เที่ยวทั่วไทย อร่อยทั่วโลก อัพเดทข่าวรายวัน Lifestyle บันเทิง ทันทุกกระแสข่าว!

31 กรกฎาคม 2565

แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา แลนด์มาร์กแห่งใหม่ กับโรงแรมคอนเซปต์ดีไซน์อวกาศแห่งแรกในไทย

เปิดแล้ว แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา (Grande Centre Point Space Pattaya) โรงแรมในเครือแอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล (LH Mall & Hotel) แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางพัทยา ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งสายครอบครัว, สายธุรกิจ, สายโรแมนติก, สายกินเที่ยวปาร์ตี้  กับคอนเซปต์ดีไซน์โลกอวกาศเต็มรูปแบบแห่งแรกในประเทศไทย ที่มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อเติมเต็มความฝัน ด้วยประสบการณ์สุดพิเศษ ตื่นขึ้นมาในโรงแรมสุดเก๋พร้อมบรรยากาศจำลองของโลกอวกาศ 


คุณกิตติ วรบรรพต กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด  เปิดเผยว่ากลุ่ม แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล  มีความมั่นใจในการลงทุนและยังเชื่อมั่นศักยภาพของเมืองพัทยา โดยเมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ  มีทะเลที่สวยงาม จุดท่องเที่ยวมากมายหลากหลาย สามารถเดินทางจากรุงเทพมาได้โดยสะดวก ในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง รวมทั้งมีสนามบินอู่ตะเภารองรับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางจากนานาชาติ นอกจากนี้ยังจะมีการลงทุนในโครงการระดับชาติ เช่น  ส่วนขยายท่าเรือน้ำลึก นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 



แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา จัดเป็นโรงแรมระดับแฟลกชิปแห่งใหม่ของเครือ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ โดยมีมูลค่าการลงทุนกว่า 3,300 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางพัทยา ครึกครื้นไปด้วยผู้คน เป็นโครงการที่ผสมผสานระหว่างสวนน้ำกับโรงแรม พร้อมทั้งดึงธีมการตกแต่งแบบโลกอวกาศมาใส่ไว้ในส่วนต่างๆ  ของโรงแรม  ไม่ว่าจะเป็นด้านสถาปัตยกรรม,  การตกแต่งภายในทั้งห้องพัก, พื้นที่อำนวยความสะดวกส่วนกลาง  รวมถึงภูมิทัศน์และเครื่องเล่นต่างๆ ในสวนน้ำ  นอกจากจะให้บริการห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ยังประกอบด้วย ห้องอาหาร Orbit, Oort Cloud Tearoom, ร้านอาหาร Sola Luna rooftop, พื้นที่ห้องประชุมขนาดใหญ่ Space Convention Centre ที่สามารถรองรับผู้เข้าประชุมได้สูงสุดกว่า 1,000 คน ซึ่งมาพร้อม LED ขนาด 12.48 x 5.40 ม. พร้อมทั้งเทคโนโลยีสุดทันสมัย รองรับแขกและผู้ใช้บริการที่เดินทางมาพักผ่อน สังสรรค์ หรือประชุมสัมมนา

สำหรับโรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมระดับพรีเมี่ยม  โดยจากการวิเคราะห์เรามองเห็นโอกาสสำหรับเทรนด์การท่องเที่ยวเมืองพัทยาว่ายังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจากทั่วโลก  โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว  ดังนั้นเมื่อมองเห็นกลุ่มลูกค้าเป็นใคร จึงนำไอเดียออกแบบให้ตอบโจทย์  และได้เกิดโรงแรมคอนเซปต์การเดินทางท่องอวกาศ  ซึ่งการตกแต่งจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน  ตั้งแต่ล็อบบี้

ไล่ขึ้นไปในแต่ละชั้น ที่จะพบการออกแบบตกแต่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ  พร้อมกันนี้ได้นำเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาอำนวยความสะดวกครบครัน  ตอบสนองทุกความต้องการของนักเดินทางทุกเพศทุกวัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ด้าน คุณปวีณ กอบบุญ บริษัท ปาล์มเมอร์ แอนด์ เทอร์เนอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดูแลการออกแบบด้านสถาปัตยกรรม  กล่าวว่า  จุดเด่นที่สำคัญของโรงแรมคือ  แนวความคิดหลักซึ่งนำไปสู่การออกแบบการเดินทางท่องโลกอวกาศที่จะคอยแทรกเข้าไปในทุกส่วนของโรงแรม  โดยมุมมองของผังหลังคาอาคารจากด้านบนและมุมมองจากรูปด้านหน้าอาคาร  ทั้งสองมุมมองที่แตกต่างกันได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเป็นรูปทรงเหมือนกระสวยอวกาศ  ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ในระยะไกล  รวมถึงโฉมหน้าของอาคารภายนอกที่มีการหุ้มด้วยวัสดุผิวที่เป็นโลหะเคลื่อนไหวได้ตามแรงลมและการใช้เส้นโค้งวนโดยรอบ  สะท้อนถึงความทันสมัย  สัญลักษณ์ของการมุ่งหน้าไปสู่อนาคต  เสมือนได้ขึ้นยานอวกาศไปสู่มิติใหม่เช่นเดียวกับห้องพักที่เป็นความท้าทายของทีมงานกับซิกเนเจอร์ของโรงแรม  ที่ทุกห้องจะสามารถเห็นวิวท้องฟ้า  ทะเล  และดวงดาว ได้อย่างชัดเจน  เพื่อให้ทุกห้องได้มีความสุข ผ่อนคลายกับภูมิทัศน์ขณะเดียวกัน คุณบุญชัย สกุลธรรมรักษ์ บริษัท กรีน อาคิเท็คส์ จำกัด รับหน้าที่ดูแลรับผิดชอบการออกแบบด้านภูมิสถาปัตย์ และพื้นที่สวนน้ำ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรงแรมธีมอวกาศแห่งแรกในประเทศไทยแห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 80,000 ตร.ม. โดยพื้นที่ดังกล่าวจึงได้ถูกออกแบบภูมิทัศน์บนแนวคิดโลกอวกาศ  ยิ่งช่วงในเวลากลางคืน จะมีไลต์ติ้งโชว์ที่ใกล้เคียงกับโลกอวกาศ  ซึ่งจะเพิ่มความสวยงามพร้อมทั้งดึงดูดให้ผู้คนทีได้พบเห็นอยากมาเยือนที่นี่

คุณธนวัฒน์ สุขัคคานนท์ บริษัท อินทีเรียร์ วิชั่น จำกัด ผู้รับหน้าที่ออกแบบตกแต่งภายในห้องพัก และพื้น
ที่ส่วนกลาง  กล่าวว่า  การตกแต่งภายในยังคงให้ความสำคัญของมาตรฐานของโรงแรมระดับพรีเมียม 
การตกแต่งแบบมีสไตล์  โดยนำดีไซน์ใหม่  เทคโนโลยีที่ทันสมัย  ภายในห้องพักเน้นความหรูหรา สะดวกสบายให้แก่ลูกค้าที่เข้าพักผนวกกับแรงบันดาลใจการออกแบบตกแต่งภายในตามคอนเซปต์  ซึ่งจะถูกเนรมิตตั้งแต่ก้าวเข้าห้องพัก ยังสามารถนอนมองดูดวงดาวที่ส่องระยิบระยับประดับประดาด้วยกลุ่มดวงดาวบนเพดานวิบวับ ร่วมกับแสงออโรร่าบนหัวเตียง ที่จะให้ผู้เข้าพักรู้สึกผ่อนคลายตลอดค่ำคืน

ห้องพัก Space Rooms & Suites ตกแต่งเหมือนพักบนยานอวกาศพร้อมแสงออโรร่าและดวงดาวที่เป็นซิกเนเจอร์ของโรงแรม จำนวน 490 ห้อง ขนาดเริ่มต้น 45 ถึง 133 ตารางเมตร พร้อมอ่างอาบน้ำและระเบียงส่วนตัวรับวิวทะเลพัทยาทุกห้องพัก รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 

สวนน้ำ Space Water Park สวนน้ำขนาดยักษ์ที่มีขนาดพื้นที่ 12,000 ตร.ม. แบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่  Mountain Zone ถ้ำน้ำตกพร้อมกับกระแสน้ำวนความยาวกว่า 330 เมตร  ให้ทุกท่านได้ล่องลอยไปตามสายน้ำไหล,  Flying Rock Zone  โซนผจญภัยแห่งความฝันสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่มีสไลด์เดอร์ยักษ์ขนาดความสูง 5 และ 8 เมตร, Space Pirate Beach Zone  ชายหาดจำลองที่มาพร้อมกับเกลียวคลื่นที่ปรับความแรงได้ถึง 6 ระดับ พร้อมฉากหลังที่เป็นเรือโจรสลัดอวกาศขนาดใหญ่ และ Planet Zone โซนแห่งครอบครัว ที่จะทำให้คุณได้สร้างกิจกรรมร่วมกัน มีทั้งสระน้ำสำหรับเด็ก โฟมปาร์ตี้ และมินิกอล์ฟ









อีกหนึ่งไฮไลต์ของโรงแรมคือ Astro Club  ให้เด็กๆ ได้สำรวจ  สร้างสรรค์  เรียนรู้  และเติบโตผ่านเกมที่สนุกไป พร้อมกับความรู้เกี่ยวกับอวกาศ นอกจากนี้ยังมีโซน Sky  Pool  สระว่ายน้ำลอยฟ้าในโรงแรมที่สูงที่สุดในพัทยามองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวพัทยายามอาทิตย์อัสดง โซน  Gravity  Fit  Club
ที่มีเครื่องออกกำลังกายที่หลากหลายผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ลูกค้าสามารถออกกำลังกายแข่งขันได้พร้อมกับคนทั่วโลก  และอุปกรณ์ยิมล้ำสมัยจากนวัตกรรมสุขภาพ  และ Let’s Relax Onsen & Spa ขนาดพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม. ให้บริการออนเซนวิวทะเลแบบ 180° แห่งแรกในประเทศไทย และทรีทเมนต์ยอด
นิยมทั้งสปาและนวดไทย

ริการออนเซนวิวทะเลแบบ 180° แห่งแรกในประเทศไทย






Astro Club  ให้เด็กๆ ได้สำรวจ  สร้างสรรค์  เรียนรู้  และเติบโตผ่านเกมที่สนุก

แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา (Grande Centre Point Space Pattaya) พร้อมเปิดให้บริการเข้าพัก ด้วยโปรโมชั่นเปิดตัวโรงแรม  รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน, เครดิตที่มาในรูปแบบเหรียญ token และรับ
ฟรีตุ๊กตามาสคอททุกห้อง เมื่อเข้าพักตั้งแต่วันนี้  จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม  2565


ติดตามข้อมูล แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา
o https://www.spacepattaya.com
o Line@: @gcpspace
o Facebook: @gcpspacepattaya
o Email: spacepattaya@gcphotels.com
o เบอร์โทร: 033 268888

30 กรกฎาคม 2565

เปิดงานอย่างเป็นทางการ “มหกรรมแสดงสินค้าและเชื่อมโยงตลาดสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัย กลุ่มล้านนาตะวันออก ประจำปี 2565”

จังหวัดเชียงราย และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) ได้จัดงาน “มหกรรมแสดงสินค้าและเชื่อมโยงตลาดสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัย กลุ่มล้านนาตะวันออก ประจำปี 2565” ซึ่งในพิธีเปิดงานเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 ได้รับเกียรติจากนายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธี และนายเรืองพจน์ ธารานาถ เกษตรจังหวัดเชียงราย ให้เกียรติกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมด้วยเกษตรจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (พะเยา แพร่ และน่าน)








“มหกรรมแสดงสินค้าและเชื่อมโยงตลาดสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัย กลุ่มล้านนาตะวันออก
ประจำปี 2565” จัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 29 – 31 กรกฎาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น.
ณ บริเวณ Nine Square ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9

สร้างสุขภาพที่ดี ด้วยอาหารและวัตถุดิบที่ดีจากเกษตรกรจริงๆ ทุกสิ่งปลอดภัยกันเน้อจ้าว

29 กรกฎาคม 2565

เตรียมจัดงานใหญ่ สมุทรสาคร Expo2022 ของดีสมุทรสาคร ครบทุกความต้องการในงานเดียว

จังหวัดสมุทรสาครเตรียมจัดงาน “สมุทรสาคร Expo 2022 ของดีสุด ๆ สมุทรสาคร” พบปะผู้ประกอบการ กว่า 90 บริษัท จากกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ทั้งอาหารและอาหารทะเลแช่แข็ง  ยางและชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ พลาสติก โลหะสิ่งทอ เครื่องแต่งกายและของใช้สำหรับเด็ก สิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ รวมทั้งเกษตร OTOP ท่องเที่ยว SME เพื่อเป็นการส่งเสริมการตลาด ช่องทางการจำหน่ายสินค้า และการแสดงศักยภาพสินค้าของจังหวัดสมุทรสาคร วันที่ 3-7 สิงหาคม 2565 ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 เซ็นทรัล มหาชัย

นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า จังหวัดสมุทรสาครถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในทุก ๆ ด้าน เป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีศักยภาพ ทั้งด้านอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการประมง เกษตรกรรม ไปจนถึงการท่องเที่ยว จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดในประเด็นยุทธศาสตร์ส่งเสริมภาคการผลิตการแปรรูปอาหารและการบริการสู่ตลาดสากล โดยได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาสินค้าทางการเกษตร การประมง และการบริการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และสินค้าอุตสาหกรรมสามารถแข่งขันในตลาดโลก

ดังนั้น เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนช่องทางการค้า และเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการของจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีพื้นที่จัดแสดงสินค้าด้านอุตสาหกรรม ด้านการเกษตร สินค้าประมง อุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องจากการประมง และสินค้า OTOP ให้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น จังหวัดสมุทรสาครจึงได้จัดโครงการเพิ่มศักยภาพการจำหน่ายสินค้าและบริการ กิจกรรมหลักบูรณาการภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยกิจกรรมการส่งเสริมการตลาด ช่องทางการจำหน่ายสินค้า และการแสดงศักยภาพสินค้าของจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งภายในงาน“สมุทรสาคร Expo 2022 ของดีสุด ๆ สมุทรสาคร” ได้จัดพื้นที่สำหรับเจรจาธุรกิจ สำหรับผู้ประกอบการกับผู้ที่สนใจอีกด้วย





พลาดไม่ได้สำหรับโอกาสดี ๆ ที่จะได้พบกับสินค้าหลากหลายที่คัดสรรมาแล้วเป็นสุดยอดของจังหวัดสมุทรสาคร ขอเชิญชวนทั้งผู้ประกอบการ นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไปเข้าชมงาน “สมุทรสาคร Expo 2022 ของดีสุด ๆ สมุทรสาคร” ระหว่างวันที่ 3- 7 สิงหาคม 2565 ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 เซ็นทรัล มหาชัย

28 กรกฎาคม 2565

เปิดตัวเมนูใหม่! “จาจังเมียน” เมนูหมี่ซอสดำ จากกังนัมรามยอน แฟรนไชส์ร้านอาหารเกาหลี

อีกหนึ่งเมนูยอดฮิต จากซีรีส์เกาหลี เรียกได้ว่าดูซีรีส์เกาหลีทุกเรื่องพระเอก นางเอกต้องสั่ง  กังนัมรามยอนจึงถอนสูตร ดึงต้นตำรับความลงตัวของความหอมของซอสดำ รสชาดออกหวานละมุน ทานคู่กับเส้นนุ่มๆ เพิ่มความนัวด้วยไข่ดาว รับประกันความอร่อยแบบฉบับ กังนัมรามยอน

“เมนูนี้คือเมนูโปรดของเนยเลยคะ เส้นนุ่มๆกับซอสดำตัวนี้คือที่สุดของความลงตัว ต้องเสริฟพร้อมไข่ดาวทันมูจิ (หัวไชเท้าสีเหลือง) ก็จะตัดเลี่ยนได้ดีเข้ากันมากค่ะ” คุณเนย ณหทัย เล็กบำรุง หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแฟรนไชส์กังนัมรามยอน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมนูใหม่ของร้านกังนัมรามยอน

“ปกติเราก็จะมีการพัฒนาเมนูใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ให้ร้านสาขาแฟรนไชส์ของเราได้นำมาเสริฟ ลูกค้าในร้านจะได้ไม่เบื่อและมารับประทานได้บ่อยๆ ซึ่งสูตรเฉพาะของทางร้านเราจะพัฒนาให้คงความเป็นรสชาติต้นตำรับอาหารเกาหลีแท้ๆ แต่สามารถประกอบอาหารพร้อมเสริฟได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เพื่อให้แต่ละสาขาทำได้เองและอร่อยเหมือนกัน เหมือนบินไปที่เกาหลีเลยค่ะ” คุณเนยเสริม



สำหรับผู้ที่สนใจเปิดร้านอาหารเกาหลีกับกังนัมรามยอนสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยแพคเกจหลากหลายราคาตามความพร้อมของแต่ละสาขา และสามารถขยายแพคเกจทีหลังได้เมื่อพร้อมจะโตและให้บริการเต็มรูปแบบมากขึ้น “แพคเกจเริ่มต้นเรามีตั้งแต่ราคา 29,900 บาท ที่เรามีเมนูหลากหลายให้พร้อมขายกว่า 14 เมนูต้นตำรับเกาหลีแท้ๆ หรือจะเปิดหน้าร้านเต็มรูปแบบเราก็มีแพคเกจสำหรับร้านสาขาใหญ่เต็มรูปแบบในราคา 350,000 บาทไว้รองรับผู้ประกอบการที่ต้องการทำใหญ่เลย และเราจะไม่เก็บค่าแฟรนไชส์รายปี เพราะเราอยากให้แต่ละสาขาได้ตั้งต้นได้ง่ายเพื่อจะได้ผ่านช่วงโควิดนี้ไปด้วยกัน เมื่อไรที่ตลาดพร้อมกลับมาคึกคัก คนออกมาจับจ่ายนอกบ้านมากขึ้น ร้านมีรายได้มากขึ้นก็ค่อยมาว่ากันอีกทีค่ะ” คุณเทพนารี คุ้มสกุล หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแฟรนไชส์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเริ่มต้นทำร้านอาหารเกาหลี กังนัมรามยอน




 

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่โทร. 081 274 9999 

IG : @gangnam_ramyon 

Facebook : https://www.facebook.com/gangnamramyon

27 กรกฎาคม 2565

“พิษณุพร อุทกภาชน์” CEO บมจ.เคหะสุขประชา ชี้แจงกรณีถูกพาดพิงเกี่ยวกับบริษัท CEMCO เผยโครงการเคหะสุขประชา

“บ้านเช่าพร้อมอาชีพ” มีบ้านมีงาน ไม่ต้องรอถึง 200 ปี ที่จะคืนทุน 

นายพิษณุพร อุทกภาชน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) (K-HA) เปิดเผยถึงกรณีโดนพาดพิงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจและเรื่องผู้บริหาร บริษัท จัดการทรัพย์สินและชุมชน จำกัด หรือ CEMCO ในเรื่องของผลการดำเนินงานและเรื่องการรับงานของ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) โดยชี้แจงว่า  ตามที่ สตง. แจ้งให้ตรวจสอบผลประโยชน์ทับซ้อนใน CEMCO ขณะเดียวกัน บริษัทพบว่า มีกรรมการจำนวน 2 ท่าน ที่เข้ามาเป็นกรรมการช่วงปี 58 -59 ขาดคุณสมบัติในการเป็นกรรมการ เนื่องจากขัดกับข้อบังคับของบริษัท ที่ห้ามกรรมการประกอบธุรกิจอย่างเดียวกับบริษัท  

บริษัท จัดการทรัพย์สินและชุมชน จำกัด (CEMCO) ได้ก่อตั้งเมื่อปี 2538 เป็นบริษัทในเครือการเคหะแห่งชาติ โดยการเคหะแห่งชาติถือหุ้น 49 % ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท โดยมีภาระกิจหลักการดูแลชุมชน ต่อจาก กคช. ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้ง ได้แก่ 1. เพื่อดำเนินงาน บริหารจัดการ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร นิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลอาคารเช่า 2. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่ และ 3. ดำเนินการด้านอื่นๆ ตามภาระกิจที่การเคหะแห่งชาติมอบหมาย



