เที่ยวทั่วไทย อร่อยทั่วโลก อัพเดทข่าวรายวัน Lifestyle บันเทิง ทันทุกกระแสข่าว!

23 กันยายน 2566

รฟฟท.รับรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนประเภทรัฐวิสาหกิจ ระดับ “ดี” ประจําปี 2566

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ได้รับมอบรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประเภทรัฐวิสาหกิจ ระดับ “ดี” ประจําปี 2566 จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เข้ารับมอบรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประเภทรัฐวิสาหกิจ ระดับ “ดี” ประจําปี 2566 (Human Rights Awards 2023) จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2566 โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลฯ ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร 



ทั้งนี้ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลดังกล่าว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ตอกย้ำความเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญในการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเท่าเทียมควบคู่กับการให้บริการเดินรถไฟฟ้าที่มีมาตรฐานในระดับสากล โดยยึดมั่นในการนำหลักการเคารพสิทธิมนุษยชนมากำหนดเป็นกลยุทธ์และแนวทางในการดำเนินงาน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ระยะที่ 2 ให้เป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการ เพื่อผลักดันและขับเคลื่อนให้องค์กรเติบโตและก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยการนำหลักสิทธิมนุษยชนมาประยุกต์ใช้และสร้างให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร ดูแลและพัฒนาพนักงานให้มีความตระหนักและบูรณาการประเด็นสิทธิมนุษยชนในกระบวนการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังสร้างการมีส่วนร่วมและรักษาความสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งได้แก่ ผู้โดยสาร ชุมชน คู่ค้า และกลุ่มเปราะบาง อันจะส่งผลให้สามารถเข้าถึงการให้บริการขององค์กรได้อย่างปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว ด้วยความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการสู่เป้าหมายความสำเร็จอย่างยั่งยืน 

ส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ www.srtet.co.th

และสามารถติดตามข่าวสารของบริษัทฯ ได้ทั้งช่องทาง
Facebook , Twitter , Instagram Youtube , Tiktok ในชื่อ “RED Line SRTET”


#รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง

21 กันยายน 2566

Lashes Boudoir ซาลอนขนตา ที่ได้รับความไว้วางใจจากสาวไทย

Lashes Boudoir คัดสรรผู้เชี่ยวชาญด้านขนตาและขนคิ้วโดยเฉพาะ เพื่อรังสรรค์ดวงตาและใบหน้าที่สมบูรณ์แบบให้กับสาว ๆ ทุกคน Lashes Boudoir มีอุปกรณ์และน้ำยาลิฟติ้งขนตา นำเข้าจากต่างประเทศ ปลอดภัย เหมาะกับลักษณะขนตาของแต่ละคน ด้วยเทคนิคพิเศษของทางร้าน จึงช่วยให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ ได้ผลผลลัพธ์ขนตางอนสวยในแบบที่เหมาะกับตนเอง มาพร้อมบริการที่รวดเร็วฉับไวและคุ้มค่าสุด ๆ ด้วยแพ็กเกจลิฟติ้งขนตาแบบครบสูตร โดยใช้เวลาเพียง 30 - 45 นาทีเท่านั้น 



Lashes Boudoir ด้วยคุณภาพของน้ำยาลิฟติ้งขนตา เข้ากับรูปดวงตาและลักษณะขนตาของแต่ละคน มีคุณภาพดีอยู่ได้นานหลายคนนิยมเลือกการลิฟติ้งขนตาแทน เพื่อช่วยย่นระยะเวลาในการแต่งหน้าง่ายมากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกลิฟติ้งขนตาที่ร้านไหนดี เราขอแนะนำร้าน Lashes Boudoir ตึก Interchange ชั้น G






การลิฟติ้งขนตา เป็นการยกโคนขนตาแบบกึ่งถาวรด้วยน้ำยาลิฟติ้งและแกนซิลิโคน ซึ่งจะช่วยให้ขนตางอนเด้งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยจัดระเบียบขนตาให้เรียงเส้นสวย ง่ายต่อการปัดมาสคาร่า การลิฟติ้งขนตาจึงเหมาะกับผู้ที่มีขนตายาวอยู่แล้ว และต้องการให้ขนตางอนสวยตลอดเวลาแบบไม่ต้องใช้ที่ดัดขนตาช่วยเลย นอกจากนี้ ขนตาหลังลิฟติ้งยังสามารถอยู่ได้ยาวนานหลายเดือน ทำแล้วช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการแต่งหน้าทุกเช้า

การลิฟติ้งขนตาารลิฟติ้งขนตาให้งอนเด้ง เป็นวิธีการที่ช่วยเนรมิตขนตาให้ดูเด่นชัด สวยดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และยังช่วยใสนเรื่องความสะดวกสบายในการแต่งหน้าให้กับคุณด้วย ผลลัพธ์ของขนตาและความคงทนถาวรอาจแตกต่างกัน เพราะขึ้นอยู่กับลักษณะของขนตา รวมไปถึงความใส่ใจในการดูแลรักษาของแต่ละคน นอกจากจะคำนึงถึงความสวยงามเข้มโดยธรรมชาติ   และควรเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของบุคคลิกสาวแต่ละท่านด้วยค่ะ

สำหรับคนที่มีขนตาบางหรือขนตามีเส้นสั้น Lashes Boudoir แนะนำเลือกวิธีการต่อขนตา เพราะการต่อขนตาเป็นการใช้ขนตาปลอมมาต่อกับขนตาจริง ทำให้ขนตาของคุณดูหนาและขนตาดูยาวขึ้น โดยไม่ต้องหยิบมาสคาร่ามาปัดเพิ่มเติม แต่การต่อขนตาก็มาพร้อมการดูแลรักษาที่ยากกว่าการลิฟติ้งขนตา 

Lashes Boudoir ซาลอนขนตา

บริการ: ต่อขนตา ลิฟต์ แว็กซ์

ผลิตภัณฑ์ที่มีบริการ: 

Lifting- Elleebana

Waxing- Caronlab

สถานที่: ตึก Interchange ชั้น G (แยกอโศก)

การเดินทาง:BTS ทางออก 6 หรือ MRT ทางออก 2

เวลาทำการ: 9.30-19.30น

(จันทร์-เสาร์)

Social Media:

LINE: @lashesboudoir

Call: 083-979-9228

Facebook: Lashes Boudoir


“เซ็นทรัล-ยันเรือรบฯ” จัดงานมหกรรมความงามครั้งใหญ่

“Beauty Full Fest 2023” รวมคลินิก-รพ.ศัลยกรรมชื่อดัง


กรุงเทพฯ (21 กันยายน 2566)  “เซ็นทรัลพัฒนา” จับมือ “ยันเรือรบ ออร์แกไนซ์เซอร์” เอาใจคนรักสวยรักงาม จัดงาน “Beauty Full Fest 2023” ณ BCC HALL  ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ในวันที่ 21-24 ก.ย.66 รวบรวมคลินิกและโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามชื่อดังของประเทศไทยไว้อย่างครบครันที่สุดเป็นครั้งแรกของประเทศไทย มากกว่า 30 ราย มุ่งสร้างความน่าเชื่อถือของคลินิกและโรงพยาบาลศัลยกรรมให้ได้พบกับกลุ่มลูกค้าหลักโดยตรงพลาดไม่ได้กับโปรโมชันสุดพิเศษของแบรนด์ดัง แบบจัดหนักจัดเต็ม ลดสูงสุดถึง 50% เผยปี 2567 เตรียมแผนทำโรดโชว์ในหัวเมืองหลักของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
 

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด  บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เซ็นทรัลพัฒนา” ร่วมกับ บริษัท ยันเรือรบ ออร์แกไนซ์เซอร์ จำกัด จัดงาน Beauty Full Fest 2023 ณ BCC HALL  ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ในวันที่ 21-24 กันยายน 2566 ซึ่งถือเป็นการรวบรวมคลินิกและโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามชื่อดังของประเทศไทย ไว้อย่างครบครันที่สุดเป็นครั้งแรกของประเทศไทยมากกว่า 30 ราย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของคลินิกและโรงพยาบาลศัลยกรรม รวมถึงสร้างตัวตนสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าของคลินิกและโรงพยาบาลได้พบกับกลุ่มลูกค้าหลักโดยตรง ภายในงานได้รวบรวมสถาบันความงามชื่อดังและจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อลูกค้าโดยเฉพาะที่นี่ที่เดียว จึงขอเชิญชวนให้ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายที่สนใจเข้าร่วมงานในครั้งนี้ “




