Lesto Condo Sukhumvit 113 Interchange Station ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่ดึงดูดสายตาผู้พัฒนาโครงการรายต่างๆเข้ามาเก็บแลนด์แบงก์ในพื้นที่ทำเลนี้คือการใกล้เปิดบริการของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายสถานี สำโรง – ปู่เจ้าสมิงพราย และเป็นจุดต่อรถไฟฟ้ากับสายสีเหลืองในอนาคต
เปิดกลยุทธ์บิลท์ แลนด์ ปี 61 รุกขาย “เลสโต” คอนโดแต่งครบใกล้สถานีสำโรง มั่นใจโกยยอดขายทะลุเป้าพันล้าน นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ภาพรวมเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากมีปัจจัยที่ดีขึ้นทั้งจากการส่งออก การท่องเที่ยว อัตราดอกเบี้ยทรงตัวค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ภาครัฐยังมีการลงทุนโครงการด้านสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ต่อเนื่อง จึงเป็นสัญญาณที่ดีของภาคอสังหาริมทรัพย์ ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น และเริ่มกลับเข้าสู่การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันชาวต่างชาติหันมาซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เพราะราคายังถูกอยู่มากเมื่อเทียบกับราคาในประเทศของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง คอนโดมิเนียมที่ยังได้รับความสนใจอยู่จะเป็นบริเวณแนวรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดินทั้งที่สร้างเสร็จแล้วและส่วนต่อขยาย ในขณะที่กำลังซื้อที่ดินของผู้ประกอบการที่จะนำมาพัฒนาโครงการยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะมีแหล่งเงินทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนร่วมกับคนไทยในการประกอบธุรกิจคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ ส่งผลให้ราคาที่ดินดิบมีราคาสูงต่อเนื่อง ทำให้ในอนาคตราคาคอนโดมิเนียมจะมีราคาสูงเพิ่มขึ้นตาม ตลาดก็จะมีการแข่งขันมากยิ่งขึ้น ซึ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องหาตลาดใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดที่รองรับกำลังซื้อของคนต่างชาติ
สำหรับโครงการล่าสุดของบริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) คือ “เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113” สถานีสำโรง เป็นคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จแล้ว แต่งครบพร้อมเข้าอยู่ บนเนื้อที่ 7 ไร่เศษ เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 786 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง ห่างจาก BTS สถานีสำโรงเพียง 400 เมตร และในอนาคตสถานีนี้จะเป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อเพื่อเปลี่ยนไปสายสีเหลืองที่วิ่งไปทาง รัชดา – ลาดพร้าว ได้ด้วย”
ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ที่มีมากว่า 10 ปี และประสบความสำเร็จอย่างสูงในการปิดขายโครงการต่างๆ ในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นในปี 2561 บริษัทจึงตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2560 โดยบริษัทเน้นที่อัตราการทำกำไรให้สูงขึ้น เนื่องจากโครงการต่างๆ ที่มีอยู่นั้น บริษัทได้มีการปรับขึ้นราคาขายไปแล้ว 5-10% โดยเฉพาะโครงการห้องชุดซึ่งอยู่ในแนวรถไฟฟ้า เช่น โครงการ “เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113” สถานีสำโรง ซึ่งเป็นย่านชุมชนที่ยังมีความต้องการที่พัก อาศัยค่อนข้างสูง โดยเป็นโครงการที่มีความคุ้มค่าเงินสูงสุดในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย และเป็นคอนโดมิเนียมเพียงไม่กี่แห่งที่มีรถไฟฟ้าผ่านถึง 2 เส้นทาง (สายสีเขียวและสายสีเหลือง) เพื่อความสะดวกในการเลือกเดินทาง หรือกรณีใช้รถยนต์ส่วนตัวสามารถใช้ถนนสุขุมวิท หรือทางด่วนเข้าสู่กรุงเทพฯ ชั้นในได้สะดวกเช่นกัน