นายพิษณุพร กล่าวว่า ตนเอง เข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการในปี 2560 โดยบริษัทมีผลขาดทุนสะสมอยู่ ณ สิ้นปี 60 เท่ากับ 13.4 ล้านบาท และในส่วนขอผู้ถือหุ้นมีอยู่เพียง 6.85 ล้านบาท แต่ด้วยการบริหารอย่างโปร่งใส และได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการ และกคช. จึงทำให้ ณ สิ้นปี 2564 บริษัท มีกำไรก่อนภาษี 18.4 ล้านบาท และมีกำไรสะสมอยุ่ที่ 2.55 ล้านบาท สำหรับส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 64 แสดงยอดเท่ากับ 22.8 ล้านบาท (ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท)

ส่วน บมจ.เคหะสุขประชา ได้รับการจัดตั้ง ตามที่การเคหะแห่งชาติได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ให้จัดตั้ง บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) เพื่อมาช่วยให้การดำเนินโครงการบ้านเคหะสุขประชาคล่องตัว และประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น โดยการเคหะแห่งชาติถือหุ้น 49% และผนึกกำลังกับพันธมิตรที่เข้มแข็งและมีความเป็นมืออาชีพถือหุ้น 51% โดยมีเป้าหมายสร้างจำนวน 100,000 หน่วย ภายในระยะเวลา 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2564 – 2568 โดยสร้างปีละ 20,000 หน่วย โดยมีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท  และได้มีการแต่งตั้งบอร์ดบริหาร ซึ่งมีการตรวจสอบเป็นอย่างดี

สำหรับโครงการเคหะสุขประชา บ้านเช่าพร้อมอาชีพ เป็นการระดมทุนจากเอกชนในตลาด หาเม็ดเงินมาทำโครงการให้กับการ กคช. โดยไม่ได้ใช้เงินงบประมาณของแผ่นดิน หรือของรัฐบาลมาใช้แต่อย่างใด จะเป็นการระดมทุนเอง แต่ทำงานเพื่อรัฐ และที่ไม่มีภาคเอกชนเข้ามาทำงานในครั้งนี้ เพราะเคหะสุขประชาเป็นโครงการที่ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการแสวงหากำไรเหมือนโครงการอสังหาริมทรัพย์เอกชนทั่วไป แต่เป็นโครงการกึ่งสังคม เพื่อช่วยเหลือประชาขนทุกภาคส่วนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัย เลยไม่มีเอกชนสนใจลงทุน


นายพิษณุพร กล่าวอีกว่า ในอนาคตมีเป้าหมายที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว เพราะมีกระบวนการตรวจสอบ และโปร่งใสอย่างชัดเจน และการเข้าตลาดไม่ใช่เข้าไปเกรงกำไร แต่มันคือการระดมทุนเม็ดเงินมาทำงานเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยให้กับคนยากไร้ และพร้อมกับอาชีพให้ด้วย สำหรับโครงการนี้ถ้าพูดถึง มันคือโครงการกึ่งสังคม และมหากุศลที่ยิ่งใหญ่ และในส่วนที่บอกว่า ใช้เวลา 200 ปี กว่าจะคืนทุนนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ถ้ามีจริงหน่วยงานราชการที่มีส่วนในการกลั่นกรอง รวมถึงคณะรัฐมนตรี ก็คงไม่อนุมัติโครงการแบบนี้ได้

“แต่สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงคือวิธีการทำงาน วิธีคิด จากการทำกำไรในเชิงพาณิชย์ มาเป็นการคืนกำไรแก่สังคม เปลี่ยนการขายบ้านมาให้คนรายได้น้อยเช่าราคาเริ่มต้น 1,500 - 3,000 บาท แล้วแต่ขนาด ประชาชนอยู่ได้ตลอดชีวิต และไม่ใช่แค่การสร้างบ้าน แต่เป็นการสร้างบ้านพร้อมส่งเสริมอาชีพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ของประเทศที่จะทำโครงการนี้” นายพิษณุพร กล่าวสรุปในตอนท้าย