เที่ยวทั่วไทย อร่อยทั่วโลก อัพเดทข่าวรายวัน Lifestyle บันเทิง ทันทุกกระแสข่าว!

27 ธันวาคม 2566

เที่ยวปีใหม่ทั่วไทย ปลอดภัยไปกับโทล์ลเวย์

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  รับมอบกระเป๋ากันง่วงจาก นายนพพล โพธิ์ขี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน 




บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง (จำกัด) หรือ DMT เพื่อแจกให้พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะในงาน
“ปีใหม่ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุ ” ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ หมอชิต เป็นการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ และร่วมกันสร้างความปลอดภัยการใช้รถโดยสารสาธารณะ ให้ทุกคนเดินทางถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย

26 ธันวาคม 2566

COTTO คว้า 2 รางวัล สุดยอดสินค้ายอดเยี่ยมแห่งปี 2023 ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพและความยั่งยืน

 COTTO (คอตโต้) ตอกย้ำผู้นำเทรนด์ ด้วยนวัตกรรมที่มาพร้อมโซลูชั่น ภายใต้ SCG Decor  ตอกย้ำความสำเร็จ จากความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่เข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ด้วยการคว้า 2 รางวัลสินค้ายอดเยี่ยมแห่งปีของเวที  “Product of the Year Awards 2023” จากกระเบื้องฟอกอากาศ COTTO AIR ION Tiles และ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ COTTO รุ่น VIZIO ที่ตอบโจทย์เทรนด์ด้านสุขภาพ และความยั่งยืน จัดโดยความร่วมมือของ BUSINESS+ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ วิทยาลัยการจัดการมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ทำการวิจัยและวิเคราะห์พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมในการคัดเลือกแต่ละประเภทสินค้าโดยมี คุณสิทธิชัย สุขกิจประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามซานิทารีแวร์ อินดัสทรี จำกัด (ขวา)  และ คุณปราปต์ พึ่งรัศมี Marketing Manager  บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน)  (ซ้าย)  เป็นผู้แทนในการรับรางวัล ณ ห้องบอลรูม โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ

“เกทเวย์ แอท บางซื่อ" ฉลองเทศกาลคริสต์มาส มอบความสุขส่งท้ายปี พร้อมกระจายความสุขไปกับ โรส ศิรินทิพย์

ศูนย์การค้าเกทเวย์ แอท บางซื่อ ภายใต้ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ในเครือ AWC
จัดงาน The Season of Happiness 2024 ส่งมอบความสุขส่งท้ายปี  เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 7 มกราคม 2567 พร้อมเปิด Lifestyle โซนใหม่ “เพลิน พาร์ค” เพื่อเป็นจุดเช็คอินย่านบางซื่อเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา


และเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม วันคริสต์มาสที่ผ่านมา กับกิจกรรมที่อบอวนไปด้วยบรรยากาศของงาน "
The Season of Happiness 2024" จัดขึ้นบริเวณลานอีเวนท์ฮอลล์ ชั้น M ที่เต็มไปด้วยความสุข จากการ
เปิดเวทีเรียกรอยยิ้ม ของเหล่าแฟนคลับตัวน้อย ด้วยโชว์ของเหล่าซานตาคลอส แซนตี้ และกวางเรนเดียร์  ก่อนที่ โรส ศิรินทิพย์ จะขึ้นเวทีมาพร้อมเพลงเพราะๆ  ที่ขนมาครบทั้งเพลงดัง เพลงฮิต สมกับเป็นเทศกาลแห่งความสุขแบบจัดเต็มในครั้งนี้ รวมถึงเพลงตามคำขอจากแฟนคลับ ที่มานั่งรอชม กันแบบเต็มพื้นที่
และพิเศษสุด กับเพลงเมดเลย์ ฉลองเทศกาลคริสต์มาส ที่โรส เตรียมมาร้องกับแฟนเพลง กันอย่างสนุกสนาน ซึ่งถือว่าเป็นมินิคอนเสิร์ต สุดชิลในบรรยากาศสุดอบอุ่น ส่งท้ายปลายปีถือเป็นโมเมนต์แห่งความสุขของการเฉลิมฉลองแบบใกล้ชิด  รวมถึงความสุขที่กระจายไปพร้อมกับขบวน Happiness Troop ที่มาส่งมอบความสนุกและภายนอกศูนย์การค้าฯ ได้เนรมิตต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่  เพื่อให้ลูกค้าได้มาร่วมถ่ายรูปเช็คอิน และฟินไปกับบรรยากาศการเฉลิมฉลองส่งท้ายปี  บริเวณ “เพลิน พาร์ค” พื้นที่โซนใหม่ที่ทางศูนย์การค้าฯ ได้เปิดขึ้น   เพื่อเติมเต็มความหลากหลายให้แก่ทุกไลฟ์สไตล์ของชาวบางซื่อ ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Best ALL Day Lifestyle Market and The Best Night-time Lifestyle Hangout  เหมาะกับบรรยากาศการ การปาร์ตี้เฉลิมฉลอง พร้อมมุมถ่ายรูปสวยๆ กับต้นคริสต์มาสสุดอลังการ ที่รายล้อมไปด้วยไฟประดับ ที่ทางศูนย์การค้าฯ ตั้งใจอยากให้เป็นจุดเช็คอินอัพโซเซียลให้แก่ชาวบางซื่อและใกล้เคียง


โค้งสุดท้ายกับเทศกาลเฉลิมฉลอง ความสุขจากโปรโมชั่นสุดคุ้ม ตลอดทั้งวัน เพื่อแทนคำขอบคุณจากทางศูนย์การค้าฯ กับแคมเปญโปรโมชั่นลดสูงสุดถึง 50% จากพันธมิตรร้านค้าชั้นนำ  พร้อมร่วมรับสิทธิ์แลกรับของรางวัลพิเศษอีกมากมาย

กินหรือช้อป ภายในศูนย์การค้าฯ กระหน่ำแจกความสุข กับโปรโมชั่นส่งท้ายปี*

- ครบ 1,500 บาท เลือกรับ Gift Voucher หรือของสมนาคุณ จากร้านค้าชั้นนำภายในศูนย์การค้าฯ ที่ร่วม   รายการ หรือ

- ครบ 3,500 บาท รับกระเป๋า Limited Edition (มูลค่า 599 บาท) ฟรี! 

