เที่ยวทั่วไทย อร่อยทั่วโลก อัพเดทข่าวรายวัน Lifestyle บันเทิง ทันทุกกระแสข่าว!

25 พฤศจิกายน 2561

จอร์จ-ธาดา วาริช แนะ 6 เมืองต้องไป

แชะแอนด์เช็ค(อิน) สักครั้งในชีวิต



เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงสิ้นปี กลิ่นอายของฤดูกาลท่องเที่ยวก็เริ่มต้นขึ้น หลายคนเตรียมมองหาสถานที่พักผ่อนในช่วงวันหยุดยาว รีชาร์จพลังให้กับร่างกาย พร้อมมองหาสถานที่เที่ยวแปลกใหม่เพื่อแคปเจอร์ภาพสวยๆ เก็บบันทึกเป็นความทรงจำ แต่หากใครที่ยังไม่มีไอเดียว่าจะไปที่ไหน “จอร์จ-ธาดา วารีช” ช่างภาพสุดอาร์ตแถวหน้าของเมืองไทย ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปแชะแอนด์เช็ค(อิน) สักครั้งในชีวิต กับ 6 เมืองสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ บิ๊ก คาเมร่า เคยพาเหล่าโฟโต้ลีสต้าไปสัมผัสมาแล้วในกิจกรรม “บิ๊ก คาเมร่า บิ๊ก โบนัส” ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เพื่อแชร์ให้เหล่าช่างภาพนักเดินทางเกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ กับทริปที่แสนพิเศษ


จอร์จ-ธาดา วารีช เล่าว่า “ประเทศออสเตรีย ถือเป็นเช็คลิสต์อันดับต้นๆ ที่ต้องไป เพราะฟังแค่ชื่อก็รับรู้ได้ถึงความสดชื่นของธรรมชาติบวกกับความงดงามของสถาปัตยกรรมโบราณและศิลปะเก่าแก่ ที่มีให้นักท่องเที่ยวและเหล่าช่างภาพได้ชื่นชมพร้อมเก็บภาพกันเพียบ อย่างเมือง “อินส์บรุค” (Innsbruck) เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีความงดงามมากเพราะตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำอินน์ กลางหุบเขาของเทือกเขาแอลป์ มีทั้งความงดงามจากธรรมชาติและสถาปัตยกรรมโบราณ อย่าง “โกลเด้น รูฟ” (Golden Roof) ที่ก่อสร้างขึ้นในช่วงเปลี่ยนเข้าสู่ศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นการเป็นเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสครั้งที่ 2 ของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 มีการใช้กระเบื้องทองแดงปิดทองจำนวน 2,657 แผ่น ในการมุงหลังคากว้าง 16 เมตร จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอินส์บรุค ที่นักท่องเที่ยวต้องพากันไปถ่ายภาพ แต่ถ้าจะถ่ายภาพโกลเด้น รูฟ ให้ดูสวย ขอแนะนำให้หามุมสูง เพราะจะทำให้เก็บภาพได้ทั้งตัวอาหารที่มีหลังคาสีทองเป็นจุดเด่น และมีเทือกเขาเป็นฉากหลัง






เมืองต่อมา คือ ซาลซ์บูร์ก (Salzburg) เป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 4 ของประเทศออสเตรีย ที่สำคัญ คือ เป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก จุดเด่นของเมืองนี้นอกจากเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดัง The Sound of Music แล้ว ยังมีสถาปัตยกรรมบาโรกที่เหมาะแก่การเดินเล่นเพื่อเสพความงดงาม และถ่ายภาพแบบชิลๆ  ส่วนอีกมุมหนึ่งที่ช่างภาพไม่ควรพลาด คือ วิวที่มีฉากหลังเป็นเมืองเก่าของซาลซ์บูร์ก เพียงเดินออกจากตัวเมืองข้ามสะพานแม่น้ำซาลซัค แล้วมองย้อนกลับไปที่ตัวเมืองก็จะได้เห็นวิวเมืองเก่าที่ตัวตึกยังคงสีสันของความงามในยุคอดีต และพลาดไม่ได้กับเมืองยอดฮิต อย่าง ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt)  เมืองชนบทของออสเตรีย ที่มีอากาศแสนบริสุทธิ์ เหมาะอย่างยิ่งที่จะเดินทางมาพักผ่อนและชมทัศนียภาพที่ถูกโอบล้อมไปด้วยทะเลสาบฮัลล์สตัทท์และเทือกเขาสูงตระหง่าน ซึ่งเสน่ห์ของเมืองนี้คือสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ทุกฤดู และจะได้ภาพถ่ายความงดงามที่แตกต่างกันออกไป


