แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ lifestyle แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ lifestyle แสดงบทความทั้งหมด

14 กันยายน 2568

จุดชมวิวผาย้อนตะวัน – เกษตรเชิงธรรมชาติ มวกเหล็ก สระบุรี


ทริปนี้ Toptotravel มาเที่ยวสระบุรี หาลานกางเต็นท์ใกล้กรุงเทพฯ  จุดชมวิวมุมธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร แนะนำให้แวะลานกางเต็นท์ ผาย้อนตะวัน ดินแดนแห่งหุบเขาที่ครอบคลุมพื้นที่สระบุรี เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติทำให้ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์และหลายพันธุ์ ทุกสิ่งของธรรมชาติบรรยากาศที่สดชื่น ใครที่ได้มาสัมผัสบรรยากาศของ ผาย้อนตะวัน วิวผาย้อนตะวันตรงหน้า รับรองต้องลืมความสวยนี้ไม่ลงอย่างแน่นอน พร้อมอากาศเย็นสบาย 





เมื่อไหร่ที่เราเงียบธรรมชาติจะส่งเสียงดัง ที่นี่มาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีค่ะ แต่ความสวยจะต่างกันตามฤดูกาล รับรองได้ชมวิวหลักล้านของขุนเขา ทะเลหมอก และ ทุ่งดอกไม้ แสนสวยเทียวพักผ่อน ที่ลานกางเต็นท์ไม่ว่าจะกับแก๊ง ยกครอบครัว หรือมากับคนรู้ใจ ก็ดีงามหมดเหมาะแ ก่การมาเติมพลังใจ ละทิ้งความเหนื่อยจากการทำงาน วิวสวย โรแมนติกมาก ชมแสงแรกของวันที่สาดส่องลงบนทะเลหมอก ตกเย็นชมอาทิตย์ตกดินไปพร้อมกับแสงของท้องฟ้าที่ไล่เป็นเฉดสีต่างๆ ก่อนจะชมแสงดาวนับล้านที่ส่องประกายในยามค่ำคืน ใครที่ทีโอกาสได้มากางเต็นท์นอนท่ามกลางธรรมชาติ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาค้างคืน บนนี้มีบริการบ้านพักและลานกางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยว ทีทุกคนไม่ต้องเตรียมเต็นท์ไปเอง หรือจะนำเต็นท์มาเองก็ได้ 




ลานกางเต็นท์วิวสวยริมผา จังหวัดสระบุรี จุดชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ทีผาย้อนตะวัน ลานกางเต็นท์ มวกเหล็ก จ.สระบุรี ลานสวยบรรยากาศดี ชมพระอาทิตย์ตกงามๆ จองล็อคได้ด้วย มีโซนแคมป์คาร์ บ้านพัก คาเฟ่เครื่องดื่ม มีน้องๆสัตว์ทั้งหลาย แกะ ไก่ นก กระต่ายให้ชม ห้องน้ำดีมีน้ำอุ่น กับลานครบครันสะดวกสบาย การเข้าพักต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นนะคะ

ที่ผาย้อนตะวัน มีฝูงแกะน่ารักให้เด็ก ๆ ได้เพลิดเพลินลานกางเต็นท์กว้างขวาง วิวสวยรอบทิศอากาศสดชื่น เติมพลังใจได้เต็มที่






ผาย้อนตะวัน – เกษตรเชิงธรรมชาติ
298 ตำบล หนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก สระบุรี 18180
ติดต่อกางเต็นท์ที่เพจ : ผาย้อนตะวัน
โทร. 081 295 1999 


#ผาย้อนตะวัน #ลานกางเต็นท์สระบุรี #กางเต็นท์วิวภูเขา
#ทริปครอบครัว #ทริปคู่รัก #หมอกยามเช้า #ชมพระอาทิตย์ตกดิน
#เที่ยวเชิงธรรมชาติ #พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ
#toptotravel #ชัญญ่าว่าดี  #campinglife #naturelover 


09 กันยายน 2568

DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025

DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 จัดยิ่งใหญ่ แฟนคลับดิสนีย์แห่ร่วมงาน สวรรค์ของนักสะสม แบรนด์ของเล่นระดับโลกร่วมสร้างสีสันเต็มพื้นที่