พิเศษ!! ช้อปครบทุก 500 บาท ขึ้นไป(ต่อใบเสร็จ) รับสิทธิ์ Lucky Draw (E-Coupon) พร้อมของรางวัลจากกลุ่มโรงแรมในเครือ AWC ประกอบไปด้วย

• รางวัลที่ 1 ห้องพักสุดหรู Deluxe Pool Villa จากโรงแรมบันยันทรี สมุย พร้อมอาหารเช้า 3 วัน 2 คืนสำหรับ 2 ท่าน มูลค่า 65,000 บาท จำนวน 1 รางวัล 

• รางวัลที่ 2 ห้องพักสุดหรู Deluxe  Garden Pool Suite จากโรงแรมบันยันทรี กระบี่ พร้อมอาหารเช้า 3 วัน 2 คืนสำหรับ 2 ท่าน มูลค่า 60,000 บาท จำนวน 1 รางวัล

• รางวัลที่ 3 บัตรกำนัลรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งจากห้องอาหาร Goji Kitchen+Bar จากโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค มูลค่า 5,412 บาท จำนวน 1 รางวัล




เต็มอิ่มไปกับเทศกาลของขวัญส่งท้ายปีใหม่ ต้อนรับปีใหม่  ที่ทางศูนย์การค้าเกทเวย์ แอท บางซื่อ จัดให้พร้อมพุ่งตัวไปช้อปปิ้งได้ในงาน "The Season of Happiness 2024"  ช้อปสนุกส่งท้ายปลายปีกับสินค้าสุดพิเศษลดถึง 50% ตั้งแต่วันนี้ถึง 7 มกราคม 2567 นี้ กับศูนย์การค้าเกทเวย์ แอท บางซื่อ ความสุขที่พร้อมสรรพสำหรับทุกครอบครัว

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

#ฉลอง5ปีที่เกทเวย์แอทบางซื่อ #5thAnniversaryGatewayatBangsue
#GatewayatBangsue5th #GatewayatBangsue5 #Ajourneyoflove5

รมว.กก. ร่วมต้อนรับคณะอินฟลูเอนเซอร์จากสาธารณรัฐประชาชนจีนในงาน Amazing Festive & Exclusive Trip in Thailand

ย้ำแนวคิดใช้ Soft Power สร้าง Meaningful Travel ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย


เย็นวันนี้ (26 ธันวาคม 2566) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานเลี้ยงต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้กิจกรรม Amazing Festive & Exclusive Trip in Thailand มุ่งนำเสนอภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงบวกของประเทศไทย ผ่าน Soft Power และ Meaningful Travel เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ 2566 ต่อเนื่องถึงปี 2567 โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานฯ พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. ให้เกียรติร่วมงาน ณ มิวเซียมสยาม 


นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า กิจกรรม Amazing Festive & Exclusive Trip in Thailand ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมเชิงกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ท่องเที่ยวเชิงบวก เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวในการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงปีใหม่ 2566 และต่อเนื่องถึงปี 2567 โดย ททท. สำนักงานในจีนทั้ง 5 แห่ง ได้เชิญสื่อมวลชนอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนที่มีชื่อเสียง จำนวน 93 ราย เดินทางมาประเทศไทย ระหว่างวันที่ 21-28 ธันวาคม 2566 เพื่อร่วมเดินทางสำรวจเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวไทย และผลิตเนื้อหาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ พัทยา (ชลบุรี) หัวหิน (ประจวบคีรีขันธ์) เชียงใหม่ จันทบุรี พังงา และเกาะหมาก (ตราด) ซึ่ง ททท. ได้ออกแบบเส้นทางให้สอดคล้องกับการส่งเสริมปีท่องเที่ยวไทย 2566 

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในนามรัฐบาลไทยขอขอบคุณและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากสาธารณรัฐประชาชนจีนในครั้งนี้ สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีน ถือเป็นตลาดหลักที่มีศักยภาพและมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจของไทย จากสถิติตั้งแต่วันที่ 

1 มกราคม 2566-20 ธันวาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยรวมอยู่ที่ 3,352,812 คน คาดว่าตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนสะสมอยู่ที่ 3.5 ล้านคน โดยรัฐบาลมีความตั้งใจผลักดันและสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ด้วยการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ควบคู่กับการนำเสนอ Soft Power และ Meaningful Travel พร้อมยกระดับมาตรการความปลอดภัยและดูแลนักท่องเที่ยวในทุกมิติ เพื่อสะท้อนถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และส่งมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความหมายในทุกครั้งที่มาเยือน 


โดยนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่หลากหลายและมีเอกลักษณ์ ทั้งเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย คุณภาพ และเสริมสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยว (Experience Based) ผ่าน Soft Power of Thailand โอกาสเดียวกันนี้ ในวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 16.30-20.30 น. ททท. ได้จัดกิจกรรม Exclusive Trip แก่คณะสื่อมวลชนชาวจีนให้ได้สัมผัสความเป็นไทยอย่างเต็มอิ่ม เริ่มต้นด้วยกิจกรรมพาสัมผัสเสน่ห์แห่งผ้าไทย 

ณ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และเยี่ยมชมความงดงามของพระบรมมหาราชวัง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ก่อนจะเปิดประสบการณ์นั่งรถตุ๊กตุ๊ก ป๊อปคัลเจอร์แห่งแดนสยามชมวิวทิวทัศน์ยามเย็นรอบเกาะรัตนโกสินทร์ และเดินทางเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับที่ ททท. จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “A Picnic Celebration at the Museum” ณ มิวเซียมสยาม โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ เพื่อแสดงความขอบคุณสื่อมวลชนจีนและอินฟลูเอ็นเซอร์จีน ที่สนับสนุนการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยด้วยดีตลอดทั้งปีที่ผ่านมา

ภายในงาน ททท. ต้อนรับผู้เข้าร่วมงานด้วยการแสดงศิลปะร่วมสมัยผสมผสานความเป็นไทยจากคิดบวกสิปป์ และขนทัพอาหารไทยมาให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลิ้มลองกันอย่างเต็มอิ่ม ได้แก่ ร้านอาหารระดับ Michelin Bib Gourmand อย่างเมนูผัดไทย จากร้านผัดไทยไฟทะลุ, ข้าวเหนียวมะม่วงจากร้าน ก.พาณิช และอาหารทะเล จากร้านเบียร์หิมะ อาณาจักรอาหารทะเล หรือจะเป็นสตรีทฟู้ดอื่น ๆ ได้แก่ เต้าทึง น้ำลำไย ซ่าหริ่มน้ำกะทิจากร้านเช็งซิมอี้, ตำไทย 

ตำข้าวโพด ข้าวขยำกากหมูจากร้านผงชูรส, เมี่ยงกลีบบัว และปาท่องโก๋ สังขยา พร้อมเพิ่มบรรยากาศในค่ำคืนแสนพิเศษด้วยเสียงดนตรีเพราะๆ จากศิลปินชื่อดัง ต้าห์อู๋-พิทยา แซ่ฉั่ว และ เนเน่-พรพับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ นอกจากนี้ ททท. และพันธมิตร ยังได้ร่วมกันเพิ่มความสนุกด้วยกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ได้แก่ กิจกรรมทดลองขับรถยืนไฟฟ้าสองล้อ (Segway) ของตำรวจท่องเที่ยว, กิจกรรมนวดผ่อนคลายโดย Divana Spa, กิจกรรมเสี่ยงเซียมซีทำนายโชค และกิจกรรมสอยดาวต้นคริสมาสต์ ลุ้นรับของรางวัล โดยได้รับการสนับสนุนของรางวัลจากพันธมิตร เช่นบัตรโดยสารเครื่องบินจากสายการบินแอร์เอเชียและนกแอร์ บัตรกำนัลจากบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด ผลิตภัณฑ์เชิงสุขภาพจาก THANN ส่วนลดค่าสินค้าและบริการการท่องเที่ยวจาก Trip.com เป็นต้น 

นอกจากการกระตุ้นตลาดต่างประเทศด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายกับพันธมิตรต่าง ๆ ททท. ยังคงเพิ่มแรงส่งด้วยแคมเปญสื่อสาร “Thais Always Care”ภายใต้แนวคิด “LAND OF CARE” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางและส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวที่ดีของประเทศไทย โดยจัดทำข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวของไทยที่น่าสนใจและมีประโยชน์เผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งข้อมูลกิจกรรมท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ มาตรฐานความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมาตรฐานการให้บริการของผู้ประกอบการท่องเที่ยว รวมทั้งประชาสัมพันธ์เชิงรุกนำเสนอความสวยงามของประเทศไทยผ่านคอนเทนต์ของอินฟลูเอ็นเซอร์ชาวต่างชาติและเผยแพร่ในแพลตฟอร์มชั้นนำ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติ และกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นตลาดหลักที่สำคัญของไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น


กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน


กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำคณะอินฟลูเอนเซอร์ระดับแนวหน้ากว่า 120 ราย เที่ยวไทย ตอกย้ำภาพ Thais Always Care ภายใต้กิจกรรม Amazing Festive & Exclusive Trip in Thailand ผ่านแนวคิดใช้ Soft Power (5F) ส่งมอบประสบการณ์ทรงคุณค่าแบบ Meaningful Travel และสร้างความมั่นใจเที่ยวเมืองไทยให้ปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว


วันนี้ (26 ธันวาคม 2566) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้กิจกรรม Amazing Festive & Exclusive Trip in Thailand มุ่งนำเสนอภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงบวกของประเทศไทย ผ่าน Soft Power และMeaningful Travel เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว และกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ 2566 ต่อเนื่องถึงปี 2567 โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานฯ พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ผู้ว่าการ ททท. นายกิตติ เชาวน์ดี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุพจน์ วงศ์จรัสรวี คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมทั้งผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว  ผู้บริหารสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ผู้บริหารบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ผู้แทนธุรกิจการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชน และสื่อมวลชน ให้เกียรติเข้าร่วมงาน


โดยได้จัดภายใต้ธีม “Trusted Thailand, You Taiguo Yue Wan Yue Kaixin” หรือ “เที่ยวเมืองไทย ยิ่งไป ยิ่งสนุก” ประกอบด้วย กิจกรรม 

1. เปิดประสบการณ์ สัมผัสเสน่ห์ความงามวิจิตร ผ่านผืนผ้าอันทรงคุณค่า ณ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ โดยถือเป็นโอกาสอันดีในการสร้างความประทับใจในการเดินทางผ่านสัมผัสเสน่ห์ของผ้าไทย

2. กิจกรรม “Royal Palace at the Dusk” ชวนคณะอินฟลูเอ็นเซอร์จีน เรียนรู้ประวัติศาสตร์และสัมผัสความงดงามของศิลปวัฒนธรรมชั้นสูงที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ผ่านแสงสียามพลบค่ำ ณ พระบรมมหาราชวัง

