เที่ยวทั่วไทย อร่อยทั่วโลก อัพเดทข่าวรายวัน Lifestyle บันเทิง ทันทุกกระแสข่าว!

31 กรกฎาคม 2567

ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค จัดงาน “รวมพล คนสายมู 2024”

ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ องค์กรส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และชมรมปันน้ำใจ อุ่นไอรัก จัดงาน “รวมพล คนสายมู 2024” 

เมื่อวันที่ 26 - 27 กรกฎาคม 2567  ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ องค์กรส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และชมรมปันน้ำใจ อุ่นไอรัก จัดงาน “รวมพล คนสายมู 2024”  ขึ้น ณ ลานรอยัลพาร์ค พลาซ่า ชั้น 1 ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค  

คุณกฤต สุวรรณวิไลกุล ประธานองค์กรส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ประธานจัดงาน  ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานนี้ขึ้นเพื่อเป็นการยกระดับของบุคคล องค์กร ในสายมูเตลู  อีกทั้งหน่วยงานภาครัฐ  ได้มีการส่งเสริมและสนับสนุน  ซอล์ฟ เพาเวอร์  ในประเทศไทย  ความเป็นไทย วัฒนธรรมไทย ตลอดจน ความเชื่อ ความศรัทธา ในทุกภูมิภาค ของประเทศไทย ให้คงอยู่สืบไป  และเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยกระดับ “มูเตลู”  ของไทย ให้เป็นที่รู้จัก  โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นจาก พลังมูเตลู ที่จะสร้างรายได้ให้เข้าประเทศ และให้กับชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนในทุกภูมิภาคของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก 



และในวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2567 เวลา 14.00 น. ได้มีพิธีมอบโล่ห์รางวัล  “มูเตลู  ไทยแลนด์ 2024”  โดย คุณพลอย ธนิกุล รัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม ประธานในพิธี เป็นผู้มอบรางวัล  โดยมี คุณจรูญรัตน์ สาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท พาราไดซ์ พาร์ค จำกัด  คุณศตกมล วรกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร  บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)  คุณชดา  บูรณะพิมพ์  และคุณรุ่งนภา  ปักษี  ผู้บริหารบริษัท  9 หน้าดี  ร่วมให้การต้อนรับ 





ทั้งนี้ ทุกท่านที่ผ่านการคัดเลือก และพิจารณาตัดสินให้ได้รับโล่ห์รางวัลนั้น เป็นที่เลื่อมใส ศรัทธา มีผลงานประจักษ์ เป็นที่ยอมรับในสังคม  โดยมีผู้ผ่านการคัดเลือกทั้งสิ้นจำนวน 12 ท่าน  ดังนี้  อาจารย์คฑา  ชินบัญชร  สาขารางวัล ส่งเสริมศาสตร์พยากรณ์ดีเด่น  อาจารย์มงคล  รอดเที่ยงธรรม สาขารางวัล โหราพยากรณ์ดีเด่น   คุณยุวดี เรืองฉาย (ปู โลกเบี้ยว) สาขารางวัล ดาราดีเจนักพยากรณ์ยอดนิยม  ว่าที่ร้อยตรีชนากรณ์  แสงศรี (อ.ยอด)  สาขารางวัล นักออกแบบเครื่องประดับมงคลสายมูดีเด่นอาจารย์นฤพนธ์  สอนศรี (อ.ตู้)  สาขารางวัล นักพยากรณ์รุ่นใหม่ดีเด่น  อาจารย์ธาราพิยุทธ  บูรณะพิมพ์สาขารางวัล ซินแสฮวงจุ้ยดีเด่น  คุณวลาสุระ ณ ลำปาง (เชฟซีตรอง) สาขารางวัล เชฟสายมูกูรูประวัติศาสตร์อาหารไทย  คุณชุลีวรรณ  อัศววิทูรทิพย   สาขารางวัล นักเขียนสักลายสายมูดีเด่น  คุณเบญญาภา  บุญวัฒนสิทธิ  สาขารางวัล บริษัททัวร์สายมูดีเด่น  อาจารย์วัจกร ฌาณพรหมเนศ  สาขารางวัล โหราพยากรณ์ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์พม่าและไทย  คุณจิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา สาขารางวัล ดารานักพยากรณ์สายมูดีเด่น  อาจารย์พิทักษ์  โค้ววันชัย  สาขารางวัล ส่งเสริมและเผยแพร่ศาสนาฮินดูดีเด่น






ภายในงานยังได้พบกับอาจารย์ชื่อดัง วิทยากรสายมูชั้นนำ ตลอดจนคนบันเทิงสายมู รวมทั้งช้อปสินค้าเสริมดวง เสริมชีวิตปังอย่างจุใจ อีกทั้งศาสตร์ Tattoo เสริมดวง ศาสตร์ตัวเลข กิจกรรมเสริมดวง เสริมสิริมงคล บูชาองค์เทพ และบริษัททัวร์สายมู  ขนมมงคล เป็นต้น เรียกว่ารวมความปังไว้งานนี้ในที่เดียว ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน  และโดยเฉพาะแฟนคลับของโหราพยากรณ์ในศาสตร์ต่าง ๆ ที่มาให้กำลังใจกันอย่างคับคั่ง




