FN รุกช่องทางขายออนไลน์ ปรับปรุงและขยายสาขา
ยึดหัวเมืองเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว ตั้งเป้าปี 61 รายได้ฟื้น
Fly Now ที่เล่าขานในวันวาน ถึงคราวของความเปลี่ยนแปลงสู่ตำนานบทใหม่ที่ริเริ่มโดย เบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (FN Factory Outlet) ทายาทรุ่นสอง ซึ่งได้รับการบ่มเพาะแนวคิดทางธุรกิจและดีเอ็นเอ นักบริหารที่ถ่ายทอดจากปรีชา ส่งวัฒนา ผู้เป็นบิดา ด้วยการทำงานอย่างเป็นระบบของคนรุ่นใหม่ก็มีส่วนสำคัญต่อการเตรียมความพร้อม FN Outlet ให้สามารถบินได้ไกลและสูงขึ้นกว่าเดิม โดย เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท เตรียมรุกช่องทางขายออนไลน์ พร้อมเดินหน้าปรับปรุง และขยายสาขายึดเส้นทางสายหลักหัวเมืองเศรษฐกิจ และท่องเที่ยว ตั้งเป้ารายได้ปี 61 ฟื้นตัว
 |
| นายเบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) |
นายเบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) หรือ FN เปิดเผยว่า ในปี 2561 บริษัทฯเตรียมที่จะขยายช่องทางขายผ่านช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงบริษัทฯ อยู่
ในระหว่างพิจารณาการขายสินค้าผ่านช่องทางการจำหน่ายโฮมช็อปปิ้ง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจร
จากับพันธมิตร ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงก่อนสิ้นปีนี้
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยจะเน้นการขยายสาขาในพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเติบโต และมีการขยายตัวของชุมชน เศรษฐกิจ รวมถึงนักเดินทาง และนักท่องเที่ยวให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ รวมถึงการปรับปรุงพื้นที่สาขาเดิมที่เปิดให้บริการแล้วเพื่อให้มีความทันสมัย บริการที่หลากหลาย เช่น พื้นที่ร้านอาหาร พื้นที่พักผ่อนที่สามารถดึงดูดลูกค้า และตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เพิ่มสูงขึ้น พร้อมทั้งขยายฐานลูกค้าที่เป็นนักเดินทาง นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศให้มากขึ้นอีกด้วย
ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 10 สาขา ได้แก่ สาขาเพชรบุรี สาขากาญจนบุรี สาขาพัทยา สาขาปากช่อง สาขาสิงห์บุรี สาขาหัวหิน สาขาศรีราชา สาขาพระนครศรีอยุธยา สาขาหาดใหญ่ และสาขาฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นสาขาที่เปิดให้บริการเป็นสาขาล่าสุด โดยบริษัทฯ คาดว่าในปี 2561 รายได้รวมจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ จากการเปิดสาขาที่เพิ่มขึ้น และภาพรวมเศรษฐกิจที่คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากในปีนี้” นายเบญจ์เยี่ยมกล่าว
นอกจากนี้เพื่อความยั่งยืนให้กับธุรกิจ บริษัทยังเพิ่มความหลากหลายของสินค้าผ่านการสั่งผลิตสินค้าภายใต้สร้างตราสินค้าของบริษัท (House Brand) ได้แก่ ตราสินค้า In-co, Monsieur In-Co, In-co Women, Madam In-Co, Cheval, Lady De’ Cheval, Cheval Kids, Sleep Mate, Nipon, Prim, Cushy, Cherish, Rollica และ ETC ซึ่งเป็นตราสินค้าจำหน่าย สินค้าอุปโภคได้แก่ เครื่องนุ่งห่ม (Apparel) และเครื่องใช้ในครัวเรือนและการเดินทาง (Non-Apparel) ควบคู่ไปกับการคัดสรรสินค้าคุณภาพภายใต้ตราสินค้าอื่นๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น