3. กิจกรรมต้อนรับด้วยการแสดงศิลปะร่วมสมัยผสมผสานความเป็นไทยจาก "คิดบวกสิปป์" และการยกบรรดาร้านอาหารไทยขึ้นชื่อมาให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลิ้มลองกันอย่างเต็มอิ่ม เช่น ร้านอาหารระดับ Michelin Bib Gourmand  พร้อมเพิ่มบรรยากาศในค่ำคืนแสนพิเศษด้วยเสียงดนตรีเพราะๆ จากศิลปินชื่อดัง ต้าห์อู๋-พิทยา แซ่ฉั่ว และ เนเน่-พรพับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ นอกจากนี้ ททท. และพันธมิตร ยังได้ร่วมกันเพิ่มความสนุกด้วยกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ได้แก่ กิจกรรมทดลองขับรถยืนไฟฟ้าสองล้อ (Segway) ของตำรวจท่องเที่ยว, กิจกรรมนวดผ่อนคลายโดย Divana Spa, กิจกรรมเสี่ยงเซียมซีทำนายโชค และกิจกรรมสอยดาวต้นคริสมาสต์ ลุ้นรับของรางวัลพิเศษ โดยได้รับการสนับสนุนของรางวัลจากพันธมิตร เป็นต้น

กิจกรรมดังกล่าวฯ ถือเป็นการผลักดันและสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามนโยบายรัฐบาล ด้วยการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ควบคู่กับการนำเสนอ Soft Power และMeaningful Travel ซึ่ง ททท. ได้ออกแบบเส้นทางให้สอดคล้องกับการส่งเสริมปีท่องเที่ยวไทย 2566 โดยนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่หลากหลายและมีเอกลักษณ์ ทั้งเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย คุณภาพและเสริมสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยว (Experience Based) ผ่าน Soft Power Thailand โดยการเชิญสื่อมวลชนอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนที่มีชื่อเสียงจำนวนกว่า 120 ราย เดินทางมาประเทศไทยระหว่างวันที่ 21-28 ธันวาคม 2566 เพื่อร่วมสำรวจเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวไทย และผลิตเนื้อหาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย ในพื้นที่กรุงเทพฯ พัทยา(ชลบุรี) หัวหิน(ประจวบคีรีขันธ์) เชียงใหม่ พังงา และเกาะหมาก (ตราด) 


ททท. คาดว่า กิจกรรมดังกล่าวฯ นอกจากกระตุ้นตลาดต่างประเทศด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายกับพันธมิตร ยังเป็นการประชาสัมพันธ์เชิงรุกนำเสนอแคมเปญสื่อสาร “Thais Always Care” ภายใต้แนวคิด “LAND OF CARE” และความสวยงานของประเทศไทยผ่านคอนเทนต์ของ KOLs จะสร้างความมั่นใจและแรงบันดาลใจแก่นักท่องเที่ยวในการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงปีใหม่ต่อเนื่องตลอดปี 2567 เพิ่มมากขึ้นได้ตลอด 365 วัน เที่ยวเมืองไทยไปได้ทุกวัน “เพราะเมืองไทย ยิ่งไป ยิ่งสนุก“ 

#ThaisAlwaysCare #LANDOFCARE #AmazingThailand #MeaningfulTravel #Softpower #365วัน #เที่ยวเมืองไทยยิ่งไปยิ่งสนุก

โครงการปัน ปัน ปีที่ 7


เมื่อวันที่ 8ธันวาคม 2566 โครงการปัน ปัน ปีที่ 7 นำโดย พญ.สุขุมาลย์ สว่างวารี ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งนรีเวช รพ.เปาโล พหลโยธิน และ ดร.พญ.พลินี รัตนศิริวิไล แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง เส้นผมและหนังศีรษะ  รพ.พญาไท 1 



มอบสิ่งของบริจาคจากความร่วมมือแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่พนักงานของโรงพยาบาล และเลี้ยงอาหารกลางวัน ให้แก่สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี เพื่อเป็นการสนับสนุนส่งเสริมความช่วยเหลือด้านสังคมที่ดีขึ้น

ณ สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี

25 ธันวาคม 2566

“สายสีแดง” สวัสดีปีใหม่ 2567

“สายสีแดง” สวัสดีปีใหม่ 2567 ด้วยกิจกรรมพิเศษสุดว้าว เสิร์ฟอาหารเช้าแทนคำขอบคุณ กับนักแสดงนำจากละคร “พรหมลิขิต” “ยายปริก-นังจวง” 1 ม.ค. 67 นี้ 

รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง จัดกิจกรรมเบิกฟ้าต้อนรับศักราชใหม่ 2567 ด้วยกิจกรรมเสิร์ฟอาหารเช้าแทนคำขอบคุณ กับนักแสดงนำจากละคร “พรหมลิขิต” วันที่ 1 ม.ค. 67 เวลา 08.00 – 10.00 น. ณ สถานีดอนเมือง  

