เที่ยวทั่วไทย อร่อยทั่วโลก อัพเดทข่าวรายวัน Lifestyle บันเทิง ทันทุกกระแสข่าว!

31 ตุลาคม 2563

“สุขสยาม” จัดเวทีประกวดนางนพมาศ 2 วัย รับมหกรรมศิลปะวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ “รื่นเริง แสงศิลป์ อเมซิ่ง สุขสยาม”

 

รื่นรมย์ และ ร่วมลุ้นผลการประกวดนางนพมาศ 2 วัย ประจำปี 2563 แห่งเมืองสุขสยามงานประจำปีที่กลับมาสร้างความประทับใจต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 รับคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ในเทศกาลลอยกระทงสุดยิ่งใหญ่ประจำปี 2563 ณ เมืองสุขสยาม อิ่มเอมใจกับการแสดงสุดมหัศจรรย์ลอยกระทงวิถีไทย และชื่นชมเสน่ห์ภูมิปัญญาและหัตถกรรมอันทรงคุณค่า จากทุกทิศทั่วไทยในราคาพิเศษที่โซน“ตลาดใต้แสงจันทร์วันเพ็ญ”

“สุขสยาม” ร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) จัดกิจกรรมประกวดนางนพมาศ 2 วัย หนึ่งในกิจกรรมไฮไลท์ที่อยู่คู่กับประเพณีลอยกระทงมาอย่างยาวนาน ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างเป็นพิเศษ ให้เป็นอีกหนึ่งความสุขที่เกิดขึ้นในคืนวันลอยกระทง หนึ่งในกิจกรรมหลักภายในงาน “รื่นเริง แสงศิลป์ อเมซิ่ง สุขสยาม” มหกรรมศิลปวัฒนธรรมแห่งสายน้ำสุดยิ่งใหญ่  ระหว่าง 26 ต.ค.- 1 พ.ย. ศกนี้ เมืองสุขสยาม ชั้น G ไอคอนสยาม





คุณสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ โครงการสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม
  กล่าวถึงการจัดงาน ประกวดนางนพมาศ 2 วัย ครั้งนี้ว่า   กิจกรรมประกวดนางนพมาศของเมืองสุขสยามถูกจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมความรัก ความผูกพัน ภายในครอบครัวให้มีโอกาสคิดสร้างสรรค์และทำกิจกรรมร่วมกันเป็นหลักสำคัญ อันจะส่งผลให้สถาบันครอบครัวมีความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน โดยมีเกณฑ์การตัดสินพิจารณาจากการแต่งกาย ความสวยงาม บุคลิกภาพ กิริยามารยาท และความเชื่อมั่นในตนเอง ในรอบแรก ส่วนรอบชิงชนะเลิศผู้ผ่านเข้ารอบจะนำความสามารถพิเศษมาแสดงบนเวทีในรูปแบบสืบสานประเพณี และอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย โดยคณะกรรมการจะพิจารณาจาก ทักษะความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ ความพร้อมเพรียงของคู่ประกวด และปฏิภาณไหวพริบในการตอบคำถาม






“การประกวดนางนพมาศ 2 วัย” ทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศจะได้รับโล่รางวัล พร้อมสายสะพายและเงินรางวัล มูลค่า 10,000 บาท
  ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับสายสะพาย พร้อมเงินรางวัล มูลค่า 7,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2  ได้รับสายสะพาย และเงินรางวัล มูลค่า 5,000 บาท 






โดยผู้ได้รับรางวัลนางนพมาศเมืองสุขสยามประจำปี 2563 ได้แก่ ทีมหมายเลข 7คุณแม่วา-ยุวดี ลักษณวร, น้องกระต่าย-ด.ญ.ธนวรรณ ปรียานนท์ รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมหมายเลข 9 คุณแม่น้ำ-เพชรรัตน์ ปัญญางาม, น้องวาว่า-ด.ญ.พิมพ์นเรศ ลำไย และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีมหมายเลข 3 คุณแม่โย-ภวรัญชน์ บุญธรรม, น้องฟังฟัง-ด.ญ.กฤษกันย์ยา สารพล

นอกจากความสุขในการร่วมส่งใจเชียร์ผู้เข้าประกวดนางนพมาศประจำปีนี้แล้ว เมืองสุขสยามได้นำความสุขหลากมิติ มาร้อยเรียงให้ “สุข” ตลอดห้วงเวลาของการจัดงาน ด้วย การแสดงนาฎดนตรีไทย และศิลปะการแสดงร่วมสมัยตลอดทั้งวัน อาทิ ระนาดเอกมือฉมังเยาวชน จากโรงเรียนเก่งดนตรีอโยธยา ศิษย์ “ขุนอินโหมโรง”ประชัน วง “โปงลางศิลป์สาธร ราชมงคลกรุงเทพ” และชื่นชมลีลาการขับร้องบทเพลงลูกทุ่งจากเจ้าของรางวัลอันทรงเกียรติจากรายการลูกทุ่งไอดอล เขตต์- ศิรสิทธิ์ พันยา และ แอมมี่ ศิริลักษณ์  ฯลฯ

ส่งท้ายด้วยความเพลิดเพลินกับการอุดหนุนสินค้าไทย ที่คัดสรรอย่างเป็นพิเศษในแบบ “ตลาดใต้แสงจันทร์วันเพ็ญ” สินค้าไทยที่รังสรรค์ขึ้นอย่างวิจิตรที่ได้รับการยกระดับให้เป็นเสน่ห์ภูมิปัญญาและหัตถกรรมอันทรงคุณค่า อาทิ ผ้าไหม, ผ้าลายอย่าง,ผ้าทอไตลื้อ,ผ้าไหมแพรวา และเครื่องประดับไทยแท้ เครื่องเงินเชียงใหม่, ทองสุโขทัย เป็นต้น การประดิษฐ์กระทงสายในแบบต้นฉบับจากกาบกล้วย โดยกลุ่มชาวบ้านจ.สมุทรสงคราม ต้นตำรับกระทงสาย การแสดง “กระทงลอยฟ้า” ความงดงามของ “กระทง 4 ภาค” การเสี่ยงทางโชะตากับ “กระทงเซียมซีสมหวังดวงดีดั่งตั้งใจ” การแสดงลอยกระทงวิถีไทยหลากลีลาทีสะท้อนความงดงามของเทศกาลถึง 3 องก์การแสดง ฯลฯ

มหกรรมศิลปะวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ  “รื่นเริง แสงศิลป์ อเมซิ่ง สุขสยาม” จะเป็นอีกหนึ่งความทรงจำอันทรงคุณค่า ที่ประทับอยู่ในหัวใจของผู้มาเยือน และเมืองสุขสยามยึดมั่นที่จะยืนหนึ่งในการเป็นผู้รักษาขนบธรรมเนียม ประเพณีที่ดีของไทย ให้คงคู่ชาติ เพื่ออนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมให้ดำรงคงอยู่สืบไป

“สุขสยาม” เปิดมหกรรมศิลปวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ “รื่นเริง แสงศิลป์ อเมซิ่ง สุขสยาม”

รมว.วัฒนธรรมเปิดเทศกาล “ลอยกระทง” ณ เมืองสุขสยาม สืบสานประเพณีแห่งสายน้ำอันทรงคุณค่า ตื่นตาประติมากรรมกระทงหลากสไตล์ อาทิ กระทงสาย กระทงลอยฟ้า กระทง 4 ภาค และกระทงเซียมซี ผลงานศิลปะไทยอันวิจิตรผสานกับนวัตกรรมใหม่ที่สร้างมูลค่าเพิ่มเชิงสร้างสรรค์ 

สัมผัสการแสดงสุดมหัศจรรย์ลอยกระทงวิถีไทย พร้อมเต็มอิ่มไปกับบทเพลงอันไพเราะจากเยาวชนรุ่นใหม่และลูกทุ่งไอดอลดีกรีแชมป์ ร่วมลุ้นและเชียร์ การประกวดนางนพมาศ 2 วัย และชวนแต่งผ้าไทยฉลองเทศกาลสืบสานประเพณีอย่างยั่งยืน 

“สุขสยาม” เปิดเมืองต้อนรับคนไทยและชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย ร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามและสัมผัสมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า พร้อมอนุรักษ์เทศกาล “ลอยกระทง” ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สายน้ำแห่งความรุ่งเรืองของรัตนโกสินทร์ ผนึกกำลัง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) จัดมหกรรมศิลปวัฒนธรรมแห่งสายน้ำสุดยิ่งใหญ่ในงาน “รื่นเริง แสงศิลป์ อเมซิ่ง สุขสยาม” ระหว่าง 30 ต.ค.- 1 พ.ย. ศกนี้ เมืองสุขสยาม ชั้น G ไอคอนสยาม

พิธีเปิดงาน เปิดปฐมฤกษ์แห่งการเฉลิมฉลองประเพณียิ่งใหญ่แห่งสายน้ำ โดยได้รับเกียรติจาก นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีพร้อมชมการแสดง แสง สี เสียง สุดตระการตา “มหัศจรรย์ลอยกระทงวิถีไทย” และร่วมลอยกระทงกับผู้บริหารโครงการสุขสยาม ไอคอนสยาม ตลอดจนพันธมิตรผู้สนับสนุนการจัดงาน และประชาชนที่มาร่วมงาน ท่ามกลางบรรยากาศแบบวิถีไทยที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความอบอุ่น 


นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า “เทศกาลลอยกระทง ถือเป็นประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณ แสดงถึงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ โดยเฉพาะน้ำที่ใช้ในการดำรงชีวิต สะท้อนถึงภูมิปัญญา วิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทยอันงดงาม ทั้งยังเป็นประเพณีที่มีสาระและคุณค่าต่อครอบครัว ชุมชน ศาสนา และสังคม ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าและความผูกพันที่คนไทยมีต่อสายน้ำ แต่ยังเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนคนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงประเพณีอันดีงาม ขณะเดียวกันก็มีการรณรงค์ให้ผู้ร่วมงานแต่งกายด้วยผ้าไทยเพื่ออนุรักษ์ และสืบสานวัฒนธรรมไทยไว้อย่างงดงาม ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ต้องขอชื่นชมเมืองสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม ที่ให้ความสำคัญและร่วมกันสืบทอดประเพณีของไทยได้ดำรงอยู่สืบไป”



นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ โครงการสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม  กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า “สุขสยาม เมืองสารพัดสุข สนุกแบบไทย  จัดเทศกาลลอยกระทง “มหกรรมศิลปวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ  “รื่นเริง แสงศิลป์ อเมซิ่ง สุขสยาม” เพื่อร่วมสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม อันทรงคุณค่าของคนไทย และเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสขอบพระคุณและขอขมาต่อพระแม่คงคาสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิต ตลอดจนเพื่อเป็นการส่งเสริม และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และประเพณีไทยของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติในประเทศ ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2  ปีนี้เน้นรูปแบบการจัดงานเรียบง่าย และคงรูปแบบกิจกรรมที่เน้นความเป็นไทยร่วมสมัย ผสานนวัตกรรมรูปแบบใหม่ เพื่อเพิ่มมูลค่าอย่างสร้างสรรค์ ภายในงานทุกท่านจะได้อิ่มเอมกับบรรยากาศและความงดงามที่รังสรรค์ขึ้นอย่างวิจิตรของศิลปะวัฒนธรรมไทยในแบบร่วมสมัย พร้อมการแสดงแบบไทยที่คัดสรรมาเติมความสุนทรีย์ได้อย่างครบมิติ ตลอดระยะเวลาของการจัดงาน”  

