แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าว.มิชลิน สตาร์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าว.มิชลิน สตาร์ แสดงบทความทั้งหมด

13 สิงหาคม 2568

เพราะ "แม่" คือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างในชีวิต พญ.สิรินทร์ สังขนันท์


ในวันที่เราโตขึ้น...อย่าลืมดูแลคนที่เคยอุ้มเราไว้ทั้งชีวิตเพราะ "แม่" คือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างในชีวิตพญ.สิรินทร์ สังขนันท์


“แม่” ไม่ใช่แค่ผู้ให้กำเนิด แต่เป็นทุกอย่างของชีวิตเราตั้งแต่ลืมตาดูโลก แม่คือคนที่อยู่ตรงนั้น คอยประคองร่างกายเล็ก ๆ ของเราให้เติบโต แข็งแรง และกลายเป็นคนที่มีวันนี้ และเมื่อวันเวลาผ่านไป แม่คนนั้นก็เริ่มเหนื่อยล้ามากขึ้น ทั้งร่างกายที่เคยแข็งแรงก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปตามวัย และนั่นคือเหตุผลที่เราควร “ตอบแทน” ด้วยการดูแลสุขภาพของท่านตั้งแต่วันนี้ 



สุขภาพของแม่...ไม่ควรรอให้ถึงวันที่สาย

เมื่อเรายังเด็ก แม่ดูแลเราแทบทุกเรื่อง ตั้งแต่ป้อนข้าว เช็ดตัว ยามเจ็บป่วย จนเราหายดี แล้วในวันนี้ เราตอบแทนท่านกลับบ้างหรือยัง แม่หลายคนมักละเลยสุขภาพของตัวเองเพื่อครอบครัว ยอมทนเมื่อปวดหลัง ลืมตรวจสุขภาพประจำปี ไม่ทันระวังเรื่องความดันหรือเบาหวาน เพราะมัวแต่เป็น “เสาหลัก” ที่แข็งแกร่งให้ทุกคน แต่ความแข็งแกร่งนั้น...ก็มีวันอ่อนล้าได้เหมือนกัน

 


รักแม่...ต้องใส่ใจสุขภาพแม่

หลายครั้งที่แม่ละเลยสุขภาพของตัวเอง เพราะทุ่มเทเวลาให้ลูกหลานและครอบครัวมาถึงวันนี้ ถึงเวลาที่เราจะเป็นฝ่ายดูแลเธอให้มากขึ้น โดยเฉพาะในด้าน การตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ที่โรงพยาบาล CGH สายไหม มีแพ็กเกจตรวจสุขภาพสำหรับคุณแม่ และผู้สูงวัย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวมั่นใจได้ว่า “คนสำคัญที่สุด” จะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดและสำหรับคุณแม่รุ่นใหม่ หรือคุณลูกที่กำลังวางแผนครอบครัว สุขภาพของแม่และเด็กถือเป็นรากฐานสำคัญของชีวิต ขอแนะนำให้เข้ารับบริการกับคลินิกสูตินรีเวช และ กุมารเวชของโรงพยาบาล CGH สายไหมซึ่งดูแลตั้งแต่การวางแผนมีบุตร ฝากครรภ์ การคลอด ไปจนถึงการดูแลทารกและเด็กเล็กอย่างครบวงจร เพราะการมีสุขภาพที่ดี ไม่ใช่เพียงเพื่อตัวเรา แต่เพื่อคนที่เรารัก...และคนที่รักเราหลายครั้งที่แม่ไม่ได้ต้องการสิ่งของราคาแพง แต่อยากให้เรากลับบ้านบ่อยขึ้น โทรหาท่านบ้าง กอดท่านให้มากขึ้น แค่คำว่า “รักแม่นะ” ก็อาจช่วยเติมพลังใจให้แม่ได้มากกว่ายาเม็ดไหน ๆอย่าปล่อยให้คำรักกลายเป็นคำอาลัย อย่ารอให้ถึงวันที่ท่านล้มป่วยแล้วค่อยมาใส่ใจ