มีบทเพลงในตำนานมาขับกล่อมให้ความเพลิดเพลิน โดยนักร้องเพลงดังในอดีต อาทิเช่น คุณสุนทรีย์ จวบสมัย แชมป์นักร้องชนะเลิศประเทศไทย สยามกลการ ปี 2526 เพลงไทยสากล  คุณอัญญ่า  อดีตศิลปิน RS คุณจรวยพร  จิตรีญาติ  และว่าที่ร้อยตรี ชนากรณ์ แสงศรี  สะกดผู้ฟังในงานให้เคลิบเคลิ้มไปกับเพลงดังในอดีต สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้ร่วมในงานอย่างอบอุ่นเป็นกันเองอีกด้วย

#พาราไดซ์พาร์ค

#องค์กรส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

#บริษัท9หน้าดีจำกัด

#รวมพลคนสายมู2024

#มูเตลูไทยแลนด์2024

30 กรกฎาคม 2567

กองทุนสื่อฯ เปิดตัวโครงการ”ไทยแลนด์ ลองสเตย์” ภาพยนตร์สารคดีพหุวัฒนธรรม

นิทรรศการภาพถ่าย และพิธีมอบรางวัลการประกวดภาพถ่ายและคลิป MV 

(25 ก.ค. 2567) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ นางภัคนันท์ ธนาศรม หัวหน้าโครงการไทยแลนด์ ลองสเตย์ จัดงานเปิดตัว “โครงการไทยแลนด์ ลองสเตย์” โครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประจำปี 2566 ผลิตภาพยนตร์สารคดี เพื่อสื่อสารให้ประชาชนได้เข้าใจและเห็นคุณค่าของพหุวัฒนธรรม ณ บริเวณลานหน้าห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 มิวเซียมสยาม

โครงการไทยแลนด์ ลองสเตย์ ผลิตสารคดีพหุวัฒนธรรม จำนวน 12 ตอน ความยาวตอนละ 25 นาที จะออกอากาศทาง ALTV และ ViPA เพื่อสื่อสารให้ประชาชนได้เข้าใจและเห็นคุณค่าของพหุวัฒนธรรม 

โดยได้รับเกียรติจากสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (พชร.) หรือมิวเซียมสยาม เป็นพันธมิตรสนับสนุนสถานที่จัดงาน ภายในงานมีการเปิดนิทรรศการภาพถ่าย และพิธีมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดภาพถ่าย

พหุวัฒนธรรมในมุมมองของฉัน  และการประกวดคลิปสั้น ในหัวข้อ “พหุวัฒนธรรมในมุมมองของฉันประกอบเพลงไทยแลนด์ลองสเตย์” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสื่อสารให้ประชาชน ได้เข้าใจและเห็นคุณค่าของพหุวัฒนธรรม อันจะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติวิธี บนวิถีแห่งพหุวัฒนธรรม รวมถึงยังเป็นการส่งเสริมเอกลักษณ์ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม เสริมสร้างความสมานฉันท์ในสังคม


ช่วงท้ายมีการจัด เวทีเสวนา ในหัวข้อ “ไทยแลนด์ ลองสเตย์” ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญและประสบการณ์ในหลากหลายมิติของพหุวัฒนธรรม ได้แก่ คุณพงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ศิลปินศิลปาธร ผู้ประพันธ์เพลง, คุณภัคนันท์ แสงขำ ธนาศรม หัวหน้าโครงการไทยแลนด์ ลองสเตย์, Mr. Wim J F Simons แขกรับเชิญจากรายการ, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรัญญ์ทิตา ชนะชัยภูวพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาสื่อสำหรับเด็กและเยาวชน กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และนายอภินันท์ บัวหภักดี ช่างภาพอาวุโสอิสระ อดีตบรรณาธิการอนุสาร อ.ส.ท. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นกรรมการตัดสินภาพถ่าย

พิธีมอบรางวัลผู้ชนะ การประกวดคลิปประกอบเพลงฯ จำนวน 5 รางวัล ได้แก่ 

1. คลิปขอเป็นคนไทยด้วยคน โดย มร.โรเมล คารัมเบล

2. คลิป WONDERFUL THAILAND โดย คุณประสงศ์ กรรโมทาร

3. คลิป DIVERSITY OF OUR COUNTRY โดย คุณศรายุทธ สุดราม

4. คลิปสองล้อส่องพหุวัฒนธรรม โดย คุณณัฐวุฒิ แสงตรง 

และรางวัล POPULAR VOTE TikTok และ Facebook VOTE สูงสุดได้แก่ ลอยอยู่แล  โดยคุณภาคิณ ผู้กำจัด

รางวัลผู้ชนะ การประกวดภาพถ่าย จำนวน 5 รางวัล ได้แก่ 

1. ภาพบันทึกพุทธศิลป์ โดย คุณจิตรกร เขียวสะอาด

2. ภาพตักบาตรบนหลังช้าง โดยคุณโกวิท พลาศรี

3. ภาพแห่งดาวเทศกาลคริสต์มาส โดย คุณเอนกพงศ์ สงสกุล

4. ภาพตักบาตรพระร้อยทางเรือ โดย คุณศักดิ์นิรันด์  คุ้มเมือง 

5. ภาพนวราตรี ณ วัดแขก โดย คุณหทัยชนก โล่สุนทรชัย 

สำหรับ นิทรรศการภาพถ่าย บอกเล่าเรื่องราว “พหุวัฒนธรรมในมุมมองของฉัน” นำภาพที่ได้รับรางวัลมาจัดแสดง และยังมีภาพจากช่างภาพชั้นแนวหน้าของประเทศไทย คุณอภินันท์ บัวหภักดี อดีดบรรณาธิการอนุสาร อ.ส.ท. แชมป์การประกวดภาพข่าวอาเซียน และคุณจิระพงษ์ วงศ์วิวัฒน์ ศิลปินนักถ่ายภาพไทยประจำปี 2559 และแชมป์รายการ One pic big dream season 1 ให้เกียรติร่วมจัดแสดงภาพในครั้งนี้ เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนผู้สนใจได้ชม โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ณ บริเวณลานหน้าห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 มิวเซียมสยาม ระหว่างวันที่ 25 – 30 กรกฎาคม 2567 

โครงการไทยแลนด์ ลองสเตย์ ขอเชิญชวน ประชาชนทั่วไป และผู้สนใจ ชมนิทรรศการภาพถ่าย ที่มิวเซียมสยาม และสามารถติดตามกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งคลิปสั้น และภาพถ่าย ของผู้ส่งเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ได้ที่สื่อ Facebook : Thailand longstay

ปักหมุด 6 แหล่ง เที่ยวฟิน กินพัก ทะลุหมอก @เขาค้อ เพชรบูรณ์


ฝนฉ่ำยามนี้  วันนี้พาทุกคนไปเที่ยวตามล่าหมอกที่เขาค้อด้วยกัน สดชื่นหน้าฝน สัมผัสความเขียวขจีและสายหมอกปะทะ อัพเดทที่เที่ยวเขาค้อ 2567 กับจุดเช็คอินน่าแวะ ทั้งที่เที่ยว คาเฟ่  ร้านอาหาร ที่พัก จัดให้แบบเต็มหลายคนอาจอยู่ในช่วงระหว่างการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว แต่สำหรับ Toptotravel การเดินทางเก็บภาพบรรยากาศท่องเที่ยวในที่ต่างๆ ทั่วประเทศไม่ใช่อุปสรรค เพราะนั่นทำให้เราเห็นความงดงามของธรรมชาติที่รังสรรปั้นแต่งจนเกินห้ามใจ สำหรับทริปนี้เราเลือกไปแหล่งที่มีชื่อเสียงเรื่องสายหมอกยามหลังฝนพรำ “เขาค้อ” จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่เราคัดสรรสถานที่มาให้ได้ตามรอยกัน ในแบบ เที่ยว กิน ฟิน พัก @ เขาค้อ  ตามไปชมด้วยกันนะคะ






จุดที่แรก ม่อนแกะเขาค้อ 
ม่อนแกะ เขาค้อ เปิดอย่างเป็นทางการเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แกะที่นี่สายพันธุ์คอร์ริเดลและสายพันธุ์
เมอริโนนำเข้าจากออสเตรเลียทั้งหมด แกะพันธ์ขนมีทั้งหมด 78 ตัว นำเข้ามาแล้วมาคลอดลูกที่นี่ 8 ตัว บนพื้นที่ 40 ไร่ เข้ามาจะมีคาเฟ่ให้บริการนักท่องเที่ยวสามารถนำบัตรค่าเข้ามาเป็นส่วนลดได้ 20 บาท




คุณเอกลักษณ์ จิระพาณิชย์ เจ้าของฟาร์ม “ม่อนแกะเขาค้อ” และ”ม่อนอาปาก้า”เชียงใหม่ ชาวเขาเผ่าม้งที่เติบโตจากตำบลบางหินฝน อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อสี่สิบกว่าปีก่อนครอบครัวของเขาและครอบครัวชาวเผ่าม้งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 พระราชทาน แกะสายพันธุ์ “คอร์ริเดลและสายพันธ์เมอริโน” ครอบครัวละ 1 คู่ เพื่อส่งเสริมให้ชาวเขาได้เลี้ยงเพราะมีภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็น

เอกลักษณ์ จิระพาณิชย์ เจ้าของฟาร์ม  เจ้าของฟาร์มรักแกะมาก เล่าว่า สมัยเด็ก ผมยังจำได้ ยังได้เล่นได้เห็นแกะ แต่ความที่ไม่เชี่ยวชาญการเลี้ยงจึงตายไป ส่วนครอบครัวอื่นก็มีทางรัฐได้นำกลับไปดูแล จนผมเรียนจบจากม.ราชภัฎฯเมื่อสิบปีก่อน ผมกลับบ้านไปเลี้ยงวัวและได้คุยกับพ่อ เราระลึกพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านนึกถึงแกะที่พระองค์ท่านพระราชทาน จึงอยากเริ่มพลิกฟื้นการเลี้ยงแกะสายพันธุ์พระราชทานขึ้นอีกครั้ง เริ่มไปดูสถานที่ต่างๆ ที่ไหนมีเลี้ยง มีเพาะพันธุ์ ก็ไปหาข้อมูลสายพันธุ์คอร์ริเดลและเมอริโน่อีกครั้ง  หลังจากนั้นจึงนำเข้ามาจากออสเตรเลีย เกิดเป็นฟาร์มแกะที่อำเภอแม่แจ่ม ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ม่อนอาปาก้า ลองผิดลองถูกและเลี้ยงด้วยความรักและใส่ใจอย่างเต็มที่  



สำหรับที่ม่อนแกะเขาค้อ แห่งนี้ ด้วยเพราะสภาพภูมิอากาศไม่ต่างจากเชียงใหม่ คิดว่าน่าจะเหมาะจึงนำเข้ามาจากออสเตรเลียใหม่ ไม่ได้นำมาจากเชียงใหม่ ตอนนี้สายพันธุ์นี้ก็เจริญเติบโตผสมพันธ์เองด้วย และวางแผนกับปศุสัตว์เขาค้อเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ของเขาค้อเอง เป็นสายพันธุ์ขน โดยให้ผสมกันสองสายพันธุ์ ระหว่างคอริเดลและเมอริโน่ พัฒนาเป็นรุ่นลูกซึ่งจะทนต่อสภาพอากาศ และนำลูกที่คลอดในบ้านของเราไปพัฒนาต่อการดูว่า สายพันธุ์ไหน เป็นสายพันธุ์อะไร คุณเอกลักษณ์ เล่าต่อว่า “พันธุ์เมอริโน่
ตัวใหญ่และยาวกว่า หนากว่า โครงหน้าจะเล็กและเรียวกว่า “คอร์ริเดล” จะป้อมหน้าสั้นกว่า และขนจะมากกว่า การเลี้ยงต้องระวังเรื่องแมลง ตัวเหลือบสำคัญมากหากเกิดอาการแพ้ ส่วนแดดก็ต้องระวัง ที่เขาค้อมีแพ้แดด  หากแพ้แดดต้องเข้าห้องมืด บางตัวรุนแรงจะออกแดดไม่ได้เลย ออกได้แค่ช่วงเช้าและช่วงเย็นนั้น 

ความที่แกะที่นี่อาบน้ำทุก 2 อาทิตย์ เราจึงเห็นขนแกะพองฟู ขาวสะอาดสะอ้าน และด้วยเพราะเพิ่งจะเริ่มเปิด จึงยังไม่มีการนำขนไปทำผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อยู่ในระหว่างคุยกับชุมชน อนาคตจะทำเป็นผ้าทอจากขนแกะ และนอกจากโซนคาเฟ่ ที่บริการ กาแฟ ขนม เบเกอรี่ต่างๆ แล้ว เขาเตรียมการจัดสร้างเรือนดอกไม้จริงขึ้นในบริเวณกลางเนิน

ค่าเข้าชมฟาร์ม ผู้ใหญ่ 100 บาท (นำไปเป็นส่วนลดค่าเครื่องดื่มได้ 20 บาท)
เด็ก 40 บาท  (ส่วนสูงต่ำกว่า 110 cm. เข้าชมฟรี)
เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์ -พฤหัสบดี 07.30 -17.30 น. ศุกร์ - อาทิตย์    07.30 - 18.00 น
.

แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/RDWJvfbpiYp3zA7PA 
เพจ FB : ม่อนแกะ เขาค้อ สอบถามเพิ่มเติม โทร  064 9714343 คุณบี


รีวิว : ม่อนแกะ เขาค้อ เที่ยว เขาค้อ บรรยากาศปัง ถ่ายรูปสวย
https://www.toptotravelvariety.com/2024/07/blog-post_29.html

#ม่อนแกะเขาค้อ #ฟาร์มแกะเขาค้อ #ท่องเที่ยวเพชรบูรณ์
#ทะเลมอกเขาค้อ #กันหันลมเข้าค้อ #ที่พักเขาค้อเพชรบูรณ์
#ท่องเที่ยวธรรมชาติ #ท่องเที่ยวภูทับเบิกเขาค้อ

จุดที่ 2. ร้านอาหารมัสเต เขาค้อ 
มาถึงเรื่องกินกันบ้าง ทริปนี้เราแนะนำร้านเจ๋งๆ ให้เลือก เริ่มกันที่  นมัสเต เขาค้อ  ทีมงาน  ได้พบกับ
คุณนที เจ้าของร้าน  ที่เคยทำงานด้านออกาไนซ์อยู่กรุงเทพฯ จนมารับงานที่เขาค้อ ออกแบบสถานที่เครื่องเล่นต่างๆให้จังหวัดนี้ เดินทางมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่นาน จนกระทั่งพบรักกับสาวเจ้าถิ่น แต่งงานและลงหลักปักฐานที่นี่ ด้วยเพราะชาวมุสลิมจะสืบทอดการทำอาหารกันมารุ่นต่อรุ่น เมื่อเริ่มคิดทำธุรกิจ จึงเริ่มนำอาหารรสชาติดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาให้ทุกคนได้ชิม โดยเปิดเป็นร้านอาหาร นมัสเต เขาค้อ เมื่อหกปีก่อน 





ร้าน นมัสเตเขาค้อ เปิดให้บริการอาหารไทยฮาลาล และอาหารมุสลิมสไตล์อินเดีย เมนูหลากหลายเมนู อาทิ ซาโมซ่า, ปานีปูริ, ข้าวหมกไก่บาสมาตี, แกงกะหรี่, โรตีปาราต้า, ชานมอินเดีย ฯลฯ และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับชาวไทยพุทธที่ไม่คุ้นชินกับอาหารไทยฮาลาลหรืออาหารมุสลิมสไตล์อินเดีย บอกเลย
ว่า ชิมมาแล้ว อาหารเมนูดั้งเดิมแต่รสชาติปรุงแต่งให้ทานง่าย กลิ่นเครื่องเทศไม่รุนแรง อร่อยมาก  กลับไปอีกครั้งจะไม่ลืมไปแวะอีกแน่นอน 

ร้านเปิดตั้งแต่ เวลา 10.00 - 19.00 น.|
พิกัดร้าน https://goo.gl/maps/bhA4LCPQUsiVBT9d6

สำรองที่นั่งหรือสั่งอาหารล่วงหน้า โทร 0845756390 และ 0898949211 
รีวิว :  ร้าน​นมัสเต : ความอร่อยตำรับอาหารฮาลาล

https://www.toptotravelvariety.com/2024/07/blog-post_23.html

#นมัสเตเขาค้อ #NamasteKhaokho


จุดที่ 3. Uncle Tom’s Pizzeria @ khao kho 
ถัดมาเป็น “ร้านพิซซ่าของลุงทอม” บริหารโดยคุณต่อและมาดามถิง เป็น ร้านพิซซ่าเตาถ่านสูตรต้นตำรับ เป็นพิซซ่าสไตล์อิตาเลียนแท้ ร้านเก่าแก่ที่เปิดมา 8 ปี แล้ว ร้านนี้ตั้งอยู่ด้านหลังองค์พระใหญ่สีขาว
วัดผาซ่อนแก้ว อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ การปรับปรุงใหม่ ให้สดใสไฉไลกว่าเดิมทั้งบรรยากาศ
ร้านและเพิ่มเมนูพิซซ่าที่ปรับซอสให้มีรสชาติที่คนไทยชื่นชอบมากขึ้น  ล่าสุดยังเพิ่มหน้าพิซซ่าที่หลากหลายขึ้น เช่น พิซซ่าหน้าอโวคาโด ที่อยากให้ลิ้มลอง แต่ขณะเดียวกันพิซซ่าดั้งเดิมอิตาเลียนแท้ก็ยัง
มีให้บริการ





นอกจากนี้  ที่น้านยังมีเมนูที่น่าสนใจอีกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ผัดไทยโบราณเมืองเพชร หมูกระทะร้อน สปาเก็ตตี้ผัดฉ่าทะเลรสชาติจัดจ้าน ด้วยบรรยากาศที่หนาวเย็นตลอดปีของเขาค้อ แม้จะเป็นหน้าร้อนช่วงกลางวันหากอยู่ในที่ร่มอากาศก็เย็นสบาย ส่วนกลางคืนยังคงมีอากาศหนาวเย็น และโดยเฉพาะช่วงฤดูฝน จะงดงามด้วยสายหมอก ที่มีให้สัมผัสได้เกือบตลอดทั้งวัน เรียกว่า มาแล้วไม่ผิดหวังทั้งเมนูอาหารและบรรยากาศสุดอลัง ที่สำคัญ หากเข้ามาเช็คอินที่ร้านได้รับน้ำอัญชัญมะนาวฟรีหนึ่งแก้ว และถ้าแจ้งว่ามา
จาก toptotravelvariety รับสิทธิพิเศษส่วนลด 10%  ไปเลยค่ะ



ร้านพิซซ่าของลุงทอม ณ ผาซ่อนแก้ว Uncle Tom's Pizzeria At PhaSornKeaw มีบริการทั้งแบบมานั่ง
ทานที่ร้าน ชมวิวผาซ่อนแก้ว และ บริการจัดส่งถึงบ้านและรีสอร์ต ด้วยบริการ Uncle Tom’s Pizzeria Delivery  เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 9.00- 18.00 น. (ส.อ.และวันนักขัตฤกษ์) 
เปิดตั้งแต่ 9.00 – 20.00 น.

Uncle Tom's Pizzeria At PhaSornKeaw
http://www.uncletomspizzeria.com/

Facebook/UncleTom’sPizzeria 
โทร. 094 4945697 



รีวิว : Uncle Tom’s Pizzeria ร้านพิซซ่าของลุงทอม ณ ผาซ่อนแก้ว
https://www.toptotravelvariety.com/2024/07/uncle-toms-pizzeria.html

#พิซซ่าของลุงทอม #uncletom’spizzeria #khaokho #เขาค้อ


4. โบราณนิยม เขาค้อ สเต็กเฮ้าส์แอนด์เรสเตอรองค์
มาถึงร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังไกลไปทั้งหมู่คนไทยและทั่วโลก อย่าง โบราณนิยม เขาค้อ สเต็กเฮ้าส์แอนด์เรสเตอรองท์ ปัจจุบันมีเมนูอาหารไทย จีน ฝรั่งกว่าสองร้อยรายการ โดยเชฟตวง เป็น เจ้าของ
และเป็นเอ็กเซ็กคลูทีฟเชฟ ผู้ควบคุมทุกอย่างในร้านแห่งนี้ เปิดมาได้เก้าปีแล้ว ลูกค้าติดรสมือ ทั้งลูกค้าไทยและต่างประเทศ จีนโพ้นทะเล ไต้หวัน ฮ่องกง นิยมอินโฟนมาที่ร้านทุกวัน จนมีวันนี้ โบราณนิยมขึ้นสู่ปีที่เก้า   
       

เชฟตวง บอกว่า  นำเสนอเมนูอาหารจากความทรงจำที่คุณยายกิน ไม่อยากให้เมนูหลายๆอย่างตายไปกับคุณยายและอยากอนุรักษ์เมนูต่าง ๆ ที่ยายทำเอาไว้ในโลกนี้ต่อไป ร้านจะมีการปรับเมนูใหม่ทุกปีเพื่อไม่ให้ซ้ำซากจำเจ โดยผมเป็นคนครีเอทอาหารเอง ด้านวัตถุดิบที่เชื่อมโยงกับเขาค้อ เชฟตวงบอกว่า วัตถุดิบโดยเฉพาะพืชผักสด ใช้จากเขาค้อเป็นหลัก เพราะอยากอุดหนุนเกษตรกรและพ่อค้าแม่ค้าบนพื้นที่เขาค้อ รถพุ่มพวงต่างๆ ก็อุดหนุนเขาเพื่อให้มีรายได้ แม้แต่แก๊สก็สั่งกับรถพุ่มพวง ร้านอยู่ได้ชุมชนอยู่ได้
เชฟตวง กล่าว



ในส่วนของเมนูที่สะท้อนความเป็นเขาค้อ คือเมนูโบราณ จำพวกหลน แกงคั่ว อาหารจำพวกต้มหมูโบราณเช่น ต้มหมูสัปปะรด แกงรัญจวนเป็นต้น ปัจจุบันหาคนที่มีภูมิรู้ด้านนี้น้อยลง อยากอนุรักษ์เอาไว้ ไม่เคยหวงสูตร ผมไลฟ์สด เปิดกรุ๊ปให้ทุกคนได้ชม เพื่อนำไปทำทานกันได้ชิม หรือจะต่อยอดอาชีพก็ยินดี เพราะถือว่า กิ๊ฟแอนด์เทค สำคัญ หัวใจหลักในการเป็นเชฟตวง คือ อยากจะทำอาหารที่ดี ใจรัก สิ่งที่มีสองอย่างที่ขาดไม่ได้คือหนึ่ง ภูมิรู้ คือภูมิรู้ดั้งเดิม โตมากับสังคมแบบไหน เคยไปกินอะไรมา นี่คือภูมิรู้ที่เคยกิน ถ้าบ้านไหนไม่กินปลาไหลลูกหลานก็ไม่ได้กินปลาไหล แต่สิ่งสำคัญคือการใฝ่รู้ คือการไปฝึกฝนเพิ่มเติมศึกษาในโซเชียลก็ได้ กูเกิลหรือยูทูบ แต่ไม่ได้กลิ่นได้รส ได้แค่รู้หรือไม่ก็ไปซื้อเขากิน ฉะนั้นภูมิรู้และใฝ่รู้ต้องคู่กัน 

สามารถติดต่อที่เพจเฟซบุ้ค ร้านโบราณนิยม เขาค้อ
อินบ็อกที่หน้าเพจ ร้านโบราณนิยม เขาค้อ

โทร 062 656 0535 / 083 068 8635  (แนะนำจองโต๊ะก็ได้ ตั้งแต่ตุลาคมเป็นต้นไปคนแน่นทุกวัน) 

FB ร้าน โบราณนิยม เขาค้อ Boranniyom Khao Kho Restarant

พิกัด ร้านอาหารโบราณนิยม เขาค้อ ทางไปน้ำตกศรีดิษฐ์
https://g.co/kgs/5kBJCa

รีวิว :
คุยกับเชฟ ตวง อร่อยเด็ดทุกจาน ไฟลุกทุกเมนู ร้านอาหารโบราณนิยม @เขาค้อ
https://www.wefiethailand.com/2024/07/blog-post_18.html

5. Dragon Hill 
การเดินทางก่อนถึง วัดผาซ่อนแก้ว ยังมีร้านอาหารและที่พักแห่งหนึ่ง ที่นี่ชื่อ Dragon Hill มังกรบนผาสูง ตั้งอยู่ก่อนถึงวัดเพียงไม่กี่ร้อยเมตร บนถนนทางขึ้นวัดขวามือ หลายคนคงประหลาดใจกับสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ในรูปลักษณ์ Dragon หมอบกราบ ที่ออกแบบเป็นส่วนหนึ่งของที่พักและร้านอาหาร 

ที่นี่เกิดจาก “คุณวรวิทย์ สินส่งสุข” เจ้าของดรากอน ฮิลล์ รีสอร์ท และ ดรากอนฮิล์ชาบู หนุ่มใหญ่ วัย 57 ปี เจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เบื่อชีวิตในกรุงเทพฯ เริ่มเชื่อเรื่องภัยพิบัติใหญ่ ทำให้มองหาสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับชีวิตและครอบครัว โดยเริ่มมองหาที่ดินบนภูเขาหลายแห่ง 

จนกระทั่งมาปฏิบัติธรรมที่วัดผาซ่อนแก้ว เจดีย์สีทองมีแต่ฐานยังสร้างไม่เสร็จขณะนั้นช่วงเดือนเมษายนมาอยู่ 3 วัน เขาได้มาเห็นทะเลหมอกที่จุดนี้แล้วตกตะลึงและตัดสินใจฉับพลันเลยว่า จะต้องอยู่ที่นี่ ซึ่งในช่วงเที่ยงวันแต่อากาศเพียง 20 ต้นๆ ไม่มีฤดูร้อน ซึ่งไม่สามารถหาที่ไหนได้ (แต่ปัจจุบันจากสภาวะโลกร้อน ในปัจจุบัน ทำให้เขาค้อเริ่มต้องติดแอร์เหมือนที่อื่นๆ ) 



คุณวรวิทย์ ... ใช้ชีวิตอยู่เขาค้อมานานสิบกว่าปี เผยว่า “ที่ดินแปลงนี้อยู่ห่างออกมาจากชุมชน จึงคิดว่าอยากสร้างอะไรที่เป็นพระเอก จดจำง่าย ซึ่งตำแหน่งของที่ดินจุดนี้เมื่อมองไปยังวัดผาซ่อนแก้ว จะเห็นพระเจ้าห้าพระองค์ในมุมเฉียงอยู่เบื้องขวาของพระองค์ท่าน จึงคิดว่า ศาสนาพุทธของเรามีสัตว์บางชนิดอารักขาพระพุทธเจ้าอยู่ หากเป็นนาคหรือมังกรดูเป็นวัดเกินไป จึงมาได้ข้อสรุปว่าเป็น Dragon ดีกว่า เป็นมังกรยุโรป เป็นที่รู้จักคุ้นเคยของคนทั้งโลกอยู่แล้วและเด็กๆ ชอบที่นี่มาก 

คุณวรวิทย์ สินส่งสุข เจ้าของดรากอน ฮิลล์ รีสอร์ท

ดราก้อนฮิลล์ สร้างอยู่ในท่าหมอบกราบพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ด้วยและปกปักษ์รักษาลูกแก้วตรงคอ
ดราก้อนด้วย เพราะว่า พื้นที่นี้มีประวัติว่า จะมีพระธาตุขนาดเท่าลูกมะพร้าว เสด็จจากเทือกเขาลูกหนึ่งไปอีกลูกหนึ่งอยู่บ่อย จะมีผู้คนเห็นบ่อย ช่วงหลังลูกศิษย์วัดยังเห็นอยู่ เห็นเป็นดวงแก้ว ที่นี่เปิดบริการได้ 7 ปี แบ่งเป็นโซนคาเฟ่ และโซนที่พัก โดยทำที่พักก่อนจึงเริ่มเปิดร้านอาหาร สมัยก่อนเป็นอาหารง่ายๆ เช่น สเต็ก สปาเก็ตตี้ ไม่มีเมนูมาก และเพิ่มเมนูหลากหลายชนิดในเวลาต่อมา” 



สัมมผัสสายลมเย็นๆ วิวทะเลหมอก 180 องศา พร้อมดินเนอร์แสนอร่อยที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน
ไม่ว่าจะดินเนอร์กับครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือคนพิเศษ ดราก้อนฮิลล์ คาเฟ่ พร้อมมอบประสบการณ์การทานอาหารที่เหนือระดับ ด้วยเมนูอาหารที่หลากหลาย ครบครัน

ด้านที่พัก ปัจจุบันมีจำนวน 3 ห้อง แต่เปิดให้บริการเพียง 2 ห้องเท่านั้น มีแบ่งเป็นสองโซนและอีกห้องถ้ามาเขาค้อหน้าฝน จะเห็นสายหมอกที่งดงามมากๆ มาในรูปทรงต่างๆ ถ่ายภาพกันแบบไม่มีเบื่อทีเดียว และมีข่าวดีตอนนี้หากใครอยากทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นที่พัก ร้านอาหาร คุณวรวิทย์ บอกกับเราว่า บนเนื้อที่ 20 ไร่ ของที่นี่ อนาคตจะไม่เพิ่มห้องเยอะ แต่จะแบ่งที่ดินให้เช่าทำธุรกิจ โดยทางเราจะช่วยในเรื่องของการบริหาร รวมถึงซัพพอร์ตด้านอาหาร จะคอยดูแลให้ สร้างไซส์ขนาดไหนก็ได้ เราบริหารจัดการให้ แต่ทางผู้เช่าต้องทำการตลาดด้วยตัวเอง รับจองเองหากทำที่พัก



“หากใครสนใจที่จะเช่าพื้นที่ สามารถเข้ามาเจรจาได้ทั้งเรื่องราคาและระยะเวลาการเช่าพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาให้ระยะเวลา 8-9 ปี อยู่กรุงเทพฯ ก็ทำธุรกิจได้ไม่ต้องมาอยู่ในพื้นที่ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่คุยกัน “
ซึ่งนอกจากที่ดินแปลงนี้ เขายังมีที่ดิน สร้างเป็น คาเฟ่ คืนชีวิตให้แผ่นดินและที่อ่างเก็บน้ำ รวมถึงที่ดินบนที่ราบซึ่งเหมาะสำหรับทำศูนย์อาหารอีกด้วย

สนใจ ติดต่อสอบถามห้องพักและทำธุรกิจ
โทร 081 928 8289

รีวิว : https://www.toptotravelvariety.com/2024/07/dragon-hill-180.html

6. กระท่อมน้อยของลุงทอม
ที่กระท่อมน้อยของลุงทอม ตั้งอยู่หมู่ 10 ทุ่งสมอ รีสอร์ทบรรยากาศบ้านดิน ที่นี่ไม่มีทีวี ไม่มีแอร์ แรกเริ่มเดิมทีเป็นเพียงภาพฝันของหนุ่มชาวใต้นามว่า “ทอม” ที่อยากสร้างที่พักในวัยเกษียณ เวลาผ่านไปเพื่อนฝูงเข้ามาเยี่ยมเยียนมากขึ้นจึงไม่พอรองรับ อีกทั้งคิดว่าพื้นที่ตรงนี้สามารถก่อให้เกิดรายได้ได้บ้าง จึงเริ่มขยายส่วนของที่พักเพิ่มขึ้นบนเนินเขา ความสูง 750 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี







ปัจจุบัน กระท่อมน้อยของลุงทอม ประกอบไปด้วย บ้านดิน  6 หลัง คาราวานรถบ้านอีก 1 คัน เป็นรถส่วนตัวที่ซื้อมาตอนที่ไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางไปเที่ยวที่นิวซีแลนด์ เวลาไปเที่ยวเราอยู่ในรถแบบนี้เกือบครึ่งเดือน กลับมาเมืองไทยก็หาว่า ที่เมืองไทยมีรถบ้านแบบนี้มั๊ย ซึ่งไปเจอมาก็ตรงกับไลฟ์สไตล์ของเรา เวลาไปเที่ยวก็ทำกับข้าว ทำอาหารปิกนิก” และโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่เข้าพักที่ “กระท่อมน้อยของลุงทอม” รับส่วนลด 10% เมื่อใช้บริการที่ ร้านพิซซ่าของลุงทอม ณ ผาซ่อนแก้ว



Uncle Tom’s Cabin at Khaokho กระท่อมน้อยของลุงทอม Farm stay
Tel&Line :0869923999 : ป้าติ่ง/มาดามถิง
Facebook/UncleTomCabinAtKhaokho 


ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่พักสวย แชร์ทริปสุดชิล
โพสต์ภาพสุดปัง ของคุณได้แล้วที่ .......

www.toptotravel.com
www.toptotravelvariety.com