ไฮไลท์ของมหกรรมศิลปวัฒนธรรมในครั้งนี้ ผู้ร่วมงานจะได้ตื่นตาไปกับ “กระทงสายประกายแสง”  ส่องสว่างรับคืนวันเพ็ญด้วยกระทงกาบกล้วยจากชุมชนแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ที่นำมาเรียงร้อยบนผิวน้ำบริเวณท่าน้ำภาคกลางของเมืองสุขสยาม ที่ส่องแสงระยิบของแสงเทียนที่ส่องแสงระยับอย่างพริ้วไหวละลานตา พิเศษสุดจัดให้มีการประดิษฐ์กระทงสายในแบบต้นฉบับจากกาบกล้วย โดยกลุ่มชาวบ้านจ.สมุทรสงคราม ต้นตำรับกระทงสาย สำหรับผู้ลงทะเบียน  300 สิทธิต่อวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น.  เฉพาะวันที่ 30-31 ตุลาคม 2563

รุ่นใหม่ เอกลักษณ์ สระแก้ว นำเทคนิคการตัดติดประกอบ Era foam จากแผ่นยาง เพื่อความงดงามอย่างร่วมสมัย ได้แรงบันดาลใจสถาปัตยกรรมและจิตรกรรมที่โดดเด่นของหน้าจั่ว ช่อฟ้า ใบระกา ภายใน "วัดไทย" ประดับด้วยดอกไม้ประจำสื่อถึงอัตลักษณ์แต่ละภาค อาทิ ภาคกลาง-ดอกบัวหลวง ภาคใต้-ดอกพะยอม ภาคเหนือ-ดอกทองกวาว และ ภาคอีสาน-ดอกราชพฤกษ์ นอกจากนี้ ยังจัดให้มี “กระทงเซียมซี…สมหวังดวงดีดั่งตั้งใจ” กระทงเสี่ยงทายแบบรับผลทันที ที่นำมาประยุกต์ให้ทันสมัยด้วย ณ บริเวณสายน้ำภาคใต้  

ดื่มด่ำกับ อีกหนึ่งความสุขประจำเทศกาลลอยกระทง ปีนี้เมืองสุขสยามเนรมิตเวทีการประกวด  “นางนพมาศ 2 วัย” ชมลีลาการการแสดงความสามารถพิเศษที่งดงามแบบไทยจากผู้สมัครที่สะท้อนถึงความผูกพัน และการใช้เวลาร่วมกันผ่านการฝึกฝนอย่างรู้คุณค่าของเวลาที่ไม่หยุดนิ่ง ของผู้ประกวด ที่จะมาขึ้นโชว์บนเวทีในแบบคู่แม่ลูก หรือคู่ยาย-ย่าของหลานๆ ในคืนวันลอยกระทง 31 ต.ค. 2563 รางวัลชนะเลิศและรางวัลรองชนะเลิศจะได้รับโล่รางวัล พร้อมสายสะพายและเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 22,000 บาท 

พร้อมกันนี้ภายในงานยังมีความสุขที่จะได้สัมผัส จากการแสดงมหัศจรรย์ภายในงานอย่างคับคั่งอาทิ การแสดงลอยกระทงวิถีไทย แบ่งออกเป็น 3 องค์ ได้แก่ เริ่มจาก “แสงนวลผ่องคืนพระจันทร์ 15 ค่ำเดือน 12” เรื่องราวของดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า สู่ความสุกสว่างของดวงจันทราที่จรัสจ้าในคืนเดือนเพ็ญ องค์ที่ 2 “ส่องสะท้อนเด่นประกายสายน้ำ”  สายน้ำอันระยิบระยับ ล้อรับแสงนวลผ่องของดวงจันทร์วันเพ็ญ องค์ที่ 3 “สุขสยามนำ…อเมซิ่งสุข สู่นภาลัย” ความสุขที่ ความรื่นเริงหลากมิติ ของการเฉลิมฉลองเทศกาลลอยกระทงจาก 4 ภาคที่รวมตัวอยู่ที่เมืองสุขสยาม 



ความสุขในคืนเดือนเพ็ญ ถูกนำมาร้อยเรียงให้ “สุข” ได้ตลอดห้วงเวลาการจัดงานด้วยการแสดงนาฎดนตรีไทยร่วมด้วยศิลปะการแสดงร่วมสมัยตลอดทั้งวัน อาทิ ระนาดเอกมือฉมังเยาวชน จากโรงเรียนเก่งดนตรีอโยธยา ศิษย์ “ขุนอินโหมโรง” ประชัน วง “โปงลางศิลป์สาธร ราชมงคลกรุงเทพ” และดื่มด่ำกับลีลาการขับกล่อมบทเพลงจากนักร้องลูกทุ่งเจ้าของรางวัลอันทรงเกียรติจากรายการลูกทุ่งไอดอล เขตต์- ศิรสิทธิ์ พันยา และ แอมมี่ ศิริลักษณ์  ฯลฯ 

ส่งท้ายด้วย ความเพลิดเพลินกับการอุดหนุนสินค้าไทย ที่คัดสรรอย่างเป็นพิเศษในแบบ “ตลาดใต้แสงจันทร์วันเพ็ญ” สินค้าไทยที่รังสรรค์ขึ้นอย่างวิจิตรที่ได้รับการยกระดับให้เป็นเสน่ห์ภูมิปัญญาและหัตถกรรมอันทรงคุณค่า อาทิ ผ้าไหม, ผ้าลายอย่าง,ผ้าทอไตลื้อ,ผ้าไหมแพรวา และเครื่องประดับไทยแท้ เครื่องเงินเชียงใหม่, ทองสุโขทัย เป็นต้น

