เที่ยวทั่วไทย อร่อยทั่วโลก อัพเดทข่าวรายวัน Lifestyle บันเทิง ทันทุกกระแสข่าว!

31 สิงหาคม 2565

จับคู่กาวซีเมนต์และกาวยาแนวกับกระเบื้องแบบไหนให้สวยทน พร้อมเพิ่มมิติความสวยให้บ้านแบบมีสไตล์


การใช้กระเบื้องปูพื้นและกรุผนัง  นับเป็นวัสดุยืนหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ตกแต่งบ้านให้สวยงามได้หลากสไตล์  อีกทั้งมีความคงทนในการใช้งาน  ดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย  ราคาไม่แพง  แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยทำให้การปูกระเบื้องมีความคงทน  นั่นก็คือ กาวซีเมนต์ และ กาวยาแนว ที่เราเคยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของช่าง หรือผู้รับเหมา ในการจัดหามาใช้งาน ซึ่งคงไม่ใช่คำตอบ สำหรับการดูแล หรือคนที่สนใจ การตกแต่งบ้านด้วยตัวเองในปัจจุบัน ท่ามกลางนวัตกรรรมใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วยให้การใช้วัสดุตกแต่งให้เป็นเรื่องที่ง่าย สะดวกรวดเร็ว และไม่เป็นภาระทั้งเวลา และการดำเนินการตกแต่ง กาวซีเมนต์ และ กาวยาแนว ที่เชื่อมต่อความสวยงามของกระเบื้องให้อยู่คู่บ้านจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญ ที่เราไม่ควรจะรู้จักกันสักนิด และที่สำคัญนวัตกรรม กาวซีเมนต์ และ กาวยาแนว ในปัจจุบันมีการพัฒนาทั้งในด้านคุณสมบัติ และรูปสมบัติจนกลายเป็นสิ่งเล็กๆ ที่เราไม่ควรมองข้าม  เพราะ เส้นสายลายเล็ก ๆ รอบกระเบื้องผูกกระเบื้องกับพื้นผิว  ไม่ใช่แค่ “กาว” อย่างที่เราเคยคิด หรือรู้จักกันมา  

การใช้กระเบื้องปูพื้นและกรุผนัง  นับเป็นวัสดุยืนหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ตกแต่งบ้านให้สวยงามได้หลากสไตล์  อีกทั้งมีความคงทนในการใช้งาน  ดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย  ราคาไม่แพง  แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยทำให้การปูกระเบื้องมีความคงทน  นั่นก็คือ กาวซีเมนต์ และ กาวยาแนว ที่เราเคยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของช่าง หรือผู้รับเหมา ในการจัดหามาใช้งาน ซึ่งคงไม่ใช่คำตอบ สำหรับการดูแล หรือคนที่สนใจ การตกแต่งบ้านด้วยตัวเองในปัจจุบัน ท่ามกลางนวัตกรรรมใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วยให้การใช้วัสดุตกแต่งให้เป็นเรื่องที่ง่าย สะดวกรวดเร็ว และไม่เป็นภาระทั้งเวลา และการดำเนินการตกแต่ง กาวซีเมนต์ และ กาวยาแนว ที่เชื่อมต่อความสวยงามของกระเบื้องให้อยู่คู่บ้านจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญ ที่เราไม่ควรจะรู้จักกันสักนิด และที่สำคัญนวัตกรรม กาวซีเมนต์ และ กาวยาแนว ในปัจจุบันมีการพัฒนาทั้งในด้านคุณสมบัติ และรูปสมบัติจนกลายเป็นสิ่งเล็กๆ ที่เราไม่ควรมองข้าม  เพราะ เส้นสายลายเล็ก ๆ รอบกระเบื้องผูกกระเบื้องกับพื้นผิว  ไม่ใช่แค่ “กาว” อย่างที่เราเคยคิด หรือรู้จักกันมา  

กาวซีเมนต์ และ กาวยาแนว คืออะไร
กาวซีเมนต์ (Tile Adhesive) หรือที่คนส่วนใหญ่มักจะเรียกกันว่า  ปูนกาว เป็นซีเมนต์ผสมสารยึดเกาะ  ทำให้เกิดการยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดีกว่าการใช้ปูนผสมทราย  ส่วนกาวยาแนว (Tile Grout )  ก็คือวัสดุที่ที่ช่วยในการเชื่อมรอยต่อระหว่างกระเบื้องแต่ละแผ่นให้แนบสนิทด้วยกัน   และยังช่วยลดสิ่งสกปรกที่จะสะสมตามร่องกระเบื้องได้ด้วย บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนความผูกพัน และศิลปะการเชื่อมต่อของกระเบื้องด้วย “กาว”  ได้พัฒนากาวซีเมนต์คอตโต้ ให้มีสารยึดเกาะสูงในคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ ตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้กระเบื้องยึดเกาะพื้นผิวได้คงทนมากยิ่งขึ้น ไม่หลุดร่อนง่าย ช่วยให้ช่างทำงานได้ง่ายและเร็วขึ้น  และกาวยาแนวคอตโต้ ได้ถูกพัฒนาด้วยนวัตกรรมใหม่ ในสูตรอัลตร้าพลาสเตอร์ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่นำเอาวัตถุดิบหลัก คือ พลาสเตอร์ มาผ่านกระบวนการผลิตพิเศษ มีคุณสมบัติโดเด่นในเรื่องเนื้อละเอียดใช้งานง่าย ไม่เป็นเชื้อรา ลดปัญหาราดำ ที่เกิดหลังจากใช้งาน ทนกรดน้ำยาล้างห้องน้ำได้ถึง 3 เท่า ดีกว่ากาวยาแนวทั่วไปที่ใช้ซีเมนต์เป็นวัตถุดิบหลัก ที่สำคัญ กาวยาแนวคอตโต้ ยังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับงานตกแต่งด้วย สีสันให้เลือกใช้ถึง 29 เฉดสี   ที่พร้อมสร้างสรรค์ความสวยให้กับทุก ๆ พื้นที่ของบ้านอย่างไร้ขีดจำกัดอีกด้วย 


