นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยภายในงาน “ลงเรือลำเดียวกัน ครบ 1 ทศวรรษการให้บริการ” ของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ว่า ในปี 2564 ที่จะมาถึง บริษัทจะครบรอบ 10 ปี หรือ 1 ทศวรรษในการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ซึ่งตลอดระยะเวลา 10 ปี บริษัทได้ดำเนินงานยกระดับการให้บริการแก่ผู้โดยสาร เพื่อที่จะก้าวเป็นผู้นำในการให้บริการตามมาตรฐานสากล สอดคล้องตามวิสัยทัศน์ขององค์กร
โดยบริษัทได้นำระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 มาใช้ในการดำเนินงานทั้งการซ่อมบำรุง และการปฏิบัติการเดินรถ และให้บริการอย่างต่อเนื่อง จนผ่านการรับรอง ISO 9001 : 2015 ขอบเขต : วิศวกรรมและซ่อมบำรุง และขอบเขต : งานปฏิบัติการเดินรถไฟฟ้า จาก BV ( Bureau Veritas ) ด้วยระบบบริหารคุณภาพรับรอง ISO 9001 : 2015 ทำให้การดำเนินงานของบริษัทมีมาตรฐาน และประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทั้งในงานซ่อมบำรุง และการให้บริการ โดยงานวิศวกรรมซ่อมบำรุงสามารถซ่อมบำรุงใหญ่ขบวนรถไฟฟ้า ( Overhaul ) และซ่อมบำรุงทั่วไป จนสามารถกลับมาให้บริการรถไฟฟ้าได้เต็มจำนวน 9 ขบวน
รวมถึงปรับเปลี่ยนภายในขบวนรถไฟฟ้าด่วน ( Express ) ทำให้สามารถอำนวยความสะดวก และรองรับจำนวนผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้นส่วนในด้านงานบริการ และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร บริษัทได้ดำเนินการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยภายในสถานีตามหลักการ Universal Design หรือการออกแบบเพื่อการใช้งานของคนทุกกลุ่มในสังคม มีการสร้างลิฟต์ บันไดเลื่อน เพิ่มเติมจากตอนเริ่มโครงการ รวมทั้งหมด 140 ตัว ในปัจจุบัน
นอกจากนั้นยังได้มีสร้างราวกั้นชั้นชานชาลา และยางปิดช่องว่างระหว่างขอบชานชาลา และประตูรถไฟฟ้า ( Platform Gap Filler ) เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการของผู้โดยสาร รวมถึงจัดหาอุปกรณ์ทางพาดพับได้สำหรับรถเข็นวีลแชร์ ( Portable wheelchair ramp ) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ทุพพลภาพ และคนพิการให้สามารถเข้าสู่ขบวนรถไฟฟ้าได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
นอกจากนี้บริษัทยังมอบสิทธิพิเศษ ให้แก่ผู้โดยสารมากมาย ทั้งการให้สิทธ์เดินทางฟรี และจัดแคมเปญพิเศษในวันสำคัญต่างๆ เช่น วันเด็ก , วันสงกรานต์ (ผู้สูงอายุ) , วันแม่ , วันพ่อ และวันปีใหม่ รวมถึงจัดกิจกรรมการตลาดเอาใจผู้โดยสารมากมาย อาทิเช่น “Early Bird #ตื่นเถิดคนกรุง” เพื่อส่งเสริมให้ผู้โดยสารใช้บริการในช่วงเช้า ด้วยการมอบส่วนลดในการเดินทาง , บัตรชมภาพยนตร์ และเสิร์ฟอาหารเช้าให้แก่ผู้โดยสาร หรือออกมาตรการลดค่าโดยสารนอกช่วงเวลาเร่งด่วน (Off Peak Hour) วันจันทร์-วันศุกร์ ใน 3 ช่วงเวลา ได้แก่ 05.30 – 07.00 น., 10.00 – 17.00 น. และ 20.00 – 24.00 น. ให้แก่ผู้โดยสารที่ถือบัตรสมาร์ทพาสประเภทบุคคลทั่วไป (Adult Card) จากอัตราค่าโดยสารปกติ 15-45 บาท เหลือ 15-25 บาทเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้โดยสาร ลดภาระค่าครองชีพที่ใช้จ่ายประจำวัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตามไม่เพียงแค่การดำเนินธุรกิจเท่านั้นที่บริษัทให้ความสำคัญ ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมก็ถือเป็นนโยบายที่บริษัท ให้ความสำคัญเช่นกัน โดยได้จัดกิจกรรม CSR กับชุมชน และโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ หลายต่อหลายโครงการ อาทิเช่น โครงการส่งต่อความรู้สู่มือน้อง โครงการประกวดวาดภาพระบายสีนักเรียนชั้นประถม และมัธยมศึกษาตอนต้น หรือโครงการตรวจสุขภาพ เป็นต้น
