เครือข่ายเป็นหูเป็นตาฯ และสสส. รุกสร้างความปลอดภัยทางถนนให้เด็กและเยาวชน จับมือกองบังคับการตำรวจจราจรและไทยฮอนด้า ติวเข้มทักษะการใช้ถนน นำร่องใน 7 โรงเรียน กทม. เขตบางรักและเขตสาทร ขณะที่สถิติความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยยังคงสูง ทุก 1 ชั่วโมง จะมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน หรือเฉลี่ยปีละมากกว่า 17,000 คน และมีผู้บาดเจ็บ พิการ อีกปีละไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน โดยอุบัติเหตุทางถนนนับเป็นสาเหตุหลัก ที่ทำให้เด็ก เยาวชน วัยรุ่นและวัยทำงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคตเสียชีวิต เราจะปกป้องและป้องกันชีวิตของลูกหลานไทยจากอุบัติเหตุทางถนนได้อย่างไร .
. ดร.อุดม หงส์ชาติกุล ประธานเครือข่ายเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม กล่าวว่า โรงเรียนเครือข่ายผึ้งน้อยเป็นหูเป็นตา สร้างความปลอดภัยทางถนน เป็นหนึ่งในกิจกรรมของแคมเปญ “ระวังหมดอายุ ” เพื่อพัฒนาถนนสาทรให้เป็นถนนปลอดอุบัติเหตุต้นแบบ ซึ่งจะมีการนำบทเรียนและประสบการณ์จากการขับเคลื่อนถนนสาทร ไปสังเคราะห์ความรู้ และขยายผล สู่การขับเคลื่อน ในวงกว้าง เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งบนพื้นฐานที่เชื่อว่าอุบัติเหตุทางถนนสามารถป้องกันได้ และการศึกษาเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลง ทางเครือข่ายฯ จึงเห็นความสำคัญของการทำงานร่วมกับภาคีความปลอดภัยทางถนนต่างๆ เพื่อบ่มเพาะ ปลูกฝังความรู้เรื่องความปลอดภัยทางถนน ให้เด็กและเยาวชน ตั้งแต่เป็นเด็กเล็กๆ อันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและเห็นผลอย่างยั่งยืน
“ถนนสาทร เป็นถนนสายสำคัญของกรุงเทพมหานคร ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วโลก โดยในแต่ละวัน มีคนทุกเพศวัย หลากหลายอาชีพ เดินทางเข้ามา ด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป ทว่าในแต่ละปีมีคนจำนวนไม่น้อย ที่เข้ามาในพื้นที่ถนนสาทร แต่ก็ไม่ได้กลับบ้าน เนื่องจากประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต หลายร้อยคนต้องพิการ และมีคนจำนวนมากรวมทั้งเด็กและเยาวชนได้รับผลกระทบทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ อย่างประเมินค่ามิได้” เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆของประเทศไทย ที่ความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนยังคงเกิดขึ้นทุกวัน ที่ผ่านมาทาง เครือข่ายเป็นหูเป็นตาฯ ได้มีการสื่อสาร เชิญชวนให้ทุกคน ใส่ใจความปลอดภัยเมื่อต้องใช้รถใช้ถนน ด้วยการสะกิดเตือน 4 ระวัง คือ ระวังทางข้าม ระวังทางแยก ระวังความเร็ว และระวังน็อก สำหรับโครงการโรงเรียนเครือข่ายผึ้งน้อยเป็นหูเป็นตา ที่ได้ริเริ่มขึ้นควบคู่กันนั้น เชื่อว่าจะเป็นต้นแบบในการสร้างแรงกระเพื่อมให้สังคม เพราะเมื่อเด็กมีความตื่นตัว มีความรู้ มีทักษะความปลอดภัยทางถนน ด้วยความรัก ความปรารถนาดี พวกเขาก็จะสามารถเป็นทูตน้อย ช่วยไปสะกิดเตือนคนในครอบครัว ให้ปฏิบัติตามกฎจราจรได้ ขณะที่ตัวเด็กเอง เมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เขาก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีวินัยจราจร มีสำนึกความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน .
ในการอบรมให้ความรู้ ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา มีการออกแบบฐานการเรียนรู้ ให้นักเรียนฝึกปฏิบัติจริง และมีการทบทวน ประกอบด้วย ฐานติดกระดุมเม็ดแรก สร้างวินัยจราจร ซึ่งครูฝึกจากกองบังคับการตำรวจจราจร มีการปูพื้นฐานให้น้องๆเรียนรู้ถึงลักษณะ ความหมาย การปฏิบัติ เมื่อเห็นป้ายจราจรทั้ง 3 แบบบนถนน คือ ป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และป้ายบังคับ ซึ่งน้องๆ สะท้อนว่า การเรียนรู้ครั้งนี้ได้ประโยชน์มาก เพราะเมื่อโตขึ้น ต้องขับขี่รถไปตามเส้นทางต่างๆ ก็จะสามารถปฏิบัติตามกฎจราจรได้อย่างถูกต้อง .
สำหรับผู้ที่สนใจมีส่วนร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลง ให้ถนนเมืองไทยปลอดภัย สามารถไปร่วมกิจกรรมและชมนิทรรศการ เรื่องราวการขับเคลื่อนของเครือข่ายเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม ที่จัดขึ้น บน Sky Walk สถานี BTS ช่องนนทรี ตั้งแต่วันนี้ ถึง 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 พร้อมร่วมแสดงความคิดเห็น และร่วมกิจกรรม สะกิดเตือนด้วยความรัก "เขียน แขวน และสั่นกระดิ่ง" กับสถานีความปลอดภัยทางถนน Road Safety Station เพื่อกระตุ้นเตือนตนเองและคนที่เรารัก และรักเรา ให้เกิดความตระหนักรู้ถึงความปลอดภัยทางถนน และฟังการเสวนา แชร์ความรู้ และประสบการณ์การขับเคลื่อนของผู้ก่อการดี และภาคีเครือข่ายเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม ในวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน ตั้งแต่เวลา 9.00 น. - 12.00 น. และในวันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 16.00 น.
โดยสามารถติดตามกิจกรรมของเครือข่ายฯ รวมทั้งกิจกรรมโรงเรียนเครือข่ายผึ้งน้อยเป็นหูเป็นตาฯ ได้ทาง Facebook : เป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม และ Facebook : Imagine Thailand Movement
หรือพิมพ์ #เป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม