เที่ยวทั่วไทย อร่อยทั่วโลก อัพเดทข่าวรายวัน Lifestyle บันเทิง ทันทุกกระแสข่าว!

25 เมษายน 2562

สรุปบทสัมภาษณ์ของ ทวีศักดิ์ ประธานบริหาร ทีเค



วันนี้หากใครก้าวเข้าไปยังโรงแรม ทีเค พาเลซ จะสัมผัสได้ถึงโฉมใหม่ของสถานที่แห่งนี้ ...แต่รู้ไหม
ว่าเรื่องราวของผู้ชายชื่อทวีศักดิ์ พันธุ์เสงี่ยม ประธานบริหาร โรงแรม ทีเค พาเลซ  ด้วยความตั้งใจ
เริ่มต้นจากที่จะทำให้ โรงแรม ที.เค ใหญ่ขึ้นเป็นหนึ่งในกิจการโรงแรมที่ใหญ่และดีที่สุดในย่านแจ้งวัฒนะ



คุณทวีศักดิ์ หรือพี่อูฐ เริ่มเล่าให้ฟังว่า “... ย้อนหลังไป สามปีที่แล้วจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของ พีเค  เราใสมองในเรื่องของวิสัยทัศน์ก่อนว่า วันนี้ธุรกิจอะไรก็ตามต้องไม่มีอะไรเหมือนกัน ต้องสร้างความแตกต่างเพื่อสร้างจุดขาย





ผู้ชายคนนี้มีเบื้องหลังแนวคิดการทำธุรกิจอย่างไร?
พี่อูฐ ..เริ่มต้นในธุรกิจนี้ วิสัยทัศน์ของผมมีเพียงแค่การอยู่รอด และช่วงสามปีต่อจากนี้ไป  เราคิดกันว่า น่าจะมีโรงแรมที่ไม่เหมือนคนอื่น  เรื่องของ green hotel เราลงทุน กับการปลูกต้นไม้ทั้งหมด 10 กว่าล้านบาท และนำสถาปนิคเข้ามาดีไซน์ทุกส่วนของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็น ล็อบบี้  ห้องพัก ห้องประชุมสัมมนา ต้น
ไม้ พรม มีดีไซเนอร์ออกแบบทั้งหมด และผมคาดหวังว่าเราจะกลายเป็นหนึ่งในกิจการโรงแรมที่ดีที่สุด

ขณะเดียวกัน ก็มีเพื่อนที่พร้อมจะลงทุนไปกับเรา โดยให้มา 1,500 ล้านบาท เพื่อนที่พูดคือ นิ่มซี่เส็ง 
ซึ่งประกอบธุรกิจมาสามสิบกว่าปีแล้ว ผมโชคดีที่มีนายทุนเป็นเพื่อนสนิทกัน เป็นผู้ให้แบบไม่มีข้อแม้ เป็นทั้งเพื่อนรักและเป็นผู้มีพระคุณกับเรามาโดยตลอด”




การทำธุรกิจในวันนี้ต้องมีวิสัยทัศน์ มองหลายมิติ โรงแรมส่วนมากคนมีสตางค์เป็นเจ้าของ และจ้าง GM เข้ามาบริหาร เขาก็จะบอกกับ GM ว่า จะต้องทำยอดให้ได้สมมติเดือนละ 30 ล้าน ทีนี้ GM กับลูกน้อง Relation ไม่ค่อยมี GM ก็ต้องปั้นเงินให้ได้เพื่อเอาตัวเองให้รอด ก็ไปกดดันกับลูกน้อง ลูกน้องก็อยู่ยาก ลูกน้องก็ออก อยู่ไม่ได้สำหรับที่นี่ เจ้าของยืนอยู่คู่กับลูกน้องเสมอ เพราะผมเชื่อว่าเราจะใหญ่ขึ้นโตกว่า
นี้ไปด้วยกัน

แนวคิดการบริหารโรงแรมหลังผุดอาคารหรู 
คุณทวีศักดิ์ เล่าว่า “...เราสร้างอาคารใหม่โดยกลุ่มเป้าหมาย ผมมองว่าถนนแจ้งวัฒนะเป็นย่านคนรวย  แต่จะพบว่ามรที่ถนนแห่งนี้ ไม่มีโรงแรมระดับที่ว่าเข้ามาแล้วประทับใจ สำหรับเรา ผลตอบรับคือลูกค้าค่อนข้างพอใจพร้อมสัมผัสลุคใหม่กับทีเค บนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้พักผ่อนควบคู่ไปกับการทำงาน ในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็น การประชุมหรือสัมมนา สามารถดำเนินธุรกิจจนประสบความสำเร็จภายใต้สภาพแวดล้อมของสังคมไทย





