เที่ยวทั่วไทย อร่อยทั่วโลก อัพเดทข่าวรายวัน Lifestyle บันเทิง ทันทุกกระแสข่าว!

31 มกราคม 2566

คิง เพาเวอร์ ร่วมกับ ม.มหิดล และ 6 ค่ายเพลงชั้นนำเปิดเวทีต้อนรับนักดนตรีหน้าใหม่แห่งปี :THE POWER BAND 2023 Season 3

เวทีประกวดวงดนตรีสากลคุณภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ

31 มกราคม 2566 – นับเป็นอีกหนึ่งเวทีคุณภาพที่สร้างสรรค์แรงบันดาลใจและโอกาสให้กับนักดนตรีรุ่นใหม่ของเมืองไทยให้มีศักยภาพเตรียมพร้อมก้าวสู่วงการระดับดนตรีอาชีพอย่างสมบูรณ์  คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์  พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 6 ค่ายเพลงชั้นนำของเมืองไทย อย่าง MuzikMove, LOVEiS Entertainment, Small Room, What The Duck, Warner Music Thailand และ XOXO Entertainment อีกทั้งโรงเรียนดนตรียามาฮ่า GuitarMAG และ T-POP เปิดเวทีประกวด ‘THE POWER BAND 2023 Season 3’ เวทีประกวดวงดนตรีสากลคุณภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เพื่อค้นหาสุดยอดวงดนตรีรุ่นใหม่ที่มีแรงบันดาลใจและพลังสร้างสรรค์ทางดนตรีอันโดดเด่น ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 1,500,000 บาท   

นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า การประกวด ‘THE POWER BAND 2023 Season 3’ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ตั้งเป้าหมายเพื่อเปิดเวทีประกวดดนตรีที่ดี มีคุณภาพ และได้มาตราฐานระดับสากล โดยมุ่งหมายให้นักเรียน นักศึกษารุ่นใหม่ และประชาชนทั่วไปที่รักในเสียงดนตรีทั่วประเทศเข้าร่วมประกวดวงดนตรีในครั้งนี้ โดยจับมือกับพันธมิตรที่มีชื่อเสียงและมากด้วยประสบการณ์ด้านดนตรี โดยไม่เพียงแต่มอบโอกาสให้มีพื้นที่ในการแสดงออก แต่ยังมอบโอกาสในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ ความสามารถ และการใช้ชีวิตเพื่อก้าวสู่การเป็นคนดนตรีมืออาชีพอย่างมีคุณภาพ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘It’s Possible’  Music Makes Life Possible พลังแห่งดนตรี พลังแห่งทุกความเป็นไปได้ โดยเชื่อว่านักเรียน นักศึกษารุ่นใหม่ หรือ

ประชาชนทั่วไปที่ได้ผ่านเวที THE POWER BAND จะได้รับประสบการณ์และความรู้ที่จะสามารถนำไปพัฒนาศักยภาพ เพื่อก้าวไปสู่การเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงในระดับโลก สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยต่อไปในอนาคต”



ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า “เวทีประกวดวงดนตรีสากล THE POWER BAND 2023 Season 3 เป็นเวทีที่เปิดกว้างในการแสดงความสามารถทางด้านดนตรีอย่างแท้จริงให้กับนักเรียน นักศึกษารุ่นใหม่ และประชาชนทั่วไปที่รักในเสียงเพลง ให้เข้ามาร่วมสร้างสรรค์แนวเพลงในแบบฉบับของตัวเอง พร้อมเปิดเวทีให้ออดิชั่นทั้งหมด 5 สนาม ได้แก่ ขอนแก่น, เชียงใหม่, สงขลา, นครปฐม (ศาลายา) และกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงในโอกาสในการประกวดครั้งนี้ โดยจะแบ่งการประกวดเป็น 2 ประเภท

ได้แก่ 1. Class A การประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยม รุ่นมัธยมศึกษา   2. Class B การประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยม รุ่นบุคคลทั่วไป หลักเกณฑ์การตัดสินยังคงความเข้นข้น พิจารณาจากสไตล์การร้อง การเรียบเรียงองค์ประกอบของดนตรี ความเข้าใจทฤษฎีดนตรี ทักษะการเล่นเครื่องดนตรี ความสมบูรณ์ของการเล่น และที่สำคัญที่สุดคือการเล่นเป็น Teamwork ต้องไปด้วยกันตั้งแต่ต้นจนจบเพลง   ขอเพียงมีความตั้งใจและรักในเสียงดนตรี คุณอาจจะเป็นทีมผู้ชนะเลิศในการแข่งขันครั้งนี้ก็เป็นได้” 

โดยเวที THE POWER BAND 2023 Season 3 การประกวดวงดนตรีสากล ประจำปี 2566 ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการที่มีประสบการณ์ และชื่อเสียงทางด้านดนตรีแถวหน้าของเมืองไทย และอีก 6 ค่ายเพลงชั้นนำของเมืองไทยที่จะร่วมทำการเฟ้นหานักดนตรีหน้าใหม่เพื่อก้าวไปเป็นศิลปินประดับในวงการดนตรีของไทยในอนาคต โดยมี ดนุภพ กมล รองกรรมการผู้จัดการบริษัท มิวซิกมูฟ จำกัด ที่จะช่วยชี้แนะแนวทางการเป็นศิลปินอย่างมืออาชีพ มีทักษะการเป็นดนตรีที่ดี และเรียนรู้การทำเพลงที่จะดึงศักยภาพออกมาใช้ให้ได้มากที่สุดในการประกวด พร้อมด้วย อัคราวิชญ์ พิริโยดม หัวหน้าสาขาวิชาดนตรีสมัยนิยม วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล, คชภัค ผลธนโชติ ผู้บริหารค่าย Boxx Music และ Zircle Muzik, กฤษติกร รสาธิต ผู้บริหารค่าย Home Run Music, พิรียา ถีระวัฒนาสวัสดิ์ ผู้บริหารค่าย LOVEiS Entertainment, นัฐพงษ์ สุทธิวิรีสรรค์ ผู้บริหารค่าย What The Duck, คาล นิทัศน์ คงขำ ผู้บริหารค่าย Warner Music Thailand, ชลากรณ์ ปัญญาโฉม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิทัลทีวี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ ผู้บริหารค่าย XOXO Entertainment, ศิลปินวง TATTOO COLOUR ตัวแทนค่าย SMALL ROOM, อรอนงค์ ขาวบุบผา ผู้บริหารบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่, กรด มัติโก ผู้บริหาร The Guitar Mag, และ ดร. พีรวัฒน์ ชูเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด


สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมการประกวด เปิดรับรอบออดิชั่น 5 สนามแข่งขัน ได้แก่ ขอนแก่น, เชียงใหม่, สงขลา, นครปฐม (ศาลายา) และกรุงเทพมหานคร เพื่อค้นหาตัวแทนผู้ชนะเลิศของแต่ละสนาม เข้าอบรมเพิ่มความรู้ทางด้านดนตรีจากมิวสิคกูรูระดับประเทศของเมืองไทย กับ POWER BAND CAMP ก่อนที่จะเข้าไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ เพื่อชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ  และรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1,500,000 บาท โดยสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 จนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2566 ผ่านทางเว็บไซต์ www.music.mahidol.ac.th/thepowerband และเฟซบุ๊ก thepowerband.mahidol โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการสมัคร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-800-2525 ต่อ 3109 และ 02-441-5305

คะตะลิสต์ จุดประกาย “อาหารยั่งยืน” สนับสนุนบริโภคไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรง (cage-free egg) แทนไข่ไก่จากกรงตับ “battery cage”



ภายใต้แนวคิด “One Health, One Welfare, One Planet”

คะตะลิสต์ (Catalyst) องค์กรวิสาหกิจเพื่อสังคม จุดประกายสร้างผู้นำธุรกิจรุ่นใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนโลกด้วยระบบอาหารที่ยั่งยืน (sustainable food) รุดเดินหน้าชวนธุรกิจฟาร์มเลี้ยงและธุรกิจด้านอาหารและโรงแรมให้หันมาใช้ไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรง ซึ่งจะดีต่อสุขภาพคน ต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อม

วันนี้ หลายประเทศทั่วโลกได้หันมาบริโภค“ไข่ไก่จากการเลี้ยงแบบไม่ขังกรง (cage-free egg) และแบบอิสระ (free-range egg)” ให้แม่ไก่ได้เติบโตอย่างมีความสุขตามธรรมชาติ ไม่ต้องเครียดเพราะติดอยู่ในกรงแคบ ๆ ตลอดชีวิตซึ่งอาจนำไปสู่ความเจ็บป่วยของแม่ไก่ การใช้ยาปฏิชีวนะแบบหว่าน (antibiotic prophylaxis) ที่สัมพันธ์กับปัญหาเชื้อดื้อยาที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของโลก  

