใด เรายังเปิดโอกาสให้ผู้ชื่นชอบในทุกระดับความสามารถ ได้เรียนรู้และฝึกฝนเทคนิคการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่น ซึ่งช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และร่วมเฉลิมฉลองไปกับศิลปะการแอนิเมชั่นของดิสนีย์     



ผู้ที่ชื่นชอบไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน สามารถลองวาดภาพเคลื่อนไหวด้วยเทคนิคต่างๆ ที่โต๊ะวาดภาพได้สุดท้ายนี้ โชว์แกลเลอรี่ (Show Gallery) เป็นพื้นที่ดิจิทัลแบบ 360 องศา ที่ออกแบบมาเพื่อดึงผู้เข้าชมให้เข้าสู่ห้วงมนต์เสน่ห์อันทรงพลังของรูปแบบการเล่าเรื่องดิสนีย์อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการจัดแสดงฉาก ตัวละคร และบทเพลงจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นดิสนีย์ในอดีตและปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบโปรเจคชั่นแบบตอบสนองบนพื้นที่ เพื่อให้สัมพันธ์กับการก้าวย่างของผู้เข้าชมและยังมีสายรัดข้อมือแบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่ส่องสว่างและนำทางผู้เข้าชมผ่านประสบการณ์อันน่าหลงใหล โชว์แกลเลอรี่จะพาผู้เข้าชมไปยังท้องทะเลใต้ฉากอันน่าทึ่งจากภาพยนตร์เงือกน้อยผจญภัย (The Little Mermaid) ด้วยฟองอากาศประกายระยิบระยับ อีกทั้งยังสร้างช่วงเวลาอันน่าจดจำด้วยการเผยโฉมภูมิทัศน์ของน้ำแข็งจากภาพยนตร์ Frozen II ผ่านฟองสบู่โปรยปรายดั่งหิมะ

นิทรรศการครั้งนี้ ไม่เพียงมอบความรู้ใหม่แก่เหล่าแฟนพันธุ์แท้ของดิสนีย์เท่านั้น แต่ยังจุดประกายความชื่นชมในโลกแห่งแอนิเมชั่นอันทรงเสน่ห์ ให้แก่ผู้มาเยือนหน้าใหม่ทุกท่าน

เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีของดิสนีย์ นิทรรศการ "Immersive Disney Animation" ขอเชิญชวนแขกผู้มีเกียรติทุกวัยร่วมสัมผัสประสบการณ์อันน่าทึ่ง ดื่มด่ำไปกับมรดกอันทรงคุณค่าของแอนิเมชั่นดิสนีย์ นิทรรศการครั้งนี้จะพาคุณไปพบกับมนต์เสน่ห์อันตราตรึงและความมหัศจรรย์ไร้ขอบเขต ที่หล่อหลอมรูปแบบการเล่าเรื่องมานานหลายชั่วอายุคน จุดประกายจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด


พม. จับมือ มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์, GDH, และ มูลนิธิ 5 For All พาคุณตา คุณยาย ไปดูหนัง ส่งเสริมคุณค่าความสำคัญระหว่างผู้สูงอายุและครอบครัว


วันนี้ 26 เมษายน 2567 เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดแถลงข่าวความร่วมมือการส่งเสริมคุณค่าความสำคัญระหว่างผู้สูงอายุและครอบครัว ระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด และ มูลนิธิ 5 For All โดยคุณแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ, คุณอรุโณชา ภาณุพันธุ์  กรรมการ มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์, คุณปรียาวรรณ ภูวกุล  ผู้อำนวยการฝ่ายจัดจำหน่ายในโรงภาพยนตร์อาวุโส บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด และ คุณอุษา เสมคำ นักแสดงจากภาพยนตร์ “หลานม่า” ร่วมแถลงความร่วมมือนำผู้สูงอายุจากโรงเรียนผู้สูงอายุในเขตกรุงเทพมหานคร จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้สูงอายุในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ 12 แห่ง และเครือข่ายผู้สูงอายุ  ชมภาพยนตร์ “หลานม่า” ฟรี!!
รวมจำนวนกว่า 4,200 คน 



