เที่ยวทั่วไทย อร่อยทั่วโลก อัพเดทข่าวรายวัน Lifestyle บันเทิง ทันทุกกระแสข่าว!

29 ธันวาคม 2563

เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ร่วมกับ คณะแพทยศาตร์ศิริราชพยาบาล มหิดล จัดโครงการ “การให้..ไม่มีวันหมดอายุ”

ชวนคนไทยสมทบทุนสร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ จ.สมุทรสาคร 


ในปี 2565 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุประมาณ 13 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมดในประเทศ ซึ่งถือว่าประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็น “สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์” คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เล็งเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ จึงได้ริเริ่มแนวทางการดูแลผู้สูงอายุที่เรียก “เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ” ตั้งแต่ปี 2527 เป็นต้นมา เพื่อเตรียมพร้อมดูแลคนไทยในสังคมผู้สูงวัย จึงเป็นที่มาของการก่อสร้าง “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ” เพื่อเป็นต้นแบบการดูแลผู้สูงอายุขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด  ผู้บริหารท็อปส์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ แฟมิลี่มาร์ท ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จัดโครงการ “การให้..ไม่มีวันหมดอายุ” (Sharing Endless Happiness)  เชิญชวนร่วมบริจาคเพื่อสมทบทุนกองทุน “ศิริราชเพื่อผู้สูงวัย” สร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ  ร่วมบริจาคได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2564   



• กล่องบริจาคที่จุดบริการลูกค้า หรือ สแกน QR Code ผ่าน Mobile Banking ที่ท็อปส์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และแฟมิลี่มาร์ททุกสาขา  

• บริจาคผ่าน The 1 Application ทุก 200 คะแนน แทนเงินบริจาค 25 บาท   

• บัญชี ศิริราชมูลนิธิ ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 063-3-16546-7 หรือ
ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี  901-7-06044-4  

สำหรับศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราช กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเป็นประธาน กรรมการอำนวยการจัดหาทุน ทั้งนี้โครงการนี้จะเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการในปี 2565 โดยให้บริการผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน ตลอดจนการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพกายและใจของผู้สูงวัย พร้อมด้วยศูนย์วิจัย ศูนย์ฟื้นฟู เป็นแหล่งฝึกอบรมวิทยาการ ด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ
แก่บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย ผู้ดูแล และประชาชนทั่วไป

คอตโต้ แนะนำกระเบื้องไฮจีนิคเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ชุดเชอริช ซีรี่ย์ กระเบื้องที่ดีที่สุด สำหรับทุกคนในครอบครัว

หลังประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว กระเบื้อง Hygienic Tile (ไฮจีนิค ไทล์)  ที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติในการป้องกันและยับยั้งการเจริญเติบโตของ “เชื้อแบคทีเรีย” ที่ตอบโจทย์เรื่องสุขภาพและความสะอาด ( Health & Clean) จากคุณสมบัติของ Silver Nano ที่อยู่ในชั้นผิวของกระเบื้องจะช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียมากกว่า 90%   ที่ช่วยเพิ่มความห่วงใยและความปลอดภัยกับทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้น  ล่าสุด คอตโต้ โดยบริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน)  ปล่อยเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของกลุ่มกระเบื้อง Hygienic Tile   ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไม้สไตล์ American Rustic ผสมผสานสองเฉดสีในแผ่นเดียวกัน   ลวดลายไม้ในแต่ละแผ่นกระเบื้องเป็นแบบ Random Design ที่มีความแตกต่างกัน เสมือนลวดลายไม้ธรรมชาติจริง ๆ เชอริช ซีรี่ย์ (Cherish Series)  มีขนาดยาวถึง 20x120 ซม.ทำให้สวยสมจริงเสมือนแผ่นไม้ธรรมชาติ มีให้เลือก 2 สี  คือสีน้ำตาลและสีเบจ   เพื่อสร้างความหลากหลายให้งานดีไซน์ให้พื้นที่ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในครอบครัว ปลอดภัยจากเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็นเพิ่มมากขึ้น 

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถหารายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cotto.com/  หรือ  https://www.facebook.com/cottoofficial/ สนใจสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่ https:/www.cottolife.com/  และLine Official Account : @COTTOlife >> http://bit.ly/2D5BeJd  หากต้องการสัมผัสความสวย สะอาด เพื่อความมั่นใจได้ที่ COTTO Life  ชั้น 2   SCG Experience สาขา Crystal Design Center (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา)  โทร.02-586-2186 , 06-3906-7576  มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนพิเศษทุก ๆ วัน 