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ช่วงเวลาแสนพิเศษในเทศกาลปีใหม่ของประชาชน ให้มีความสุขและมีความหมายยิ่งขึ้น ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่จัดขึ้นในช่วงเทศกาลแห่งความสุข ตลอดจนกิจกรรมอื่นๆ ตลอดทั้งปี เปรียบเสมือนของขวัญสำหรับประชาชนที่ให้ความไว้วางใจเดินทางด้วยรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงตลอดมา ถือเป็นการเติมเต็มช่วงเวลาอันแสนพิเศษให้แก่คนไทย เมื่อเข้าสู่ศักราชใหม่ปี 2567 นี้ เตรียมพบกับกิจกรรมจากรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ด้วยการเสิร์ฟอาหารเช้า ไก่ย่างพร้อมข้าวเหนียว กาแฟและเครื่องดื่มเย็น โดยนักแสดงนำจากละคร ‘พรหมลิขิต’ อาทิ “อำภา ภูษิต” ,“จุ๊บแจง - วิมลพันธ์ ชาลีจังหาญ” เป็นตัวแทนมอบของขวัญสุดพิเศษเพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าที่น่ารักของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และยังสามารถร่วมสนุกกับตู้ถ่ายภาพ Photo Booth ในธีมรถไฟฟ้าสุดชิค จึงขอเชิญชวนผู้ใช้บริการทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันความสุขในเทศกาลปีใหม่ 2567 ในวันที่ 1 ม.ค. 67 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 10.00 น. หรือจนกว่าของจะหมด ณ สถานีดอนเมือง


บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ขอขอบคุณจากใจที่ทุกท่านร่วมเดินทางด้วยกันตลอดมา มาร่วมสร้างความทรงจำดีๆ ให้เทศกาลแห่งความสุขนี้พิเศษไปพร้อมกัน และบริษัทฯ จะมุ่งมั่น พัฒนาองค์กรสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานระดับสากล มุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ รักษามาตรฐานการปฏิบัติงานในด้านการเดินรถ และซ่อมบำรุง พัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพอยู่เสมอ รวมถึงรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจขององค์กร อีกทั้งสามารถเชื่อมโยงทุกการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมืองได้อย่างยั่งยืน

รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง Call Center 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง 

24 ธันวาคม 2566

เทศกาลแห่งความสุขและรอยยิ้มแห่งปี ที่ เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ

Joy in every happiness moments and cheerful time here!

เฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขและรอยยิ้มกับมื้ออาหารสุดพิเศษท่ามกลางบรรยากาศที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ร่วมฉลองเทศกาลแห่งความรื่นรมย์กับกับ ชันเดย์บรั้นซ์ เลิศรสในวันคริสต์มาสอีฟ  ถ้ากำลังมองหามื้ออาหารสำหรับดินเนอร์สุดโรแมนติกกับคนรัก หรือสถานที่สำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับกลุ่มเพื่อน เลือกเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ  เป็นส่วนหนึ่งในโมเมนต์แห่งการเฉลิมฉลองกับมื้ออาหารสุดพิเศษรังสรรค์ขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน พร้อมมอบความประทับใจในเทศกาลพิเศษ ที่มีให้เลือกรับประทานทั้งในมื้อกลางวัน และมื้อค่ำ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนับถอยหลังเข้าสู่พุทธศักราช 2567


เทศกาลแห่งความสุขและรอยยิ้มแห่งปี  ทีมงานมีโอกาสพูดคุยกับ คุณฐิติวัชร์ พณิชย์ปัญญากุล (Thitiwat Panichpanyakul) ผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage Manager) เชิญชวน เฉลิมฉลองคืนวันคริสต์มาส อีฟกับคนที่คุณรักในบรรยากาศอันแสนอบอุ่น โดยทีมเชฟได้เตรียมอาหารคุณภาพเยี่ยมที่พร้อมให้บริการอย่างหลากหลายในสไตล์ ไก่งวงคริสต์มาสแบบคลาสสิก และของหวานที่มีสีสันสำหรับเทศกาลคริสต์มาส และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย พบกับอาหารหลากหลายเมนูสไตล์โฮมเมดและเมนูชิกเนเจอร์ อาทิ ไก่งวงอบ และเฮมฮันนี่มัสตาร์ด พร้อมสปาร์คกลิ้งไวน์ แบบไม่อั้น ตบท้ายมื้อพิเศษ ด้วยเมนูของหวาน บอกได้เลยว่าห้ามพลาด

คุณฐิติวัชร์ พณิชย์ปัญญากุล
ผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage Manager)


Christmas Eve Sunday Brunch:
วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม 2566 I 11:30 – 15:00น. 

ร่วมฉลองเทศกาลแห่งความรื่นรมย์ อร่อยกับอาหารหลากหลายเมนูสไตล์โฮมเมดและเมนูซิกเนเจอร์ อาทิ ไก่งวงอบ และแฮมฮันนี่มัสตาร์ด พร้อม สปาร์คกลิ้งแบบไม่อั้น ราคา 890 บาทต่อท่าน. พิเศษ มา 3 จ่าย 2

Christmas Eve / Christmas Day Dinner:
วันอาทิตย์ที่ 24 และวันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม 2566 I 18:00 – 22:00น.

ฉลองค่ำคืนคริสต์มาสอีฟและคืนวันคริสต์มาส กับคนพิเศษด้วยเซ็ตอาหารตะวันตก 5 คอร์ส พิเศษกับเมนูไก่งวงอบและแฮมฮันนี่มัสตาร์ดสูตรลับเฉพาะเสิร์ฟพร้อม 1 แก้ว ราคา 750 บาทต่อท่าน.พิเศษ มา 4 ท่านรับ1 ขวดฟรี เมื่อจองล่วงหน้า และชำระเงินภายในวันที่ 20 ธันวาคมนี้

New Year Eve: วันอาทิตย์ที่ 31ธันวาคม 2566 I 18:00 – 23:00น.
ส่งท้ายปีเก่ากับเมนูอาหารมื้อพิเศษเพลิดเพลินกับบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลซีฟู้ดบาร์บีคิวย่างสดๆ ใหม่ๆ
และเครื่องดื่มหลากหลายชนิดที่เสิร์ฟแบบไม่อั้น ราคา 890 บาทต่อท่าน. พิเศษ มา 4 ท่านรับสปาร์คกลิ้ง
1 ขวดฟรี เมื่อจองล่วงหน้า และชำระเงินภายในวันที่ 26 ธันวาคมนี้




สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง โรงแรม เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ
โทร. 02 119 2188

www.theparknine.com/suvarnabhumi

บริการที่รวดเร็วและสะดวกสบายไปยังสนามบิน พักที่สะดวกสบายและเพลิดเพลินกับการนั่งฟรีไปสนามบินสุวรรณภูมิสําหรับแขกโรงแรม
พิกัด: https://g.page/eat-drink-love-suvarnabhumi

#theparkninehotel #theparkninesuvarnabhumi
#theparkninehotel #theparkninesuvarnabhumi #ห้องพักที่กว้างขวาง
#สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน #Transithotelbangkok


พาณิชย์เพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้กับชุมชน พร้อมแจกคูปองชวนช้อป 50 บาท 74 จังหวัดทั่วประเทศ

ระหว่างวันที่ 24 ธ.ค. 66 - 7 ม.ค. 2567 “ตลาดต้องชม 121 แห่ง จาก 74 จังหวัดทั่วประเทศ”  พร้อมแจกคูปองชวนช้อป 50 บาท จาก DIT GO สำหรับผู้ที่เช็คอินตลาดต้องชมทั่วประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน



24 ธค. 2566 : นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม พาณิชย์ชวนเที่ยวตลาดต้องชมทั่วประเทศ ภายใต้ชื่องาน “ชวนตะลอนตลาดต้องชม ตะลุยความสุขช่วงเทศกาลปีใหม่” โดยมี นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ และนายชวน ชูจันทร์ ประธานประชาคมตลาดน้ำคลองลัดมะยม นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับพร้อมพาเที่ยว “ตลาดน้ำคลองลัดมะยม” เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร หนึ่งในตลาดต้องชม จาก 121 แห่ง ทั่วประเทศ



และเยี่ยมชมโซนสินค้า "ธงฟ้า ราคาประหยัด" ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส พร้อมมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวร่วมถ่ายภาพ ณ จุด Landmark เช็คอินพร้อมแชร์ผ่านช่องทางสื่อโซเซียลมีเดีย เพื่อรับคูปองชวนช้อป 50 บาททันที จาก DIT GO เมื่อมาเที่ยวตลาดต้องชมทั่วประเทศ มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน เพื่อกระตุ้นการบริโภค เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ให้กับชุมชนให้มากที่สุดในช่วงเทศกาลปีใหม่ 

นอกจากนี้ภายในงานมีนักแสดงชื่อดัง ปิงปอง – ธงชัย ทองกันทม ร่วมเชิญชวนเดินเที่ยวชม ช้อป ชิม สินค้าตลาดต้องชม “ตลาดน้ำคลองลัดมะยม” แวะเยี่ยมชมสินค้าภายในตลาดต้องชมโดยมอบของที่ระลึก และรอยยิ้มแห่งความสุข ด้วยอมยิ้มระหว่างเยี่ยมชม แวะชิมไอศกรีมโบราณ  แวะชมสาธิตขนมถั่วแปบ ขนมเบื้องไทย ถั่วทอด และข้าวเกรียบว่าว เพ้นท์หัวโขน ชมหนังตลุงปักษ์ใต้ แห่งเดียวใกรุงเทพมหานคร อีกทั้งชมการแสดงรำอวยพรจากเด็กนักเรียนในชุมชน (โรงเรียนวัดสโมสร) พร้อมอวยพรปีใหม่ให้แก่เด็กและประชาชนที่มาเที่ยวตลาดฯ ในวันนี้




นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า  รัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริมการดำเนินการด้านการตลาดภายในประเทศ โดยตั้งเป้าให้มีตลาดชุมชนเกิดขึ้นในทุกมุมเมือง เพื่อเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าโดยตรงแก่ประชาชน  กรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์จึงได้ดำเนินโครงการตลาดชุมชนเพื่อธุรกิจท้องถิ่นขึ้น ภายใต้ชื่อ “ตลาดต้องชม” ดำเนินการพัฒนาหรือยกระดับตลาดที่จำหน่ายสินค้าเกษตร หัตถกรรม งานศิลปะ สินค้า OTOPs และสินค้าอุปโภคบริโภคของชุมชนที่ผลิตโดยเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน SMEs และคนในชุมชนหรือพื้นที่ใกล้เคียง และส่งเสริมเป็น “ตลาดต้องชม” ที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามมีการจำหน่ายสินค้าที่มีความเที่ยงตรง เที่ยงธรรม โปร่งใส มีการปิดป้ายแสดงราคา เครื่องชั่งเที่ยงตรง และจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพดี ตามเอกลักษณ์พาณิชย์ ควบคู่ไปกับการรักษาศิลปวัฒนธรรมตามอัตลักษณ์วิถีของชุมชน


โดย “ตลาดต้องชม”  นี้ จะเป็นช่องทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้กับชุมชน เป็นสถานที่ที่ไม่ว่าจะเป็นคนในท้องถิ่นหรือผู้มาเยือนจากต่างถิ่น ต่างต้องแวะชม แวะเวียนเข้ามาจับจ่ายใช้สอย สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ศิลปะ วิถีชีวิต อัตลักษณ์และความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งล้วนแล้วเป็นอำนาจแห่งการสรรค์สร้างเศรษฐกิจชุมชน หรือ ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ที่กระจายไปทั่วประเทศ  ซึ่งเป็นการดำเนินงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เศรษฐกิจท้องถิ่นมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน โดยประชาชนสามารถ เที่ยวชม ช้อป ชิม สินค้าในตลาดต้องชมได้ ในงาน “ชวนตะลอนตลาดต้องชม ตะลุยความสุขช่วงเทศกาลปีใหม่” ระหว่างวันที่ 24 ธ.ค. 66 - 7 ม.ค. 2567 “ตลาดต้องชม 121 แห่ง จาก 74 จังหวัดทั่วประเทศ” ดังนี้