“หลานม่า” ผลงานจาก "จีดีเอช” กำกับการแสดงโดย "พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์" และอำนวยการสร้างโดย "เก้ง จิระ มะลิกุล" และ "วัน วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์" นำแสดงโดย "บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล" "ดู๋ สัญญา คุณากร" ร่วมด้วย "เผือก พงศธร จงวิลาส", "เจีย สฤญรัตน์ โทมัส", "ตู ตะวัน ตันติเวชกุล" และนักแสดงหน้าใหม่วัย 76 ปี "แต๋ว อุษา เสมคำ"  "หลานม่า"  เป็นภาพยนตร์ไทยที่สร้างขึ้นเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความผูกพันของครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกหลากหลายเจเนอเรชั่นมาอยู่ร่วมกัน ซึ่งนับวันจะหายไปจากสังคมไทย  ให้คนไทยกลับไปนึกถึงช่วงเวลาที่เคยอบอุ่นอีกครั้ง และจะทำให้คุณอยากกลับไปกอดคนที่บ้านอีกครั้ง โดยเล่าผ่านตัวละครหลานชายวัยรุ่นที่ต้องกลับไปดูแลอาม่าที่ป่วยระยะสุดท้าย โดยหวังว่าตัวเองจะกลายเป็นทายาทคนเดียวที่ได้รับมรดกหลักล้าน แต่เมื่อหลานกับอาม่าที่อายุห่างกันกว่า 50 ปี ต้องมาอยู่ร่วมกันความผูกพันจึงเกิดขึ้นทำให้หลานชายได้เรียนรู้คำว่า “ครอบครัวมีค่ามากกว่าเงิน”



คุณแรมรุ้ง กล่าวว่า ได้มีโอกาสรับชมภาพยนตร์ “หลานม่า” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ทำให้รู้สึกประทับใจมาก ได้เห็นการถ่ายทอดเรื่องราวความผูกพันของครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกหลากหลายเจเนอเรชั่นมาอยู่ร่วมกัน ทำให้หวนคิดถึงช่วงเวลาของครอบครัว และเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา GDH ได้สนับสนุนการนำผู้สูงอายุจากศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค และศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดปทุมธานี มาร่วมชมภาพยนตร์ “หลานม่า” ที่ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งทุกท่านที่ได้ร่วมรับชม ต่างก็รู้สึกประทับใจกับภาพยนตร์เรื่องหลานม่า และจะเห็นได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ยังช่วยกระตุ้น ให้คนไทยกลับมาให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุในครอบครัวมากขึ้น ส่งเสริมความรักความผูกพันของสถาบันครอบครัวและช่วยปรับความเข้าใจของคนต่างวัยให้อยู่ร่วมกันได้ 

คุณแรมรุ้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่านวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รู้สึกชื่นชม GDH ที่สร้างสรรค์ภาพยนต์ที่มีคุณค่าต่อสถาบันครอบครัว เรื่อง “หลานม่า” ขึ้นมา ให้เห็นถึงความสำคัญของผู้สูงอายุ ความรัก ความผูกพัน ความอบอุ่นของสถาบันครอบครัวที่อยู่ร่วมกันของคนต่างวัย กระทรวง พม. จึงมอบโล่รางวัล “ภาพยนตร์ที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุและครอบครัว” ในงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 เพื่อกระตุ้นให้ประชาชน เห็นความสำคัญของผู้สูงอายุและสถาบันครอบครัว และเพื่อให้ทุกภาคส่วน เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาครอบครัวให้มากขึ้น กระทรวง​ พม. ขอขอบคุณ มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ และ บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ที่ได้ให้การสนับสนุนและความร่วมมือในครั้งนี้ซึ่งนับเป็น การเริ่มต้น ที่ภาครัฐและภาคเอกชนจะร่วมกันส่งเสริมการตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของผู้สูงอายุเสริมสร้างความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว และการอยู่ร่วมกันของคนทุกช่วงวัยให้มีความสุขอย่างยั่งยืน


คุณอรุโณชา ภาณุพันธุ์ กรรมการ มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับ กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวง พม. และ GDH ในการจัดกิจกรรมพาผู้สูงอายุดูหนัง ในครั้งนี้ตรงกับวัตถุประสงค์ของ มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ ที่ได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน เพื่อช่วยเหลือ ส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของน้อง ๆ คนพิการ และผู้สูงอายุที่ด้อยโอกาสในสังคม โดยมุ่งเน้นการมอบโอกาสทางการศึกษา ช่วยเปิดโลกทัศน์ในการเรียนรู้ เติมเต็มประสบการณ์นอกห้องเรียน สร้างสรรค์พัฒนาการสร้างแรงบันดาลใจ พร้อมมอบความสุข รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้น้อง ๆ ได้เติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของสังคม และทำให้ผู้สูงอายุมีความสุข ไม่รู้สึกเหงา โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าให้กับสังคมภายใต้แนวคิด “Care for Social” ที่ส่งมอบโอกาสและความอบอุ่นสู่ทุกหัวใจ ผ่านหลากหลาย กิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี  หนึ่งในกิจกรรมหลักที่เป็นจุดเริ่มต้นดี ๆ ในการส่งกำลังใจ มอบความสุข สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ นั่นคือ กิจกรรม “เปิดโลกกว้าง สร้างรอยยิ้ม” ที่นำน้อง ๆ คนพิการ และผู้สูงอายุที่ด้อยโอกาสเข้าชมภาพยนตร์สร้างแรงบันดาลใจต่อยอดในการพัฒนาศักยภาพในโรงภาพยนตร์  ทุกสาขาของเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ

ครั้งนี้ได้ร่วมกับ กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวง พม. มอบโอกาสให้กับผู้สูงอายุและเครือข่ายของศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ 12 แห่งทั่วประเทศ เข้าชมภาพยนตร์เรื่อง “หลานม่า” ฟรี!! รวม 4,200 คน ในโรงภาพยนตร์ของเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ทั้งใน กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมมอบความสุขให้ผู้สูงอายุทุกท่านได้อร่อยกับ ป๊อปคอรน์และเครื่องดื่มในขณะชมภาพยนตร์ด้วย​ ระหว่างวันที่ 26-30 เมษายน 2567 ซึ่งภาพยนตร์ “หลานม่า” เป็นภาพยนตร์แนวครอบครัวดราม่าจากค่าย GDH มีแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงที่มีทุกครอบครัว  มีเนื้อหาอบอุ่นหัวใจสื่อถึงความผูกพัน ภาพยนตร์บันทึกช่วงเวลามีค่าของสิ่งที่เรียกว่า “ครอบครัว” ที่ทำให้ผู้ชมจะได้หันกลับไปมองครอบครัวที่เราอาจจะเผลอลืมใครไป และทำให้อยากกลับไป บ้านไปกอดเขาอีกครั้ง


#ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม
#พมหนึ่งเดียว #ศรส #พม  #ผู้สูงอายุ #ผู้สูงอายุที่รัก #MajorCare #GDH #มูลนิธิ5ForAll
#หลานม่า #หลานม่าพาคุณตาคุณยายไปดูหนัง

25 เมษายน 2567

เปิดตัวนิทรรศการ สุดยิ่งใหญ่ในไทย Immersive Disney Animation ฉลองดิสนีย์ 100


นิทรรศการสุดอลังการ “Immersive Disney Animation” ได้เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการแล้ว  ชั้น 1 เอ็มทาวเวอร์  ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของดิสนีย์ นิทรรศการ"Immersive Disney Animation" ขอเชิญผู้มีเกียรติทุกช่วงวัย ได้เข้ามาร่วมสัมผัสประสบการณ์อันน่าทึ่งดื่มด่ำไปกับมรดกอันทรงคุณค่าของแอนิเมชั่นดิสนีย์ โดยนิทรรศการครั้งนี้จะพาคุณไปพบกับมนต์เสน่ห์อันตราตรึงและความมหัศจรรย์อย่างไร้ขอบเขต ที่หล่อหลอมเข้ากับรูปแบบการเล่าเรื่องที่มีมานานหลายชั่วอายุคน จุดประกายจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด



การจัดงานครั้งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง
 บริษัท เบส เอนเตอร์เทนเม้นท์ เอเชีย และ วอลท์ ดิสนีย์อนิเมชั่น สตูดิโอ โดยงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา มีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานมากมาย อาทิ ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ พร้อมบุตรชาย และแขกคนสำคัญ อาทิ Ms. Dorothy McKim โปรดิวเซอร์จาก วอลท์ ดิสนีย์ อนิเมชั่น สตูดิโอ(Walt Disney Animation Studios producer), Mr. Vicente Fusco ผู้บริหารฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท สตาร์บอกซ์ (Global Business Development at Starvox) , Ms. Chantal Prudhomme ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบส เอนเตอร์เทนเม้นท์ เอเชีย(Chief Executive Officer of Base Entertainment Asia), ปัณณ์ธารี สกุลทอง Project Executive Director Sunday Creations และ Mr. Armando Tolomelli ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอ็ม ดิสทริค (Chief Executive Officer of EM DISTRICT)


Immersive Disney Animation 
ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนอย่างน่าภาคภูมิใจจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , EMSPHERE ในฐานะสถานที่จัดงานหลักบัตร M Card ในฐานะบัตรสมาชิกอย่างเป็นทางการ, TIKTOK ในฐานะพาร์ทเนอร์สื่ออย่างเป็นทางการ, VIU ในฐานะดิจิทัลพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการไทยทิกเก็ตเมเจอร์ ในฐานะผู้จำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการและTrip.com ในฐานะบริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์อย่างเป็นทางการ


โดยนิทรรศการ Immersive Disney Animation เปิดตัวในรูปแบบใหม่เป็นครั้งแรก ชวนผู้เข้าชมร่วมเดินทางสู่ประสบการณ์สุดพิเศษ ผ่านโลกแห่งภาพยนตร์แอนิเมชั่นอันเป็นตำนานของดิสนีย์มาตลอด 100 ปี นิทรรศการใช้เวลาเข้าชมทั้งหมด 90 นาที แบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยโซนแรกจะเป็นการต้อนรับผู้เข้าชมด้วยโปสเตอร์ภาพยนตร์กว่า 62 เรื่อง ที่ครอบคลุมช่วงเวลา 100 ปีของแอนิเมชั่นสุดคลาสสิคจากดิสนีย์นอกจากนี้ ยังมีโมเดลตัวละครดิสนีย์หายาก และของสะสมล้ำค่าจากห้องวิจัย Walt Disney Animation ที่จะมาเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์อันน่าจดจำของ วอลท์ดิสนีย์ (Walt Disney) ผู้สร้างอาณาจักรแห่งจินตนาการ ไฮไลท์สำคัญคือ รูปโมเดล Mickey Mouse 
ที่มีขนาดความสูงถึง 3.6 เมตร ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนสะท้อนถึงจุดกำเนิด



ผู้เข้าชมยังจะมีโอกาสได้เห็นเบื้องหลังของศิลปะ เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้ภาพร่างของนักวาดภาพเคลื่อนไหวประดุจดั่งมีชีวิตขึ้นจริงๆ ตั้งแต่การได้เห็นวิวัฒนาการของฉาก ตัวละคร และเพลงดิสนีย์สุดโปรด ไปจนถึงการสำรวจโต๊ะทำงานของนักวาดภาพเคลื่อนไหวที่จัดแสดงไทม์แลปส์การสร้างตัวละคร และการแนะนำนักวาดภาพเคลื่อนไหวผู้มากความสามารถและอยู่เบื้องหลังตำนานนี้ นิทรรศการนี้จะมอบประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดสำหรับทุกคน


นอกจากนี้ ยังตอกย้ำไปถึงความหลากหลายของภูมิทัศน์อันงดงามในภาพยนตร์ของดิสนีย์ นิทรรศการแห่งนี้ นำเสนอสถานที่ต่างๆ จากภาพยนตร์ดิสนีย์ทั่วโลก เพื่อเชื้อเชิญผู้เข้าชมให้เจาะลึกไปยังสถานที่จริงที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเรื่องราวอันเป็นที่รัก - ตั้งแต่ฉากประเทศจีน ที่ปรากฏใน “มู่หลาน” ไปจนถึง ฝรั่งเศส ใน “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” และ Alaska ในเรื่อง “brother of bear” นอกจากนี้ บนโต๊ะวาดภาพ ผู้ที่ชื่นชอบไม่ว่าคุณจะมีทักษะระดับใด เรายังเปิดโอกาสให้ผู้ชื่นชอบในทุกระดับความสามารถได้เรียนรู้และฝึกฝนเทคนิคการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่น ซึ่งช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และร่วมเฉลิมฉลองไปกับศิลปะการแอนิเมชั่นของดิสนีย์