นอกจากนี้ นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ยังมีเป้าหมายที่จะนำ “บิลท์ แลนด์” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปี 2562 เพื่อรองรับแผนการขยายการลงทุนในอนาคต
“สำหรับแผนการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ “บิลท์ แลนด์” นั้น บริษัทฯ จะเพิ่มทุนอีกจำนวน 100 ล้านหุ้น เพื่อขายให้แก่ประชาชนทั่วไป ส่วนราคาเสนอขายก็จะต้องรอปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินก่อน ปัจจุบันธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างผลกำไรได้สูง เนื่องจากเรามีความเชี่ยวชาญในการบริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ มองขาดในเรื่องทำเล คุณภาพของงานก่อสร้าง ครอบคลุมไปถึงการบริหารจัดการหลังการขายที่มีบริษัท บิลท์ ฮาร์ท จำกัด ช่วยในการบริการลูกค้า จัดการบริหารอาคารนิติบุคคล และคอยรองรับการบริหารห้องชุดให้ลูกค้าในกรณีที่มีความต้องการขายต่อหรือให้เช่า รวมทั้งรู้จักกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าของเราเป็นอย่างดี สำหรับโครงการในอนาคตจะเน้นไปที่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวสูงเป็นหลักที่ระดับราคา 2-5 ล้านบาท เพื่อกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการใช้ชีวิตอิสระ ปลอดภัย สะดวกสบายในการดูแลรักษา และง่ายต่อการเดินทาง ส่วนแผนการร่วมทุนบริษัทข้ามชาตินั้น บริษัทยังเปิดกว้างอยู่ตลอด ที่ผ่านมาได้มีหลายบริษัทในประเทศเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะมีส่วนสนับสนุนการขยายตลาดไปสู่ลูกค้าต่างชาติมากขึ้น โดยในการพิจารณาผู้ร่วมทุนนั้น บริษัทให้น้ำหนักเรื่องเม็ดเงินลงทุนและแนวทางการทำงานร่วมกันว่าสามารถร่วมกันได้หรือไม่เป็นหลัก ส่วนในเรื่องเทคโนโลยีหรือโนว์ฮาวต่างๆ นั้นเป็นเรื่องรองลงมา” นายชัยรัตน์ กล่าว
โครงการ “เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113” สถานีสำโรง เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 786 ยูนิต ที่มีพื้นที่ส่วนกลางกว่า 3,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย Triple Club คลับเฮ้าส์ 3 ชั้น หน้าโครงการ ไว้ให้พักผ่อนหรือรองรับเพื่อนฝูง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ 5 ดาว ไม่ว่าจะเป็น Fitness Room, Swimming Pool, Yoga Fly, Play Room, Movie Room, BBQ Deck, Library Room, Co-Working Space พร้อมสวนขนาดใหญ่รายล้อมโครงการ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับทุกอาคาร สามารถตอบโจทย์ความสุขของการอยู่อาศัยได้อย่างรอบด้าน
ทั้งนี้ ในวันเสาร์ที่ 19 และวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม นี้ “บิลท์ แลนด์” จะจัดงาน “LESTO OPEN HOUSE” ในธีม “รวมร้านเด็ดย่านสำโรง” เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมชมห้องชุดแต่งครบพร้อมเข้าอยู่ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมเวิร์คช้อปสุดคูล และชิมอาหารจานเด็ดแนะนำจาก Wongnai สำหรับผู้ที่จองในวันงาน เลือกฟรี! ทุกค่าใช้จ่ายในวันโอน หรือ ฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังฟรี! วอลล์เปเปอร์ทุกยูนิต ฟรี! เครื่องปรับอากาศ 15,000 บีทียู และเครื่องทำน้ำอุ่น และในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม ช่วงระหว่างเวลา 16.00-17.00 น. ร่วมสนุกกับมินิคอนเสิร์ตจาก “ป๊อป-ปองกูล” ณ TRIPLE CLUB คลับเฮ้าส์ 3 ชั้น หน้าโครงการ “เลสโต คอนโด”