ในอนาคต...จะใช้นโยบายการสร้างความแตกต่างเรื่อยๆ ...คัดเกรดลูกค้าและสร้างแรงจูงใจ รวมถึงงานดีไซน์ที่ถูกออกแบบตกแต่งมาอย่างดี ด้านการลงทุน อย่างล็อบบี้ถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งของเราด้วย ถามว่าเหนื่อยมั๊ยกับการลงทุน ยอมรับว่าเหนื่อย แต่ทุกวันนี้พอใจกับกระแสตอบรับของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะเลือกได้ว่า...จะรับลูกค้ากลุ่มไหน

ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทย 60% ที่เหลือคือต่างชาติและแขกที่เป็นเอเย่นต์ คอร์เปอร์เรท  
ณ วันนี้ ธุรกิจโรงแรม สร้างรายได้ไม่ cover เงินกู้ แต่เพราะมองแบบนักเศรษฐศาสตร์ที่มองสองทาง 
ทั้ง direct และ indirect ไดเรคคือ ทางตรง และอินไดเรค ที่จะมาจากรถไฟฟ้า ซึ่งจะเปิดทางให้ลูกค้า
เข้ามา ....นี่คือเป้าหมาย”

สามปีโรงแรมต้องขายตัวเอง 50% ขึ้นไป รายได้เดือนหนึ่งสุมมติ 30 ล้าน โรงแรมต้องขายตัวเองได้ 
20 ล้าน นอกนั้นเซลล์ขาย ถ้าทำได้จะสบายในระยะยาว การที่เราจะบริหารจัดการไปได้ ต้องอยู่ที่สินค้าอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อลูกค้าเข้ามาแล้วบอกต่อ วันนี้มีการพัฒนาเรื่องของอาหาร มี F&B ช่วย จะบริการเพียงห้องพักอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีประชุมสัมมนา จึงจะถึงเป้า 30 ล้านใน 3 ปีข้างหน้า





ด้วยพื้นที่ใช้สอย ตระหง่านบนพื้นที่ 30ไร่  ริมถนนแจ้งวัฒนะ โรงแรมใช้พื้นที่เต็มจำนวนทั้งหมด  โดย
ในปัจจุบัน ราคาซื้อขายกัน 500,000 บาท 10 ไร่ ก็ 2,000 ล้าน เลยหนี้แล้ว  ในแต่ละวันแอคทีฟเก็บเงิน
ได้ทุกวัน ถือเป็นทรัพย์แอคทีฟ ทำให้มีมูลค่าทางธุรกิจและทรัพย์สิน ซึ่งผมเป็นหนี้ 1,500 ล้านบาท จะผ่อนไป 3-40 ปีมั๊ย?  สมกับความตั้งใจและโดยฝีมือของสถาปนิก ภายใต้แนวคิดที่ผสมผสานธรรมชาติ มนุษย์ ด้วยเหตุผลโรงแรมของเรามีพื้นที่จำนวนมาก ทำให้เรามีจุดแข็งที่จะแข่งขันกับโรงแรมในเมือง
ที่มีพื้นที่น้อย 

ดังนั้น ในยุคนี้ งานบริการ มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก ผมจะเน้นเรื่องเพื้นที่สีเขียว สวนสวย เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้จะเห็นภาพลักษณ์ใหม่ ตั้งแต่บริเวณทางเข้าด้านหน้าโรงแรม สีเขียวโดดเด่นอย่างแน่นอน เรื่อยมาถึงด้านใน โดยเฉพาะตรงส่วนของคอฟฟี่ช็อปในปัจจุบัน  จะถูกปรับให้เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม ที่เน้นเป็นพิเศษ ตกแต่งสไตล์รีสอร์ท พร้อมประดับตกแต่งสวนสวย มีระเบียงไม้สุดชิค และที่สำคัญ มีการผสมผสานกันระหว่างอาคารสมัยใหม่อย่างลงตัว 

ในอนาคตข้างหน้า เมื่อถึงเวลา เมื่อราคาไปตามที่ต้องการ จะตัด 30 % ขายให้กับผู้ที่ต้องการลงทุน
และผมจะถือหุ้น 70 % เพียงแต่ตอนนี้ผมถือเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว” อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญของธุรกิจโรงแรม ส่วนสำคัญยิ่งคืองานบริการ ซึ่งนั่นหมายถึง มาจากบุคลากรของโรงแรม ซึ่งผู้บริหารโรงแรมทีเคฯ กล่าวถึงปัญหาและแนวทางการบริหารทรัพยากรบุคคลเช่นกัน คุณทวีศักดิ์ กล่าวว่า  “วันนี้เหมือนกับการก้าวกระโดด โรงแรมเราไปถึง 5 ดาว แต่บุคลากรยังตามไม่ทัน แม้กระทั่งเจ้าของยังตามไม่ทัน บางครั้งนอนตื่นมายังคิดว่าฝันไปรึเปล่า!