สุดท้ายนี้ โชว์แกลเลอรี่ (Show Gallery) เป็นพื้นที่ดิจิทัลแบบ 360 องศา ที่ออกแบบมาเพื่อดึงผู้เข้าชมให้เข้าสู่ห้วงมนต์เสน่ห์อันทรงพลังของรูปแบบการเล่าเรื่องดิสนีย์อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการจัดแสดงฉาก ตัวละคร และบทเพลงจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นดิสนีย์ในอดีตและปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบโปรเจคชั่นแบบตอบสนองบนพื้นที่ เพื่อให้สัมพันธ์กับการก้าวย่างของผู้เข้าชมและยังมีสายรัดข้อมือแบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่ส่องสว่างและนำทางผู้เข้าชมผ่านประสบการณ์อันน่าหลงใหล โชว์แกลเลอรี่จะพาผู้เข้าชมไปยังท้องทะเลใต้ฉากอันน่าทึ่งจากภาพยนตร์เงือกน้อยผจญภัย (The Little Mermaid) ด้วยฟองอากาศประกายระยิบระยับ อีกทั้งยังสร้างช่วงเวลาอันน่าจดจำด้วยการเผยโฉมภูมิทัศน์ของน้ำแข็งจากภาพยนตร์ Frozen II ผ่านฟองสบู่โปรยปรายดั่งหิมะ


เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีของดิสนีย์ นิทรรศการ "Immersive Disney Animation" ขอเชิญชวนแขกผู้มีเกียรติทุกวัยร่วมสัมผัสประสบการณ์อันน่าทึ่ง ดื่มด่ำไปกับมรดกอันทรงคุณค่าของแอนิเมชั่นดิสนีย์นิทรรศการครั้งนี้จะพาคุณไปพบกับมนต์เสน่ห์อันตราตรึงและความมหัศจรรย์ไร้ขอบเขต ที่หล่อหลอมรูปแบบการเล่าเรื่องมานานหลายชั่วอายุคน จุดประกายจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด



โดยงานจะมีตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน – 5 พฤษภาคม , 2567 : Premiere Period และพฤษภาคม – 20 มิถุนายน , 2567: General Period

24 เมษายน 2567

สจล. แสดงวิสัยทัศน์ ในงาน KMITL TEAM Meet and TALK ปีที่ 2

 ชู ค่านิยมองค์กร “FIGHT”  ขับเคลื่อนสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมระดับโลก 

อธิการบดี รองอธิการบดี ผอ.หน่วยงานของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในงาน KMITL TEAM Meet and TALK ปีที่ 2 ถึงแนวนโยบายการบริหารงานเพื่อขับเคลื่อนสู่การเป็น The World Master of Innovation หรือ “ผู้นำนวัตกรรมระดับโลก” และการปรับเพิ่มหลักสูตรให้นักศึกษาเป็น global citizen รวมทั้งเรื่องสวัสดิการ สิ่งอำนวยความสะดวก โดยกิจกรรม มีผู้บริหาร คณบดี คณาจารย์ บุคลากรปัจจุบัน ผู้เกษียณ รวมทั้งตัวแทนนักศึกษา และศิษย์เก่าเข้าร่วมงานคับคั่ง เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา

รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในงาน KMITL TEAM Meet and TALK ปีที่ 2 ว่า ในโอกาสครบรอบ 1 ปี ที่ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งอธิการบดี แนวทางการทำงานในระดับนโยบายยังคงมุ่งเน้นการขับเคลื่อน ตามที่ให้คำมั่นไว้ ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมามีหลายมิติที่ทำไปพร้อมกัน ได้แก่