บริษัท บิลท์ แลนด์ จํากัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2552 เพื่อดําเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล รวมถึงแนวรถไฟฟ้า เน้นการออกแบบที่อยู่อาศัยตามความต้องการพื้นฐานเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจํากัดได้อย่างคุ้มค่า โดยผลงานที่ผ่านมา ประกอบด้วย
· ปี 2552 - เปิดตัวโครงการแรก คือ The Tempo ร่วมฤดี มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท
· ปี 2553 - เปิดตัวโครงการ The Tempo พหลโยธิน มูลค่าโครงการ 395 ล้านบาท
· ปี 2554 - เปิดตัวโครงการ The Tempo รัชดา มูลค่าโครงการ 312 ล้านบาท และ The Tempo M ติวานนท์ มูลค่าโครงการ 295 ล้านบาท
· ปี 2555 - เปิดตัวโครงการแนวราบ โครงการแรก Tempo Town รัตนาธิเบศร์-ไทรม้า มูลค่าโครงการ 136 ล้านบาท
· ปี 2556 - เปิดตัวโครงการตึกสูง Tempo Grand สาทร-วุฒากาศ มูลค่าโครงการ 2,690 ล้านบาท
· ปี 2557 - เปิดตัวโครงการ Tempo One รามคำแหง-พระราม 9 มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท
· ปี 2558 - เปิดตัวโครงการ Tempo Quad สะพานใหม่ มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท
· ปี 2559 - เปิดตัวโครงการ The Ritmo ชัยพฤกษ์-วงแหวน มูลค่าโครงการ 1000 ล้านบาท และโครงการ Lesto Condo สุขุมวิท 113 มูลค่าโครงการ 1068 ล้านบาท
บริษัท บิลท์ ฮาร์ท จํากัด เปิดขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการรองรับการบริการหลังการขายของ บริษัท บิลท์ แลนด์ จํากัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมิได้มีวัตถุประสงค์หลักในเรื่องของผลกำไร แต่ช่วยในการบริการลูกค้า ในการจัดการบริหารอาคารนิติบุคคล และคอยรองรับการบริหารห้องชุดให้ลูกค้าในกรณีที่มีความต้องการขายต่อ หรือให้เช่า พร้อมกันนี้บริษัท บิลท์ ฮาร์ท เองก็จะทําการศึกษาข้อมูลทางการตลาดจากสภาวะแวดล้อมจริง พร้อมกับประเมินความเสี่ยง ปัจจัยต่างที่จะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อนําข้อมูลส่งต่อให้กับกลุ่มบริษัทฯ เพื่อใช้ในการปรับปรุง และพัฒนาบริษัทและผลิตภัณฑ์ต่อไป
การจัดวางโครงการ
เนื้อที่โครงการมีขนาดใหญ่ (7 ไร่ 44 ตร.ว.) แบ่งเป็น 4 อาคาร แต่ละอาคารเป็นลักษณะโลว์ไรส์ 8 ชั้น แบ่งเป็น 2 เฟสด้วยกัน เฟสแรกที่เปิดจะเป็นส่วนของอาคาร A (ทิศตะวันออก) และอาคาร B (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) สำหรับเฟสสองอาคาร C และ D จะอยู่ทางทิศเหนือ
ชื่อโครงการ: เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113 อินเตอร์เชนจ์ สเตชั่น (Lesto Condo Sukhumvit 113 Interchange Station)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน): PREB
ที่ตั้งโครงการ: ซอยสุขุมวิท 113 (วัดด่านสำโรง) ตำบลสำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ
พื้นที่โครงการ: 7-0-44 ไร่
ประเภทของโครงการ: คอนโดฯโลว์ไรส์ 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร
จำนวนยูนิต: 786 ยูนิต
ค่าส่วนกลาง: 40 บาท/ตร.ม. (ชำระเป็นยอดล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุน: 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น: 999,999 บาท หรือ 37,000 บาท/ตร.ม. (บางยูนิต)
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างเมื่อ มีนาคม 2559 โครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ ตุลาคม 2560
เว็บไซต์โครงการ: builtland.co.th/lestocondo
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น