 

บูธโอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ ประเทศไทย คึกคัก! ดันยอดเจรจาจับคู่ธุรกิจทะลุเป้ากว่า 20 ล้าน ภายในงาน OTOP CITY 2020

บริษัท โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด  สุดปลื้มจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาทางธุรกิจ (Business Matching) เป็นปีที่ 2 ดันยอดทะลุเป้ากว่า 20 ล้านบาท ภายในงาน โอทอป ซิตี้ 
(OTOP CITY 2020)

นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ประธาน บริษัท โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  เป็นปีที่ 2 ที่ทางกรมพัฒนาชุมชนให้ความไว้วางใจมอบหมายให้บริษัท โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ (ประเทศไทย) ผู้ดำเนินการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาทางธุรกิจ (Business Matching) ภายในงาน โอทอป ซิตี้  (OTOP CITY 2020) ถึงแม้ว่ามีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเวลานี้ และสร้างความตระหนักให้กับผู้ประกอบการและผู้เข้าชมงาน แต่ตลอดระยะเวลาการจัดงานโอทอปซิตี้ (OTOP CITY 2020) มีผู้ซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้กลุ่มโมเดิร์นเทรด ร้านค้า ห้างร้าน และกลุ่มช้อปปิ้งออนไลน์ชั้นนำให้ความสนใจเข้ามาร่วมเจรจากับผู้ขายภายในบูธของ โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ ทำให้การซื้ออขายคึกคักดันยอดการเจรจาธุรกิจทะลุเป้ากว่า  20 ล้านบาท และสามารถผลักดันการจำหน่ายสินค้าโอทอปเติบโตตาม 

บริษัท โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ ประเทศไทย ทำหน้าที่รวบรวมสินค้า กระจายสินค้า กระตุ้นช่องทางการจำหน่ายเชื่อมโยงการตลาดเดิมรุกตลาดใหม่ให้กลุ่มผู้ผลิตสินค้าโอทอปทุกระดับอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ผลิตที่ไม่ถนัดเรื่องการตลาดสามารถเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น และยังสามารถพัฒนาคุณภาพสินค้าได้ดีขึ้น โดยในปัจจุบันได้ดำเนินการขับเคลื่อนผลักดันงานโอทอปในรูปแบบโอทอปโชว์ห่วยช่วยชุมชน โอทอปเทรดเดอร์แบรนด์ และ โอทอปเอ้าท์เลท

ทั้งนี้มีแผนที่จะสร้างโอทอปแฟรนไชส์ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กลุ่มผู้ประกอบการที่กำลังมองหาธุรกิจใหม่อีกด้วย



แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ คุมเข้มมาตรการอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัย ป้องกันไวรัสโควิด-19

แอร์พอร์ต เรล ลิงก์  คุมเข้มมาตรการอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัย รวมทั้งป้องกันไวรัสโควิด-19 ในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่  พร้อมปิดให้บริการตามเวลาปกติในคืนวันที่ 31 ธ.ค. และเตรียมมอบของขวัญจากกิจกรรมการตลาดสุดพิเศษให้แก่ผู้โดยสารในวันขึ้นปีใหม่ 1 ม.ค. 

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ คุมเข้มมาตรการอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยรวมทั้งป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ของผู้โดยสาร โดยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ลงพื้นที่เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการที่วางไว้อย่างเข้มงวด พร้อมแจกหน้ากากอนามัยให้แก่ผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า ส่วนในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ยังคงปิดให้บริการตามเวลาปกติ 24.00 น. ก่อนจัดกิจกรรมการตลาดมอบของของขวัญสุดพิเศษให้แก่ผู้โดยสารต้อนรับวันขึ้นปีใหม่ 



นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด  เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้วางมาตรการอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัย รวมทั้งป้องกันไวรัสโควิด-19 ในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2563 – 4 มกราคม 2564  นั้น ล่าสุดเพื่อเป็นการคุมเข้มมาตรการดังกล่าว และสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางให้แก่ผู้โดยสาร ในวันที่ 29 ธันวาคม 2563 จึงได้ลงพื้นที่ในระบบรถไฟฟ้าตรวจตราการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าปฏิบัติตามมาตรการที่บริษัทวางไว้อย่างเข้มงวด พร้อมกันนี้ได้แจกหน้ากากอนามัยให้แก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการอีกด้วย