นายแพทย์วัชระ พุ่มประดิษฐ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท คะตะลิสต์ จำกัด องค์กรนานาชาติที่ทำงานภายใต้แนวคิดวิสาหกิจเพื่อสังคม ( international social ecterprize )กล่าวว่า “การส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ เช่น โครงการ “ไข่ไก่ไร้กรง (Cage free Eggs)” มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ฟาร์ม เกษตรผู้เลี้ยงไก่ในการยกระดับคุณภาพ มาตรฐาน เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ที่ตอบรับกับกระแสของผู้บริโภคและกระแสโลกที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ความยั่งยืน (sustainability) และ สวัสดิภาพสัตว์ (animal welfare) นอกจากนั้นยังได้ดำเนินงานร่วมกับจังหวัดที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้อาหารยั่งยืน (sustainable food) สอดคล้องกับท่องเที่ยวยั่งยืน (sustainable tourism) สมกับคำว่า World Class Destination ของเมืองไทยอย่างแท้จริง”


คะตะลิสต์ จึงเดินหน้าสนับสนุนทางด้านวิชาการเพื่อยกระดับขีดความสามารถให้แก่ฟาร์มและเกษตรกร พร้อมทั้งการช่วยสร้าง

ตลาดให้กับไข่ไก่ที่เลี้ยงโดยไม่ขังกรง ด้วยการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศไทยหันมาใช้ไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรง


โดยเตรียมจัดงาน “พิธีมอบโล่รางวัลแก่ธุรกิจผู้นำในด้าน อาหารยั่งยืนที่ได้ประกาศพันธะสัญญาในการเปลี่ยนมาบริโภคหรือจำหน่ายไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรง (cage-free egg)  ครั้งที่1” เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ประกอบการที่เป็นตัวอย่างที่ดีของประเทศไทยและของโลก ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ ณ ห้องประชุมอมรินทร์ สถาบันอาหาร

สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม (National Food Institute, Ministry of Industry) 




การผลิตอาหารในยุคปัจจุบัน เราควรคำนึงถึงสวัสดิภาพและจริยธรรมในการปฏิบัติต่อสัตว์ เพราะทุกสิ่งที่เราทำจะย้อนกลับมาสู่ตัวเราเอง อันเป็นแนวคิดในการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ของ คน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม หรือ One Health, One Welfare, One Planet

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการการไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรง สามารถติดต่อได้ที่ คุณ ณิชามน แสงเดือน (0981563269)

“ททท.-กรีนไลฟ์พลัส” จัดมหกรรมบทเพลงเพื่อชีวิต "กรีนมิวสิค" ฟรีคอนเสิร์ต

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ นิตยสาร กรีนไลฟ์พลัส ขอเชิญร่วมงาน "กรีนมิวสิค" มหกรรมบทเพลงเพื่อชีวิต "ฟรีคอนเสิร์ต" เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ในวันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ นี้ ณ ลานกิจกรรมเขื่อนขุนด่านปราการชล ตั้งแต่ "เที่ยงวันยันเที่ยงคืน"
ตื่นตา ตื่นใจ ไปกับการแสดงคอนเสิร์ตของ 6 ศิลปินวงดัง ระดับตำนาน ด้วยระบบแสง สี เสียงสุดอลังการ นำโดย หงา คาราวาน, สีเผือก คนด่านเกวียน, ซูซู, แฮมเมอร์, บรรพชน และ ต่อ-อุทก 

พร้อมกันนี้ ท่านจะได้พบกับการแสดงว่าวบินสวยงามนานาชาติ โดยสมาคมนักบินว่าวแห่งประเทศไทย
ที่จะมาร่วมสร้างสีสันตลอดทั้งงาน นอกจากนี้ ยังมีการออกร้านชุมชนของดีนครนายก และ สินค้าโอทอป อีกมากมาย รวมถึงการ Test Drive กับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Deco รถไฟฟ้าประหยัดพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ร่วมจัดแคมเปญพิเศษ เพื่อขานรับการสนับสนุนจากรัฐบาล ลดทันที 18,000 บาท เจ้าแรกและเจ้าเดียวในเมืองไทยที่ได้รับมาตรฐานการผลิต พร้อมตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการครบวงจรทั่วประเทศกว่า 300 สาขา