เพราะพระคุณของแม่...คือสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ แม่ไม่เคยนับว่าตัวเองให้อะไรกับเราไปมากแค่ไหน แต่เราในฐานะลูก ไม่ควรลืมแม้เพียงเสี้ยวเดียว ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล แม่ก็ยังคงห่วงใยเราเสมอ ในเดือนแห่งวันแม่นี้ ขอให้เราได้ย้อนกลับไปดูแลเธอบ้าง ด้วยหัวใจที่ครั้งหนึ่ง...เคยเติบโตอยู่ใต้หัวใจของเธอเองโรงพยาบาล CGH สายไหม ขอร่วมส่งต่อความรัก ความห่วงใย และแรงบันดาลใจ ให้ลูกทุกคนหันกลับไปดูแลแม่ของตน ด้วยใจที่เต็มเปี่ยม พร้อมสุขภาพที่แข็งแรง ไม่ใช่แค่ใน “วันแม่” แต่ในทุกวันของชีวิต

12 สิงหาคม 2568

HELICONIA FOOD FESTIVAL 2025

HELICONIA FOOD FESTIVAL 2025 ระหว่างวันที่ 8–17 สิงหาคม  (ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์)

เนรมิตบรรยากาศแห่งความอร่อยในงาน “HELICONIA FOOD FESTIVAL 2025” งานเทศกาลอาหารที่รวบรวมเมนูเด่นจากทั่วประเทศ โดยมีเหล่าบุคคลสำคัญและแขกผู้มีเกียรติร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ คุณเอิร์ธ สายสว่าง, นายกก่อตั้งสโมสรโรตารีกรุงเทพมหานคร พญ. รุ่งไพลิน รัตนชีวร โทมัสคลินิกและทองหล่อคลินิก, นายก จิตศักดิ์ หลิมภากรกุล หรือ เชฟจีโน่, นายกรับเลือก ศรีสองรัก ชัยสิทธิ์, นายกนอมินี โสมาวรรณ สวัสดิรักษ์ รวมถึง นักแสดง เติ้ล-สุทธิ์คุณ วันทานุ จากช่อง 7 และช่อง One


หนึ่งในไฮไลต์ของงานครั้งนี้คือเมนู “หมี่หุ้นแกงปูภูเก็ต” รสชาติต้นตำรับ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยโดย ร้าน MerGino - ครัวแม่จีโน่ ที่บูธ A3 โซน A : Tea Cups เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00–22.00 น. ตลอดช่วงเทศกาล ผู้ร่วมงานจะได้สัมผัสเสน่ห์ของอาหารใต้ที่เข้มข้นและหอมกรุ่น พร้อมบรรยากาศงานกลางเมืองสุดคึกคัก


นอกจากความอร่อยแล้ว ภายในงานยังแฝงไว้ด้วยเจตนารมณ์แห่งการให้ โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายอาหารของร้าน MerGino ครัวแม่จีโน่ จะร่วมสมทบโครงการ “Spoonful of Happiness” ของสโมสรโรตารีกรุงเทพมหานคร (Rotary Club of Krungthep Mahanakorn) เพื่อนำไปจัดทำและส่งมอบข้าวกล่องและอาหารสุขภาพแก่แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และญาติผู้ป่วยในแผนกประกันสังคม

งาน HELICONIA FOOD FESTIVAL 2025 จึงไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่รวมสุดยอดอาหารจากหลากหลายภูมิภาค แต่ยังเป็นเวทีแห่งการแบ่งปันน้ำใจสู่สังคม เชิญชวนทุกท่านมาร่วมอิ่มอร่อยและอิ่มใจไปพร้อมกันได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 17 สิงหาคม 2568 ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

31 กรกฎาคม 2568

พม.หนุนองค์กรชุมชนทั่วประเทศ

พม. หนุนองค์กรชุมชนทั่วประเทศขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยจากฐานราก 


ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ วานนี้ (31 กรกฎาคม 2568) นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดนิทรรศการและหมู่บ้านวัฒนธรรมชุมชน 5 ภาค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานมหกรรมวิถีพลังไท 3 "พลังองค์กรชุมชน เปลี่ยนประเทศไทย" (Community Power : Transforming Thailand)จัดโดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)
หรือ พอช. ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2568 ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี)
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ 