สำหรับสถาบันความงามที่เข้าร่วมงานมีมากกว่า 30 ราย อาทิ หมอต่อ คลินิกศัลยกรรมความงาม, IDL Hospital, Kasemrad × Bujeong Clinic, Timeless Laset Clinic, Q Advance Plastic Surgery Center, Hathaitip Clinic, Masterpiece Hospital, KMB Hospital, Jirakorn Clinic, Pmed Clinic, Lelux Hospital เป็นต้น โดยไฮไลท์เด่นภายในงานจะเป็นการรวมสุดยอดคุณหมอศัลยกรรมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทย รวมถึงคลินิก และโรงพยาบาลที่ดูแลเรื่องความสวยงามครบที่สุดของประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังมีคุณหมอที่จะมาให้ความรู้ ตอบข้อซักถามเรื่องการทำศัลยกรรมให้กับผู้สนใจ รวมทั้งเรื่องราวดี ๆ ให้กับทุกท่านที่มาร่วมงาน นอกจากนี้ทุกท่านยังจะได้พบกับเหล่าศิลปิน ดารา นักร้องที่มีชื่อเสียงมาร่วมให้ความบันเทิง อาทิ นุนิว (ชวรินทร์  เพริศพิริยะวงศ์), แม็ก (กรธัสส์) -ณฐ (ณฐสิชณ์), ทิกเกอร์, Perses และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่จะมาร่วมงานให้ความบันเทิงและกระทบไหล่แฟน ๆ อย่างใกล้ชิด, ตลอดจนเกมชิงรางวัลต่าง ๆ และพลาดไม่ได้กับโปรโมชันพิเศษของแบรนด์ดังแบบจัดหนักจัดเต็ม ลดสูงสุดถึง 50% รวมทั้งร่วมงานได้รับข้อมูลดี ๆ ในการที่ทุกคนควรหันมาดูแลตัวเอง เพราะการลงทุนกับตัวเองถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากที่สุด โดยคาดว่าในปี 2567 จะมีโปรเจ็กต์การทำโรดโชว์ตามหัวเมืองหลักของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ผู้สนใจสามารถติดตามความคืบหน้าได้ในทุกช่องทางของงาน อาทิ https://www.facebook.com/BeautyFullFest, Line @beautyfullfest (มี@) 

สำหรับพิธีเปิดงาน คณะผู้จัดงานได้รับเกียรติจาก คุณกิจติพร นันท์ตานนท์ อดีต Mrs.Thailand World 2021 ในฐานะผู้อำนวยการกองประกวด MRS.Thailand World 2023 พร้อมด้วย คุณฝน - มาริสา  กลิ่นพงษา MRS.Thailand World 2023 และ คุณหมวย - รัมณีย์  อภิชัยโชติรัตน์  Mrs.Tourism Thailand 2023 เข้าร่วมเป็นเกียรติในงานดังกล่าวด้วย 

รพ.มาสเตอร์พีช เพื่อนรักสายความงามของทุกคน จัดเต็มอินฟลูเอนเซอร์ ร่วมงาน Beauty Full Fest 2023


หมอเส - นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล และ คุณดาว - ลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มาสเตอร์สไตล์ ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช โรงพยาบาลศัลยกรรมความงามครบวงจรชั้นนำของไทย นำทัพเหล่าดารา คนดัง และอินฟลูเอนเซอร์ อาทิ ชายแฮ็คส์-ดร.วโรดม ศิริสุข, หลุยส์ - ลักษมี เมนิล, วาเลน - วรินทร นาคสิงห์, เก้า - ภูมิภัสส์ ดลพุทธิทรัพย์, เนย - ปภาดา กลิ่นสุมาลย์ นักแสดงช่อง 7HD ฯลฯ ร่วมงาน Beauty Full Fest 2023 พร้อมกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เชิญชวนเพื่อนรักสายความงามร่วมรับสิทธิพิเศษในวันที่ 21 - 24 กันยายน 2566 ณ BCC Hall ชั้น 5 เซ็นทรัล ลาดพร้าว มองหาบูธโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช หมายเลข VIP6 ในงานจัดเต็มบริการจากหัตถการเด่น พร้อมให้ความรู้คู่โปรโมชั่นแบบจุใจ


นอกจากนั้น หมอเส - นายแพทย์ระวีวัฒน์ และ คุณดาว - ลภัสรดา ยังต้อนรับสื่อมวลชนและให้สัมภาษณ์ถึงวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และทิศทางยืนหนึ่งของมาสเตอร์ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามครบวงจรของไทย

“แนวทางการขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER เน้นการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) มาประยุกต์ใช้ โดยวางหลักเกณฑ์ 3 เรื่องในการเข้าพิจารณาลงทุนกับพาร์ตเนอร์ ได้แก่ 1. ซื้อกิจการหรือธุรกิจที่มีเจ้าของเดิมยังบริหารต่อและต้องการเติบโตไปด้วยกัน 2. เป็นกิจการหรือธุรกิจท้องถิ่น มีชื่อเสียง และความสัมพันธ์ที่ดีต่อพื้นที่นั้นๆ และ 3. มีการทำงานร่วมกัน (Synergy) ระหว่างธุรกิจกับโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช



“ส่วนช่วงที่เหลือของปี 2566 ของ MASTER มีโอกาสร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่อย่างน้อยอีก 3 ราย โดยเชื่อมั่นว่าทุกดีลที่เกิดขึ้นจะสนับสนุนให้ MASTER เติบโตอย่างยั่งยืนแน่นอน นับตั้งแต่ต้นปี 2566 บริษัทเข้าไปลงทุนกิจการคลินิกเสริมความงาม ภายใต้ชื่อ “WIND Clinic” ด้วยการเข้าลงทุน 40% รวมถึงลงทุนใน Rattinan Medical Center" ถือหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 36% และบริษัท ด็อกเตอร์เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล จำกัด เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน 40%”

คุณดาว - ลภัสรดา เลิศภานุโรจ เสริมว่า “เรารุกทำตลาดจากการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และบอกต่อผลลัพธ์ของบริการ ผ่านการตลาดออนไลน์ทุกช่องทาง ทั้งโซเชียลมีเดีย และอินฟลูเอนเซอร์ ในทางขนานกัน เราเองก็ยังคงโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อกลางแจ้ง และเผยแพร่ข่าวสารผ่านสื่อมวลชนสำนักข่าวต่างๆ

“และที่ขาดไม่ได้ คือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในทุกรูปแบบ อาทิ การจัดแคมเปญ Make Your Looks ทำศัลยกรรมความงามเพื่อสังคม, การให้ความรู้กับผู้คนในสังคมผ่านสื่อต่างๆ ตามวาระ และการออกบูธเพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายทั้งในและต่างประเทศ อย่างงาน Beauty Full Fest 2023
ในครั้งนี้ และโอกาสต่อๆ ไป"

20 กันยายน 2566

ไหม สปา (maai spa) สปาระดับลักชัวรีที่ได้นำแรงบันดาลใจจากวัฏจักรชีวิตที่งดงามของตัวไหม