สิ่งที่ดีที่สุดคือเราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลาการ  ทุกอย่างโตไปถึงจุดหนึ่ง แต่บุคลากรเราไล่อยู่ แต่มีการปรับตัว เพราะวัฒนธรรมของเราคือต้องการให้พนักงาน win win กับเราด้วย ทุกคนไม่ได้ทำงานเพราะเงินเดือน เขาทำด้วยสปิริต โดยบริษัทดูแลด้านสวัสดิการอย่างเต็มที่ มีงบห้าล้านเป็นสวัสดิการของพนักงาน อีกทั้งเงินเดือนจะปรับกันตลอด เจ้าของไม่ได้หวังวันนี้ เจ้าของหวังอีกสามปี เพราะการไม่ได้หวัง พนักงานก็เลยช่วยเต็มร้อย ปัจจุบันจะมีไลน์กลุ่มกับลูกน้องทั้งหมด และก็จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง อบรมพนักงานเพิ่มเติมในเรื่องการบริการ ที่สำคัญที่สุดคือ ผมได้ประสบการณ์มากมายจากงานตรงนี้ทั้งการที่ได้ร่วมงานกับคนที่หลากหลาย ได้ศึกษาคนและอารมณ์ของคน รวมทั้งฝึกคนหรือพนักงานบริการให้มีความอดทน รักในงานบริการ ยิ้มให้กันมีส่วนในการช่วยเหลือสังคมให้น่าอยู่ในอีกมุมมองหนึ่ง


ด้านการตลาด 
ผู้บริหาร ทีเค พาเลซ กล่าวถึงแนวนโยบายด้านการตลาดว่า แนวทางการทำตลาดในลักษณะของไลฟ์สไตล์ที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง  การใช้ช่องทางการขายผ่านออนไลน์ ที่ผ่านมา ในเดือนมีนาคม 
เป็นช่วงที่พีคที่สุดถึง1,200 ห้อง/ไนท์  ซึ่งมาจากการปรับเรื่องข้อมูลออนไลน์และช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ที่ 1,500 รูมไนท์ ข้อดีของการขายออนไลน์คือขายห้องอย่างเดียวไม่ต้องกังวลถึงเรื่อง เบรกฟาสต์

โรงแรมก่อตั้งมา 25 ปี ผมทำงานตั้งแต่ปี 2 สมัยเรียน ม.เกษตร จนเรียนจบเศรษฐศาสตร์ และจบ MBA ม.เกษตร เช่นกัน ทำให้วัคซีนค่อนข้างแข็งแรง เจอปัญหาพร้อมที่รับมือ ช่วงแรกโรงแรมมาใหม่ๆ  สมัย
ก่อน เพื่อนๆ ที่อยู่ย่านบางเขนบอกว่า ใครจะมานอน ไกลมาก เมื่อก่อนเป็น ถนนลาดยาง แต่จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ถนนแจ้งวัฒนะกลายเป็นไข่แดง บนเนื้อที่ 10 ไร่ สมัยก่อนขายวาละ 3-50,000 บาท ตอนนี้วาละ 500,000 บาทแล้วครับ  

การทำงานทุกอย่างหากเราทำด้วยใจก็จะทำให้การทำงานนั้นมีประสิทธิ์ภาพสูงสุด โดยเฉพาะงานด้านบริการจะต้องคำนึงถึงการเอาใจเขามาใส่ใจเรา  เราจะต้องบริการลูกค้าอย่างที่เราคาดหวังว่าเราจะได้รับการบริการเช่นเดียวกัน....ทำธุรกิจอะไรก็ตามต้องต่อยอดไปได้หรือไม่  อยู่ที่การคิด การใช้สมอง และอย่าคิดระยะสั้น ต้องมองระยะยาวไม่ใช่การขายไปวันๆ ธุรกิจโรงแรมต้องเข้ามาคลุกคลีจึงจะเห็นปัญหา แต่เรากลับสนุกกับปัญหาได้อยู่กับลูกค้า ชินกันคุ้นเคยกันไปหมด อยู่กันแบบสบายๆ แต่ละเดือนวันนี้ลูกค้าอยู่ที่ 80 % ถือว่าถึงจุดที่โอเคแล้ว



“อยากบอกว่า ทั้งหมดนี้คือการเปลี่ยนแปลงที่ธุรกิจโรงแรมต้องปรับตัวอย่างมหาศาล เพื่อรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป  ทุกวันนี้ เงินหายากไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน พฤติกรรมต้องเปลี่ยนให้ทัน ต้องคิดว่าเทคโนโลยีเข้ามาแล้วจะแก้กับมันอย่างไร ไม่ใช่พอเทคโนโลยีเข้ามาแล้ว
บอกว่าตัวเองไม่เอาแล้วไม่ได้” คุณทวีศักดิ์ กล่าวท้ายสุด



สถานที่ : โรงแรม TK.Palace Hotel & Convention ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น