ภายหลังจากเปิดงาน นายธเนศพลได้เยี่ยมชมนิทรรศการและหมู่บ้านวัฒนธรรมชุมชน 5ภาค จากนั้นได้มอบนโยบายสำคัญในหัวข้อ “รัฐบาลกับการสนับสนุนความเข้มแข็งองค์กรชุมชนสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศไทย” ต่อผู้แทนองค์กรชุมชนกว่า 300,000 แห่งทั่วประเทศที่เข้าร่วมแสดงผลงาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนสร้างเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน และเสริมความเข้มแข็งของประชาธิปไตยให้มีความเข้มแข็งโดยมีชุมชนท้องถิ่นคือหัวใจสำคัญ ที่จะทำให้เป้าหมายเหล่านี้เป็นจริงได้ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติที่ให้ความสำคัญกับการสร้างเข้มแข็งจากภายใน การพัฒนาศักยภาพของคนทุกช่วงวัย และการสร้างสังคมที่เท่าเทียมและเป็นธรรม เพื่อเน้นย้ำบทบาทขององค์กรชุมชนในฐานะพลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน





“กระทรวงพม. ให้ความสำคัญกับการสร้าง “สังคมที่เข้มแข็ง ยั่งยืน และเป็นธรรม” โดยมีนโยบายหลักที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส นโยบายเหล่านี้ครอบคลุมหลายมิติ ผ่านการแก้ไขปัญหาวิกฤตประชากรโดยชุมชนจะมีส่วนร่วมสำคัญในการพัฒนาทุกมิติ เพื่อให้ทุกนโยบายที่วางไว้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง เป้าหมายของเราคือการสร้าง “สังคมที่คนไทยทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับการคุมครองและมีหลักประกันทางสังคมอย่างทั่วถึง มีส่วนร่วมในการพัฒนาและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตลอดไป” นายธเนศพล กล่าว  





ด้านนายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กล่าวว่า พอช. เป็นองค์กรที่สนับสนุนการดำเนินงานของขบวนองค์กรชุมชนและประชาสังคมในการสร้างความเข้มแข็ง ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาสังคม เพื่อพัฒนา คุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชน โดยมีเป้าหมาย "ชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง เต็มพื้นที่ประเทศไทย" โดย พอช. มีการขับเคลื่อน ชุมชนเข้มแข็งจนเกิดพื้นที่ต้นแบบและรูปธรรมการดำเนินงานและเพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาส ด้วยการเข้าถึงบริการสวัสดิการและอาชีพ และส่งเสริมทุนมนุษย์ ให้ทุกวัยสามารถพึ่งพาตนเอง เสริมความเข้มแข็งของครอบครัวและชุมชน เป็นรากฐานการพัฒนาบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน รัฐ เอกชน และภาคประชาชน ซึ่ง พอช.มีการหนุนเสริมการทำงานร่วมกับขบวนองค์กรชุมชนทั่วประเทศ “ผลงานเหล่านี้สะท้อนว่า เมื่อชุมชนมีความเข้มแข็งและได้รับการสนับสนุนอย่างถูกจุด ชุมชนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ การจัดงานมหกรรมวิถีพลังไทในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นเวทีแสดงศักยภาพ แต่ยังเป็นพื้นที่เรียนรู้ แลกเปลี่ยน และขยายผลสู่การพัฒนาในระดับประเทศ เป็นแรงบันดาลใจโดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ ให้เห็นคุณค่าของการทำงานเพื่อสังคม” นายกฤษดากล่าว

ขณะที่ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กล่าวว่า ตลอดกว่า 25 ปีที่ผ่านมา องค์กรชุมชนได้ขับเคลื่อนงานพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม โดยมี พอช. เป็นกลไกหลักที่ร่วมมือกับทุกภาคส่วน ผลักดันนโยบายที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง







“การจัดงานครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เวทีแสดงผลงาน แต่คือจุดเปลี่ยนของประเทศ ที่สะท้อนถึงพลังของคนตัวเล็กที่ลุกขึ้นมาสร้างระบบใหม่จากบริบทของตนเอง ชุมชนไม่ได้รอความช่วยเหลือจากใคร แต่ลงมือเอง เพื่ออนาคตที่มั่นคงและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ดร.กอบศักดิ์กล่าว