ไหม สปา (maai spa) สปาระดับลักชัวรีที่ได้นำแรงบันดาลใจจากวัฏจักรชีวิตที่งดงามของตัวไหม สู่การเติบโตกลายเป็นผีเสื้อที่พร้อมออกโบยบิน (Transformative Process) มาผสานเข้ากับจิตวิญญาณการให้บริการอันเป็นเลิศแบบไทยร่วมสมัยที่หลอมรวมทั้งศาสตร์และศิลป์ในการปรนนิบัติดูแลทั้งร่างกายและจิตใจเข้าไว้ด้วยกัน สร้างสรรค์จนเป็นเสน่ห์อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ “ไหม สปา” เพื่อมอบบริการระดับพรีเมียม ด้วยมาตรฐานระดับสากล โดยแต่ละทรีตเมนต์ของ “ไหม สปา” ตั้งใจออกแบบมาเพื่อให้ทุกท่านได้รับความรู้สึกแห่งการฟื้นคืน ผ่อนคลาย และสดชื่น ซึ่งเป็นพื้นฐานของชีวิตเปี่ยมสุขและสุขภาพที่ดี อิ่มเอมเต็มเปี่ยมทั้งร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ความรู้สึก “ไหม สปา” มีความยินดีที่จะเชิญชวนให้ท่านร่วมเดินทางไปกับเส้นทางแห่งไหม (Silk Journey) เพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมทั้งร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์แบบไปด้วยกัน

โปรแกรมทรีตเมนต์ของ “ไหม สปา” ประกอบไปด้วยรูปแบบทรีตเมนต์ที่ถูกออกแบบตามการเจริญวัยอันงดงามของตัวไหม 4 รูปแบบ เพื่อการปรนนิบัติร่างกายและจิตใจให้ผ่อนคลายอย่างแท้จริง อาทิ โปรแกรม “ถักทอเส้นไหม” ซึ่งจะประกอบไปด้วยขั้นตอนการปรนิบัติผ่าน ไหม ออนเซ็น ที่ท่านจะได้แช่ตัวในอ่างอาบน้ำอโรมาอุ่นสบายและแสนผ่อนคลาย จากนั้นตามมาด้วยการขัดผิวด้วย รังไหม บอดี้ สครับ แล้วจึงต่อด้วยการนวดกดจุดเท้าด้วยหินหยกอุ่นเพื่อการบำบัดและคลายความเครียด และการนวดศีรษะด้วยหวีหยกเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตบริเวณศรีษะ ก่อนจะจบด้วย สาวไหม เพื่อเป็นการเปิดการเคลื่อนที่ของพลังภายในร่างกายขึ้นอีกครั้ง เป็นต้น

ทรีตเมนต์ “ไหม สปา” (maai spa) กับเรื่องราวที่เล่าผ่าน Silk Journey
ทรีตเมนต์ของ “ไหม สปา” (maai spa) ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้รับบริการรู้สึกได้ถึงการบำรุงและฟื้นฟูทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณแบบองค์รวม (Holistic Well-being) เพื่อให้เกิดความสุขความผ่อนคลายในทุกมิติ จนรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่ดีทั้งภายนอกและภายใน เปรียบดังตัวไหมที่ค่อยๆ เติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมจะสร้างรังเพื่อผลิตเส้นไหมธรรมชาติที่งดงามต่อไป


หนึ่งในความพิเศษของ “ไหม สปา” (maai spa) คือการนำศาสตร์และศิลป์ของการนวดและการปรนนิบัติชั้นเลิศหลายแขนง ทั้งการนวดแบบสวีดิช (Swedish Massage) การนวดแบบสปอร์ต (Sports Massage) การนวดศีรษะแบบอินเดีย (Indian Head Massage) เทคนิคการกดจุดของจีน (Reflexology) และการนวดด้วยหยก (Jade Stone Massage) ที่ใช้หยกอุ่นๆ ค่อยๆ นวดไปตามร่างกายเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและปลดปล่อยความเครียด ผนวกเข้ากับการบำบัดรักษาแบบแผนไทยที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติอันมากด้วยกลิ่นหอมจรุงใจมามอบความผ่อนคลาย ควบคู่ไปกับการดูแลและให้บริการอย่างพิถีพิถัน โดยมีเอกลักษณ์ที่การดีไซน์ประสบการณ์สปาจากพื้นฐานความต้องการเฉพาะบุคคลแบบ Bespoke Services ตั้งแต่การสร้างสรรค์น้ำมันนวด (DIY Massage Oil) สูตรเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร ไปจนถึงการเลือกระดับของการกดนวดได้ตามความต้องการและความเหมาะสมต่อการฟื้นฟูร่างกายรวมถึงจิตใจของแต่ละท่าน 