ทั้งนี้ขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ใช้บริการรถไฟฟ้า และสแกน QR Code ไทยชนะบริเวณสถานีทุกครั้งในการใช้บริการ เพื่อเป็นประโยชน์ในการสอบสวนโรค รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ( Social Distancing ) ในขณะใช้บริการ และงดเว้นการพูดคุยภายในตู้โดยสาร เพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19





ส่วนในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นคืนส่งท้ายปีเก่านั้น บริษัทยังคงปิดบริการในเวลาปกติคือ 24.00 น. ก่อนที่ในวันที่ 1 มกราคม 2564 จะจัดกิจกรรมการตลาดสุดพิเศษทั้งในรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์ โดยกิจกรรมการตลาดแบบออฟไลน์ เตรียมมอบหน้ากากอนามัยแบบผ้าแทนความห่วงใย และที่รองแก้วลายรถไฟฟ้าสุดน่ารักตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป หรือจนกว่าของจะหมด ซึ่งผู้โดยสารสามารถติดต่อขอรับได้ที่ห้อง และเคาน์เตอร์ Information แอร์พอร์ต เรล  ลิงก์ สถานีพญาไท และแอร์พอร์ต เรล  ลิงก์ สถานีสุวรรณภูมิ  ส่วนกิจกรรมการตลาดแบบออนไลน์ เตรียมแจกฟรี ! กระเป๋าเป้ Airport Rail Link Travel Bag 2021 Limited Edition ที่กำลังโด่งดังในโลกออนไลน์ และมีผู้โดยสารถามหากันเข้ามามากในขณะนี้ โดยกติกาการร่วมสนุกสามารถติดตามได้ผ่านเฟสบุ๊ค Airport Rail Link ( Official Page )

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข Call Center 1690
หรือ www.srtet.co.th , www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link

พม.เปิดตัวโครงการ “UD จิตอาสาเพื่อคนพิการในระบบขนส่ง” ของขวัญปีใหม่แก่คนพิการ ปี 64

วันนี้ (29 ธ.ค. 63) เวลา 13.45 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว. พม.) มอบหมายให้ นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “UD จิตอาสาเพื่อคนพิการในระบบขนส่ง” ซึ่งเป็นการส่งมอบของขวัญปีใหม่ 2564 จากใจ กระทรวง พม. ให้แก่คนพิการ ด้วยการจัดบริการ "จิตอาสา" เพื่ออำนวยความสะดวกบริการให้แก่กลุ่มคนพิการ ผู้สูงอายุ และประชาชน ที่ต้องการความช่วยเหลือระหว่างการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่

โดยมีนางสาวอังคณา ใจกิจสุวรรณ รองปลัด พม. นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ รองปลัด พม. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวง พม. คนพิการ ผู้ดูแลคนพิการ ประชาชน และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าร่วมงาน ณ สถานีรถไฟหัวลําโพง กรุงเทพฯ





นางสาวสราญภัทร กล่าวว่า รัฐบาล โดย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้จัดเตรียมของขวัญปีใหม่ในปี 2564 ให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 8 ชิ้น ได้แก่ 1) โครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย “บ้านเคหะสุขประชา” โดยการสร้างบ้านเช่าราคาถูก สำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้บุกรุกในที่สาธารณะ ข้าราชการชั้นผู้น้อย หรือข้าราชการเกษียณอายุ และประชาชนผู้มีรายได้น้อย จำนวน 20,000 หน่วย ราคาเช่าหลังละ 999 ถึง 3,500 บาทต่อเดือน

2) 1300 ทั่วไทย สายด่วน พม. "สายด่วนสังคม สร้างความอุ่นใจ อยู่ใกล้ประชาชน" 3) พัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน 4) พม.สร้างอาชีพครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว จำนวน 1,000 ราย 5) รายการโทรทัศน์สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ

6) ร่วมสานพลังมอบของขวัญแด่น้อง จำนวน 6,464 ชิ้น 7) ปรับปรุง/ซ่อมแซมบ้าน สำหรับกลุ่มเปราะบาง จำนวน 25,064 หลัง

และ 8) จัดบริการ "จิตอาสา" เพื่ออำนวยความสะดวกบริการให้แก่กลุ่มคนพิการ ผู้สูงอายุ และประชาชน ที่ต้องการความช่วยเหลือระหว่างการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่


นางสาวสราญภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวันนี้ กระทรวง พม. โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) มีความมุ่งมั่นที่จะส่งความสุขมอบของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนพิการ โดยได้มอบของขวัญชิ้นที่ 8 ด้วยการเปิดตัวโครงการ “UD จิตอาสาเพื่อคนพิการในระบบขนส่ง” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสร้างเจตคติของจิตอาสา และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เชี่ยวชาญด้านคนพิการ (อพม. เชี่ยวชาญด้านคนพิการ) ในเรื่องการช่วยเหลือ ดูแลคนพิการ ผู้สูงอายุ ในช่วงการเดินทางเทศกาลปีใหม่ อีกทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์ให้คนพิการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะได้อย่างเท่าเทียม



ทั้งนี้ พก. ได้ดำเนินโครงการฯ ใน 2 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1) กิจกรรมอบรมให้ความรู้ให้กับจิตอาสา หรือ อพม.เชี่ยวชาญด้านคนพิการ จำนวน 300 คน และ 2) จัดเวรผลัดลงพื้นที่อำนวยความสะดวกและให้บริการช่วยเหลือ ดูแล ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ คนพิการ เด็ก และผู้สูงอายุให้เที่ยวปีใหม่ สบายใจ ปลอดภัย โดยให้บริการระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ถึง 3 มกราคม 2564 รวมทั้งสิ้น 6 วัน ณ สถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต (จตุจักร) และสถานีขนส่งผู้โดยสาร (เอกมัย)



โดยแบ่งออกเป็น 3 ผลัด คือ ผลัดที่ 1 เวลา 05.00 - 11.00 น. ผลัดที่ 2 เวลา 11.00 - 17.00 น. และ ผลัดที่ 3 เวลา 17.00 - 21.00 น. ทั้งนี้ จะมีการมอบหน้ากากอนามัย การ์ดเบอร์ฉุกเฉิน พร้อมให้บริการคนพิการทั้ง 3 สถานีขนส่งด้วย เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นอกจากนี้หลังพิธีเปิดโครงการ “UD จิตอาสาเพื่อคนพิการในระบบขนส่ง” เจ้าหน้าที่กระทรวงพม.ได้พบ แม่ลูกนั่งรอขึ้นรถไฟ หลังจากการสอบถามพบว่าไม่มีเงินซื้อตั๋วโดยสารเพื่อกลับบ้าน ทางทีมพม.จึงประสานศูนย์ช่วยสังคม 1300 ให้ความช่วยเหลือ โดยรับตัวมาที่กระทรวงพม.และทำการประสานญาติที่จังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากนั้นได้นำส่งที่สถานีรถไฟหัวลำโพงเพื่อซื้อตั๋วรถไฟส่งกลับภูมิลำเนาและประสานให้ทีมพมจ.บุรีรัมย์ติดต่อเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป 







28 ธันวาคม 2563

แวะโรงแรม (ไม่) ลับ

แล้วคุณจะหลงรัก เอนกาย...ที่สุโขทัย

        สุโขทัย..เมืองมรดกโลกที่หลายคนหลงรัก ในวันนี้มนต์เสน่ห์เหล่านั้นยังคงไม่จางหาย กลับมาสุโขทัยครั้งนี้หลายอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา สุโขทัยดูคึกคักจอแจขึ้นหลายอย่างเกิดขึ้นที่นี่จนอดห่วงไม่ได้ว่า..สักวันเมืองโบราณมรดกโลกแห่งนี้จะถูกอารยะธรรมสมัยใหม่มาบดบังไปตามยุคเหมือนเมืองน่าเที่ยวหลายๆที่อย่างน่าเสียดาย

        แต่ดีที่ว่าคนสุโขทัยเองก็พยามรักษาความเป็นวัฒนธรรมของเมืองเก่าไว้ได้เป็นอย่างดี เราจึงแทบไม่เห็นสิ่งปลูกสร้าง ร้านรวงแบบสมัยใหม่ให้ขุ่นเคือง ดังนั้นสิ่งก่อสร้างที่เกิดขึ้นใหม่ๆก็ยังคงแฝงความเป็นสุโขทัยอย่างลงตัว การกลับมาครั้งนี้เราถูกแนะนำที่พักใหม่ โรงแรมพิมพ์นิยมประเภทบูทีคและHostelที่ดูจะเหมือนๆกันแทบจะทุกที่ทั่วประเทศซึ่งเราก็ทำใจมาแล้วประมาณนึง..แต่ด้วยการไม่ชอบความจำเจเลยรับคำจากเพื่อนคนที่แนะนำที่พัก…..




