แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Social แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Social แสดงบทความทั้งหมด

08 ธันวาคม 2566

พม. จับมือ บมจ. ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เปิดตัวโครงการ “อิ่มบุญกับ Certainty X 9 มูลนิธิผู้สูงอายุ ที่สนับสนุนภารกิจกรมกิจการผู้สูงอายุ”

 


วันที่ 8 ธันวาคม 2566 เวลา 13.00 น. นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นประธานเปิดโครงการ “อิ่มบุญกับ Certainty X 9 มูลนิธิผู้สูงอายุ ที่สนับสนุนภารกิจกรมกิจการผู้สูงอายุ” การพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกเพื่อการส่งต่อผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้แก่ผู้สูงอายุ ตามความประสงค์ของผู้บริจาค โดยมีนายอภิศักดิ์ อัครพัฒนานุกูล ประธานกรรมการบริหาร กล่าวถึงความร่วมมือ นางธิดา ศรีไพพรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิบ้านบางแคในพระอุปถัมภ์ฯ และผู้แทนจาก 8 มูลนิธิผู้สูงอายุ ที่สนับสนุนภารกิจกรมกิจการผู้สูงอายุ เข้าร่วมงาน ณ อาคารอเนกประสงค์ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค 


นางสาวแรมรุ้ง กล่าวว่า โครงการ “อิ่มบุญกับ Certainty X 9 มูลนิธิผู้สูงอายุ ที่สนับสนุนภารกิจกรมกิจการผู้สูงอายุ” โดยเป็นการเปิดตัวระบบการบริจาคผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้กับผู้สูงอายุ โดยเป็นการสั่งซื้อสินค้าในราคาถูกกว่าช่องทางปกติ ผ่านทาง Application และเว็บไซต์ Certainty โครงการ อิ่มบุญกับ  Certainty X 9 มูลนิธิผู้สูงอายุ และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ประสงค์บริจาค ให้กับ 9 มูลนิธิผู้สูงอายุ ที่สนับสนุนภารกิจกรมกิจการผู้สูงอายุ ได้แก่  1. มูลนิธิบ้านบางแคในพระอุปถัมภ์ฯ  2. มูลนิธิสงเคราะห์คนชราจังหวัดยะลา 3. มูลนิธิสงเคราะห์ผู้สูงอายุภาคเหนือ 4. มูลนิธิผู้สูงอายุบ้านนครพนม 5. มูลนิธิสงเคราะห์คนชราบ้านบางละมุง 6. มูลนิธิผู้สูงอายุบ้านปทุมธานี 7. มูลนิธิวาสนะเวศม์ 8. มูลนิธิสงเคราะห์คนชราภูเก็ต 9. มูลนิธิสถานสงเคราะห์คนชราบ้านบุรีรัมย์

โครงการ อิ่มบุญกับ Certainty นับเป็นโครงการความร่วมมือที่ดีและเป็นประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุ พร้อมทั้งอยากเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันประชาสัมพันธ์โครงการและร่วมบริจาคผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับผู้สูงอายุภายใต้โครงการนี้ 








นางสาวแรมรุ้ง กล่าวต่อไปว่า ขอขอบคุณและขอชื่นชม บริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ตราสินค้า เซอร์เทนตี้ (Certainty) ที่เป็นตัวอย่างของภาคเอกชนที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เห็นความสำคัญของการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพทางกายและสุขภาวะผู้สูงอายุ ดังจะเห็นได้จากการออกผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสุขภาพของผู้สูงอายุ รวมถึงการพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกเพื่อการส่งต่อผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้แก่ผู้สูงอายุตามความประสงค์ของ

ผู้บริจาค ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเหล่านี้จะถูกนำไปกระจายให้กับผู้สูงอายุทั่วประเทศ ต่อยอดการดูแลสุขภาพและสุขอนามัยผู้สูงอายุอย่างเหมาะสมต่อไป




นายอภิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สืบเนื่องจากการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ที่กรมกิจการผู้สูงอายุ และบริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เห็นพ้องในการร่วมกันดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุในประเทศไทย และการดูแลสุขอนามัยผู้สูงอายุ ภายใต้จุดมุ่งหมายเดียวกัน ในวันนี้เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ร่วมกัน ในด้านการสนับสนุนการเข้าถึงสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ทางเซอร์เทนตี้ได้พัฒนาระบบการบริจาคแบบออนไลน์ 

(E-donation) รูปแบบใหม่ ที่ทั้งใช้งานง่ายและสะดวก อีกทั้งยังร่วมสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดส่งไปยัง 9 มูลนิธิตลอดระยะเวลาของกิจกรรมนี้ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและลดข้อจำกัดในการบริจาค ทั้งหมดนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่ต้องการร่วมกิจกรรม และช่วยให้ผู้สูงอายุเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขอนามัยได้มากยิ่งขึ้น เราคาดหวังว่ากิจกรรมนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ผู้สูงอายุในประเทศไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น



11 มกราคม 2566

เครือ รพ. พญาไท-เปาโล จับมือ วิทยาลัยดุสิตธานี ลงนาม MOU ยกระดับคุณภาพการให้บริการแก่ลูกค้าต่อเนื่อง


กรุงเทพฯ คุณอัฐ ทองแตง (ที่ 3 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโลพร้อมด้วย คุณสุภาพร บัญชาจารุรัตน์ (ที่ 2 จากขวา) ผู้อำนวยการสายทรัพยากรบุคคล เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล และ คุณนิรุธ ศรีพวาทกุล (ที่ 1 จากขวา) ผู้อำนวยการสายพัฒนาคุณค่าธุรกิจและเพิ่มพูนการเรียนรู้ เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ วิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันอุดมศึกษาเอกชนชั้นนำทางด้านธุรกิจบริการในเครือโรงแรมดุสิตธานี นำโดย คุณฟราวเกอะ เกอร์เบน (ที่ 3 จากซ้าย) อธิการบดี วิทยาลัยดุสิตธานี และคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยความร่วมมือครั้งนี้เป็นความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาหลักสูตรการอบรมระยะยาวสำหรับบุคลากรในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของโรงพยาบาลพญาไทและเปาโล ในรูปแบบ Hybrid Learning ที่เน้นทักษะการให้บริการระดับสูง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีแก่กลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลฯ ภายใต้มาตรฐานและคุณภาพระดับสากล โดยหลักสูตรฝึกอบรมนี้จะเริ่มวันที่ 16 มกราคม 2566

ความร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเครือโรงพยาบาลฯ ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาระบบบริหารการจัดการคุณภาพบริการและทักษะในการให้บริการของบุคลากร เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับบริการที่ตรงจุด มีประสิทธิภาพ และสร้างความประทับใจ

 บุคคลในภาพ (จากซ้าย)

1.      อาจารย์เยาวภรณ์ เลิศกุลทานนท์ กรรมการบริหารหลักสูตร วิทยาลัยดุสิตธานี

2.      ดร. วิลาสินี ยนต์วิกัย ผู้อำนวยการหลักสูตร MBA

3.      คุณฟราวเกอะ เกอร์เบน อธิการบดี วิทยาลัยดุสิตธานี

4.      คุณอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล

5.      คุณสุภาพร บัญชาจารุรัตน์ ผู้อำนวยการสายทรัพยากรบุคคล เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล

6.   คุณนิรุธ ศรีพวาทกุล ผู้อำนวยการสายพัฒนาคุณค่าธุรกิจและเพิ่มพูนการเรียนรู้ เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล


21 ธันวาคม 2565

อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน รองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เยี่ยมชมงานศิลป์ชั้นครู ผลิตภัณฑ์เครื่องเบญจรงค์ ในงาน OTOP CITY 2022

 งานดีๆ ที่ห้ามพลาด มาที่เดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนพร้อมภรรยา และ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เยี่ยมชมผลงานผลิตภัณฑ์ OTOP ภายในงาน OTOP CITY 2022 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด "มอบความสุขจากภูมิปัญญา ส่งต่อคุณค่าจากฝีมือคนไทย”  ทั้งนี้ได้ให้กำลังใจและชมการสาธิตจากผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชั้นเยี่ยมด้านเครื่องเบญจรงค์จากหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี ต.ดอนไก่ดี จ.สมุทรสาคร