นอกจากนี้เมืองสุขสยามร่วมกับกิจกรรม Bangkok River Festival 2020 “รื่นเริง แสงศิลป์” เทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ครั้งที่ 6  จัดโดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) โดยเปิดให้ประชาชนได้ล่องเรือฟรี  (Free Shuttle Boat) 10 ท่าน้ำสำคัญ ณ จุดลงทะเบียน เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ระหว่างวันที่ 29 - 31 ต.ค. 2563 เวลา 17.00 - 22.00 น. และจัดท่าน้ำเมืองสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม ให้เป็นหนึ่งใน 10 ท่าเรือยอดนิยมของนักท่องเที่ยว  และเป็นจุดประทับตรา เพื่อลุ้นรับของรางวัลจากกิจกรรม เมื่อประทับครบ 3 ท่าน้ำ อาทิ "น้ำมนต์มงคล 5 วัด ในถุงผ้าขาวม้าชุมชน" หรือของที่ระลึกอื่นๆ 

ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทงอันทรงคุณค่า และขอขมาพระแม่คงคาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต สุข สนุกสนานไปกับงาน “รื่นเริง แสงศิลป์ อเมซิ่ง สุขสยาม” อย่างเต็มอิ่ม โดยขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสุขกับการ “นิยมไทย” ด้วยการแต่งกายผ้าไทยในเทศกาลลอยกระทง ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายนนี้ ณ เมืองสุขสยาม บริเวณชั้น G ไอคอนสยาม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 02-658-1000 หรือwww.sooksiam.com FB: sooksiam


28 ตุลาคม 2563

เคาน์เตอร์เซอร์วิส จับมือ วิริยะประกันภัย

นำร่อง “โครงการ All Insurance ยกความอุ่นใจ มาไว้ใกล้คุณ”
ร่วมส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงความคุ้มครองสุขภาพง่ายๆได้ที่ร้าน 7-11 พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ 

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2563 คุณสมพจน์ เจียมพานทอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด(มหาชน) ร่วมกับ คุณวีรเดช อัครผลพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด เปิดตัว “โครงการ All Insurance     ยกความอุ่นใจ มาไว้ใกล้คุณ” โดยโครงการนี้ถือเป็นความร่วมมืออันดีระหว่างทั้ง 2 องค์กร ที่ตั้งใจส่งเสริมให้ประชาชนไทย สามารถเข้าถึงความคุ้มครองประกันสุขภาพจากบริษัทประกันชั้นนำอย่างวิริยะประกันภัย ได้ง่ายๆที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่ร่วมโครงการ นำร่องที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขา ซีพี ทาวเวอร์ สีลม ระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคม 2563 และร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขา เอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ระหว่างวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2563 โดยภายในบูธจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยที่พร้อมให้คำแนะนำการวางแผนประกันที่เหมาะกับคุณ และนอกจากนั้นยังจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษถึง 3 ต่อ สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันในโครงการนี้ ต่อที่1 รับคูปองเงินสดเพื่อซื้อสินค้าที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น มูลค่า 300 บาท ต่อที่2 นำประกันโควิดของที่ไหนก็ได้มาแทนเงินสดสูงสุด 800 บาท และต่อที่3 รับฟรี ตุ๊กตาน้องหมีอุ่นใจ เคาน์เตอร์เซอร์วิส มูลค่า 750 บาท

คุณสมพจน์ เจียมพานทอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โครงการนี้ถือเป็นความร่วมมือที่ดีระหว่างวิริยะ และ Counter Service ALL Insurance ที่จะทำให้คนไทยได้เข้าถึงประกันสุขภาพแผนพิเศษ Viriyah Healthcare by BDMS ซึ่งถือเป็นประกันสุขภาพที่เข้าใจง่ายด้วยราคาสบายๆเริ่มต้นเพียง 6,000 บาท ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 700,000 บาท/ ปี สามารถเข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือ BDMS โดยไม่ต้องสำรองจ่าย สามารถสมัครได้ตั้งแต่อายุ 16 - 60 ปี ซึ่งมองว่าแผนประกันนี้จะสามารถตอบโจทย์ให้กับพนักงานออฟฟิศหรืออาชีพอิสระที่ต้องการเพิ่มเติมสวัสดิการความคุ้มครองประกันแบบเข้าใจง่ายและเหมาจ่ายต่อปี ลูกค้าที่สนใจสามารถหาซื้อได้ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่ร่วมโครงการ”

คุณวีรเดช อัครผลพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า “Counter Service  ALL Insurance เล็งเห็นถึงความสำคัญและห่วงใยในการเข้าถึงหลักประกันด้านสุขภาพของคนไทย เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล จึงได้ร่วมกับบริษัทประกันชั้นนำอย่างวิริยะประกันภัย จัดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อนำเสนอแผนประกันที่คุ้มครอง คุ้มค่า ราคาเพื่อคนไทย ซึ่งลูกค้าที่ซื้อประกันในโครงการนี้จะได้รับโปรโมชั่นพิเศษถึง 3 ต่อที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสและวิริยะประกันภัยตั้งใจจัดมาให้ลูกค้าโครงการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งโครงการนี้เป็นการต่อยอดเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงประกันผ่านช่องทาง ALL Insurance ที่มีแผนประกันหลากหลายประเภทให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ ทั้งประกันสุขภาพประกันอุบัติเหตุ ประกันเดินทาง ประกันรถยนต์ พ.ร.บ. ต่อทะเบียน และอื่นๆอีกมากมาย ผ่านช่องทางหน้า
ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ทั่วประเทศกว่า 12,500 สาขา ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง หรือ http://www.counterservice.co.th/allinsurance/ พร้อมรับความคุ้มครองและใบรับรองการทำประกันภัย
ได้ทันที”




สนใจสอบถามรายละเอียด “โครงการ All Insurance ยกความอุ่นใจ มาไว้ใกล้คุณ”
ได้ที่ 02-071-2258 หรือ อีเมล csinsurance@counterservice.co.th

ธรรมจักร์ เหลืองประเสริฐ แห่ง โรงแรม เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ

เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ โรงแรมที่ผสานความผ่อนคลาย
ภายใต้งานออกแบบเชิงสร้างสรรค์เข้ากับทำเลที่ตั้งสะดวกสบาย

เบื่อนอนบ้าน มานอนโรงแรมกรุงเทพฯ ราคาไม่แพง มีทั้งคาเฟ่และร้านอาหาร หรือใครที่มาจากต่างจังหวัดแล้วกำลังมองหาที่พักใกล้สนามบิน เดินทางสะดวกสบาย เราแนะนำที่นี่เลยน๊า ...  ทีนี่พร้อมและมั่นใจทุกการเข้าพักด้วยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health (SHA) ทางโรงแรมยังเข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ในราคาสุดพิเศษเริ่มต้นเพียง 872 บาทสุทธิ*/ห้อง/คืน

อีกครั้งที่ Toptotravel ได้มีโอกาสร่วมพูดคุย กับ คุณธรรมจักร์  เหลืองประเสริฐ (Owner Representative) และแนวคิดการปรับรูปแบบการให้บริการของหลังวิกฤต COVID-19  เพื่อเป้าหมายในการปรับธุรกิจโรงแรมให้สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดการท่องเที่ยวในอนาคต ปัจจุบันสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เราจึงน่าจะได้เห็นมาตรการที่ผ่อนปรน  ทำให้การมาพักผ่อนเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น วันหยุดสุดสัปดาห์นี้เราพร้อมให้บริการทุกท่าน

ทีมผู้บริหารและพนักงานโรงแรมด้วยปรัชญาธรรมะ  ผมอยากให้พนักงานทุกคนเป็นคนดีและคนเก่ง เพราะจะทำให้เขามีคุณค่าในตัวเอง และส่งต่อคุณค่านั้นสู่สังคมอย่างมีความสุข ถ้าทุกเช้าที่คุณตื่นขึ้นมาแล้วเรามีความสุขเหมือนทำ ทุกอย่างให้บ้านเราเอง แล้วคุณจะดูแลคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวของคุณ หน้าที่เราที่ต้องให้บริการ และบริการอย่างสุภาพ รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจ นั่นคือคุณได้สร้างคุณค่าให้เกิดกับตัวเองและกับคนอื่นด้วย มันเป็นอาชีพที่น่าภูมิใจ เพราะฉะนั้น เมื่อคุณภูมิใจในอาชีพ  คุณต้องรักษาศักดิ์ศรีของตัวคุณและอาชีพนี้เอาไว้ คุณจะมีความสุขในการทำงาน หลังจากนี้ ธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 คุณธรรมจักร เหลืองประเสริฐ (Owner Representative)

The Park Nine Suvarnabhumi 
ใครที่กำลังมองหาที่พักใกล้ๆ กับสนามบินสุวรรณภูมิแนะนำที่นี่เลย ตอบโจทย์ทุกความต้องการครบวงจรของทั้ง นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว รวมถึงห้องประชุมสัมมนา และห้องอาหาร พร้อมบริการที่ได้มาตรฐาน ท่ามกลางบรรยากาศ สงบ ร่มรื่น และแวดล้อมด้วยธรรมชาติ บรรยากาศอันงดงาม ริมคลองประเวศบุรีรมย์ บรรยากาศพูดคุยวันนี้ ณ ห้องอาหาร อีท ดริ๊ง เลิฟ, โรงแรม เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ มีทั้งความเก๋ไก๋ น่ารัก และดูโทนครึม โรงแรมสมัยใหม่สามารถนำสไตล์การออกแบบ เป็นเอกลักษณ์ สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนได้นะคะ นอกจากนี้ยังมี Facility ต่างๆ ครบครัน เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องเซาวนา และห้องอบไอน้ำ มีสนามหญ้าเล็กๆให้เดินชมวิว ที่สำคัญบรรยากาศเงียบสงบ และเป็นส่วนตัวมากๆ  มีบริการรถรับส่งสนามบินสุวรรณภูมิฟรี! หรือออกเดินทางไปเส้นทางอื่นในราคาพิเศษ 

เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ เป็นโรงแรมที่ผสานความผ่อนคลายภายใต้งานออกแบบเชิงสร้างสรรค์เข้ากับทำเลที่ตั้งอันสะดวกสบาย โรงแรมฯ ตั้งอยู่บนถนนลาดกระบัง ตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าโรบินสันลาดกระบัง ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเพียงไม่กี่นาที เดินทางสะดวกสบายใกล้ทางด่วนและวงแหวนรอบนอกไปสู่ EEC (ฉะเชิงเทรา/ชลบุรี/ระยอง) 

ชิลล์ไปกับสระว่ายน้ำหินอ่อนระบบเกลือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฟิตแอนด์เฟิร์มด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายในยิมของโรงแรมฯ ห้องซาวน่า และสตีมครบครัน ชิมอาหารเลิศรสที่รังสรรค์จากเชฟมือทองที่ห้องอาหาร Eat Drink Love เสิรฟ์อาหารนานาขาติทั้งอาหารไทยและยุโรปหลากหลายเมนู นั่งจิบกาแฟยามบ่ายพร้อมกับเค้กและขนมอบที่ The Cuppers หรือจะนั่งพบปะสังสรรค์พูดคุยกันเพื่อน ณ ล็อบบี้เลาจน์ ที่ให้บริการเครื่องดื่ม ค็อกเทล และของว่างเบาๆ 

The Park Nine Suvarnabhumi เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ แนะนำที่พักใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เพียงแค่ 10 นาที ใกล้ห้างโรบินสัน ลาดกระบัง นอกจากบรรยากาศอันรมรื่นจากสวนสวยของโรงแรมฯ ที่จะเปลี่ยนธีมการตกแต่งไปตามฤดูกาลของประเทศไทยแล้ว ส่วนด้านหลังติดคลองประเวศบุรีรมย์ ที่ยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติและวิถึคนไทยริม 2 ฝั่งคลอง จึงทำผู้เข้าพักได้รับความสงบและผ่อนคลายอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่เข้าพัก








ห้องพักทั้ง 114 ห้องตกแต่งสไตล์คอนเทมโพรารี ที่มีความร่วมสมัย เรียบง่าย สบาย อบอุ่น และใกล้ชิดกับธรรมชาติ จึงทำให้เกิดความอิสระลงตัวทั้งสำหรับการทำงานและการพักผ่อน 

ห้องซูพีเรีย (28 ตร.ม.), ห้องดีลักซ์ (30 ตร.ม.) และ ห้องเอ็กเซ็กคิวทีฟ (36 ตร.ม.) เป็นห้องพักสไตล์โรงแรมฯ เหมาะกับการเข้าพักระยะสั้น (รายวัน) ทุกห้องดีไซน์ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสกับประสบการณ์เข้าพักที่สะดวกสบาย มี smart TV ที่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณจากมือถือส่วนตัวขึ้นจอทีวภายในห้อง เซิร์ฟเน็ตด้วย WIFI ความเร็วสูงเพื่อให้ไม่พลาดการติอต่อสื่อสาร ตู้เย็นมินิบาร์ ตู้เซฟนิรภัย ไดร์เป่าผม เสื้อคลุมอาบน้ำและสลิปเปอร์

ห้องจูเนียร์สวีท (45 ตร.ม.), ห้องสวีท 1 ห้องนอน (65 ตร.ม.) และห้องสวีท 2 ห้องนอน (90 ตร.ม.) จะมีพื้นที่กว้างขึ้นเหมาะสำหรับการพักระยะยาว (รายเดือน/รายปี) การพักผ่อนกับเพื่อน/ครอบคัว ทุกห้องถูกตกแต่งอย่างพิถีพิถันโอ่โถงพร้อมพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง โต๊ะรับประทานอาหาร พร้อมเครื่องครัว และอุปกรณ์ครัวครบครัน เพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าพักด้วยตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ เครื่องซักและอบผ้า เตาไมโครเวฟ ตู้เย็นขนาดใหญ่ เตาไฟฟ้า และระเบียงส่วนตัวไว้สำหรับผ่อนคลายกับ
บรรยากาศสบายๆ

ห้องพัก มี 4 รูปแบบ ทั้ง ซูพีเรีย ดีลักซ์ เอ็กเซ็กคูทีฟ และ จูเนียร์สวีท ซึ่งทุกห้องมีระเบียงส่วนตัวไว้สำหรับผ่อนคลายกับบรรยากาศสบายๆ และยังมีสมาร์ททีวี ที่สามารถเชื่อมต่อสัญญานจากมือถือส่วนตัวขึ้นจอทีวีภายในห้องพัก เพื่อดื่มด่ำกับอรรถรสของการฟังดนตรี หรือชมภาพยนตร์บนความเป็นส่วนตัวได้อย่างเต็ม 


ห้องประชุมห้องจัดเลี้ยง
เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ ทีมงานจัดเลี้ยงของโรงแรมฯ ที่มากด้วยประสบการณ์ด้านบริการรับจัดเลี้ยงและงานแต่งงาน พร้อมให้คำปรึกษาในการวางแผน และเนรมิตงานในวันสำคัญของทุกท่านให้ประทับใจ ราบรื่น ลงตัวและคุ้มค่ามากที่สุด 




เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ ให้บริการร้านกาแฟและร้านอาหาร ท่านใดที่ไม่ได้มาพัก สามารถแวะมาใช้บริการ ที่นี่มีที่จอดรถสะดวกสบาย - Cuppers Cafe คาเฟ่บรรยากาศชิลๆ  


Cuppers Cafe คาเฟ่บรรยากาศชิลๆ กับความทรงจำหวานๆ  การตกแต่งร้านที่ดูง่ายๆเรียบๆ เน้นต้นไม้ล้อมรอบ ในสไตล์ยุโรปโมเดิร์น กับโทนสีขาว สีไม้ และสีครีม มานั่งที่นี่ แถมยังมีโมเมนต์ถ่ายรูปเช็คอินสวย ๆ ไว้อวดเพื่อนด้วยขอแนะนำชุด Afternoon Tea Set ทานคู่กับ Singnature drinks เช่น CARAMEL MACCHIATO, STRAWBIZ JUNOS TEA, LYCHEE BLOSSOM เครื่องดื่มที่นี่อร่อยและราคาไม่แพง 

นอกจากนี้ ยังมี Cuppers ให้บริการกาแฟสด ที่คัดสรรจากเมล็ดพันธุ์กาแฟคุณภาพเยี่ยม จากแหล่งวัตถุดิบระดับโลกมาไว้ที่นี่ สามารถจิบกาแฟพร้อมเค้กหลากหลายรส ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวขจี





Menu Afternoon Tea/399 Net.
Sandwich
Scone
Brownie
Chocolate Croissant
Tart
Prawn Cocktail
Creambrulee
Macaron
Tea Pot

Afternoon Tea/399 Net.

ห้องอาหาร Eat Drink Love Suvarnabhumi 
เน้นคุมโทนสีขาวครีมสบายตาและแสงจากธรรมชาติเป็นหลัก ให้คนที่ได้มารู้สึกผ่อนคลายและเป็นส่วนตัว เสิร์ฟความสุขผ่านเมนูอาหารสไตล์ Asian Twisted เน้นความเป็นไทยผสมผสานความเป็นเอเชียเข้ามาในอาหารทุกจานเพื่อเติมความสุขให้คนที่ลิ้มลองรู้สึกพิเศษเหมือนได้ดื่มด่ำอาหารพร้อมบรรยากาศ Fine Dinning แบบดีต่อใจ จัดเต็มเมนูทั้งคาวและหวาน ยกขบวนความอร่อยแสนพิเศษ มาให้เลือกหลากหลายเมนู ฝีมือเชฟประจำโรงแรม เป็นห้องอาหารแบบออลเดย์ไดน์นิ่ง สามารถรองรับได้จำนวน 100 ที่นั่ง พร้อมให้บริการด้วยอาหารรูปแบบใหม่ที่ต้องลิ้มลอง  






ใครที่กำลังมองหาที่พักใกล้ๆ กับสนามบินสุวรรณภูมิแนะนำที่นี่เลย มีครบจบที่เดียว เดินทางง่ายและสะดวกสบายใกล้สนามบิน เดินทางสะดวกมีบริการรถรับ-ส่ง ติดต่อสอบถามได้เลย..


