ที่นี่สุขภาพดี ร่วมกับชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์ จัดโครงการนั่งรถ-ลงเรือ ไหว้พระและซีเอสอาร์แบ่งปันความรักในวันวาเลนไทน์ ช่วยเหลือบ้านเด็กอ่อน รังสิต/บ้านพักคนชรา ปทุมธานี พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวพื้นที่ใกล้กรุง โดยกิจกรรมจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14-15 กุมภาพันธ์ 2566
กิจกรรมในครั้งนี้ นำคณะเดินทางโดย ชฎา บูรณพิมพ์ , รุ่งนภา ปักษี ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบด้วย กิตติพัฒน์ ประพัฒน์ทอง ผอ.ททท. ภูมิภาคภาคกลาง ชาญยุทธ เศวตสุวรรณ ผอ. ททท สำนักงานกรุงเทพฯ และคณะ พร้อมแขกผู้มีเกียรติอีกหลายท่าน อาทิ เกรซลิลลี่ จิระเดชวรโชติ , ศิริวรรณ ลิมิตเลาหพันธ์ , นพวรรณ สุวรรณมีระ , เสาวลักษณ์ ศรีคิรินทร์, ดร.ภูมิศิษฐ์ มหาเวศน์ศิริ, สมพร ภู่อิสสระกุล เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี นาริฐา จ้อยเอม ประธานชมรมฯ และสมาชิกชมรมเว็บคลับ ไทยแลนด์ ร่วมงาน
ชาญยุทธ เศวตสุวรรณ ผอ. ททท สำนักงานกรุงเทพฯ กล่าวว่า พื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลอย่างจังหวัดปทุมธานี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถตอบโจทย์คนได้ทุกวัย และทุกคนในครอบครัว เนื่องจากใช้เวลาเดินทางไม่นาน และเดินทางได้ทุกวัน อีกทั้งยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาทิ แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม สามารถเดินทางไหว้พระได้ทั้งทางรถและทางเรือ มีที่พักหลากหลายระดับให้บริการ รวมทั้งร้านกาแฟและร้านอาหาร นอกจากนั้นยังมีสินค้าชุมชนให้เลือกซื้อในตลาดท้องถิ่นหรือตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ
วันแรกของการเดินทาง คณะนักท่องเที่ยวกว่า 30 คน ได้ออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ “สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิต” หรือ “บ้านเด็กอ่อนรังสิต” เพื่อทำกิจกรรมบริจาคสิ่งของ ปัจจัย และเลี้ยงขนมเด็ก ๆ จากนั้นได้เดินทางไป “บ้านพักคนชราหญิง” ถ.ติวานนท์ จ.ปทุมธานี เพื่อทำกิจกิจกรรมแบ่งปันความรักและสิ่งของต่าง ๆ ให้กับคนชราหญิง อิ่มอกอิ่มใจกันแล้วถึงเวลาที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเสริมสิริมงคล โดยได้เดินสายไหว้พระในวัดต่างๆ ในเขตจังหวัดปทุมธานี โดยมีไฮไลต์ที่น่าสนใจดังนี้
วัดเทียนถวาย
วัดเทียนถวาย ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี เดิมเรียกกันว่า “วัดเกวียนไสว” จากตำนานที่เล่าขานกันว่า ราว พ.ศ.1880 เมื่อสมัยพระเจ้าอู่ทอง ได้รับสั่งให้สร้างวัดแห่งขึ้นนี้เพื่อใช้เป็นที่พักการอพยพหนีโรคระบาด โดยเดินทางมาตั้งกองเกวียนเพื่อพักอาศัย ยามค่ำคืนมีการจุดเทียนสว่างไสว อยู่เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ชาวบ้านเลยเรียกกันว่า “วัดเกวียนไสว” จนเพี้ยนมาเป็น “เทียนถวาย” บ้างก็ว่ามาจากภาษาเขมรคำว่า “เกรียนสวาย” ซึ่งแปลว่า ป่ามะม่วง
ภายในวัดมีโบสถ์สมัยอยุธยาตอนปลาย หน้าบันตบแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น รูปนกหัสดีลิงค์สัตว์ป่าหิมพานต์และกนกเครือเถา และรูปฤาษีดัดตนสวยงาม คันทวยไม้แกะสลักลงรักปิดทองร่องกระจก ภายในประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย และพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ ด้านหน้าโบส์ประดิษฐานเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง
วัดบางกะดี
วัดบางกะดี ตั้งอยู่ใน ต.บางกะดี อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2326 โดยหลวงปู่ปิ่น เป็นผู้ดำเนินการสร้าง เดิมมีนามว่า วัดบางกะดีไทย ได้เปลี่ยนเป็น "วัดบางกะดี" โดยตัดคำว่า "ไทย" ออกไป เมื่อปี พ.ศ. 2450 วัดนี้คาดว่ามีอายุเก่าแก่พอสมควร โดยเฉพาะอุโบสถ์หลังเก่าที่รื้อแล้ว
เดิมทีวัดแห่งนี้เป็นวัดเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก แต่ด้วยความนิยมในการมาขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะ “พญาครุฑ” เพื่อขอพรโชคลาภ นอกจากนี้แล้วยังมี วิหารของหลวงปู่โต พรหมรังสี ให้เข้ามากราบไหว้สักการะขอพรได้อีก
วัดบางกุฎีทอง
วัดบางกุฎีทอง ตั้งอยู่ตรงข้ามกับนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี บ้านโคกชะพลู ต.บางกะดี อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระพรหมองค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยตั้งอยู่บนวิหารแก้วจตุมุข ขนาดกว้าง 10.2 เมตร ยาว 14.5 และสูง 16.5 เมตร ก่ออิฐถือปูนเมืองเพชรบุรี และปิดทองทำ ฝังอัญมณี แก้วนาคราช ประดับกระจกแก้วสี และเพชรชวารอฟกี้ มากกว่า 100,000 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างราวกว่า 5 ปี สร้างขึ้นโดยท่าน หลวงพ่อชำนาญ อุตตมปัญโญ (ท่านพระครูปทุมวรกิจ) เจ้าอาวาส วัดบางกุฎีทอง