ในส่วนของทรีตเมนต์ร่างกาย (Body Treatment) จะรวมการขัด พอก และแช่ เข้าด้วยกัน โดยใช้ผลิตภัณฑ์สปาระดับพรีเมียม ของ DONNA CHANG ที่รังสรรค์ขึ้นจากส่วนผสมธรรมชาติและวัตถุดิบที่ได้จากกระบวนการเลี้ยงไหมอันอุดมด้วยคุณค่าด้านการบำรุง เพื่อ “ไหม สปา” (maai spa) โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีบริการทรีตเมนต์ผิวหน้า (Facial Treatment) ที่ออกแบบเฉพาะบุคคล โดยใช้ผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศของ ELEMIS ซึ่งจะช่วยเผยความเนียนนุ่มน่ายลให้กับทุกสภาพผิว


สำหรับ “ไหม สปา” (maai spa) ณ โรงแรม อมารี พัทยา (Amari Pattaya) เป็นสาขาที่สอง ถัดจากสาขาแรก ณ โรงแรม     อมารี ราญา มัลดีฟส์ (Amari Raaya Maldives) มีความโดดเด่นด้านการตกแต่งซึ่งเน้นให้อารมณ์และความรู้สึกถึงเส้นทางการเติบโตของตัวไหม ผ่านห้องทรีตเมนต์ต่างๆ ที่เนรมิตให้เหมือนการเดินเข้าไปสู่รังไหม ตอบรับทั้ง 5 ประสาทสัมผัสจากการออกแบบทั้งสีสัน แสง อุณหภูมิ และกลิ่น จึงสื่อให้ผู้มาเยือนได้ความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยน โดยสาขา โรงแรม อมารี พัทยา นี้มีห้องทรีตเมนต์ทั้งหมด 7 ห้อง รวมถึงห้อง Family ซึ่งมี Kids’ Spa ให้เด็กๆ ได้เพลิดเพลินกับความผ่อนคลายสบายใจไปพร้อมคุณพ่อคุณแม่ด้วยคอนเซปต์ที่แข็งแรงของแบรนด์และกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจอันโดดเด่นจนได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศของ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า “ไหม สปา” (maai spa) จะประสบความสำเร็จในการตอบสนองความต้องการรวมถึงสร้างความประทับใจให้กับกลุ่มลูกค้า และเดินหน้าสู่การเป็นแบรนด์สปาพรีเมียมแถวหน้าของเอเชียได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ “ไหม สปา” ยังมีบริการนวดเพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ โดยสามารถระบุระดับการนวดได้ ตั้งแต่ประสบการณ์การนวดอย่างอ่อนโยน เพื่อให้คุณลืมวันอันแสนวุ่นวาย จนถึงการกดนวดแบบลึกตามแบบฉบับภูมิปัญญาการนวดแผนไทย โดยใช้เทคนิคการกดจุดต่างๆ และใช้ไม้ไผ่อุ่นในการคลายกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและความยืดหยุ่น ขณะที่การนวด ไหม เจด สโตน (Maai jade stone) เป็นการใช้หินหยกอุ่นๆ ค่อยๆ ไถนวดไปตามร่างกาย ให้ความรู้สึกแสนสบายและช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้อย่างดี ปลดปล่อยความเครียด และทำให้ร่างกายค่อยๆ เข้าสู่ภาวะผ่อนคลายอย่างแท้จริง

โทร: +66 3841 8418

Follow us on Facebook: facebook.com/maaispa

Follow us on Instagram: @maaispa

มูลนิธิเอเชีย เปิดตัว Thailand Leadership คลังความรู้ออนไลน์ผู้บริหารสถาน ศึกษา พัฒนาความเป็นผู้นำ ผอ.โรงเรียนทั่วประเทศ