จับคู่ กาว กับ กระเบื้อง ให้ถูกงานและถูกที่  เพิ่มเติมคือความสวย ในหลากหลายดีไซน์ การเลือกใช้กาวซีเมนต์และกาวยาแนว ให้ถูกต้องกับลักษณะการใช้งานของแต่ละพื้นที่ในบ้านนอกจากจะช่วยให้คุ้มค่ากับจำนวนเงินที่จ่ายไปแล้ว ยังเป็นการเพิ่มมิติความงามให้กับพื้นที่อีกด้วย 

พื้นที่ต้องการปูกระเบื้องแผ่นใหญ่ สวยแบบไร้รอยต่ออย่างเนียบเนียน
ห้องนอนเป็นหนึ่งในพื้นที่บ้านที่ต้องการความเงียบสงบ เรียบง่ายแบบไร้รอยต่อ  การเลือกใช้วัสดุปูพื้นด้วยกระเบื้องพอร์ชเลนชนิดตัดขอบ  แผ่นใหญ่ขนาด 60x120 cm.  ควรเลือกใช้กาวซีเมนต์ คอตโต้ (เทา) ที่มีเนื้อกาวเหนียว ดูดซึมน้ำต่ำ ป้องกันความชื้น พลังยึดเกาะสูง ลดการหลุดล่อน ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร  และกาวยาแนว คอตโต้ สลิมพลัส ด้วยคุณสมบัติของกาวที่มีการไหลตัวดีสามารถเติมเต็มร่องกระเบื้องขนาดเล็กได้ตั้งแต่ 0.2-2 มม. ป้องกันราดำ เลือกใช้สีกาวยาแนวสไตล์ Harmony ทำให้ลวดลายพื้นผิวที่ต่อผสานเสมือนเป็นเนื้อเดียวกันแบบไร้รอยต่อ  ไม่มีอะไรรบกวนสายตาทำให้นอนหลับพักผ่อนได้อย่างมีความสุข

พื้นที่สร้างสรรค์ด้วยกระเบื้องตกแต่ง  ตัดเส้นสีสันให้โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
หากต้องการสร้างสรรค์บางพื้นที่ให้มีโดดเด่นตามสไตล์ส่วนตัวที่ไม่ซ้ำแบบเดิม ๆ ของสมาชิกในบ้าน  การเลือกใช้กระเบื้องตกแต่งขนาดเล็กเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์  ใช้กาวซีเมนต์ คอตโต้ (สีเขียว)สำหรับกระเบื้องพอร์ชเลน ขนาดเล็ก  เนื้อกาวเหนียวติดแน่น ดูดน้ำต่ำ ลดการหลุดล่อน ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน  และกาวยาแนว คอตโต้ ยับยั้งแบคทีเรีย (แดง) สูตรยับยั้งแบคทีเรีย ป้องกันราดำ ทนกรดได้ 3 เท่า ใช้กับร่องกระเบื้องขนาด 2-10 มม.  มีสีให้เลือกถึง 29 เฉดสี สามารถสร้างสรรค์พื้นที่นั่งเล่นด้วยสไตล์ Contrast การเลือกใช้กาวยาแนวสีเหลืองเป็นเส้นตัดกับกระเบื้องตกแต่งสีดำ ทำให้ผนังห้องดูโดดเด่น มีลูกเล่น จะดูมุมไหนก็ชวนมองไม่น่าเบื่อ ให้ทุกคนได้สนุกกับสีสันใหม่ในบ้าน  

ซ่อมแซมพื้นเก่า ให้สวยกว่าใครว่ายาก
สำหรับบ้านที่มีการอยู่อาศัยมานาน   อาจจะอยากเปลี่ยนพื้นกระเบื้องใหม่เพื่อความสวยงามหรือเปลี่ยนสไตล์ เปลี่ยนบรรยากาศในบ้าน  สามารถทำได้หลายวิธี อาจจะรื้อกระเบื้องเก่าออกแล้วปูกระเบื้องใหม่  หรืออาจจะปูกระเบื้องใหม่ทับกระเบื้องเดิม  ซึ่งช่วยให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน  แต่จะต้องเลือกวัสดุติดตั้งที่ออกแบบพิเศษเพื่อการนี้โดยเฉพาะ  กาวซีเมนต์ คอตโต้เฟล็กซ์ (ทอง) ได้ถูกพัฒนาเพื่อใช้สำหรับปูทับกระเบื้องเดิมได้ตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ ทั้งพื้นและผนัง  ผลิตจากนาโนพลาสเตอร์ เนื้อเนียนละเอียด จึงมีพลังยึดเกาะสูงสุด สำหรับพื้นที่ในห้องน้ำควรใช้กาวยาแนว คอตโต้ ยับยั้งแบคทีเรีย (แดง)  มีสารนาโนชนิดพิเศษยับยั้งแบคทีเรียได้มากกว่าสูตรทั่วไป 90% ป้องกันราดำ และตะไคร่ ทนกรดได้ 3 เท่า หมดกังวลเรื่องคราบสกปรกและแบคทีเรียสะสม   ให้ทุกเส้นสายสวยสะอาดตาอยู่เสมอ

สระว่ายน้ำ พื้นที่ออกกำลังกาย มุมพักผ่อนหย่อนใจของครอบครัว
การว่ายน้ำเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการออกำลังกายที่สามารถทำร่วมกันของในครอบครัว  การมีสระว่ายน้ำในบ้านเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใช้ทำสันทนาการให้ความสนุกกับคนในครอบครัวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หรืออาจใช้เป็นที่สังสรรค์กับเพื่อนฝูงจัดพูลปาร์ตี้ (Pool Party) เริดได้อีกแบบ   การสร้างสระว่ายน้ำนอกจากการเลือกใช้กระเบื้องให้สวยงามแล้ว การเลือกวัสดุติดตั้งเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเลือกผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง  กาวซีเมนต์ คอตโต้ สระว่ายน้ำ ผลิตจากนาโนพลาสเตอร์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กเหนือสูตรซิเมนต์ทั่วไป จึงมีพลังยึดเกาะแน่น ลดปัญหากระเบื้องหลุด  ใช้คู่กับกาวยาแนว คอตโต้ สระว่ายน้ำ ด้วยสูตร Power Nano Plaster เนื้อกาวแน่น แรงยึดเกาะสูง ทนแรงดันน้ำ ไม่แตกร้าว ลดปัญหาหลุดร่อน ทนสารคลอรีน ป้องกันราดำ ปลอดภัยต่อสุขภาพ  เพียงเท่านี้ก็ทำสระว่ายน้ำมีความคงทน ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวออกกำลังกายได้อย่างมั่นใจ  

สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ติดตั้งและซ่อมแซมที่เหมาะสมกับการใช้งานต่าง ๆ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cotto.com/product/tile-grout  และที่ WEBSITE :COTTO Life >> http://bit.ly/2tg0WJl   สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่  SHOPPING COTTO Life >>https://bit.ly/3gz5Pm7  Line Official Account : @COTTOlife >> http://bit.ly/2D5BeJd   และชมผลิตภัณฑ์ออนไซด์ได้ที่ COTTO Life  ทั้ง 3 สาขา กรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น

วัดบวรฯ จัดวิ่งการกุศลเพื่อช่วย 17 รพ.

       ก้าวด้วยธรรม ครั้งที่ 6 เพื่อ 17 โรงพยาบาล ปี 2565 “ก้าวด้วยธรรม ก้าวด้วยใจ เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาล” ร่วมเป็น 1 ใน 10,000 คนที่จะสร้างประโยชน์และมอบโอกาสทางการแพทย์ให้สังคม

      ศาสตราจารย์พิเศษจรัญ​ ภักดีธนากุล ประธานกรรมการกองทุนเพื่อผู้ป่วยและโรงพยาบาลในมูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานแถลงข่าวกิจกรรม เดิน-วิ่ง การกุศล “ก้าวด้วยธรรม ครั้งที่ 6 เพื่อ 17 โรงพยาบาล” พร้อมด้วย ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน และนายปิติ ลีเลิศพันธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด ร่วมแถลงข่าว เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่ อาคารกวีบรรณาลัย วัดบรนิเวศวิหาร 

 สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2565 กับกิจกรรมฟันรันคู่ขนานสี่จังหวัด คือ กรุงเทพฯ ที่จะได้สัมผัสประสบการณ์เมืองหลวงยามรุ่งอรุณด้วยกิจกรรมเดิน 6 กิโลเมตร หรือ วิ่ง 10.5 กิโลเมตร จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่จะจัดคู่ขนานกันไปเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของผู้ให้ เพื่อประโยชน์และโอกาสทางการแพทย์ ให้กับ 17 โรงพยาบาลทั่วประเทศ

     ศาสตราจารย์พิเศษจรัญ ภักดีธนากุล ประธานกรรมการกองทุนเพื่อผู้ป่วยและโรงพยาบาลในมูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “มูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ มีหน้าที่ 3 ประการคือ สนับสนุนการเรียนภาษาบาลี ช่วยผู้ป่วยยากไร้ และช่วยเด็กยากไร้  กิจกรรมก้าวด้วยธรรมดำริขึ้นเพื่อสนับสนุนหน้าที่ดังกล่าว กิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล ‘ก้าวด้วยธรรม’ ครั้งแรกจัดเมื่อปี 2560 ซึ่งในครั้งนั้นเป็น ‘ก้าวเพื่อธรรม เพื่อศึกษาภาษาบาลี’ เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ภาษาบาลีของพระภิกษุสามเณร ต่อมาเนื่องจากสถานการณ์ความต้องการด้านสาธารณสุขและการเข้าถึงทางการแพทย์และการรักษาสำหรับผู้ยากไร้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น มูลนิธิฯ จึงดำริให้เกิดกิจกรรม ‘ก้าวด้วยธรรม เพื่อ 17 โรงพยาบาล’ ในรูปแบบ Fun Run และจัดต่อเนื่องมาปีนี้เป็นปีที่ 6 สานต่อบทบาทในการช่วยผู้ยากไร้ให้เข้าถึงการรักษาพยาบาล”

    “การจัดกิจกรรม 5 ครั้งที่ผ่านมามีผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมเดิน-วิ่ง รวมกว่า 46,000 คน ระยะทางรวม 483,000 กิโลเมตร ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธาเป็นอย่างดี โดยตลอดห้าปีที่ผ่านมาได้รับการบริจาครวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 90 ล้านบาท ซึ่งนำไปใช้ในการดำเนินการด้านสาธารณสุข อาทิ จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ช่วยเหลือผู้ป่วย และร่วมช่วยเหลือในสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา”

    สำหรับในปีนี้กิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศลจัดขึ้นพร้อมกัน 4 จุดด้วยกัน คือ กรุงเทพฯ กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ และสุราษฎร์ธานี โดยกรุงเทพฯ เริ่มต้นและสิ้นสุดการวิ่งฯ ทั้งสองระยะที่วัดบวรนิเวศวิหาร จุดที่สองเริ่มต้นและสิ้นสุดการวิ่งฯ ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ จุดที่สามคือโรงพยาบาลละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ และจุดที่สี่คือ โรงพยาบาลไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยปีนี้คณะกรรมการฯ หวังว่าจะมีผู้สมัครและเข้าร่วมกิจกรรมอย่างน้อย 10,000 คน รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนและธุรกิจต่าง ๆ

     ผู้สนใจสามารถชมกิจกรรมจากส่วนกลางผ่านทาง เฟซบุ๊ก LIVE แฟนเพจ “ก้าวด้วยธรรม” สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยการบริจาค 500 บาท และ 1,000 บาท สามารถสมัครออนไลน์ได้ที่ https://race.thai.run/kaoduaydham ผู้สมัครจะได้รับเสื้อ พร้อมเหรียญ และของที่ระลึก โดยไม่มีค่าจัดส่ง หรือสมัครพร้อมรับเสื้อ ฯลฯ ได้ที่บริเวณด้านข้างพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร ทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.00-16.00 น. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID : @KaoDuayDham โทร 09-8275-4505 / 09-8276-0545”

เกาะนาวโอพี ทะเลพม่า เปิดแล้ว


เกาะนาวโอพี ทะเลพม่า  เปิดแล้วเริ่มเดินทางได้ ตั้งแต่  เดือน ต.ค. 2565 นี้ และมีโปรโมชั่นราคาพิเศษมากมาย  ต.ค. - พ.ย. 2565 นี้ เท่านั้น 

และในวันที่ 1 - 4 ก.ย. 2565 นี้ พบกันใน งานไทยเที่ยวไทย **ที่ไบเทคบางนา** ( บูธที่  j43 ) พร้อมกับรับส่วนลดแบบจุกๆไปเลย  ติดต่อสอบถามที่@nop.resortหรือลิ้งค์ https://lin.ee/2m44AR6w

Tel 089-7517777

094-2242473

062-7616107

www.victoriacliff.com

โดย  วิคตอเรียคลิป

#เกาะนาวโอพี




#เกาะนาวโอพี #wefiethailand

“ม.น.ข. มอบทุนเพื่อการศึกษา พัฒนาเยาวชน”

มูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลนในพระบรมราชินูปถัมภ์ (ม.น.ข.) มอบทุนการศึกษาแก่เด็กพิการและนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ณ โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ และมหาวิทยาลัยสวนดุสิต

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 อาจารย์สุรวัฒน์  ชมภูพงษ์  ประธานมูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลนในพระบรมราชินูปถัมภ์ (ม.น.ข.) เป็นประธานในการมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กพิการ จำนวน 25 ทุน และนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์  จำนวน 18 ทุน โดยมีคณะกรรมการบริหารมูลนิธิฯ พ.ต.ท. คมวิชช์  พัฒนรัฐ  ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทายาทผู้ให้การสนับสนุนทุน ผ่าน ม.น.ข. ร่วมมอบทุนในครั้งนี้ โดยมี ว่าที่ร้อยตรีธนพัฒน์ แสงรุ่งเรือง คณบดีโรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต นางสาวปนัดดา  วงค์จันตา  ผู้อำนวยการโรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ คณะครู นักเรียนและนักศึกษา ให้การต้อนรับ


โดยในช่วงเช้า เวลา 9.45 น. ม.น.ข. ได้มอบทุนการศึกษาแก่เด็กพิการจากโรงเรียนเด็กพิการ 5 แห่ง จำนวน 25 ทุน คือ โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ กทม. จำนวน 5  โรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ กทม.  จำนวน 5 คน โรงเรียนโสตศึกษา จ.นครปฐม จำนวน 5 คน โรงเรียนโสตศึกษา จ.นนทบุรี จำนวน 5 คน และโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ จำนวน 5 คน  โดยจัดพิธีมอบ ณ โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ ทุนการศึกษาที่ ม.น.ข จัดมอบให้แก่นักเรียน นักศึกษานี้ เป็นทุนการศึกษาต่อเนื่อง ที่ให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้จนจบหลักสูตร



ในช่วงบ่าย เวลาประมาณ 13.30 อาจารย์สุรวัฒน์ ชมภูพงษ์ และคณะได้เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เพื่อมอบทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อให้ได้ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยสวนดุสิต และวิทยาลัยราชสุดา จำนวน 18 ทุน ดังนี้คือ คณะโรงเรียนการเรือน  คณะศิลปศาสตร์  คณะคหกรรมศาสตร์ และหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จำนวน 12 ทุน  หลักสูตรศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาหูหนวกศึกษา และหลักสูตรศึกษาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาของคนหูหนวก วิทยาลัยราชสุดา จำนวน 6 ทุน รวมทั้งสิ้น 18 ทุน

“ม.น.ข. ขอเป็นพลังเล็กๆ ในการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับน้องๆ ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาและเป็นคนดีของสังคม  สมควรที่จะได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งในภายภาคหน้าน้องๆเหล่านี้ อาจจะนำโอกาสดีๆ มาช่วยส่งต่อให้แก่น้องๆรุ่นหลังอีก ซึ่งจะเป็นบุญเป็นกุศลต่อไป ขอแสดงความยินดีและเป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคน”  ประธาน ม.น.ข. กล่าว

ด้าน พ.ต.ท. คมวิชช์  พัฒนรัฐ ทายาทของอาจารย์วินัย  พัฒนรัฐ  ผู้ให้การสนับสนุนทุนการศึกษาในครั้งนี้  โดยมอบผ่าน ม.น.ข. กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชม น้องๆทุกคนว่า เป็นคนดี มีคุณค่าต่อสังคม สมควรที่ได้รับการคัดเลือกสำหรับทุนที่มอบให้ในครั้งนี้ เป็นเจตนารมณ์และเป็นความกรุณา  ของคุณพ่อวินัย พัฒนรัฐ ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้ความสนใจดูแลช่วยเหลือ และให้ทุนการศึกษาแก่เด็กพิการมาโดยตลอด จนสิ้นอายุขัย โดยท่านได้ก่อตั้งชมรมช่วยเหลือเด็กพิการ อยากให้น้องๆ ภูมิใจ และใช้เงินอย่างคุ้มค่า  เป็นประโยชน์มากที่สุด  หวังว่าน้องๆจะมีอนาคตที่ดี  

ว่าที่ร้อยตรี ดร.ธนพัฒน์ แสงรุ่งเรือง  คณบดีโรงเรียนการเรือนมหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวขอบคุณ ม.น.ข. และผู้ให้การสนับสนุนทุนการศึกษา สำหรับนักศึกษาทั้ง 2 สถาบัน โดยมหาวิทยาลัยสวนดุสิตและวิทยาลัยราชสุดา ได้เปิดโอกาสทางการศึกษา ให้กับนักศึกษาที่มีความพิเศษต่างๆ ได้เข้ามาศึกษา และมีการดูแลในทุกมิติ โดยใช้วิธีการเรียนร่วม เพราะอยากให้นักศึกษาได้อยู่ในสังคมที่สอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด ขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนทุนการศึกษาโดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นคนปรกติเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เป็นความปรารถนาดีของผู้ใหญ่ที่มีต่อนักศึกษาและขอแสดงความยินดีกับนักศึกษาทุกคน ขอให้นักศึกษาใช้เงินตามวัตถุประสงค์ที่ผู้มอบทุนมีเจตจำนงค์และตั้งปณิฐานไว้

เรียล อิลิคเซอร์ อาบาโลน คอลลาเจน (Real Elixir Abalone Collagen) ประกาศปิดแคมเปญ “อาบาโลน ถอดรหัสล่า 5 ล้าน”

เรียล อิลิคเซอร์ อาบาโลน คอลลาเจน  (Real Elixir Abalone Collagen) ประกาศปิดแคมเปญ “อาบาโลน ถอดรหัสล่า 5 ล้าน” พร้อมมอบรางวัลใหญ่สมมนาคุณให้กับลูกค้าผู้ให้การสนับสนุน

บริษัท นูทริชั่นโปรเฟส จำกัด ผู้นำทางด้านการผลิตและจัดจำจำหน่ายอาหารเสริมและเครื่องสำอางแบบครบวงจร โดยมีความมุ่งมั่นพัฒนาและสรรหาผลิตภัณฑ์พร้อมวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ เพื่อลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด อีกทั้งพร้อมที่จะให้บริการที่ดีที่สุดในทุกระดับเพื่อตอบสนองต่อทุก ๆ ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในครั้งนี้ได้ทำการจัดกิจกรรมภายใต้แบรนด์ “เรียล อิลิคเซอร์ อาบาโลน คอลลาเจน  (Real Elixir Abalone Collagen)” ในแคมแปญ “อาบาโลน ถอดรหัสล่า 5 ล้าน” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในเมืองไทย และยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน


นายคณพล กิตติภานุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นูทริชั่นโปรเฟส จำกัด  ได้เปิดเผยว่า “สืบเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในสถานการณ์โควิด รวมไปถึงวิกฤติต่างๆทั่วโลก ทำให้ส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตของคนไทย รวมไปถึงการหารายได้ในช่องทางต่างๆได้มีการลดลง รวมไปถึงค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทางบริษัทได้เล็งเห็นปัญหาตรงจุดนี้ อีกทั้งแบรนด์ “เรียล อิลิคเซอร์ อาบาโลน คอลลาเจน  (Real Elixir Abalone Collagen)” ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมียอดขายกว่า 3 ล้านกระปุก จึงทำให้เรามีแนวคิดที่อยากจะช่วยเหลือและตอบแทนสังคม จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “อาบาโลน ถอดรหัสล่า 5 ล้าน” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในเมืองไทย และยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน 

นอกจากนี้ตัวผลิตภัณฑ์ยังมีความพิเศษเฉพาะตัว คือ “หอยเป๋าฮือ” ที่มีสารสำคัญที่เรียกว่า “อันดีเนเจอร์คอลลาเจน" ที่ถูกค้นพบว่าเข้าไปมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดคอลลาเจน โดยใช้กระบวนการผลิตด้วยอุณหภูมิต่ำและไม่ผ่านการย่อยด้วยเอนไซม์ ซึ่งเป็นโครงสร้างที่สมบูรณ์ใกล้เคียงกับ คอลลาเจนไทพ์ทู ที่ร่างกายสร้างขึ้น ลดอัตราการทำลายหรือเสื่อมของกระดูกอ่อนบริเวณข้อ ปรับสมดุลและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในร่างกายตามธรรมชาติ นับเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่เราให้ความใส่ใจและต้องการสร้างประโยชน์ให้กับกลุ่มลูกค้าของเราให้มากที่สุด


สำหรับกิจกรรมแคมเปญ “อาบาโลน ถอดรหัสล่า 5 ล้าน” ได้เริ่มเปิดตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 โดยที่ผู้ร่วมสนุกสามารถร่วมกิจกรรมได้โดยชมวิดีโอโฆษณาเพื่อค้นหารหัสลับและถอดรหัส 5 ตัว ภายในหนังโฆษณา หลังจากนั้นจึงลงทะเบียนและส่งรหัสคำตอบมาที่ Line : @REALELIXIR เพื่อลุ้นรับรางวัลจากทางบริษัท ซึ่งถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีมากมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่าง



มากมาย ทั้งนี้หลังจากที่มีการเปิดตัวแคมเปญและให้ผู้สนใจได้เข้าร่วมสนุกแล้ว เราจึงได้มีการมอบรางวัลย่อยไปแล้วหนึ่งครั้ง เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 เป็นจำนวนกว่า 15 รางวัล

และสำหรับในครั้งนี้ถือเป็นการจัดกิจกรรมปิดแคมเปญที่ได้ทำการจัดกิจกรรมมาแล้วกว่า 3 เดือน โดยในครั้งนี้จะเป็นการประกาศผลรางวัลใหญ่ ให้กับผู้โชคดีนั่นคือรางวัลเงินสดจำนวน 5 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัล ทั้งนี้หากมีการตอบรหัสถูกมากว่า 1 ท่านรางวัลก็จะทำการหารออกคนละครึ่ง และหากไม่มีคนตอบถูก งานรางวัลก็จะมอบให้กับสังคมครึ่งหนึ่งด้วยเช่นกัน

สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เราคาดหวังว่าทางแบรนด์น่าจะมีการเติบโตขึ้นได้อีกประมาณ 40% จากกิจกรรมทางการตลาดผ่านแคมเปญนี้ รวมไปถึงการสร้างการรับรู้ผ่านทางช่องทางต่างๆอีกด้วยเช่นกัน ”คุณคณพล กล่าวทิ้งท้าย

29 สิงหาคม 2565

สมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานประจำปีในธีม "บอลลีวู๊ด"

สมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานประจำปีในธีม "บอลลีวู๊ด" โดยมี ฯพณฯเอกอัครราชฑูตอินเดียประจำประเทศไทย สุจิตรา ทุไร และสามี อดึตฑูตสวามีนาธาน ให้เกียรติมาเป็นแขกวีไอพีในงาน งานนี้เป็นการอำลานายกสมาคมรัญชา บริบาลบุรีภัณฑ์ และต้อนรับนายกสมาคมคนใหม่ ดร.โสภาพิมพ์ เศรษฐบุตร สิมะกุลธร





มีการแสดงแบบเสื้อโดยนางแบบกิตติมศักดิ์ อาทิ 

- กุลธิดา กุลวิบูลย์อนันต์ 

- พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร 

- ภุมรินทร์ นราธิปสกุลศิริ

- อถิปภา จันทร์แก้ว

- สุภาพร เอ็ลเดรจ 

และ ดร. พิมพ์ขัวญ บุญจิตต์พิมล


มีนักร้องกิตติมศักดิ์ อาทิ

- มาริสา สุโกศล หนุนภักดี

- พล ต.ต.อังกูร อาทรไผท

- ภมร แดส

- กร ทัพพะรังสี

- บุรินทร์ นาคเจริญ

- ดร.จินดารัตน์ ชุมสาย ณ อยุธยา และ วสุวัชร์ จิระมงคลสุข (ครูเอ)


มีประมูลภาพวาด "ความรัก" ระหว่างแม่ลูก จากอาจารย์อภิชัย การิกาญจน์ 2 ภาพ กระเป๋า Shakira
จากอังคนางค์ ชากีร่า บำรุงสรณ์ และกระเป๋า Judith Leiber จากสุริยน ศรีอรทัยกุล แห่ง Beauty Gems
ผู้ชนะการประกวดแต่งกาย ได้รับสายสะพาย และ OASIS Spa vouchers จาก เอิร์ธ สายสว่าง


งานนี้เต็มไปด้วยแขกวีไอพี แพรวพราวในชุดแขกอลังการ อาทิ คุณหญิงโรส บริบาลบุรีภัณฑ์ รมณีย์ เธียรประสิทธิ์ คุณหญิงเกิดศิริ สรุตานนท์ สุพัฒนา อาทรไผท ดร.ธราดล เปี่ยมพงษ์สานต์ เปรมิกา สุจริตกุล วีรศักดิ์ ชุณหจักร พนิตตา ศรีสะอาด รวมทั้งมีพิธีกรสาวสวยมากความสามารถอย่าง ศุภาพิชญ์ ชุมสาย ณ อยุธยา และพิธีกรรูปหล่อ 2 นาย นาวาเอกสุรสันต์ คงสิริ รน. และเรืออากาศโทสุขทัช โชคณาพิทักษ์ โดยมี บุญญาดา กฤติยะโชติกุล เป็นแม่งานใหญ่

สัมผัสมนต์เสน่ห์โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเท็ล แอนด์ คอนเวนชั่น

ในงานไทยเที่ยวไทย 1-4 กันยายนนี้ ที่ไบเทค บางนา บูธ J40


“เชียงราย ”สวรรค์ของคนรักเที่ยว เชิญมาแตะขอบฟ้าเหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง   พบกับบูธโรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเท็ล แอนด์ คอนเวนชั่นในงานไทยที่ยวไทย 1-4 กันยายนนี้ ที่ไบเทค บางนา บูธ J40


โรงแรมฯ ขอนำเสนอแพคเกจห้องพักสุดหรูจากปกติ 4,000 บาท ลดเหลือ 1,500 บาท เท่านั้น!!  พร้อมอาหารเช้า 2 ท่าน และบริการต่างๆอาทิ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ อินเตอร์เน็ต จ๊อกกิ้งในลู่วิ่งท่ามกลางแมกไม้ คืนพลังชีวิตสุขภาพดีๆ อีกทั้งมีการติดตั้งเครื่องไบโอโซน (BIOZONE) ภายในโรงแรมฯ ซื่งสามารถฆ่าเชื้อโรค กำจัด ไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ได้ถึง 99.99% ได้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาทางด้านมลพิษในอากาศ และพื้นผิวสัมผัส รวมทั้งกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ระบบนี้ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก BCS Laboratories, INC - Gainesville , Florida  ในการติดตั้งครั้งนี้ จะทำให้อากาศภายในโรงแรมฯ บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ ให้กับผู้เข้ามาใช้บริการทุกท่าน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร  099 2539478 และ 081 545 6199

28 สิงหาคม 2565

เกษตรฯ เปิดฉากเจ้าภาพเอเปค2022 ร่วมจับมือหนุนความมั่นคงอาหารดันครัวไทยสู่ครัวโลก

เมื่อวันนี้ (26 สิงหาคม 2565) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดฉากเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ครั้งที่ 7 (The Seventh APEC Virtual Food Security Ministerial Meeting) ณโรงแรมไฮแอทรีเจนซี่หัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ผลักดันนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลกพร้อมจับมือร่วมเขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปคหนุนแผนปฏิบัติการภายใต้แผนงานความมั่นคงอาหารมุ่งสู่ ค.ศ. 2030 ร่วมกันอย่างเข้มแข็ง

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวต้อนรับคณะรัฐมนตรีและสมาชิกเอเปค21 เขตเศรษฐกิจ พร้อมกล่าวเปิดการประชุมในครั้งนี้ว่า ประเทศไทยมุ่งหวังที่จะสนับสนุนให้เอเปคมีการเจริญเติบโตในระยะยาว มีภูมิคุ้มกัน มีความครอบคลุม ความสมดุล และความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องวิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ.2040 แผนปฏิบัติการเอาเทอรัว รวมถึงหัวข้อหลักของการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย คือ “OPEN, CONNECT, BALANCE” หรือ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล”และแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว Bio – Circular-Green Economy หรือ BCG Model

การประชุมระดับรัฐมนตรีความมั่นคงอาหาร นับเป็นกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคที่เข้มแข็ง และสามารถมีส่วนร่วมสนับสนุนความมั่นคงอาหารให้กับประชาคมโลก ในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารและสินค้าเกษตรรายใหญ่ของโลก  ซึ่งจากสถานการณ์ความมั่นคงด้านอาหารในปัจจุบัน องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ รายงานว่าในปีพ.ศ. 2573 ประชาชนประมาณ 670 ล้านคน จะยังคงขาดสารอาหาร นอกจากนี้ ผลกระทบและความตึงเครียดที่เกิดขึ้นต่อระบบอาหารทั่วโลก เช่น วิกฤตด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้เอเปค ต้องปรับบทบาทและแนวทางที่จะเดินไปข้างหน้าร่วมกัน 

การประชุมครั้งนี้ สมาชิกเอเปค21 เขตเศรษฐกิจ ยังได้ร่วมกันรับรองปฏิญญาความมั่นคงอาหารเอเปคซึ่งเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นทางการเมืองในการส่งเสริมความมั่นคงอาหารในภูมิภาค โดยในร่างปฏิญญาฯได้ผลักดันนโยบายสำคัญ 4 ด้าน ประกอบด้วยด้านความปลอดภัยอาหารด้านการค้าระหว่างประเทศด้านการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ ด้านการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน



นอกจากนี้ ภาคเอกชน นับได้ว่ามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการร่วมเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร    โดยประธานสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปค ประจำปี 2565 ได้ให้คำแนะนำที่สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการภายใต้แผนงานความมั่นคงอาหาร มุ่งสู่ปี ค.ศ. 2030 ได้แก่ การสนับสนุนการอำนวยความสะดวกทางการค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัล การประสานงานกับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงด้านอาหาร การส่งเสริมการลดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีสำหรับการเกษตรและการค้าอาหาร และการนำโมเดลแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือโมเดล BCG มาปรับใช้

เชื่อมั่นได้ว่า ร่างปฏิญญาความมั่นคงอาหารเอเปค จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าและอาหารของไทย นอกจากนี้ การสนับสนุนระบบการค้าแบบพหุภาคี จะทำให้เกิดการอำนวยความสะดวกทางการค้าขายระหว่างประเทศมากขึ้น

พร้อมกันนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย ยังผลักดันการดำเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการภายใต้แผนงานความมั่นคงอาหารเอเปคผ่านการขับเคลื่อนนโยบาย 3S ทั้งเรื่อง Safety Security และ Sustainability ส่งเสริมความปลอดภัยอาหารให้ได้มาตรฐานสากลถูกหลักโภชนาการ และในปี 2566กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้วางนโยบายเสริมสร้างบทบาทสตรีให้เป็นกำลังหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยใช้แผนขับเคลื่อนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานราก  และการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านการเกษตรให้มีความทันสมัย สามารถวิเคราะห์และวางแผนการผลิต การเข้าถึงตลาด รวมถึงผลักดันวิจัยและนวัตกรรมเกษตร และยกระดับความร่วมมือเครือข่ายการพัฒนาภาคเกษตรจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะด้านนโยบายความยั่งยืนในระบบอาหารที่สัมพันธ์กับปัจจัยการผลิตทรัพยากรธรรมชาติ และระบบนิเวศ 


นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมวิชาการเกษตร และกรมประมง ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่เกี่ยวข้องภายใต้กรอบเอเปค มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากการประชุมเอเปคพร้อมกันทั้งประเทศ ในฐานะที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคและได้มีการจัดการประชุมที่เกี่ยวข้องต่างๆ อีก 12 การประชุมเรื่อยมา แน่นอนว่า การประชุมรัฐมนตรีของเขตเศรษฐกิจร่วมกันครั้งนี้  เป็นการแสดงวิสัยทัศน์และแนวนโยบายในการผลักดันความมั่นคงทางอาหาร ซึ่ง ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มุ่งเน้นนโยบาย BCG และ 3s รวมถึงนโยบายต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าสินค้าเกษตรและอาหารไทย ในฐานะ ‘ครัวโลก’มีการผลิตที่มีความปลอดภัยและมีคุณภาพมาตรฐาน ผลักดันส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารให้ประชากรในภูมิภาคเอเปคและโลก เพื่อให้เกษตรกรสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้นจากส่งออกสินค้าเกษตรไปยังคู่ค้าในเอเปคได้มากขึ้น





พาราไดซ์ พาร์ค ชวนช้อปของดีของแท้จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ในงาน GI Fest เดินงานเดียว ช้อปได้ทั่วไทย

ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. - 4 ก.ย. นี้


          พาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค ร่วมส่งเสริมสินค้าชุมชนของดีประจำถิ่น โดยร่วมกับ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ จัด งาน GI Fest เดินงานเดียว ช้อปได้ทั่วไทย ภายในงานพบกับสินค้า GI (Geographical Indications) ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ชุมชนจากทั่วประเทศ   ที่รวบรวมมาไว้ในที่เดียวกว่า 40 ร้านค้า อาทิ ขนมหม้อแกงเมืองเพชร น้ำตาลโตนดเมืองเพชร ขนมหวานหลากหลายและมะนาวจากจังหวัดเพชรบุรี ปลาทูแม่กลองจากจังหวัดสมุทรสงคราม ปลาแรดลุ่มน้ำสะแกกรังจากจังหวัดอุทัยธานี ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลาจากจังหวัดสงขลา มะขามหวานจากจังหวัดเพชรบูรณ์ มะพร้าวน้ำหอมและสับปะรดบ้านคาจากจังหวัดราชบุรี ส้มโอนครชัยศรีจากจังหวัดนครปฐม ทุเรียนภูเขาไฟจากจังหวัดศรีสะเกษ กาแฟเทพเสด็จจากจังหวัดเชียงใหม่ ลูกหยียะรังและข้าวเกรียบปลาจากจังหวัดปัตตานี กล้วยไข่จากจังหวัดกำแพงเพชร ถั่วลายเสือจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถั่วคั่วทรายจากจังหวัดยโสธร พริกไทยป่นจากจังหวัดจันทบุรี เครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ดจากจังหวัดนนทบุรี ไข่มุกและเครื่องประดับมุกจากจังหวัดภูเก็ต ครกหินอ่างศิลาจากจังหวัดชลบุรี เป็นต้น


อย่าพลาด! มาช้อปสินค้าผลิตภัณฑ์ของดี จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ใ

24 สิงหาคม 2565

ตลาดส่งสุข SMEsของดีทั่วไทย จัดขึ้นระหว่างวันพุธที่ 24–วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2565


เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565) ที่ลานไนน์ สแควร์ ศูนย์การค้า เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9  โดยนายสถาพร ร่วมนาพะยาผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นประธานในพิธี  เปิดงาน “ตลาดส่งสุข SMEs ของดีทั่วไทย” ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2565 ระหว่างเวลา 10.00 – 20.00 น. โดยมี นางสาวสกุลทิพย์  แซ่เฮง  นายกสมาคมการค้าส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ เอส เอ็ม อี และ ประธานคณะกรรมการจัดงานฯ เป็นผู้กล่าวรายงาน มีผู้เข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากันอย่างคึกคัก พร้อมด้วยกิจกรรมสร้างสีสันมากมาย เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19



เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565) ที่ลานไนน์ สแควร์ ศูนย์การค้า เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9  โดยนายสถาพร ร่วมนาพะยาผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นประธานในพิธี  เปิดงาน “ตลาดส่งสุข SMEs ของดีทั่วไทย” ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2565 ระหว่างเวลา 10.00 – 20.00 น. โดยมี นางสาวสกุลทิพย์  แซ่เฮง  นายกสมาคมการค้าส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ เอส เอ็ม อี และ ประธานคณะกรรมการจัดงานฯ เป็นผู้กล่าวรายงาน มีผู้เข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากันอย่างคึกคัก พร้อมด้วยกิจกรรมสร้างสีสันมากมาย เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19


สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานอันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้ก้าวข้ามจากการเป็นโรคระบาดรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ มาเป็นโรคระบาดที่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ต่างก็ได้รับผลจากวิกฤตครั้งนี้ไม่มากก็น้อย และยังส่งผลกระทบไปทั่วทุกกลุ่มธุรกิจ การบริโภคภายในประเทศก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด อันเนื่องมาจากการหยุดกิจกรรมทุกประเภท ซึ่งก็ทำให้คนตกงาน ไม่มีกำลังซื้อ นับเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน คาดเดาไม่ได้ รวมทั้งผู้ประกอบการรายย่อยหรือ SMEsที่เป็นส่วนสำคัญของภาคธุรกิจก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน



จึงเป็นที่มาของแนวทางในการบรรเทาผลกระทบที่มีต่อธุรกิจ SMEs การจัดงาน“ตลาดส่งสุข SMEsของดีทั่วไทย”จึงเป็นทางออกจากวิกฤต COVID–19 ที่เกิดขึ้น ซึ่งสมาคมการค้าส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจเอส เอ็ม อี และ ศูนย์การค้าเดอะไนน์เซ็นเตอร์พระราม 9 ได้เห็นถึงความสำคัญในการหาทางช่วยเหลือผู้ประกอบการสามารถประกอบธุรกิจให้อยู่รอดและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถประคับประคองธุรกิจไปได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการรายเดิม และผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีศักยภาพ แต่ขาดช่องทางการจำหน่ายสินค้า ตลอดจนช่วยให้ผู้บริโภคได้พบปะกับผู้ผลิตสินค้าโดยตรง ได้พบสินค้าคุณภาพดี ปลอดภัย ราคาถูก โดยผู้จำหน่ายสินค้าได้เพิ่มพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย อันจะเป็นการช่วยผู้ประกอบการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และกระตุ้นเศรษฐกิจของสังคม เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในประเทศต่อไปอีกทั้งยังสอดรับกับนโยบายภาครัฐที่มุ่งเน้นการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของทุกภาคส่วนไปพร้อมกัน

สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ อาทิ เครื่องดื่ม เครื่องนุ่งห่มจากผ้าพื้นเมือง เครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์ของใช้ต่างๆในครัวเรือน อีกทั้งยังมีกิจกรรมสร้างสีสันในแต่ละวัน ได้แก่ การแสดงหนังตะลุง การแสดงมายากล นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆที่น่าสนใจตลอดทั้งวัน ได้แก่ การตอกเส้น การสอนทำอาหารสุขภาพ(มังสวิรัติ) การสอนทำยากันยุงจากสมุนไพร สอนการเพ้นท์ผ้าจากศูนย์การเรียนรู้ม่อฮ้อมป้าเหงี่ยม จ.แพร่ การสอนปลูกตะบองเพชร สาธิตการชงชา การให้บริการดูหมอ การพอกหน้า การขัดผิวด้วยสมุนไพรฟรี การตรวจสุขภาพฟรี การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพ โดย แพทย์ทางเลือก และการแสดงการร้องเพลงศิลปะวัฒนธรรมไทย

ในการจัดงานครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมจัดแสดงและสินค้าจากผู้ประกอบการ SMEs จำนวนกว่า 40 ราย จากทั่วทุกภูมิภาคของไทย โดยได้รับความอนุเคราะห์ในด้านสถานที่จัดจำหน่ายเป็นอย่างดียิ่งจาก บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด(มหาชน) และศูนย์การค้า เดอะไนน์เซ็นเตอร์ พระราม 9 

ในการนี้ สมาคมการค้าส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ เอส เอ็ม อี พร้อมด้วย บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด(มหาชน) และ ศูนย์การค้า เดอะไนน์เซ็นเตอร์ พระราม 9 ก็คาดหวังว่า การจัดงาน“ตลาดส่งสุข SMEs ของดีทั่วไทย” ในวันที่ 24–28 สิงหาคม 2565 ระหว่างเวลา 10.00 – 20.00 น. จะสามารถช่วยผู้ประกอบการ SMEs บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายและตรงตามวัตถุประสงค์ทุกประการ พร้อมทั้ง ประสบความสำเร็จในด้านการประกอบธุรกิจและสามารถฝ่าฟันให้พ้นวิกฤติการณ์นี้ได้เป็นอย่างดีต่อไป 

ตลาดส่งสุข SMEsของดีทั่วไทย ระหว่างวันพุธที่ 24 – วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2565
ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.

ณ ลานไนน์ สแควร์ ศูนย์การค้า เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9