 

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร






โดยผู้สนใจสามารถเลือก ชม ชิม ช้อป สินค้าได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2565 
ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 - 3 
ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี 

22 ตุลาคม 2565

รฟฟท. จัดโครงการ “สายสีแดงรักษ์โลก เพื่อชุมชนสีเขียว" ณ ชุมชนตลาดล่าง

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง จัดโครงการ "สายสีแดงรักษ์โลก เพื่อชุมชนสีเขียว" มอบต้นกล้าและน้ำดื่มให้แก่ชุมชนตลาดล่าง เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน บริบทของสังคมได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะการขยายตัวของสังคมเมือง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การป้องกันภัยพิบัติ และข้อจํากัดทางด้านพื้นที่ ทำให้พื้นที่สีเขียวลดน้อยลง หลายประเทศได้เปลี่ยนแปลงจากการมุ่งพัฒนาในด้านเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์เพียงด้านเดียว มาเป็นการให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวควบคู่ไปด้วย เพื่อตอบสนองให้ทันต่อสถานการณ์ และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals; SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ (UN) 

บริษัทฯ จึงมีแนวคิดในการจัดทำโครงการ "สายสีแดงรักษ์โลก เพื่อชุมชนสีเขียว" มอบต้นกล้า จำนวน 1,000 ต้น โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) และมอบน้ำดื่ม จำนวน 1,000 ขวด ให้แก่ชุมชนตลาดล่าง ตำบลบางพูน จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 และหลังจากนี้จะดำเนินการนำไปมอบให้ชุมชนอื่นๆ ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงในโอกาสถัดไป 

ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ทุกชุมชนมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดมลพิษทางอากาศ โครงการดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR ซึ่งบริษัทได้ให้ความสำคัญและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการสร้างความตระหนักให้คนในชุมชนเห็นคุณค่าของทรัพยากรป่าไม้ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) รวมถึงสร้างมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในบริเวณโดยรอบอีกด้วย


รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง Call Center 1690 ตลอด 24

18 ตุลาคม 2565

เปิดบ้าน คลินิกรักไต Love Kidney Clinic

กิจกรรม Open house เปิดบ้านคลินิกรักไต Love Kidney Clinic เมื่อเร็วๆ นี้ โดย ผศ.นพ.วีรยะ เภาเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน (คนที่ 5 จากซ้ายมือ) ให้เกียรติเยี่ยมชมพร้อมเปิดบ้าน เป้าหมายเพื่อเน้นย้ำความรู้ ลดเสี่ยงก่อนเกิดโรคไตในคนไทย ซึ่งปัจจุบันพบว่าเป็นมากอันดับต้นๆ ของโลก คลินิกรักไต ให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมโดยสหสาขาวิชาชีพ แพทย์เฉพาะทางโรคไต เภสัชกร นักกำหนดอาหาร นักกายภาพบำบัด ที่จะคอยให้คำแนะนำ ชลอก่อนเกิดไตเสื่อมในแบบเฉพาะรายบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับสาเหตุของไตเสื่อมที่ต่างกัน




 

10 ตุลาคม 2565

"กมล ลั่น" สังคมไทยยังให้ความหวังเเละมีที่ยืนสำหรับทุกคนเสมอ

 


ดร.กมล รอดคล้าย ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เยี่ยมชุมชนอัจฉริยะออทิซึม ต. สาวะถี อ. เมือง จ. ขอนเเก่น  ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างมูลนิธิออทิสติกไทย มหาวิทยาลัยขอนเเก่น สำนักงาน กศน. และภาคีเครือข่ายอีกหลายหน่วยงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพเด็กพิเศษ หวังช่วยกันสร้าง “อัจฉริยะออทิสซึม” ปัจจุบันเด็กออทิสติกมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เฉพาะภาคอีสานเท่าที่เปิดเผย มีมากกว่า 4,000 คน