จองห้องพักได้ที่นี่ :
https://www.theparknine.com/suvarnabhumi/booking2hotels-book/?proCode=FACEBOOK&cn=194

โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ
เลขที่ 599,599/1, แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520
สอบถามรายละเอียดหรือสำรองห้องพัก  โทร. 02 – 019- 9111 

อีเมล์ : reservations.suv@theparknine.comเฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/TheParkNineSuvarnabhumi 

พิกัด : ถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง  แผนที่ : https://goo.gl/maps/wGPQLPyay813SREx6

#TheParkNineSuvarnabhumi
#TheParkNine #Hotel #Airport
#theparkninehotel
#theparkninesuvarnabhumi​
#airporthotel​ #suvarnabhumi​

27 ตุลาคม 2563

กทม.เปิดพื้นที่ทั่วกรุงจัดยิ่งใหญ่ ลอยกระทงวิถีใหม่ สไตล์ New Normal จุดไฮไลท์ สะพานพระราม 8 คลองโอ่งอ่าง และสวนสาธารณะทั้ง 30 แห่ง

กรุงเทพมหานคร เตรียมจัดยิ่งใหญ่ งานเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด  “ลอยกระทงวิถีใหม่ สไตล์ New Normal” เปิดพื้นที่ให้ประชาชนร่วมลอยกระทง เพื่ออนุรักษ์และสืบสานประเพณีไทย สืบทอดวิถีชีวิตของชุมชนที่มีต่อสายน้ำ และตระหนักถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีไทยอันดีงาม เผยจุดไฮไลท์ สะพานพระราม 8 คลองโอ่งอ่าง และสวนสาธารณะทั่วกรุง ทั้ง 30 แห่ง  


นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานแถลงข่าว การจัดงานเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2563  กล่าวว่า ปีนี้กรุงเทพมหานครกำหนดจัดงานลอยกระทงโดยเปิดพื้นที่หลักของกรุงเทพมหานคร    ให้ประชาชนได้ร่วมกิจกรรม เพื่อสืบสานประเพณีไทย และสืบทอดวิถีชีวิตของชุมชนที่มีต่อสายน้ำ โดยให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัย  มีการเว้นระยะห่าง พร้อมแจกหน้ากากอนามัยฟรี สำหรับประชาชนที่นำกระทงมาลงทะเบียน จำนวน 500 ท่านแรก พร้อมกันนี้ ห้ามจุดพลุ ดอกไม้เพลิง และมีการรณรงค์ใช้วัสดุธรรมชาติในการจัดทำกระทง 1 กระทง 1  ครอบครัว เพื่อลดปริมาณขยะ สำหรับกิจกรรมแต่ละจุดมีไฮไลท์ที่น่าสนใจแตกต่างกัน เช่น บริเวณสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี เขตบางพลัด จัดในวันเสาร์ที่ 31  ตุลาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 17.00 – 22.00 น.  มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น การแสดงเพลงฉ่อย การแสดงรำโทน การแสดงวงโปงลางอินเตอร์ การแสดงวงสุวรรณหงษ์ และ การแสดงจากศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง อาทิ ลำไย ไหทองคำ  นอกจากนี้ยังมีการจัดโซน ตลาดโบราณย้อนยุค สัมผัสกับของเล่นโบราณ ของกินที่หาทานได้ยาก และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร (Bangkok Brand) ของดี 50 เขต  ทั้งสินค้าหัตถกรรม และอาหารดังจากทุกเขตของกรุงเทพมหานคร 

และอีกหนึ่งจุดสำคัญ คือ บริเวณคลองโอ่งอ่าง ช่วงสะพานหัน ที่สำนักงานเขตพระนคร ร่วมกับสำนักงานเขต สัมพันธวงศ์ จัดงานเทศกาลลอยกระทง ในระหว่างวันที่ 29-31 ตุลาคม 2563 ตั้งแต่เวลา17.00 น. เป็นต้นไป             


ณ ริมคลองโอ่งอ่าง เขตสัมพันธวงศ์ และเขตพระนคร ช่วงสะพานหัน ถึง สะพานภาณุพันธุ์ ภายในงานมีกิจกรรมการประกวดหนูน้อยนพมาศ การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงดนตรีไทยและดนตรีร่วมสมัย และการสาธิตประดิษฐ์กระทง และ ดื่มด่ำกับบรรยากาศ ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง Street Art และ Street Performance อีกมากมาย

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร มีการเปิดสวนสาธารณะ 30 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ให้ประชาชนลอยกระทง โดยสำนักงานเขต ได้บูรณาการทำงานร่วมกับภาคประชาชนและเอกชน  ในการจัดงานเทศกาลลอยกระทงในพื้นที่ 50 เขต นอกจากนี้ยังได้เปิดสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร จำนวน 30 แห่ง เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปลอยกระทง จนถึงเวลา 24.00 น. และยังมีหน่วยงานอื่นๆ รวมถึงภาคเอกชนจัดงานเทศกาลลอยกระทง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่  งาน River Festival 2020  เทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย  “รื่นเริง แสงศิลป์”  ปีนี้จัดกิจกรรมในวันที่ 29-31 ตุลาคม 2563 ณ 10 ท่าน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ วัดโพธิ์ วัดอรุณฯ วัดระฆังฯ วัดกัลยาฯ วัดประยูรฯ ท่ามหาราช ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค ล้ง1919
สุขสยาม ณ ไอคอนสยาม และเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์  ใกล้ที่ไหน ไปร่วมกิจกรรมได้ที่นั่นเลย