งานมหกรรมวิถีพลังไท 3ฯ จึงไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังชุมชนทั่วประเทศ แต่ยังเป็นต้นแบบของการพัฒนาที่ขับเคลื่อนจากฐานราก สู่เป้าหมายของประเทศที่ประชาชนมีส่วนร่วม อยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี และมีความสุขอย่างยั่งยืน

TQM ผนึกกำลังสาขา ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดน่าน

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (TQM) ร่วมกับพนักงาน    สาขาน่าน และแพร่ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในจังหวัดน่าน โดยได้จัดมอบ      ถุงยังชีพพร้อมอุปกรณ์ทำความสะอาด ให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ นอกจากการมอบสิ่งของจำเป็นแล้ว ทีมงาน TQM ยังได้สำรวจข้อมูลและความต้องการเพิ่มเติมในพื้นที่ เพื่อวางแผนการช่วยเหลือในระยะถัดไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ TQM ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความมุ่งมั่นในการเคียงข้างสังคมในทุกช่วงวิกฤต 

สำหรับลูกค้า TQM ที่ได้รับความเสียหาย ทั้งในส่วนของที่อยู่อาศัยหรือรถยนต์ สามารถติดต่อแจ้งเคลมประกัน    ที่สายด่วน 1737 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line Official: @TQM Insurance Broker และ Facebook Page: TQM Insurance Broker   


18 กรกฎาคม 2568

อีตั้น อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (Eaton) เปิดตัวเครื่องสำรองไฟ ยกระดับการสำรองไฟด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ

อีตั้น อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (Eaton) เปิดตัวเครื่องสำรองไฟ Eaton 9PX และ 9SX Gen2 รุ่นใหม่ มุ่งยกระดับการสำรองไฟด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ




กรุงเทพมหานคร –  บริษัท อีตั้น อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำระดับโลกด้านการบริหารจัดการพลังงาน ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS) รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ Eaton 9PX และ 9SX Gen2 ที่ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานยุคใหม่ โดยมุ่งเน้นทั้งประสิทธิภาพทางพลังงาน เทคโนโลยีขั้นสูง และความชาญฉลาดในการดูแลระบบ

สำหรับเครื่องสำรองไฟรุ่น Eaton 9PX และ 9SX Gen2 นั้นโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพการแปลงพลังงานสูงสุดถึง 97.2% ซึ่งนับว่าเป็นระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม ทั้งยังสามารถจ่ายพลังงานได้มากขึ้นถึง 11% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และใช้พื้นที่ติดตั้งน้อยกว่าคู่แข่งถึง 33% สำหรับรุ่น 11kW ซึ่งมีขนาดเพียง 4U เท่านั้น

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับ เทคโนโลยี ABM+ อันล้ำสมัยที่พัฒนาโดยอีตั้น โดยใช้ Machine Learning ในการวิเคราะห์และคาดการณ์อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้อย่างแม่นยำ พร้อมระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพิ่มความมั่นใจและความน่าเชื่อถือในการดำเนินงานของระบบสำรองไฟในองค์กรเครื่องสำรองไฟ Eaton 9PX และ 9SX Gen2 ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ อาทิ:

ศูนย์ข้อมูล (Data Centers)

ระบบ IT แบบกระจายสาขา (Distributed IT)

เครือข่าย Edge (Edge Networks)

ตู้เครือข่าย (Network Closets)

ห้องเซิร์ฟเวอร์ (Server Rooms)

นางสาวสุภัทรา รามสูต ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีตั้น อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าวว่า "เราภูมิใจที่ได้เปิดตัวเครื่องสำรองไฟรุ่น Eaton 9PX และ 9SX Gen2 ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเทียบกับในตลาด แต่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับองค์กรผู้ใช้งาน เราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับองค์กรที่ต้องการความเชื่อมั่นและประสิทธิภาพในการสำรองไฟสำหรับอุปกณ์ที่สำคัญของคุณ"

การเปิดตัวในครั้งนี้สะท้อนถึงพันธกิจของอีตั้นในการส่งมอบโซลูชันด้านการสำรองไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ชาญฉลาด และยั่งยืน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรในยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งสองรุ่นสามารถติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนจำหน่ายของอีตั้น ทั่วประเทศ” คุณสุภัทรากล่าวทิ้งท้าย


Eaton เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการพลังงานอย่างชาญฉลาด โดยมุ่งมั่นในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก เราผลิตสินค้าสำหรับศูนย์ข้อมูล (Data Center), ระบบสาธารณูปโภค, อุตสาหกรรม, พาณิชยกรรม, การสร้างเครื่องจักร, ที่อยู่อาศัย, อวกาศ และตลาดการขนส่งเราได้รับแรงบันดาลใจจากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง ดำเนินงานอย่างยั่งยืน และช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ด้วยการใช้ประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตระดับโลกด้านการใช้ไฟฟ้าและการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล เรากำลังมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาท้าทายด้านการจัดการพลังงานที่เร่งด่วนที่สุดของโลก และสร้างสังคมที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้คนในวันนี้และคนรุ่นต่อไปก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1911 Eaton ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงและเพิ่มขึ้นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเรา ด้วยรายได้เกือบ 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 บริษัทให้บริการลูกค้าในกว่า 160 ประเทศดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.eaton.com/th และติดตามเราได้ทาง LinkedIn


30 มิถุนายน 2568

ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี และ หัวหน้าอุทยานน้ำตกเจ็ดสาวน้อย เชิญชวนท่องเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อย

ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี และ หัวหน้าอุทยานน้ำตกเจ็ดสาวน้อย เชิญชวนท่องเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อย สระบุรี ช่วงต้นฝน พร้อมแนะการเตรียมตัวเที่ยวอุทยานฯ ในฤดูฝน.




อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย เป็นน้ำตกที่ไหลลดหลั่นมาตามแนวลำธาร มีประมาณ 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูงราว 4 เมตร แอ่งน้ำมีบริเวณที่เล่นน้ำกว้าง และร่มรื่น โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย เป็นภูเขาสลับซับซ้อนสลับกับพื้นที่ราบ มีความสูงจากระดับทะเลปานกลางอยู่ที่ 180-402 เมตร บริเวณเชิงเขาด้านทิศตะวันออกและทิศเหนือติดคลองมวกเหล็กมีน้ำไหลผ่านตลอดปี ตอนกลางมีห้วยแล้ง ลำห้วยเล็ก ๆ จะมีน้ำไหลผ่านเฉพาะช่วงฤดูฝน สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าปลูก เนื่องจากพื้นที่แต่เดิมถูกบุกรุกทำลาย ภายหลังจึงได้รับการปลูกป่าฟื้นฟู จุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมก็คือ "น้ำตกเจ็ดสาวน้อย" เป็นน้ำตกชั้นเตี้ย ๆ จำนวน 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูง 2-5 เมตร สายน้ำไหลลดหลั่นเป็นธารน้ำตกกว้างคล้ายแก่งขนาดใหญ่ 

มีอ่างน้ำตื้น ๆ หลายแห่งที่ลงเล่นน้ำได้ น้ำตกชั้นที่สวยงามที่สุด คือ ชั้นที่ 4 และจะสวยมาก ๆ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน เพราะน้ำใสสะอาด ไม่ไหลเชี่ยว จึงลงเล่นได้อย่างปลอดภัย น้ำตกเจ็ดสาวน้อย มีต้นกำเนิดมาจาก ลำห้วยมวกเหล็ก ซึ่งเป็นลำห้วยที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี สายน้ำของลำห้วยมวกเหล็กที่ไหลผ่านในพื้นที่มีระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตรบรรยากาศต้นเดือน กค. 68 ช่วงนี้พอมีน้ำเล่น แต่ไม่เยอะเหมือนช่วงต้นฤดูฝนสามารถเช็คระดับน้ำ ได้ที่เพจอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยมีบริการ ที่พัก ร้านอาหาร ห้องน้ำ ที่จอดรถ

นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี กล่าวว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน อุทยานแห่งชาติของประเทศไทยหลายแห่ง มีความสวยสดงดงามตามช่วงฤดูกาล โ
ดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดสระบุรีอันประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น และอุทยานแห่งชาติเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า ซึ่งมีน้ำตก มีอ่างเก็บน้ำที่สวยงาม มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ให้นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความงามของป่า

นอกจากนั้นแล้วยังมีป้ายสื่อความหมายต่างๆตลอดเส้นทาง เพื่อให้ท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับระบบนิเวศ อย่างไรก็ตาม การเดินป่าในช่วงฤดูฝน นักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย และอุปกรณ์ต่างๆสำหรับการเดินป่า เช่น เสื้อกันฝน ถุงเท้ากันทาก รองเท้าผ้าใบ สวมใส่เสื้อผ้าที่รัดกุม เป็นต้น สำหรับอุทยานแห่งชาติที่มีน้ำตกและพื้นที่สำหรับเล่นน้ำ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งการให้มีความเข้มงวดในเรื่องของการกู้ชีพ การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเมื่อประสบเหตุ ซึ่งอุทยานแห่งชาติต่างๆได้มีการเตรียมความพร้อม โดยการฝึกซ้อมทบทวนขั้นตอนการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างสม่ำเสมอ มีอุปกรณ์สำหรับการกู้ชีพเบื้องต้น เช่น รถกู้ชีพฉุกเฉิน เครื่องกระตุกหัวใจ หรือ AED (Automated External Defibrillator) ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ สำหรับช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในเบื้องต้นไว้อย่างครบถ้วน นอกจากนั้นแล้ว ยังได้มีการฝึกซ้อมร่วมกับสถานพยาบาล ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับอุทยานแห่งชาติ  เพื่อส่งต่อนักท่องเที่ยวในกรณีฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน 



นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี กล่าวว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน อุทยานแห่งชาติของประเทศไทยหลายแห่ง มีความสวยสดงดงามตามช่วงฤดูกาล โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดสระบุรีอันประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น และอุทยานแห่งชาติเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า ซึ่งมีน้ำตก มีอ่างเก็บน้ำที่สวยงาม มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ให้นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความงามของป่า นอกจากนั้นแล้วยังมีป้ายสื่อความหมายต่างๆตลอดเส้นทาง เพื่อให้ท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับระบบนิเวศ อย่างไรก็ตาม การเดินป่าในช่วงฤดูฝน นักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย และอุปกรณ์ต่างๆสำหรับการเดินป่า เช่น เสื้อกันฝน ถุงเท้ากันทาก รองเท้าผ้าใบ สวมใส่เสื้อผ้าที่รัดกุม เป็นต้น สำหรับอุทยานแห่งชาติที่มีน้ำตกและพื้นที่สำหรับเล่นน้ำ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สั่งการให้มีความเข้มงวดในเรื่องของการกู้ชีพ การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเมื่อประสบเหตุ ซึ่งอุทยานแห่งชาติต่างๆได้มีการเตรียมความพร้อม โดยการฝึกซ้อมทบทวนขั้นตอนการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างสม่ำเสมอ มีอุปกรณ์สำหรับการกู้ชีพเบื้องต้น เช่น รถกู้ชีพฉุกเฉิน เครื่องกระตุกหัวใจ หรือ AED (Automated External Defibrillator) ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ สำหรับช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในเบื้องต้นไว้อย่างครบถ้วน 





นายปกครอง ทองเนื้อแข็ง ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย และผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการฝึกซ้อมทบทวนขั้นตอนการปฐมพยาบาล ยังได้มีการฝึกซ้อมร่วมกับสถานพยาบาล ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับอุทยานแห่งชาติ  เพื่อส่งต่อนักท่องเที่ยวในกรณีฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน





ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม  ของอุทยานแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดสระบุรี  ที่สามารถเดินทางได้สะดวกและรวดเร็วเข้าฤดูฝนแล้วมาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ.                    

เปิดทุกวัน 08:00-17:00 น. สอบถามเพิ่ม โทร. 036 346 586




#เที่ยวอุทยานแห่งชาติ  #เจ็ดสาวน้อย #อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
#มวกเหล็ก #สระบุรี #toptotravel