 เอนกาย บูทึค โฮเทล ที่เราพูดถึงเกิดขึ้นจากเรี่ยวแรงของสองหนุ่มรุ่นใหม่ คุณเป้-คุณโป๋คน’โขทัยโดยแท้ ตัวโรงแรมไม่เล็กไม่ใหญ่แถมอยู่ไม่ไกลจากตลาดสดในตัวเมืองสุโขทัย ซึ่งที่พักถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ประมาณว่าในส่วนของด้านหน้าเป็นส่วนเช็คอินน์และมีที่พักแบบบ้านเรือนไม้ที่มีต้นไม้ร่มรื่น ทำให้นึกถึงบรรยากาศเหมือนกับการมาพักบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัดยังไงยังงั้นเลยที่เดียวและจากส่วนนี้เลยไปขอยกให้เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย เพราะเลยมาอีกนิดจะเป็นส่วนของเฟสใหม่ เป็นอาคารสองชั้นรายล้อมด้วยรั้วต้นไม้และมีสระว่ายน้ำอยู่ด้านใน แบ่งฟังชั่นดูเป็นส่วนตัวอย่างเหลือเชื่อ….รึว่านี่จะเป็นโรงแรมลับอีกแห่งซึ่งน่าสนใจขึ้นมาแล้วล่ะ



        เอนกาย บูทึค โฮเทล ไม่ใช่โรงแรมลับอย่างที่พูดมา หากเป็นที่พักเพื่อรับรองลูกค้าทุกรูปแบบที่
จะมาเข้าพัก ตั้งแต่มาคนเดียวแบกเป้ตะลอนเที่ยวหรือจะมาเป็นคู่จนถึงครอบครัวกระทั่งมาเป็นกลุ่ม เพราะประเภทของห้องพักที่นี่มีตั้งแต่ ห้องเตียงสองชั้นห้องน้ำรวมราคาประหยัด หรือแบบส่วนตัวแบบห้องสุพีเรียหลายขนาดหรือห้องสูทแบบครอบครัวพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในห้องพักครบครัน



        ความรู้สึกเรื่องโอสเตลพิมพ์นิยมที่อยู่ในหัวเราถูกลบไปจนหมดเพราะห้องที่นี่ถูกตกแต่งให้ไม่เหมือนกันเลย 10 ห้อง 10 แบบชนิดที่มาพักได้ไม่มีเบื่อกันเลยที่เดียว ส่วน facilities ก็มีทั้งห้องฟิตเนตขนาดมาตรฐาน,พื้นที่จอดรถ,สระว่ายน้ำ,Free wifi,ร้านกาแฟและห้องอาหารที่บริการอาหารเช้าด้วยอาหารท้องถิ่นและบุฟเฟ่ต์แบบสากล

        “เอนกาย บูทึค โฮเทล”นอกเหนือจากไฮไลท์ที่พูดไปแล้ว ที่นียังมีบริการบ่อแช่น้ำแร่ร้อนออนเซน(onsen)ตำรับญี่ปุ่นแท้ โดยจะแยกชาย-หญิงชัดเจน เราสามารถอยู่ได้ทั้งวันโดยการเข้าใช้บริการผู้ชายไม่อนุญาตให้ใส่เครื่องนุ่งห่มใดๆ ส่วนผู้หญิงมีชุดชั้นใน(บางๆ)ให้สวมใส่ได้ หากว่าใครสามารถเปลือยผ้าได้อย่างไม่เขินอายแล้วนั้นก็อาบน้ำให้สะอาดก่อนแล้วลงแช่ในบ่อได้เลย

        








สำหรับค่าบริการนั้นถ้าเป็นแขกของโรงแรมสามารถเข้าใช้บริการทุกอย่างได้เลยโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ส่วนคนนอกก็สามารถมาใช้บริการได้เช่นกัน(มีค่าบริการกรุณาสอบถาม)ตรงคอนเซ็ปชื่อเอนกายโดยแท้จริง..  มาเยือนสุโขทัยคราวหน้าแพลนทริปให้พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการมาแวะเอนกายพักแล้วคุณจะหลงรัก“เอนกาย บูทึค โฮเทล” แลมนต์ขลังของ..รุ่งอรุณแห่งความสุขของเมืองสุโขทัย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม-สำรองห้องพักได้ที่ :
เอนกาย บูทึค โฮเทล (AEN GUY BOUTIQUE HOTEL)

ถ.จรดวิถีถ่อง อ.เมือง จ.สุโขทัย 64000
โทร : 096 365 9356, 055 016553
อีเมล์ : aenguy2015@gmail.com
www.aenguyboutiquehotel.com

ขอบคุณข้อมูลโดย.. #ปุ๊กกี้หนีเที่ยว
#aenguyboutiquehotel #ปุ๊กกี้หนีเที่ยว #sukhothai #toptotravel