ภาคกลาง 25 จังหวัด 52 ตลาด  

1.จังหวัดกรุงเทพมหานคร ได้แก่ 1) ร้านค้าชุมชนริมคลองพระยาสุเรนทร์ 2) ตลาดน้าสองคลองวัดตลิ่งชัน 3) ตลาดคลองบางหลวง 4) ตลาดพลู 5) ตลาดน้ำคลองลัดมะยม 6) ตลาดน้ำวัดสะพาน และ 7) ตลาดน้ำขวัญ – เรียม

2.จังหวัดชัยนาท ได้แก่ 1)  ตลาดเจ้าพระยาแลนด์ 2) ตลาดน้ำวัดคลองจันทน์

3.จังหวัดนครนายก ได้แก่ 1) ตลาดวัดหลวงพ่อปากแดง 2) ตลาดชุมชนวัดมณีวงศ์

4.จังหวัดนครปฐม ได้แก่ 1)ตลาดน้ำลำพญา 2)ตลาดบางหลวง ร.ศ.122 3) ตลาดน้ำทุ่งบัวแดง 4) ตลาดน้ำคลองมหาสวัสดิ์ (บ้านศาลาดิน) 5) ตลาดน้ำดอนหวาย

5.จังหวัดนนทบุรี ได้แก่ 1) ตลาดน้ำไทรน้อย 2) ตลาดน้ำวัดตะเคียน 3) ตลาดน้ำวัดใหญ่สว่างอารมณ์

6.จังหวัดปทุมธานี ได้แก่ 1) ตลาดชุมชนวัดโบสถ์ 2) ตลาดอิงน้ำสามโคก

7.จังหวัดพระนครศรีฯ ได้แก่ 1) ตลาดโก้งโค้งบ้านแสงโสม 2) ตลาดหลวงปู่ทวด

8.จังหวัดลพบุรี ได้แก่ ตลาดปลาชัยบาดาล

9.จังหวัดสมุทรปราการ ได้แก่ 1) ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง 2) ตลาดโบราณบางพลี

10.จังหวัดสมุทรสงคราม ได้แก่ 1) ตลาดวัฒนธรรมตำบลสวนหลวง 2) ตลาดน้ำบางน้อย 3) ตลาดน้ำท่าคา

11.จังหวัดสมุทรสาคร ได้แก่ 1) ตลาดน้ำหนองพะอง 2) ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์

12.จังหวัดสิงห์บุรี ได้แก่ 1) ตลาดวัดพระนอนจักรสีห์ 2) ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน 3) ตลาดชุมชนบ้านพิกุลทอง

13.จังหวัดสุพรรณบุรี ได้แก่ 1) ตลาดวัดป่าเลไลยก์ 2) ตลาดวัดไผ่โรงวัว

14.จังหวัดสระบุรี ได้แก่ 1) ตลาดต้าน้ำโบราณบ้านต้นตาล 2) ตลาดหัวปลี

15.จังหวัดอ่างทอง ได้แก่ 1) ตลาดศาลเจ้าโรงทอง

16.จังหวัดจันทบุรี ได้แก่ ตลาดชุมชนขนมแปลก ริมคลองหนองบัว

17.จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้แก่ 1) ตลาดน้ำบางคล้า 2) ตลาดบ้านใหม่ 100 ปี

18.จังหวัดชลบุรี ได้แก่ 1) ตลาดประมงท่าเรือพลี 2) ตลาดน้ำ 3 วัง

19.จังหวัดตราด ได้แก่ ตลาดเทศบาลคลองใหญ่

20.จังหวัดปราจีนบุรี ได้แก่ ตลาดน้ำวัดใหม่กรงทอง

21.จังหวัดระยอง ได้แก่ ถนนคนเดินชุมชนปากคลองเพ

22.จังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่ 1) ถนนคนเดินปากแพรก 2) กาดวิถีชุมชนคูบัว

23.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่ ถนนคนเดินสายวัฒนธรรมสู้ศึก

24.จังหวัดราชบุรี ได้แก่ กาดวิถีชุมชนคูบัว

25.จังหวัดเพชรบุรี ได้แก่ ถนนมีชีวิต พานิชเจริญ

ภาคเหนือ 17 จังหวัด 29 ตลาด

1.จังหวัดกำแพงเพชร ได้แก่ ตลาดย้อนยุคนครชุม

2.จังหวัดเชียงราย ได้แก่ กาดกองแก้ว(ถนนสายวัฒนธรรมย่านเก่าเล่าเมือง)

3.จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ 1) กาดชุมชนโหล่งฮิมคาว (กาดต่อยอน,กาดฉำฉา,ร้านค้าชุมชน) 2)กาดบะป๊าว เชียงใหม่

4.จังหวัดน่าน ได้แก่ 1) กาดข่วงเมืองน่าน 2) ถนนคนเมืองมิ่งเมืองดีเบส 3) กาดวัฒนธรรมข่วงเมืองสา 4) กาดแลงเมืองปัว มาม๋วนใจ๋ 5) ร้านค้าชุมชนวัดพระธาตุแช่แห้ง 6) ตลาดน้ำ 4,000 ปี