ก้าวเข้าสู่โลกของ Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars – DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 เปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมตอกย้ำความยิ่งใหญ่ในฐานะหนึ่งในงานของเล่นของสะสมธีมดิสนีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอด 4 วันเต็ม งานได้รวบรวมทัพของเล่น ของสะสม และสินค้าลิขสิทธิ์จากแบรนด์ระดับโลก ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวสุดรักของ Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars



วันเปิดงานเต็มไปด้วยแฟนดิสนีย์ นักสะสม และผู้เข้าชมทุกวัย ที่มาร่วมช้อปคอลเล็กชันใหม่ล่าสุดและสินค้าลิมิเต็ดที่ห้ามพลาด ธีมของปีนี้คือ “Discover the world of Disney” ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ โดยมีไฮไลต์คือจุดถ่ายรูปสุดน่ารัก “Stitch Preserved Flower” ขนาดสูง 1.8 เมตร และกิจกรรม Meet & Greet กับเพื่อนคนพิเศษจากเรื่อง Lilo & Stitch ตอกย้ำประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่แฟนดิสนีย์ทั่วโลกต้องมาเยือน 

งานนี้จัดโดย The Walt Disney (Thailand) Company Limited ร่วมกับ Asaki International Co., Ltd., Central Pattana Public Company Limited, Shopee (Thailand) Co., Ltd., Advanced Wireless Network Co., Ltd. และ Toytopia Co., Ltd. ซึ่งในปีนี้เป็นครั้งที่ 2 ต่อเนื่องจากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ตอกย้ำความนิยมในหมู่แฟนดิสนีย์และนักสะสม พร้อมทั้งช่วยขับเคลื่อนตลาดของสะสมและ art toy ในไทยให้คึกคักยิ่งขึ้น

Alex Baillie รองประธานและผู้จัดการทั่วไป Disney Consumer Products, South Asia Pacific กล่าวว่า  “ความนิยมในของสะสมเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ art toy ที่กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนรักและผูกพัน และเป็นสิ่งที่เชื่อมระหว่างแฟนๆกับเรื่องราวที่พวกเขาชื่นชอบ งาน Disney Toy Expo Thailand เป็นเวทีที่ยอดเยี่ยมในการแสดงให้เห็นว่า แบรนด์ต่าง ๆ ได้ตีความคาแรคเตอร์เหล่านี้ใหม่อย่างไร และทำให้สินค้าเข้าถึงทุกเจนเนอเรชันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้   

DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2025 ณ เซ็นทรัลเวิลด์ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,700 ตร.ม. บน 3 ชั้นงาน มาพร้อมของเล่น ของสะสม ฟิกเกอร์ แกดเจ็ต อุปกรณ์เสริม ของตกแต่งบ้าน เครื่องนอน ไปจนถึงการคอลแลบสินค้าลิมิเต็ดอิดิชัน โดยรวบรวมแบรนด์ลิขสิทธิ์จากผู้จัดแสดง


สินค้าร่วม 40 ร้านค้า  มากกว่า 50 บูธ และสินค้ากว่า 2,000 รายการให้มาเลือกชมและเลือกซื้อ กันในที่เดียวภายในงานจะมีสินค้าลิขสิทธิ์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ที่มาพร้อมการจัดแสดงที่น่าประทับใจจากผู้นำอุตสาหกรรมในระดับโลก

ผู้แสดงสินค้าระดับโลกที่เข้าร่วมได้แก่

อุปกรณ์มือถือ: Casebang (จีน)

ของแต่งบ้าน: SundayHome (เวียดนาม), Bestine (จีน)

ของขวัญและไลฟ์สไตล์: OH!SOME (สิงคโปร์)

การ์ดสะสม: Bushiroad (ญี่ปุ่น), Disney Lorcana Trading Card Game (สิงคโปร์)

ฟิกเกอร์สะสม: Hot Toys (ฮ่องกง), Blokees (จีน), Beast Kingdom (ไต้หวัน), Funko (สหรัฐฯ)

นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ไทยที่มาในงานนี้ด้วยเช่น

AppleSheep (แกดเจ็ตและอุปกรณ์มือถือ)

Asaki (อิเล็กทรอนิกส์)

SB Furniture (เฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้าน)

Taketoys (ตุ๊กตา Plush)                 

สินค้าเปิดตัวพิเศษ  คอลเลคชั่นใหม่    Star Wars จาก Blokees , Aliens และ Lotso จาก BBToys ,แอคเซสซอรี Toy Story จาก Casebang  และ  Mickey Mouse จาก AppleSheep      


โดยโปรโมชั่นพิเศษในงาน ส่วนลด 10%–30% โปรโมชั่น “ซื้อ 2 แถม 1”  ซื้อครบ 1,000 บาท รับบัตรกำนัลมูลค่า 100 บาท เรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่ที่จัดต่อเนื่อง และได้รับความสนใจจากแฟนคลับเข้าร่วมร่วมอย่างเนืองแน่น DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 จัดยิ่งใหญ่และจัดเต็มเพื่อแฟนคลับดิสนีย์จริงๆ

02 กันยายน 2568

“ผู้ว่าฯ พาเที่ยว เพื่อสุขภาพ“ เส้นทางอิ่มใจ : เวียงป่าเป้า-วาวี พลังจากธรรมชาติ สู่แรงบันดาลใจระดับประเทศ

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย  นางสินีนาฎ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย นายประเสิรฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมด้วยนายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ได้จัดกิจกรรม “ผู้ว่าฯ พาเที่ยว เพื่อสุขภาพ“ เส้นทางอิ่มใจ : เวียงป่าเป้า-วาวี พลังจากธรรมชาติ สู่แรงบันดาลใจระดับประเทศในอำเภอเวียงป่าเป้า และอำเภอแม่สรวย โดยมีคณะส่วนราชการและสื่อมวลชน กว่า 30 คน ร่วมสัมผัสธรรมชาติในช่วงฤดูฝน





จุดเช็คอินจุดแรก  คือศูนย์เครื่องเคลือบดินเผาเวียงกาหลง โดย คุณทัน ธิจิตตัง ที่นี่เป็นศูนย์เครื่องเคลือบดินเผาที้โด่งดังที่ยังอนุรักษ์เครื่องเคลือบดินเผาที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นไว้และถ่ายทอดผ่านงานศิลปะอย่างเครื่องเคลือบดินเผาสไตล์เวียงกาหลง ได้เพ้นท์ลายบนเครื่องเคลือบดินเผาที่ยังไม่ผ่านประบวนการเผาเพื่อนำไปเป็นของที่ระลึกที่เป็นผลงานของตัวเอง




หลังจากนั้นได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เมืองโบราณเวียงกาหลง และวัดยอดขุนพล เรียนรู้ความเป็นมาของเมืองโบราณเวียงกาหลงพร้อมชมพิพิธภัณฑ์ที่สะสมเครื่องเคลือบดินเผาพร้อมลายกระเบื้องอันเป็นเอกลักษณ์ของเวียงกาหลง ซึ่งถือเป็นงานศิลปะที่เก่าแก่ของเชียงรายที่หาดูได้ยาก






จากนั้นมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านห้วยน้ำกืน ตำบลแม่เจดีย์ อำเภอเวียงป่าเป้า หมู่บ้านเล็กๆที่รายล้อมด้วยหุบเขาและธรรมชาติ ถึงแม้ทางขึ้นไปยังบ้านห้วยน้ำกืนจะค่อนข้างสูงและไกลจากถนนใหญ่ แต่หากได้ไปสัมผัสวิถีชีวิตในชุมชนรวมถึงเดินเล่นรอบชุมชนเล็กๆ ทุกคนสามารถสัมผัสพลังงานดีๆจากธรรมชาติอย่างเปี่ยมล้น ที่นี่ถือเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีประชากรไม่มากแต่อบอุ่นด้วยน้ำใจและความใจดีของคนในหมู่บ้านที่พร้อมต้อนรับการท่องเที่ยว ถือว่าเป็นจุดหมายใหม่ของการท่องเที่ยวที่รายล้อมด้วยธรรมชาติและหุบเขาเช่นเดียวกับหมู่บ้านเลาลี ดอยวาวี อำเภอแม่สรวย สถานที่ที่ผลิตบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนอย่าง คุณคมสันต์ แซ่ลี เจ้าของ Flash Express ที่ทาง Netflix นำเรื่องราวของคุณคมสันต์ไปทำซีรีส์ชื่อดังอย่าง สงครามส่งด่วน Mad Unicorn และบ้านเลาลีก็ยังเป็นแหล่งผลิตคนแห่งแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคน เรียกได้ว่าบ้านเลาลีเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีการเรียนรู้ภาษาจีนและมีสถาปัตยกรรมที่มีความผสมผสานระหว่างจีนและไทยอยู่เต็มหมู่บ้าน ถือเป็นหมู่บ้านที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีชีวิตและเสาะหาแรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดี






สำหรับใครที่ชอบท่องเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติ สัมผัสวิถีชีวิต เส้นทางนี้น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

#ผู้ว่าเชียงรายพาเที่ยวเพื่อสุขภาพ
#Chiangraiwellnesscity
#สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย

01 กันยายน 2568

Full Circle Biotechnology เผยวิสัยทัศน์ธุรกิจอาหารสัตว์ยั่งยืน

หนึ่งเดียวจากไทยเข้ารอบ 18 Finalist “2025 THRIVE Global Impact Challenge”

กรุงเทพฯ, 30 สิงหาคม 2568 — บริษัท ฟูลเซอร์เคิล ไบโอเทคโนโลยี จำกัด (Full Circle Biotechnology) จัดงานเสวนาและเวิร์คชอปแก่สื่อมวลชนและกลุ่มนักลงทุนเพื่อประกาศความสำเร็จในฐานะบริษัทสัญชาติไทยหนึ่งเดียวที่เข้ารอบสุดท้าย 1 ใน 18 บริษัทจากทั่วโลกในโครงการ “2025 THRIVE Global Impact Challenge ในสาขาเทคโนโลยีทางด้านอาหาร (Food Technology) ในปีนี้ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์โปรตีนทดแทนจากหนอนแมลงวันลาย ที่เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จัดขึ้น ณ ชิมเดย์ คาเฟ่ จังหวัดนครปฐมโดยมี คุณ ฟิลิกซ์  คอลลินส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัทฯ ให้เกียรติกล่าวต้อนรับสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติ พร้อมนำเสนอข้อมูลธุรกิจในภาพรวม ตลอดจนการสัมภาษณ์เกษตรกรผู้ใช้ผลิตภัณฑ์จริงเพื่อสะท้อนประโยชน์และผลลัพธ์จากการใช้อาหารสัตว์ของบริษัท

คุณฟิลิกซ์  คอลลินส์ กล่าวว่า “บริษัท ฟูลเซอร์เคิล ไบโอเทคโนโลยี จำกัด ก่อตั้งขึ้นด้วยความเชื่อมั่นว่าการพัฒนาอาหารสัตว์ควรเดินควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม เราภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนจากประเทศไทยเพียงหนึ่งเดียวในเวทีโลกครั้งนี้ และจะมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือกที่ยั่งยืน เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารและช่วยเกษตรกรให้มีรายได้ที่มั่นคงขึ้น”

ในปีนี้บริษัทมีแผนสร้างโรงงานแห่งใหม่ในประเทศไทย ซึ่งจะสามารถผลิตอาหารสัตว์จากโปรตีนคาร์บอนต่ำ มากถึง 7,000 ตันต่อปี เพื่อนำไปผลิตอาหารทะเลที่ยั่งยืนมากกว่า 13 ล้านมื้อต่อปี ซึ่งมากกว่าสองเท่าของยอดขาย Beyond Meat ในร้านอาหารสหรัฐฯ ด้วยการผสานนวัตกรรม วิสัยทัศน์ และความรับผิดชอบต่อสังคม จะช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุน ย่นระยะเวลาเพาะเลี้ยง และผลิตอาหารที่ดีต่อผู้บริโภคและดีต่อโลกในเวลาเดียวกัน บริษัทเชื่อมั่นว่าจะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ไทยสู่ความยั่งยืนในระดับโลก”

“โปรตีนของฟูลเซอร์เคิลสามารถเป็น คาร์บอนเนกาทีฟถึง 42% (ตามผลการศึกษาภายในปี 2023) และสามารถทดแทนปลาป่นได้สูงสุด 75% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในตลาดเชิงพาณิชย์ ภายใน 12 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้สร้างผลงานดังนี้: ผลิตอาหารสัตว์ยั่งยืนและวัตถุดิบอาหารสัตว์ 280 ตัน, อาหารทะเลยั่งยืนที่ผลิตจากเกษตรกรพันธมิตร 200 ตัน เทียบเท่าอาหารยั่งยืนที่ส่งถึงผู้บริโภคจำนวน 500,000 มื้อ”  คุณฟิลิกซ์  กล่าวสรุป