.......อย่าลืม 12 กุมภาพันธ์ นี้ กรีนมิวสิค ฟรีคอนเสิร์ต มหกรรมเพลงเพื่อชีวิต
พบกันที่ เขื่อนขุนด่านปราการชล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 089-123-4450

บีไชน์ คอลลาเจนเปปไทด์ พลัส รสมิกซ์เบอร์รี่ และ บีไชน์ เนเจอร์ซี จัดโปรสุดคุ้ม

ซื้อ 1 ฟรี 1 เริ่มต้นปีกระต่ายกับ 2 สินค้ายอดฮิต หาซื้อได้ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น


บริษัท บีไชน์ นูทริชั่น พลัส จำกัด ผู้จัดจำหน่ายอาหารเสริม เกรดพรีเมี่ยม ภายใต้แบรนด์ “บีไชน์” ที่ยึดมั่นผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพที่ดีและปลอดภัยต่อผู้บริโภค มายาวนานกว่า 12 ปี ตลอดเวลาได้คิดค้นและพัฒนาสูตรหลากหลายผลิตภัณฑ์มาเรื่อยๆ เพราะอยากให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี  ได้จัดโปรสุดคุ้มเริ่มต้นปีกระต่าย กับ 2 ผลิตภัณฑ์ของบีไชน์ จากสินค้ายอดฮิต ได้แก่ “บีไชน์ คอลลาเจนเปปไทด์ พลัส กลูต้า-อะเซโรลา รสมิกซ์เบอร์รี่” และ “บีไชน์ เนเจอร์ซี” วิตามินซีธรรมชาติ 100% แบบซองพกพาสะดวก ที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ 1 ฟรี 1 หาซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ - 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วประเทศ

ผลิตภัณฑ์แรกที่ได้จัดโปรโมชั่นสุดคุ้มพิเศษ ซื้อ 1 ฟรี 1 คือ “บีไชน์ คอลลาเจนเปปไทด์ พลัส กลูต้า-อะเซโรลา รสมิกซ์เบอร์รี่” คอลลาเจนเปปไทด์เข้นข้น 100% จากปลา นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น 10,000 มก. ดูดซึมดี ไม่มีกลิ่นคาว ผสานอะเซโรลา เชอร์รี่ สกัด, แอล-กลูต้าไธโอน, แอล-ซิสเทอีน, ไกลซีน, วิตามินซี, วิตามินอี และเบอร์รี่รวม 6 ชนิด ได้แก่ สตรอเบอร์รี่, บลูเบอร์รี่, ราสพ์เบอร์รี่, เอลเดอร์เบอร์รี่, แบลคเคอร์เรนท์, เรดบีท ดีต่อผิวและสุขภาพ รับประทานวันละ 1 ซอง ชงละลายน้ำดื่ม 200 มล.

“บีไชน์ คอลลาเจนเปปไทด์ พลัส กลูต้า-อะเซโรลา รสมิกซ์เบอร์รี่” โปรโมชั่นสุดคุ้มพิเศษ ซื้อ 1 ซอง แถมฟรีอีก 1 ซอง เพียง 55 บาท จากปกติราคา 110 บาท 


และผลิตภัณฑ์ที่สอง “บีไชน์ เนเจอร์ซี” แบบซองพกพาสะดวก ขนาด 6 เม็ด ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินซีจากธรรมชาติ 100% อะเซโรลา เชอร์รี่ สกัดเข้มข้นจากสหรัฐอเมริกา ผสานคุณประโยชน์ของสารสกัดจากผักและผลไม้ ที่อุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์และสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ดีต่อผิวและสุขภาพ “บีไชน์ เนเจอร์ซี” เป็นวิตามินซีธรรมชาติ จึงสามารถในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี และไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร แบบเม็ด รับประทานง่ายๆ เพียงวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร มื้อเช้าหรือเย็น

“บีไชน์ เนเจอร์ซี” แบบซองพกพาสะดวก ขนาด 6 เม็ด โปรโมชั่นสุดคุ้มพิเศษ ซื้อ 1 ฟรี 1 เพียง 49 บาท จากปกติ ราคา 98 บาท 