5.จังหวัดนครสวรรค์ ได้แก่ ตลาดท่าเรือคลองคาง

6.จังหวัดพิจิตร ได้แก่ ถนนคนเดินบางขี้นาก

7.จังหวัดพิษณุโลก ได้แก่ 1) ตลาดวิถีชุมชน ฅนพิษณุโลก 2) ตลาดบ้านใหม่ 100 ปี

8.จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้แก่ ตลาดถนนคนเดินไทหล่ม

9.จังหวัดพะเยา ได้แก่ 1) ตลาดบ้านบัว 2) ถนนคนเดินฮิมกว๊านพะเยา

10.จังหวัดแพร่ ได้แก่ 1) ตลาดลานค้าชุมชนพระธาตุช่อแฮ 2) กาดเมกฮิมคือ

11.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้แก่ ตลาดชุมชนบ้านโป่ง

12.จังหวัดลำปาง ได้แก่ 1) ตลาดศาลเจ้าพ่อประตูผา 2) กาดกองต้า

13.จังหวัดลำพูน ได้แก่ ตลาดหัตถกรรมผ้าฝ้ายทอมือบ้านดอนหลวง

14.จังหวัดสุโขทัย ได้แก่ 1. ถนนคนเดินเมืองสุโขทัยธานี 2.ตลาดท่าน้ำรับเสด็จ

15.จังหวัดตาก ได้แก่ กาดนั่งยองคล้องย่าม

16.จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้แก่ 1) ตลาดถนนวันวานเมืองลับแล 2) ถนนสายวัฒนธรรม ตำบลหาดสองแคว

17.จังหวัดอุทัยธานี ได้แก่ 1) ถนนคนเดินตรอกโรงยา

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด 23 ตลาด

1.จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้แก่ ถนนคนเดินกาฬสินธุ์ โปงลางสตรีท

2.จังหวัดขอนแก่น ได้แก่ 1) ตลาดต้นตาล 2) ตลาดสีเขียวขอนแก่น (Green Market)

3.จังหวัดชัยภูมิ ได้แก่ 1) ตลาดฅนพรม

4.จังหวัดนครพนม ได้แก่ ตลาดศูนย์วัฒนธรรมพระธาตุเรณูนคร  

5.จังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ ตลาดไนท์บาซ่าร์พิมาย

6.จังหวัดบึงกาฬ ได้แก่ ถนนข้าวเม่าริมโขง ณ บึงกาฬ

7.จังหวัดบุรีรัมย์ ได้แก่ 1) ถนนคนเดินเซราะกราว 2) ถนนคนเดิน ถมหมืด  ถมมอ

8.จังหวัดมหาสารคาม ได้แก่ ตลาดพันปีจัมปาศรีนคร

9.จังหวัดมุกดาหาร ได้แก่ ตลาดอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ

10.จังหวัดยโสธร ได้แก่ ตลาดถนนคนเดินยโสธร

11.จังหวัดร้อยเอ็ด ได้แก่ ถนนคนเดินสาเกตนคร

12.จังหวัดเลย ได้แก่ ตลาดถนนคนเดินวิถีเชียงคานบ้านไม้เก่าริมโขง

13.จังหวัดสกลนคร ได้แก่ 1) ตลาดพญาเต่างอย 2) ตลาดย่านเมืองเก่าสกล ถนนผ้าคราม

14.จังหวัดสุรินทร์ ได้แก่ 1) ตลาดน้ำราชมงคลสุรินทร์ 2) ตลาดผ้าไหมบ้านท่าสว่าง

15.จังหวัดศรีสะเกษ ได้แก่ ตลาดวัดไพรพัฒนา ตลาดอาเซียน

16.จังหวัดหนองคาย ได้แก่ ตลาดแคมของหนองคาย

17.จังหวัดหนองบัวลำภู ได้แก่ ตลาดห้วยเดื่อ

18.จังหวัดอุดรธานี ได้แก่ ตลาดผ้าบ้านนาข่า

19.จังหวัดอุบลราชธานี ได้แก่ ตลาดถนนคนเดินเขมราษฎร์ธานี

ภาคใต้ 13 จังหวัด 17 ตลาด

1.จังหวัดกระบี่ ได้แก่  ถนนคนเดินกระบี่

2.จังหวัดชุมพร ได้แก่ 1) ตลาดพ่อตาหินช้าง 2) ริมน้ำวัดเนินทอง

3.จังหวัดตรัง ได้แก่ 1) ตลาดนาปด 2) ถนนคนเดินกันตัง

4.จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ ตลาดนาวง

5.จังหวัดนราธิวาส ได้แก่ ตลาดยะกัง ขนม 100 ปี

6.จังหวัดปัตตานี ได้แก่ ตลาดอาหารทะเลแหลมนก

7.จังหวัดพังงา ได้แก่ ถนนวัฒนธรรมเมืองเก่าตะกั่วป่า

8.จังหวัดพัทลุง ได้แก่ หลาดใต้โหนด

9.จังหวัดภูเก็ต ได้แก่ 1) ตลาดนัดวัดเทพ 2) ถนนคนเดิน หลาดใหญ่

10.จังหวัดระนอง ได้แก่ ตลาดเทศบาลตำบลหงาว

11.จังหวัดสงขลา ได้แก่ 1) ตลาดริมน้ำคลองแดน 2) หลาดริมเล @ เกาะยอ

12.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แก่ ตลาดน้ำบ้านดอน

13.จังหวัดยะลา ได้แก่ ตลาดนัดชุมชนบ้านคลองทรายใน

โดยตลาดต้องชมทั่วประเทศมีที่ตั้งอยู่ติดวัด ซึ่งประชาชนที่มาเที่ยวชม ช้อป ชิม สินค้าในตลาดต้องชม สามารถไหว้พระขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลปีใหม่อีกด้วย

แผนที่ตลาดต้องชม 121 แห่ง จาก 74 จังหวัดทั่วประเทศ
https://goo.gl/maps/GsDtJHv72KMFBaHw7


ติดตามข่าวสารและกิจกรรมดีๆ จาก กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ที่ช่องทางออนไลน์:
https://www.facebook.com/ditfamilyhomes หรือติดต่อกรมการค้าภายใน


กระทรวงพาณิชย์ 563 ถนนนนทบุรี ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี  11000
โทรศัพท์ : 0 2507 5530 , สายด่วน 1569