ด้วยการดำเนินงานที่มีมาตรฐาน และประสิทธิภาพ ทำให้ผู้โดยสารมีความพึงพอใจในการใช้บริการ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สังเกตได้จากผลสำรวจความพึงพอใจประจำปีที่มีแนวโน้มดีขึ้นมาโดยตลอด ล่าสุดผลสำรวจความพึงพอใจผู้โดยสารประจำปี 2563 ซึ่งมีการเก็บรวบรวมถึง 2 ครั้ง ปรากฏว่าผู้โดยสารมีความพึงพอใจในการให้บริการของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ อยู่ในระดับที่ดีมาก โดยคะแนนเต็ม 5 ในด้านความปลอดภัยเฉลี่ยอยู่ที่ 4.36 , ด้านความน่าเชื่อถือของการเดินรถเฉลี่ยอยู่ที่ 4.23 , ด้านการให้บริการเฉลี่ยอยู่ที่ 4.33 , ด้านคุณภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกบนสถานี และในขบวนรถเฉลี่ยอยู่ที่ 4.23 , ด้านบัตรโดยสาร และการตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 4.19 และด้านการประชาสัมพันธ์ และการให้ข้อมูลเฉลี่ยอยู่ที่ 4.17
ในการก้าวสู่ปีที่ 10 บริษัทยังคงเดินหน้าสานต่อการดำเนินงานต่างๆที่ผ่านมา เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในการให้บริการตามมาตรฐานสากล ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ขององค์กรต่อไป โดยคาดว่าจำนวนผู้โดยสารรวมนับตั้งแต่เปิดให้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 185 ล้านคน จะทะลุเกิน 200 ล้านคนอย่างแน่นอน เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารเริ่มกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง หลังรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 มากขึ้น ซึ่งแม้จะมีผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับมาตรการ ป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 เช่นเดิม โดยมีการติดตั้งจุดคัดกรองอุณหภูมิ ที่บริษัทได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย หรือ เทอร์โมสแกน ซึ่งเป็นกล้องสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแบบไม่สัมผัส และตรวจตราการสวมหน้ากากอนามัยของผู้โดยสารก่อนเข้าใช้บริการอย่างเข้มงวด รวมถึงยังคง
มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ( Social Distancing ) ที่ขอความร่วมมือผู้โดยสารเว้นระยะห่าง 2 เมตรขณะรอซื้อตั๋วโดยสาร และตรวจวัดอุณหภูมิ หรือยืนในระยะห่างที่เหมาะสมขณะใช้ลิฟต์ และบันไดเลื่อน รวมทั้งมีการจัดระเบียบผู้โดยสารในชั้นชานชาลาให้มีระยะห่างระหว่างกันอย่างเหมาะสม ซึ่งหากในกรณีมีผู้โดยสารหนาแน่น จะดำเนินการจำกัดปริมาณผู้โดยสารที่จะขึ้นสู่ชั้นชานชาลา และภายในขบวนรถไฟฟ้า โดยกำหนดพื้นที่ในการยืนรอห่างกัน 1 เมตร งดเว้นการพูดคุยภายในตู้โดยสาร และมีการเพิ่มความถี่ในการดูแลทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคบริเวณสถานี และในขบวนรถไฟฟ้า
ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าการสานต่อวิสัยทัศน์ในความเป็นผู้นำในการให้บริการตามมาตรฐานสากล และความเข้มงวดในมาตรการจะช่วยอำนวยความสะดวก และรักษาความปอลดภัยให้แก่ผู้โดยสาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น