GIT เปิดตัว เครื่องประดับเพื่อสุขภาพ ตอบโจทย์ความต้องการ เครื่องประดับที่มากกว่าความสวยงาม

กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เผยโฉมเครื่องประดับ ตอบโจทย์ทั้งทางด้านความสวยงามและทางด้านสุขภาพ พร้อมผลักดันอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย 


นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มอบนโยบายในปีงบประมาณ 2564 ให้สถาบัน เร่งผลักดันอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ในทุกมิติ อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน รวมทั้งกระตุ้นความต้องการในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค และการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ในฐานะการเป็นศูนย์กลางการค้าและการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลก ซึ่งโครงการเครื่องประดับเพื่อสุขภาพ ถือได้ว่าเป็น หนึ่งในโครงการที่ได้มอบหมายให้กับสถาบันบูรณาการร่วมกับสถาบันการศึกษา อย่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เพื่อนำงานวิจัยและเทคโนโลยีด้านสุขภาพ มาสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรมเครื่องประดับ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน  ทั้งยังเป็นการต่อยอดงานวิจัยให้สามารถนำมาพัฒนาในเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับอีกด้วย



นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย รองผู้อำนวยการสถาบัน รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ กล่าวว่า ในปี 2563 นานาประเทศทั่วโลก นี้ต้องประสบกับปัญหาวิกฤตไวรัสโควิด 19 และประเทศไทยเองยังเผชิญกับปัญหามลภาวะ PM 2.5 ที่ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพระยะยาว ซึ่งสภาวะเหล่านี้ ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายสินค้าเพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น ทางสถาบันจึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาเครื่องประดับสุขภาพ เพื่อพัฒนาสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับให้มีประโยชน์ใช้สอย มากกว่าเพื่อความสวยงาม เช่น เครื่องประดับเพื่อสุขภาพ เครื่องประดับเพื่อความทรงจำ เป็นต้น 



สถาบัน ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เพื่อนำงานนวัตกรรมที่น่าสนใจมาร่วมพัฒนา
และออกแบบร่วมกับ นักออกแบบเครื่องประดับและผู้ประกอบการ เป็นเครื่องประดับต้นแบบ โดยครั้งนี้
ได้นำเทคโนโลยีที่ใช้ในเครื่องกำจัดฝุ่น PM 2.5 เพื่อนำมาใช้เป็นองค์ประกอบของเครื่องประดับ โดยมีหลักการทำงานคล้ายเครื่องฟอก-อากาศ เพื่อดักจับอนุภาคของฝุ่น PM 2.5 ทำให้อนุภาคฝุ่นเป็นกลาง
หล่นลงสู่พื้น คงเหลือแต่อากาศที่สะอาดปราศจากฝุ่นควัน  กลับสู่ธรรมชาติ มีความปลอดภัยต่อมนุษย์
และสิ่งแวดล้อม และสามารถใช้งานได้จริง ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด โดยผลักดันจุดแข็งด้าน
งานวิจัยมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์การออกแบบ สร้างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ เป็นการสร้างคุณค่า และมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับให้มีคุณสมบัติที่เป็นมากกว่าเครื่องประดับทั่วไป
อีกทั้งยังได้มีการออกแบบเครื่องประดับเพื่อสุขภาพเพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ และ ช่วยในการเคลื่อนไหว อาทิ แหวนกันนิ้วล็อค และ เครื่องพยุงกล้ามเนื้อเพื่อช่วยในการเดิน เป็นต้น 



รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี โดยเทคโนธานี  มหาวิทยาลัยมีความยินดีที่ให้การสนับสนุนในด้านการประสานงานการปรับแปลงวงจรของเครื่องฟอกอากาศ โดยได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปสู่การผลิต ซึ่งเป็นภารกิจหนึ่งของมหาวิทยาลัย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ภาคเอกชน รวมทั้งผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันและขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดการพัฒนางานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมของตนเองอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนการนำผลงานวิจัยมาถ่ายทอดให้คำปรึกษาเชิงลึก พร้อมผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัยสิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมที่เกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยไปสู่การใช้ประโยชน์ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของสังคมและประเทศ ซึ่งการได้ร่วมมือกับ GIT ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ต่อยอดงานวิจัยให้เกิดผลผลิตที่แท้จริง”





นอกจากนี้ นายสุรศักดิ์ มณีเสถียรรัตนา หนึ่งในนักออกแบบ และ นักวิจัยอิสระ ที่ได้ร่วมออกแบบผลิตภัณฑ์ต้นแบบในโครงการ Beyond Jewelry ได้เสริมถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบว่า “แรงบันดาลใจในการออกแบบครั้งนี้ ถอดแบบจากการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ ที่ใช้หลักการของประจุบวก และ ประจุลบ (ION) ของน้ำ ซึ่งอยู่รอบตัวเรา มาเป็นแรงบันดาลในการออกแบบ สร้องคอ ต่างหู และสร้อยข้อมือ โดยใช้เทคนิคการออกแบบให้มีความน่าสนใจ โดย คอลเลคชั่น Water Harmony I ใช้เทคนิคความสมมาตรทั้งซ้าย และ ขวา ซึ่งส่งให้เครื่องกรองอากาศมีความโดดเด่น และเปล่งประกายดังอัญมณี ส่วน Water Harmony II ใช้แนวคิดของการออกแบบที่ไม่มีความสมมาตร มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน และใช้เทคนิคที่ชื่อ Slice & Lock เพื่อให้ผู้ใส่สนุกกับการสวมใส่เครื่องประดับมากขึ้น 

นอกจากนี้ GIT ยังมีผลงานที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมายที่พร้อมเผยโฉมและจะทำให้คุณมอง
เครื่องประดับเปลี่ยนไป 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
02 634 4999 ต่อ 635 - 642