บุคคลออทิสติก หรือเด็กออทิสติกนั้นไม่ถือว่าเป็นผู้พิการ แต่เรียกได้ว่าเป็นเด็กพิเศษมากกว่า เพราะเด็กที่มีอาการดังกล่าวจำนวนไม่น้อย ที่มีความสามารถพิเศษ หรือมีไอคิวสูง บางคนมีความเป็นเลิศด้านภาษาอังกฤษ บางคนเก่งด้านคณิตศาสตร์ หรือบางคนก็เรียนรู้ด้านคอมพิวเตอร์ได้เร็วมากกว่าเด็กปกติ ดังนั้น การดูแล การบำบัดเด็กออทิสติก เป็นเรื่องสำคัญมาก ที่ผู้ปกครอง หรือครูบาอาจารย์ต้องไม่มองข้าม เพื่อจะได้ช่วยกันพัฒนาส่งเสริมให้พวกเขามีพัฒนาการการเรียนรู้ตามความสามารถที่เขามีอยู่ได้เร็วขึ้น หลายคนถึงขั้นได้เป็นอัจฉริยะออทิสซึม



สำนักงาน กศน ได้เข้ามามีบทบาทในการจัดการเรียนการสอนทางด้านวิชาชีพที่จำเป็น และสามารถนำมาใช้ในการดำรงชีวิตได้จริง อาทิ อาชีพเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ปลูกผัก ทำฟาร์มเห็ดนางฟ้า วาดรูป สกรีนเสื้อ ทำแก้วเซรามิก สอนอาชีพบาริสต้า หรือนักชงกาแฟ ทอผ้า ทำขนม และที่สำคัญอีกอาชีพหนึ่งคือ การสร้างตลาดออนไลน์บนคอมพิวเตอร์และมือถือ เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชน ซึ่งในปัจจุบัน ส่งจำหน่ายตามร้านค้าต่างๆ  และ ร้านค้าในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำให้เด็กกลุ่มนี้และครอบครัว สามารถสร้างงานสร้างได้ให้กับตนเอง มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถดูแลตนเองได้ และอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างไม่เป็นภาระ

หลังจากเยี่ยมชมการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การฝึกอาชีพ และความสามารถของเด็กๆในชุมชนแห่งนี้แล้ว ดร.กมล รอดคล้าย ได้ชื่นชมการทำงานและขอบคุณทุกภาคส่วน ที่มีส่วนช่วยให้โครงการนี้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง  และประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ พร้อมกับกล่าวว่า 

"สังคมไทยยังให้ความหวังเเละมีที่ยืนสำหรับทุกคนเสมอ การศึกษาสำหรับคนพิการ ต้องมุ่งหมายไปที่การทำให้คนเหล่านี้สามารถอยู่รอดในสังคมได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี การให้ความรู้พื้นฐาน และความรู้ด้านอาชีพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเมื่อคนพิการสามารถดูแลตัวเองได้ เลี้ยงตัวเองได้ ย่อมภาคภูมิใจที่อยู่รอดได้โดยไม่เป็นภาระของสังคม ถึงวันหนึ่งก็อาจจะมีส่วนช่วยเหลือสังคมได้ด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องร่วมไม้ร่วมมือกัน ในการให้บริการเเละร่วมพัฒนาอย่างเต็มที่"





06 ตุลาคม 2565

รพ.พญาไท 2 นำนวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดข้อเข่า ชูความพร้อมเป็นฮับในการรักษาข้อเข่าเสื่อมในระดับภูมิภาค

นพ.อนันตศักดิ์ อภัยรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 2 เปิดเผยว่า สถาบันกระดูกและข้อ โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้นำนวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดข้อเข่า (Robotic Assisted Surgery) ซึ่งเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมศักยภาพของการทำงานของหุ่นยนต์ให้ดียิ่งขึ้นผ่านประสบการณ์ของศัลยแพทย์ ช่วยให้การผ่าตัดของทีมศัลยแพทย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และแม่นยำมากยิ่งขึ้น 

โดยศัลยแพทย์ป้อนข้อมูลของคนไข้ลงไป คอมพิวเตอร์จะสร้างภาพ 3 มิติของข้อเข่าของคนไข้ขึ้นบนจอภาพ ด้วยข้อมูลต้นแบบข้อกระดูกจากหลายประเทศเป็นล้านๆ แบบ ที่บรรจุอยู่ในหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ศัลยแพทย์สามารถหมุนดูภาพได้ทุกมุมทุกพื้นที่ของบริเวณที่จะทำการผ่าตัด เมื่อเห็นภาพอย่างชัดเจน จึงทำให้ตลอดกระบวนการการผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและตรงจุด โดยคนไข้ไม่ต้องเข้ารับการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เพื่อวางแผนการผ่าตัด ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการตรวจ รอผล และอ่านผลจากการตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ รวมถึงลดการเจอรังสีจากการทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์

 

การพัฒนาให้นวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดข้อเข่า มีความแม่นยำมากขึ้นในระหว่างการทำการผ่าตัด (Accuracy) ช่วยทำให้ศัลยแพทย์วางตำแหน่งข้อเข่าเทียมได้แม่นยำมากขึ้นในระดับมิลลิเมตร 




โดยในปีหน้าตั้งเป้าเร่งพัฒนาทั้งสถานที่ และเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยใช้งบไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท มุ่งการรักษาให้มีประสิทธิภาพ และศักยภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมรองรับการเปิดประเทศที่มีผู้ป่วยจากต่างชาติเข้ามารักษามากขึ้น 

 


ด้าน ศ.นพ.ธไนนิธย์ โชตนภูติ แพทย์ออร์โธปีดิกส์เฉพาะทางข้อเข่าและข้อสะโพก และผู้อำนวยการสถาบันกระดูกและข้อ รพ.พญาไท 2 ระบุ การใช้ระบบหุ่นยนต์ที่ช่วยในการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม ทำให้มีความแม่นยำได้ถึง 93 เปอร์เซ็นต์ และยังทำให้คนไข้มีแผลเล็ก ฟื้นตัวและกลับบ้านได้รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันคนไทยมีการผ่าตัดข้อเข่าเสื่อมปีละ 30,000-40,000 ราย จากจำนวนประชากรที่อยู่ในวัยที่ข้อเข่าเสื่อม 3-4 ล้านราย ทำให้เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค เช่น สิงคโปร์ ถือว่ามีการผ่าตัดที่น้อยมาก สาเหตุจากการที่ผู้ป่วยกลัวว่าผ่าตัดแล้วจะเดินไม่ได้ ซึ่งการใช้หุ่นยนต์เข้ามาช่วยก็จะช่วยลดความกังวลได้

05 กันยายน 2565

GIT โชว์ศักยภาพงานดีไซน์จากนักออกแบบเครื่องประดับ ภายใต้แรงบันดาลใจ "ถอดรหัสธรรมชาติ"

 

วันที่ 5 กันยายน 2565: สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT จัดพิธีมอบโล่รางวัล พระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี  และประกาศผลผู้ชนะเลิศโครงการ GIT World’s Jewelry Design Awards ครั้งที่ 16 พร้อมเผยโฉม 4 ผลงานสุดท้าย ใน ธีม True Nature – Reveal the Secret of Nature ลุ้นรางวัลรวมมูลค่ากว่า 360,000 บาท (10,000 USD) โดยได้รับเกียรติจาก นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ณ ลานแฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อัญมณีและเครื่องประดับ ถือได้ว่าเป็นสินค้าสำคัญที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศไทย เป็นอันดับ 3 ในบรรดาสินค้าส่งออกทั้งหมดเมื่อรวมกับมูลค่าการค้าภายในประเทศก่อให้เกิดเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งการจัดโครงการประกวดออกแบบเครื่องประดับ GIT World’s Jewelry Design Awards เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สนับสนุนผู้ประกอบการ นักออกแบบ และบุคคลทั่วไปที่มีใจรักในการออกแบบและสนใจในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับได้มีเวทีและโอกาสในการแสดงศักยภาพและพัฒนาฝีมือให้เข้าสู่มาตรฐานระดับโลกสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย และเปลี่ยนประเทศไทยจากประเทศผู้รับจ้างผลิต เป็นประเทศที่สามารถสร้างแบรนด์เครื่องประดับที่ได้รับการยอมรับระดับโลก เพื่อการตอกย้ำการเป็นประเทศผู้ผลิตและผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการ GIT กล่าวเสริมว่า โครงการประกวดออกแบบเครื่องประดับ ครั้งที่ 16 (GIT’s World Jewelry Design Awards 2022) ภายใต้หัวข้อ True Nature – Reveal the Secret of Nature ที่เปิดโอกาสให้ผู้รักการออกแบบ และสร้างสรรค์ผลงาน โดยนำแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติที่แท้จริง ลดความสูญเสียในการผลิต นำมาประยุกต์ให้เกิดความน่าสนใจ รวมถึงการนำพลอยเก่า พลอยที่เหลือใช้ มา Upcycle ให้มีความโดดเด่นและน่าสนใจ และตอบโจทย์ตลาดการค้าเครื่องประดับจากทั่วทุกมุมโลกอันเป็นการต่อยอดและพัฒนาขีดความสามารถของนักออกแบบไทย ในปีนี้มีนักออกแบบจากทั่วโลกส่งผลงานเข้าประกวดรวม 527 ชิ้นงาน จาก 22 ประเทศ 