มิติของสถาบัน คือ การขับเคลื่อนสู่ Digital Smart Green University ภายใต้หน่วยงานที่พร้อมทำงานเชิงรุก ได้แก่ SCIRA , KDMC ผสานพลังกับทีมกายภาพและสิ่งแวดล้อมของสถาบัน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ใช้พลังงานทางเลือก ลดปริมาณขยะพลาสติก เพิ่มพื้นที่จอดรถ เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก และการบริการที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย

มิติของการพัฒนาบุคลากร งานวิชาการ งานวิจัย คือ การวางแนวทางการดูแลบุคลากรทุกคนให้มีความก้าวหน้ามั่นคงในการทำงาน ทั้งสายวิชาการ และสายสนับสนุน รวมถึง การดูแลสวัสดิการ ชีวิตในฐานะครอบครัว พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ และสวัสดิ์การให้กับบุคลากร นักศึกษา ซึ่ง สจล. มีแนวทางทั้งการพัฒนาสนับสนุนงานวิจัยสู่นวัตกรรม และต่อยอดเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะการปั้น Holding Company ให้กับอาจารย์ที่มีผลงานและมีโอกาสก้าวสู่ความสำเร็จในฐานะผู้ประกอบการเช่นกัน  



มิติของการการเรียนการสอน โดย สจล. ให้ความสำคัญกับการปรับและเพิ่มหลักสูตรให้นักศึกษาเป็น global citizen โดยจะมีการสร้างหลักสูตรทันสมัยตรงความต้องการของตลาดปรับได้ตลอดเวลา สนับสนุนการเรียนการสอน พัฒนาทักษะ เน้นการปฏิบัติจริง ผลักดันให้นักศึกษาเริ่มทำโปรเจค ตั้งแต่ ปี 1 เน้นทักษะการปฏิบัติ การแก้ปัญหา และการสร้างพื้นที่เรียนรู้ร่วมกันของทุกคณะ ส่งเสริมนักศึกษาสู่การเป็นนวัตกร เป็นผู้ประกอบการ มีศักยภาพสามารถแข่งขันได้ในระดับโลกได้




ซึ่งเรามีการขับเคลื่อนงานด้วยค่านิยมหลัก FIGHT คือ FUTURIST มุ่งสร้างอนาคต ผลิตนักศึกษา บัณฑิต ยกระดับสถาบันการศึกษาสู่ผู้นำด้านนวัตกรรม, Ignite เราจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้ง re skills / up skills/ และสร้าง New Skills, Greatness คือ การรุกทำงานอย่างเต็มที่ ด้วยศักยภาพของเรา และสร้างผลงานที่ดีที่สุด, Honor คือ การทำงานด้วยความเคารพกัน ให้เกียรติกัน, Team Spirit คือ การสร้างทีมทำงานที่แข็งแกร่งในทุกหน่วยงาน เราคือทีมเดียวกันพร้อมทำงานเชิงรุกอย่างเต็มที่ และมีความสุขไปด้วยกัน

GIT เปิดเวที! เชิญชวนนักออกแบบไทยและต่างชาติส่งผลงานประกวดออกแบบเครื่องประดับระดับโลก ปีที่ 18

ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 7,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ

24 เมษายน 2567: GIT จัดการแถลงข่าวโครงการประกวดการออกแบบเครื่องประดับครั้งที่ 18 “Enchanted Hues – Unlocking the Secrets of Primary Colors Theory” เฟ้นหาศักยภาพของนักออกแบบที่มีความคิดสร้างสรรค์โดดเด่นเหนือจินตนาการ พร้อมยกทีมผู้เชี่ยวชาญร่วมตีโจทย์ยกระดับต่อยอดการออกแบบสู่สากล ณ โรงแรม เลอบัว แอท สเตททาวเวอร์ กรุงเทพฯ 

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ หรือ GIT กล่าวว่า  อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ถือได้ว่าเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ สินค้าส่งออกในอันดับที่ 2 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.59 ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย โดยมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทย เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2567 ขยายตัวตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 57.26 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีมูลค่า 1,927.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 3,031.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ทั้งนี้ หากนำมูลค่าดังกล่าวข้างต้นหักออกด้วยการส่งออกทองคำที่ยังมิได้ขึ้นรูป พบว่า การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่า 1,822.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 14.78 ซึ่งเห็นได้ว่าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเผชิญอยู่กับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจต่างๆ ที่เกิดขึ้น