มาต่อกันที่เมือง วานาก้า (Wanaka) ประเทศนิวซีแลนด์ จัดว่าเป็นอีกเมืองที่ควรค่าแก่การมาสัมผัสสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะเป็นเสมือนศูนย์รวมความงดงามทางธรรมชาติ อย่างเช่น ทะเลสาบวานาก้า (Lake Wanaka) เป็นทะเลสาบที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาขนาดใหญ่ เป็นที่อยู่ของพืชและสัตว์นานาพันธุ์ ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสงบและสบายตา สามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายภาพ เพราะไม่ว่าจะสาดชัตเตอร์ไปที่มุมไหนก็ได้ภาพสวยไม่ซ้ำกัน ส่วนใครที่ชอบสถานที่แปลกๆ ที่เมืองวานาก้า ก็มีให้มาถ่ายรูปเล่น อย่าง พัซซ์ลิง เวิลด์ (Puzzling World) ดินแดนแห่งความพิศวง เกิดจากไอเดียสุดเท่ของ “สจวร์ต แลนด์โบโร” กับการออกแบบประติมากรรมให้มีรูปทรงและสีสันแปลกจนกลายเป็นจุดถ่ายภาพที่เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวนิยมและกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศนิวซีแลนด์



        

ประเทศฝรั่งเศส จัดเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง เพราะเป็นแหล่งรวมความศิวิไลซ์และศิลปะอันงดงาม อย่างเช่น เมืองหลวง “มหานครปารีส”  ศูนย์กลางแฟชั่นของโลก ที่มีแลนด์มาร์คอันยิ่งใหญ่เมื่อใครไปถึงก็ต้องขอแชะภาพคู่ อย่าง “หอไอเฟล” (Tour Eiffel) ซึ่งอีกมุมที่อยากแนะนำกับการถ่ายภาพหอไอเฟลให้ออกมาไม่ซ้ำใคร คือ เดินข้ามฟากมาริมฝั่งแม่น้ำแซนและรอให้พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า จะได้ภาพหอไอเฟลยามค่ำคืนที่ฉาบไปด้วยแสงไฟสีเหลืองอร่าม หรือจะเลือกเดินมาที่ลานด้านหน้าปราสาท Palais de Chaillot ก็จะได้มุมใหม่อันทรงพลัง จากนั้นแวะมาเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ต่อที่ “มงมาร์ต” (Montmartre) ย่านศิลปะเก่าแก่ที่เป็นแหล่งรวมตัวกันของศิลปินมาตั้งแต่สมัยอดีตจนกระทั่งปัจจุบัน และเดินขึ้นเนินเขามาเก็บภาพวิวเมืองปารีสให้เต็มอิ่มกับสองตา


ใครที่หลงใหลสีฟ้าของน้ำทะเลต้องเดินทางมาที่ตอนใต้ของประเทศอิตาลี เพื่อมาพบกับเมือง “ซอร์เรนโต้” (Sorrento) ซึ่งจัดว่าเป็นเมืองพักตากอากาศริมทะเลทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีชายฝั่งที่สวยงามที่สุดอีกเมืองหนึ่งของยุโรป อย่าง “อะมัลฟี่ โคสต์” (Amalfi  Coast) จนมีผู้กล่าวไว้ว่า ‘See Amalfi Coast And Die ได้มาชายหาดอะมัลฟี่ถึงตายก็ไม่เสียดาย’ เพราะตลอดเส้นทางของชายฝั่งจะได้สัมผัสกับความงดงามของภูเขาไฟ     วิซูเวียสสีเขียวออกน้ำตาลเป็นฉากหลังตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รวมถึง “เกาะคาปรี” (Capri) เกาะที่ได้รับการขนานนามให้เป็นวิมานริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 


ใครที่อยากลองไปหามุมถ่ายรูปสวยๆ ที่เมืองนี้ สามารถมาร่วมสนุกกับกิจกรรม "บิ๊ก คาเมร่า บิ๊ก โบนัส 2018” (BIG CAMERA BIG BONUS 2018) เพื่อลุ้นเป็นหนึ่งในผู้โชคดี ร่วมทริปท่องเที่ยวสุดโรแมนติก ณ อะมัลฟี่ โคสต์ ประเทศอิตาลี 8 วัน 5 คืน  จำนวน 20 รางวัล โดยมี จอร์จ-ธาดา วารีช ร่วมเดินทางพร้อมถ่ายทอดเทคนิคการถ่ายภาพ Fashion Photo Workshop แบบเอ็กซ์คลูซีฟ และได้นักแสดงชื่อดัง แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ ร่วมเป็นนางแบบให้ได้สัมผัสบรรยากาศประสบการณ์แบบ Luxury ตลอดทริป เพียงซื้อสินค้าภายในร้าน บิ๊ก คาเมร่า และ บิ๊ก คาเมร่า แกลเลอเรีย กว่า 230 สาขาทั่วประเทศ ครบทุก 3,000 บาท รับคูปอง บิ๊ก โบนัส 1 ใบ เพื่อร่วมลุ้นเป็นหนึ่งในผู้โชคดี และรับสิทธิ์โปรโมชั่นสุดพิเศษ 9 ต่อ เครดิตเงินคืนสูงสุด 24,000 บาท ผ่อน 0% นานสูงสุด 36 เดือน  กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ และของแถมอีกมากมาย นอกจากนี้รับสิทธิ์อบรมการถ่ายภาพสุดพรีเมี่ยมฟรี มูลค่ากว่า 20,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 มกราคม 2562 จับรางวัลผู้โชคดี วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bigcamera.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น