คุณณัฐนนท์ บุญหล้า ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการบริษัท ฟูลเซอร์เคิล ไบโอเทคโนโลยี จำกัด กล่าวเสริมว่า“ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพด้านนวัตกรรมของเรา แต่ยังเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าธุรกิจไทยสามารถก้าวสู่เวทีโลกได้อย่างภาคภูมิใจ เราจะต่อยอดงานวิจัยและเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาสูตรอาหารสัตว์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพ การแข่งขัน และความยั่งยืน เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ไทย และสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน” 

นอกจากนี้ คุณธนพนธ์ ศรีภักดี จากมงคลฟาร์มปลาช่อน ม.5 เกษตรกรเลี้ยงปลาช่อนชื่อดังจากกาฬสินธุ์ ผู้ใช้อาหารสัตว์จากบริษัทฯ ยังได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ว่า “จากการใช้ผลิตภัณฑ์อาหารปลาของบริษัทฯ ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ ปลาที่อายุน้อยฟื้นตัวเร็วและเติบโตอย่างแข็งแรงเร็วกว่าปกติ อาหารมีประสิทธิภาพ อัตราการรอดชีวิตสูงขึ้นอย่างชัดเจน และเกล็ดปลามีความแข็งแรง สำหรับปลาที่โตเต็มวัย อาหารช่วยให้กล้ามเนื้อแน่น และไขมันลดลงอย่างมาก ช่วยลดต้นทุนและคุณภาพถือว่าดีเยี่ยม”



คุณธงชัยเกษตรกรปลาชะโอนชื่อดังจากภาคใต้ เสริมว่า “อาหารที่ใช้มีปริมาณโปรตีนสูง ประทับใจในประสิทธิภาพ ปลากินอาหารได้ดี อาหารมีกลิ่นหอมและส่งผลดีต่อโครงสร้างร่างกายของปลา ทำให้ปลาแข็งแรง โตเร็ว และสุขภาพดีภายในเวลาสั้น ๆ ผิวปลามีความมันวาว เนื้อแน่น และมีสีเหลืองอ่อน ปัจจุบันระยะเวลาให้อาหารก่อนการส่งขายสั้นลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบราคาและคุณภาพมีความคุ้มค่าเพราะมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมการอาหารอื่นที่เคยใช้มา”

ในด้านการเติบโตทางธุรกิจนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ฟูลเซอร์เคิล ไบโอเทคโนโลยี จำกัด บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าครอบคลุมเกษตรกรทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรระดับสากล ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการอาหารสัตว์โปรตีนทดแทนที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ตอกย้ำศักยภาพการเป็นผู้นำด้านอาหารสัตว์ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้




อาหารสัตว์โปรตีนจากหนอนแมลงวันลายของบริษัท ฟูลเซอร์เคิล ไบโอเทคโนโลยี จำกัด ทำให้สัตว์แข็งแรง โตไว ลดต้นทุนการเลี้ยง และยังช่วยตอบโจทย์ตลาดที่มองหาสินค้าเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถือว่าเป็นประโยชน์จริงทั้งต่อเกษตรกรและผู้บริโภค

หลังจากนั้นผู้ร่วมงานยังได้เข้าร่วม “กิจกรรม Aquaculture Workshop”  เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการเลี้ยงสัตว์น้ำยุคใหม่ และปิดท้ายด้วยการรับประทานอาหารค่ำร่วมกันในบรรยากาศอบอุ่น



บริษัท ฟูลเซอร์เคิล ไบโอเทคโนโลยี จำกัด มุ่งมั่นสู่ ESG อย่างเป็นรูปธรรม ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกรอบ ESG (Environment, Social, Governance) อย่างเคร่งครัด โดยผลิตอาหารสัตว์ที่ช่วยลดการใช้ปลาป่น ลดการปล่อยคาร์บอน และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าช่วยด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยด้านสังคม และดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส มีมาตรฐานสากล และตรวจสอบได้