เพื่อผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก
วันศุกร์ที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ประชาสัมพันธ์ พิธีประทานรางวัล “ประชาบดี" และเข็มเชิดชูเกียรติ ประจำปี ๒๕๖๑ ที่จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๕.๐๐ น. โดยได้รับพระกรุณาคุณจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จประทานรางวัล “ประชาบดี” และเข็มเชิดชูเกียรติ ประจำปี ๒๕๖๑ ณ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
นางนภา เปิดเผยว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของคนทำดีที่ต้องมีคนเห็น ซึ่งเปรียบเสมือนผู้ปิดทองหลังพระ
ควรได้รับการเชิดชูเกียรติ จึงได้ดำเนินโครงการเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก และผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น ตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ ถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา ๑๒ ปี เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจแก่ผู้ที่ดูแลช่วยเหลือผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก และส่งเสริมเจตคติเชิงบวกในการอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออาทร เห็นคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก นับเป็นรางวัลอันทรงเกียรติอย่างยิ่ง เนื่องจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จมาประทานรางวัลเป็นประจำทุกปี ทั้งนี้ มีผู้ที่ทำคุณงามความดีได้รับรางวัลประชาบดีตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ - ๒๕๖๐ รวมจำนวน ๗๓๐ ราย
นางนภา กล่าวต่ออีกว่า พระประชาบดี เป็นเทพผู้เป็นที่พึ่งและให้การสงเคราะห์แก่ประชาชน ด้วยความเมตตากรุณา เป็นเทพประจำของกรมประชาสงเคราะห์ มาจนถึงกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในปัจจุบัน จึงได้นำชื่อของพระประชาบดีประจำกระทรวง มาใช้เป็นชื่อและสัญลักษณ์ของรางวัล “ประชาบดี” ที่มอบให้บุคคล/องค์กร/สื่อ ที่ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก และบุคคลผู้อยู่ในภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง โดย รางวัล “ประชาบดี” มี ๔ ประเภท ในปี ๒๕๖๑ มีผู้ได้รับ ๕๗ รางวัล ได้แก่ ๑) ประเภทบุคคลที่ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก ๑๓ คน เช่น นายโจนัส แอนเดอร์สัน ๒) ประเภทองค์กรที่ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก ๑๑ องค์กร เช่น มูลนิธิเอช เอช เอ็น เพื่อเด็กไทย ๓) ประเภทสื่อที่นำเสนอกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก ๑๘ รายการ เช่น รายการรถปลดทุกข์ และ ๔) ประเภทบุคคลผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ทำคุณประโยชน์และดำรงชีวิตเป็นแบบอย่างที่ดี ๑๕ คน เช่น นายเซ็ง แซ่ลี เป็นผู้ยากจนและขาพิการ ๑ ข้าง นำหลักปรัชญาของเศรฐกิจพอเพียง มาดำเนินชีวิต และมีจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่น
“รางวัล ประชาบดี เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจทั้งแก่ผู้ให้และผู้รับ ซึ่งวันนี้ ยังมีบุคคล/องค์กรอื่นๆ อีกจำนวนมาก ที่มีความพร้อมและมีศักยภาพทำงานช่วยเหลือผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก พม. ขอส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนร่วม ในการดูแลผู้อยู่ในภาวะยากลำบากในสังคมและยกย่องคนดีไปด้วยกัน และขอใช้โอกาสนี้ ขอบคุณท่านผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุน และร่วมกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารการยกย่องส่งเสริมคนดีคู่สังคมไทย ให้เป็นที่รับทราบโดยทั่วกัน” นางนภา กล่าวในตอนท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น