วัดศาลเจ้า (เซียนแปะโรงสี)
วัดศาลเจ้า ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งของเมืองปทุม ติดแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองเชียงราก โดยประวัติของวัดนั้นยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด แต่มีเรื่องเล่าขานกันว่า วัดแห่งนี้สร้างเมื่อปลายกรุงศรีอยุธยา โดย “เจ้าน้อยมหาพรหม” บุตรเจ้าเมืองฝ่ายเหนือ ซึ่งเป็นผู้มีวิชาไสยศาสตร์แก่กล้า ภายในวัดมีปูชนียสถานที่สำคัญ อาทิ อุโบสถเจดีย์แบบรามัญ ที่หาชมได้ยาก รวมไปถึงมีพระพุทธรูปที่เจ้าน้อยมหาพรหมสร้างไว้ประดิษฐานอยู่ที่ศาลาการเปรียญ ฝั่งที่ติดกับแม่น้ำมี “ศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้า” ที่มีคนเข้ามากราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก
อีกจุดไฮไลต์ของวัดแห่งนี้ คือ การไหว้พอพรด้านการค้าขาย หรือปลดหนี้กับ “เซียนแปะโรงสี” หรือ “เซียนแปะกิมเคย” หรือ “เซียนแปะโง้วกิมโคย” เป็นชาวจีนซึ่งย้ายมาอยู่ในเมืองไทย เป็นผู้ทรงศีลที่มีจิตใจเมตตา มีความขยันขันแข็ง เริ่มจากการค้าข้าวเปลือก จนต่อมาได้ก่อตั้งโรงสีข้าว อีกทั้งท่านยังเป็นผู้มีฌาน เก่งเรื่องโหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ย และยังช่วยเหลืองานต่าง ๆ ใน วัดศาลเจ้ามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมวัดหรืองานพิธีกรรมต่าง ๆ ซึ่งเคยเกิดปาฏิหารย์หลายอย่างจนเป็นที่เคารพศรัทธา โดยเชื่อกันว่าท่านเป็นผู้มีบุญ จึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ว่ากันว่าถ้าขอพรเรื่องการงาน การเงิน และการทำธุรกิจ การค้า ก็จะเจริญรุ่งเรือง ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วยังสามารถเดินไปยังโป๊ะริมน้ำ เพื่อให้อาหารปลา ชมวิวสวย ๆ หรือจะออกมาช้อปปิ้งที่ตลาดวัดศาลเจ้า มีทั้งของกินของใช้ให้เลือกจับจ่ายมากมาย
วัดชินวราราม
ตั้งอยู่ที่ ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านทิศใต้ของตัวเมือง ตามทางไปสะพานนนทบุรี (สะพานนวลฉวี) ก่อนถึงสะพาน 1 กิโลเมตร
วัดชินวราราม เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดปทุมธานี เดิมชื่อวัดมะขามใต้ เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์หรือประมาณ พ.ศ. 2358 มีทำเลใกล้กับวัดร้างอีก 2 แห่งคือ วัดในและวัดคลองควาย ได้รับการปฏิสังขรณ์ใหม่โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒนา สมเด็จพระสังฆราชเจ้า อดีตเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามหรือในสมัยรัชกาลที่ 7 ภายในพระอุโบสถมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องทศชาติชาดกที่งดงาม
นอกจากนี้ยังมี พระพุทธชินวร (หลวงพ่อทองคำ) พระพุทธรูปสมัยสุโขทัยซึ่งอัญเชิญมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระวิหารพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์สมเด็จพระสังฆราชเจ้า พระตำหนักชินวรสิริวัฒน์ ซึ่งเป็นที่ประทับของพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ ตำหนักเจ้าแม่กวนอิมริมน้ำ ศาลาการเปรียญ หอระฆัง ศาลาท่าน้ำ และมณฑปใหม่ที่สร้างขึ้นจากโครงสร้างเดิม พร้อมรอยพระพุทธบาทจำลองให้สักการะใกล้ ๆ กับวัดชินวรารามยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารระเบียงน้ำ มุมสวยของจังหวัดปทุมธานี ที่มีอาหารอร่อย ๆ ไว้คอยบริการ ในทริปนี้คณะเดินทางได้เข้าพักที่ “ทินิดี โฮเต็ล บางกอก กอล์ฟ คลับ” จ.ปทุมธานี” โรงแรมสไตล์รีสอร์ท ตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ ในบรรยากาศที่เงียบสงบ
นอกจากนั้นยังได้เยี่ยมชม Riverdale Marina ท่าเรือระดับ A-Class แห่งแรกในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นส่วนหนึ่งของ Riverdale District เมกาโปรเจค ซึ่งเป็นแหล่งรวมไลฟสไตล์ครบวงจรของ MBK GROUP ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 1,600 ไร่ ในจังหวัดปทุมธานี เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะครบครันไปด้วยโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลาย, สนามกอล์ฟระดับสากล 2 สนาม, โรงแรม, ศูนย์สุขภาพ, คอมมูนิตี้มอลล์ และออฟฟิศ สเปซ นับเป็นช่วงเวลาแห่งความอิ่มอกอิ่มใจ อิ่มความสุขจากให้ และการแบ่งปัน พร้อมประสบการณ์ท่องเที่ยวอันเป็นสิริมงคล ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงามของจังหวัดปทุมธานี
เรื่อง... ศิริพร ค่านคร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น