สถาบันมีภารกิจในการพัฒนาบุคลากรในด้านต่างๆ เข้าสู่อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนารูปแบบเครื่องประดับขึ้นในวงการอัญมณีและเครื่องประดับอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนให้นักออกแบบรุ่นใหม่และผู้สนใจในการออกแบบเครื่องประดับได้มีโอกาสนำเสนอผลงานตลอดจนให้มีการนำผลงานออกแบบไปผลิตชิ้นงานจริง และสร้างความตื่นตัวในเรื่องการออกแบบ สำหรับโครงการประกวดการออกแบบเครื่องประดับครั้งที่ 18 ได้กำหนดหัวข้อการประกวดภายใต้หัวข้อ “Enchanted Hues – Unlocking the Secrets of Primary Colors Theory” การออกแบบที่ต้องผสมผสานอัญมณีธรรมชาติ 3 สี ได้แก่ ทับทิม ไพลิน และบุษราคัม ผสมผสานองค์ประกอบของศิลปะ หลอมรวม ความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ สู่การออกแบบเป็นคอลเลกชั่น High Jewelry ที่เต็มไปด้วยจินตนาการและนวัตกรรมเป็นเครื่องประดับที่มีความสวยงามและน่าหลงใหลอย่างแท้จริง



ซึ่งการประกวดครั้งนี้ เปิดโอกาสให้กลุ่มนักออกแบบมืออาชีพและรุ่นใหม่ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่สนใจทั่วโลกได้มีเวทีในการแสดงศักยภาพแห่งความคิดสร้างสรรค์ นำไปสู่ทิศทางด้านการออกแบบฉายภาพแนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต (Jewelry Design Trend) โดยนักออกแบบจะต้องส่งแบบวาดไม่จำกัดเทคนิค หรือภาพเขียนจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่มีแนวคิดการออกแบบสอดคล้องกับหัวข้อการประกวด จำนวนไม่น้อยกว่า 3 ชิ้นใน 1 ชุด (คอลเลคชั่น) โดยในชุดนั้นจะต้องมีสร้อยคอเป็นเครื่องประดับหลักและเครื่องประดับอื่นๆ เช่น ต่างหู แหวน กำไล เป็นต้น

ชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 เหรียญสหรัฐ โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 3,000 เหรียญสหรัฐ รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัลมูลค่า 2,000 เหรียญสหรัฐ รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 1,000 เหรียญสหรัฐ รางวัลชมเชย เงินรางวัล 500 เหรียญสหรัฐ และรางวัล GIT Popular Design เงินรางวัล 500 พร้อมโล่เกียรติยศ โดยสถาบันจะประกาศผลการตัดสินรอบแรกจากแบบวาดในวันที่ 11 มิถุนายน นี้ โดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการออกแบบ และผู้ที่คร่ำหวอดในวงการเครื่องประดับจากทั่วโลก 




และพิเศษสำหรับปีนี้ GIT ได้วางแผนในการต่อยอดเชิงพาณิชย์ให้กับผู้ที่ส่งผลงานเข้าร่วมการประกวด โดยนักออกแบบสามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Community Platform : GIT Jewelry Design Gallery ซึ่งเป็นช่องทางในการเชื่อมโยงระหว่างนักออกแบบและผู้ประกอบการในการพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องประดับให้ก่อให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับนักออกแบบ และ 4 ผลงานที่ได้รับคัดเลือกเป็นคะแนนสูงสุด จะได้ผลิตเป็นเครื่องประดับจริงเพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศต่อไป

สำหรับผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวด สามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2567 ผ่านทางเว็บไซต์ www.gitwjda.com หรือส่งผลงานพร้อมใบสมัครทางไปรษณีย์ หรือส่งผลงานด้วยตัวเองที่ฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เลขที่ 140 อาคารไอทีเอฟ – ทาวเวอร์ ชั้น 3 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการ โทร. +66 2 634 4999 ต่อ 301-306 และ 311-313
หรือ LineOA: @gittrainingcenter และดูรายละเอียดการรับสมัครได้ที่ www.gitwjda.com