ซึ่งคณะกรรมการประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านการออกแบบทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ผศ.ดร. วีรวัฒน์ สิริเวสมาศ รองคณบดี คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, คุณสิริพร ภาณุพงศ์ รองประธานกรรมการ สำนักงานกฎหมาย Royal Law และอดีตอัครราชทูต ณ ​กรุงเวียนนา, ม.ล. คฑาทอง ทองใหญ่ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์, คุณสิริน ศรีอรทัยกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บิวตี้เจมส์ แฟคตอรี่ จำกัด, คุณณิชยา เอครพานิช  ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท บลูริเวอร์ 1977 จำกัด Prof. Paolo Torriti Professor University of Siena ประเทศอิตาลี, Mr.Tsukasa Muramatsu เจ้าของและผู้ก่อตั้ง Studio Muramatsu, Ms.Richa Goyal Sikri-Creative Strategist, Journalist and Storyteller โดยได้คัดเลือกผลงานทั้งหมด จนเหลือ 32 แบบวาด และเลือกแบบวาดที่มีคะแนนสูงสุด 4 แบบวาด นำไปผลิตเป็นเครื่องประดับจริง เพื่อตัดสินในรอบชิงชนะเลิศ และแสดงผลงานผ่านแฟชั่นโชว์ในวันนี้ 

ซึ่งผู้ชนะในการประกวดครั้งนี้ ได้แก่

รางวัลชนะเลิศ นายการัณย์ คงคาหลวง จากประเทศไทย ชื่อผลงาน สวนของธรรมชาติ (Opaque Garden)สนับสนุนการผลิตโดย บริษัท รีกัล จิวเวลลี่ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 นายอธิษฐ์พัฒน์ สุทธิกรกมล และนางสาวมนัสนันท์ ผลพูน จากประเทศไทย

ชื่อผลงาน The Opalized Wood สนับสนุนการผลิตโดย บริษัท เทวิกา จิวเวลรี่ จำกัด และวิทยาลัยเทคนิคแพร่

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 นายกิติศักดิ์ หมายเจริญ จากประเทศไทย ชื่อผลงาน ผสาน (MERGE) สนับสนุนการผลิตโดย บริษัท มาร์เวล จิวเวลรี่ จำกัด

รางวัลชมเชย Ms. Lilin Wang and Mr. Geng LI จากประเทศจีน ชื่อผลงาน Melt สนับสนุนการผลิตโดย บริษัท บิวตี้เจมส์ แฟคตอรี่ จำกัด

และรางวัล Popular Vote ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท เทรเชอร์ โปรดักส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (แบรนด์เครื่องประดับ Ownory) L.S. Jewelry Group (ห้างเพชรหลีเสง) และ บริษัท หทัย เจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ จำกัด ได้แก่ ซึ่งผู้ร่วมสนุก และส่งผลโหวตกว่า 250,000 ราย และผลงานที่ได้ คือ JDA302 Mrs. Mahnaz Dorra ผลงานชื่อ Cotton flower นักออกแบบชาวอิหร่าน
















สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการประกวดการออกแบบได้ที่  www.facebook.com/gitwjda