มูลนิธิเอเชีย ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ, กรุงเทพมหานคร, สถานทูตออสเตรเลีย และเหล่าพันธมิตร
จัดงานเปิดตัว www.Thailandleadership.org เว็บไซต์พัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำของ ผอ.โรง เรียนทั่วประเทศ นำเสนอทักษะผู้นำทางวิชาการที่ทำให้ผู้บริหารสถานศึกษาประสบความสำเร็จ ผ่าน 3 เมนูหลักคือลงมือปฎิบัติ, พัฒนาวิชาการ และสร้างสรรค์งานวิจัย ในรูปแบบของข่าวสาร งานวิจัย บทความ คลิปวิดิโอ พอดแคสต์ สารคดี ฯลฯ จัดทำโดยนักวิชาการที่มีชื่อเสียง ตั้งเป้าเป็นคลังความรู้ออนไลน์ด้านการศึกษา ขับเคลื่อนพัฒนาทักษะ ความคิดสร้างสรรค์ ผลักดันนวัตกรรมล้ำสมัย เชื่อม ต่อชุมชน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสร้างเครือข่ายนำประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ที่เป็นมานานกว่า 20 ปี 


นายโทมัส พาร์ค ผู้แทนมูลนิธิเอเชียประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า “มูลนิธิเอเชียได้จับมือกับสถาน ทูตออสเตรเลียทำงานร่วมกันมานาน 6 ปีแล้ว ซึ่งโจทย์ที่ทั้งสององค์กรให้ความสำคัญก็คือจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ที่มีมานานนับ 20 ปี โดยสรุปต่างมีความเห็นตรง กันว่าจะต้องมีการปฏิรูปการศึกษา โดยมุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหา 2 ประการคือ 1)การเพิ่มขีดความ สามารถในการแข่งขันและประสิทธิภาพโดยรวมของระบบการศึกษาไทย ซึ่งเป็นเรื่องโครงสร้างทั้งระบบและเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก และ 2)ลดความไม่เท่าเทียมกันในระบบการศึกษา ซึ่งมีความแตกต่างกันมาก ทั้งในโรงเรียนขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมถึงโรงเรียนในพื้นที่ชนบทและในเมือง”


ด้าน ดร.รัตนา แซ่เล้า เจ้าหน้าที่โครงการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและวิจัย มูลนิธิเอเชีย ได้กล่าวถึงที่มาของการจัดทำเว็บไซต์ว่า “ในปี พ.ศ.2561-2564 ทางมูลนิธิฯ ได้มีการจัดทำ โครงการวิจัยเรื่องจากความท้าทายสู่คุณภาพการศึกษาของประเทศไทย : กฎระเบียบ การบริหารทรัพยากร และความเป็นผู้นำ ที่ได้มุ่งเน้นศึกษาโครงสร้างและบทบาทของ “ตัวกลาง” ระหว่าง “ผู้กำหนดนโยบายการศึกษาของชาติ” และ “ผลผลิตทางการศึกษา” นั่นคือ “ผู้อำนวยการสถานศึกษา” ในฐานะ “กล่องดำทางการศึกษา” หรือ “แกนหลักผู้สื่อสารถ่ายทอดนโยบาย” จากภาครัฐออกสู่โรงเรียนทั่วประเทศ บท สรุปที่ได้คือผู้อำนวยการโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา จะต้องมีบทบาท เป็นผู้นำทางวิชาการ ซึ่งยากง่ายแตกต่างกันตามบริบทของแต่ละท้องถิ่น และนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด ทำให้เกิดข้อเสนอแนะหลากหลายแนวทาง เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดการแก้ไขให้เหมาะสม กับการบริหารจัดการในแต่ละโรงเรียน


ด้วยสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น ทางมูลนิธิฯ จึงได้จัดทำเว็บไซต์ www.Thailandleadership.org ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำของ ผอ.โรงเรียน นำเสนอทักษะที่ทำให้ผู้บริหารสถานศึกษาประสบความสำเร็จ และเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจสำหรับบ่มเพาะ “ผู้นำทางวิชาการ” ในประเทศไทย
จัดทำเป็นรูปแบบเว็บไซต์ ที่ประกอบด้วย 3 เมนูหลักคือ

