นายสุนทร
อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร โรงแรมในเครือฟอร์จูน
บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) มองแนวตลาดท่องเที่ยวไทยโตต่อเนื่อง
เตรียมขยายธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็น 1 ใน 7
ธุรกิจในเครือที่มีสัดส่วนรายได้ถึง
45 % อันดับหนึ่งจากรายได้รวม
ซี.พี.แลนด์ ราว 2,000 ล้านบาททั่วทุกภูมิภาค
โรงแรมใหม่ที่จะลงทุน
มีทั้งแบบระดับห้าดาว ในต่างจังหวัดภายใต้แบรนด์ฟอร์จูน ขนาดไม่ต่ำกว่า 300
ห้อง ลงทุนห้องละ 5 ล้านบาทอย่างน้อย 3 แห่ง โดยยอดลงทุนไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านต่อ 1 แห่ง ได้แก่ โรงแรมในจังหวัดขอนแก่น อุดรธานี
และหาดใหญ่
นอกจากนี้ยังลงทุนโรงแรมในระดับ 3-4 ดาวภายใต้แบรนด์ฟอร์จูนและโรงแรมระดับ 2-3
ดาวภายใต้แบรนด์ ฟอร์จูน ดี ซึ่งการลงทุนประมาณ
1 ล้านต้นๆ ในแต่ละห้อง
ส่วนโลเกชั่นอยู่ในแผนลงทุนได้แก่
จังหวัดราษฎร์ธานี สมุทรสาครและบึงกาฬ รองรับการลงทุนสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 5
เชื่อมจากไทยไปลาว
ปัจจุบัน
โรงแรมในเครือฟอร์จูนแบ่งเป็น 3 ประเภท
ประกอบด้วย ซิตี้ โฮเทล ระดับ 4-5 ดาว
ได้แก่ โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน กรุงเทพ โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน
นครศรีธรรมราช โรงแรมฟอร์จูน ราชพฤกษ์ นครราชสีมา , รีสอร์ท โฮเทล
ระดับ 3-4 ดาวได้แก่
โรงแรมฟอร์จูน ริวเวอร์วิว นครพนม โรงแรมฟอร์จูน วิวโขง นครพนม และไลฟ์สไตล์
แอนด์ คอนวิเนียน โฮเทลระดับ 2-3 ดาว
ได้แก่ โรงแรมฟอร์จูน ดี เขาใหญ่ โรงแรมฟอร์จูน ดี แม่สอด โรงแรม ฟอร์จูนดีเลย
โรงแรมฟอร์จูน พิษณุโลก โรงแรมฟอร์จูน ดี บุรีรัมย์
นายสุนทร
เผยต่อว่า “ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 มีแผนเปิดให้บริการโรงแรมฟอร์จูน
ซี วิว จังหวัดระยองเป็นซิตี้ โฮเทลระดับ 4-5 ดาวและอีก 2 แห่งอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง หากไม่แล้วเสร็จในปี
2563 จะขยายระยะเวลาการเปิดให้บริการออกไปเป็นปี
2564
โดยทำเลในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความน่าสนใจในการลงทุนเพราะพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลีย่นไป
มีรูปแบบการท่องเที่ยวเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น ทางบริษัทจึงหันมาโฟกัสการลงทุนในโรงแรมที่เจาะฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น
ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหรือกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว
นอกจากนี้ทาง
ซี.พี.แลนด์ ยังมองการสร้างโรงแรมรองรับกลุ่ม long stay อีกด้วย นายสุนทร กล่าวถึงการลงทุนเรื่องนี้ว่า “
มีแผนจะสร้างโรงแรมขนาดไม่เกิน 200 ห้องใกล้กับโครงการนิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซีที่มาบตาพุด
รองรับคนเข้ามาทำงานในพื้นที่นั้น ซึ่ง 1 ใน 3
ของห้องพักจะรองรับกลุ่ม long
stay ซึ่งจะเริ่มสร้างในปี
2564 บนพื้นที่กว่า 3,000
ไร่ภายในนิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซี(มาบตาพุด)
โดยเป็นพื้นที่ที่ติดถนนหลัก
3 เส้นใกล้โครงการรถไความเร็วสูงเชื่อม
3 สนามบิน คาดว่าจะสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าได้ทั้งหมดภายในปี
2565 ตอนนี้อยู่ระหว่างการลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภคในนิคม
น่าจะสร้างได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งซี.พี.แลนด์และทางการของจีน
มีการลงทุนร่วมกันในนิคมดังกล่าวไปกว่า 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าที่ดิน
4,000 ล้านบาท
ลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐานในโครงการ 2,000 ล้านบาทจากวงเงินการลงุทนรวมในโครงการนี้
ร่วม 10,000 ล้านบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น