1)ลงมือปฎิบัติ 2)พัฒนาวิชาการ และ 3)สร้างสรรค์งานวิจัย ซึ่งได้เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกรอบด้าน ทั้งข่าวสาร งานวิจัย บทความ คลิปวิดิโอ พอดแคสต์ สารคดี ฯลฯ จากนักวิชาการด้านการศึกษาผู้มีชื่อเสียง นำโดย ดร.รัตนา แซ่เล้า และผู้ร่วมให้คำแนะนำในการจัดทำเว็บไซต์ นำเสนอทฤษฎี และนานาสาระด้วยตนเอง เช่น ศ.ดร.ฟิลิป ฮาลิงเจอร์, รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์, ดร.สุกรี นาคแย้ม, ดร.ภูมิศรัณย์ ทองเลี่ยมนาค, ดร.วงอร พัวพันสวัสดิ์, รศ.ดร.ณัฏฐภรณ์ หลาวทอง, รศ.ดร.พร้อมพิไล บัวสุวรรณ, และ รศ.ดร.ธีรภัทร กุโลภาส ภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงศึกษาธิการ, กรุงเทพมหานคร, มูลนิธิอานันทมหิดล และทางช่อง 9 MCOT HD โดยคาดหวังว่าเว็บไซต์นี้จะเป็นคลังความรู้ออนไลน์ด้านการศึกษา ที่ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ ผลักดันนวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อเชื่อมต่อชุมชนผู้นำทางวิชาการ ให้เกิดการสื่อสารแลกเปลี่ยนความคิด เห็นและสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง เป็นรากฐานเชื่อมต่อพัฒนาสู่ความร่วมมือในระดับสากล”



ภายในงานเปิดตัวเว็บไซต์ฯ ได้มี นางพุทธชาต ทองกร รองผู้อำนวยการ ศูนย์บริหารงานการพัฒนาศักย ภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (HCEMC) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวง ศึกษาธิการ เดินทางมาร่วมงาน นอกจากนี้ยังมีการอภิปรายให้ความรู้โดยนักวิชาการที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ศ.ดร.ฟิลลิป ฮาริงเจอร์ ในหัวข้อ “ผู้นำทางวิชาการกับการพัฒนาการศึกษาไทย”, รศ.ดร.พร้อมพิไล บัวสุวรรณ ในหัวข้อ “ผู้นำกับความสำเร็จของโรงเรียน” และการจัดทำวอดแคสต์, รศ.ดร.ธีรภัทร กุโลภาส ในหัวข้อ “นโยบายปฎิรูปการศึกษา จากกระทรวงสู่ห้องเรียน”, รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ในหัวข้อ “แชร์กลยุทธ์ จุดไอเดียผู้บริหาร” และ ดร.ชลตวรรณ ขุมเพ็ชร, ดร.ธราธร ตันวิพงษ์ตระกูล และคุณชัญฌัญญ์ ธนันท์ปพัฒน์ ในหัวข้อ “การทำสารคดีสั้นเรื่องแรงบันดาลใจจากการทำงาน” เป็นต้น   

โดยผู้อำนวยการโรงเรียน, นักวิชาการด้านการศึกษา และประชาชนที่สนใจ
สามารถเข้าไปใช้บริการเว็บไซต์ที่ www.Thailandleadership.org ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 062-7341267 ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.)

ร่วมงานมอบนโยบายการบริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ "พม. พอใจ : ให้ทุกวัยพึงใจใน พม."

วันอังคารที่ 19 กันยายน 2566 เวลา 09.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มอบนโยบายการบริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ "พม. พอใจ : ให้ทุกวัยพึงใจใน พม." โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ และคณะผู้บริหารกระทรวง พม. เข้าร่วม ทั้งนี้ กรมกิจการผู้สูงอายุ ร่วมจัดนิทรรศการนำเสนอผลงานนวัตกรรมที่ส่งเสริมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุ ภายในงานดังกล่าว ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ ชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กรุงเทพมหานคร




#พมช่วย24ชม #ช่วย24ชม #พม24ชม #กรมกิจการผู้สูงอายุ #ผู้สูงอายุ #ผู้สูงอายุที่รัก