สำหรับท่านใดที่เป็นสมาชิก ALL member ของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เมื่อซื้อ “บีไชน์ คอลลาเจนเปปไทด์ พลัส กลูต้า-อะเซโรลา รสมิกซ์เบอร์รี่” หรือ “บีไชน์ เนเจอร์ซี” วิตามินซีธรรมชาติ 100% ยังสามารถลดราคาเพิ่มได้อีกอย่างละ 1 บาท สามารถซื้อทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แต่วันนี้ - 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วประเทศ

สามารถติดตามข่าวสาร โปรโมชั่น และดูข้อมูลเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ของ “บีไชน์”
จัดจำหน่ายโดย บริษัท บีไชน์ นูทริชั่น พลัส จำกัด ได้ที่ www.bshine.co.th,
FB : https://www.facebook.com/BnpHealth และ Line : @Bshine

การกลับมาสุดยิ่งใหญ่กับงาน 𝑩𝒊𝒈 𝑬𝒗𝒆𝒏𝒕 : 𝑺𝒍𝒊𝒎 𝑼𝒑 𝑪𝒆𝒏𝒕𝒆𝒓

การกลับมาสุดยิ่งใหญ่กับงาน 𝑩𝒊𝒈 𝑬𝒗𝒆𝒏𝒕 : 𝑺𝒍𝒊𝒎 𝑼𝒑 𝑪𝒆𝒏𝒕𝒆𝒓 ที่ทุกคนต่างรอคอยกันมาอย่างยาวนาน 𝟏𝟗 𝒀𝒆𝒂𝒓𝒔 𝑨𝒏𝒏𝒊𝒗𝒆𝒓𝒔𝒂𝒓𝒚 𝑺𝒍𝒊𝒎 𝑼𝒑 𝑪𝒆𝒏𝒕𝒆𝒓 𝑺𝒉𝒊𝒏𝒆 𝒀𝒐𝒖𝒓 𝒍𝒊𝒈𝒉𝒕 𝒐𝒏..  เปล่งประกายความเป็นคุณ ภายในงาน พบกับกิจกรรม 𝑬𝒙𝒄𝒍𝒖𝒔𝒊𝒗𝒆 มินิคอนเสิร์ต และ 𝑴𝒆𝒆𝒕 & 𝑮𝒓𝒆𝒆𝒕 กับคุณออกัส วชิรวิชญ์ /
คุณ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ /และ คุณเลดี้ปราง กัญญ์ณรัณ ที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษ ร่วมสนุกชิงรางวัล 𝑷𝒓𝒆𝒎𝒊𝒖𝒎 𝑮𝒊𝒇𝒕 ภายในงานนี้เท่านั้น


▶️ 3 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 18.00 น.

พบกับ ออกัส วชิรวิชญ์ 

▶️ 4 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 17.00 น.

พบกับ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์

▶️ 5 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 15.00 น.

พบกับ เลดี้ปราง กัญญ์ณรัณ



พิเศษภายในงานนี้ ลุ้นรับของราวัล และทรีตเมนต์ภายในงานนี้ มูลค่ากว่า 2,000,000 บาท ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 โซน A เซ็นทรัล ลาดพร้าว

💙 แล้วพบกันนะคะ 💙

หุ่นสวย สุขภาพดี เริ่มต้นที่ 𝐒𝐥𝐢𝐦 𝐔𝐩 𝐂𝐞𝐧𝐭𝐞𝐫
พร้อมให้คำปรึกษาและบริการทั้ง 18 สาขาทั่วประเทศแล้ววันนี้

📩 IB : http://m.me/SlimUp/

📲 Line >> https://bit.ly/Slimupcenter หรือ @Slimupcenter

📷 IG : Instagram.com/Slimup_center

🌐 Website: www.Slimupcenter.co.th

📞 Call Center: 02-620-0000

#19Yearsanniversary #Shineyourlighton #เปล่งประกายความเป็นคุณ #ทางลัดหุ่นสวย #สลายไขมัน #กระชับสัดส่วน #ปรับรูปร่าง #ลดเฉพาะส่วน #ลดน้าท้อง #ลดต้นขา #ลดปีกหลัง #ลดสะโพก #ลดน่อง #ลดต้นแขน #ลดน้ำหนัก #SlimUp #SlimUp_Center #SlimUpCenter #SlimUp

30 มกราคม 2566

“เทศกาลเดือนแห่งความรัก : ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2566” กับ “หรอยแรงแหล่งใต้” 14 จังหวัด

Theme12เดือนเที่ยวใต้เที่ยวได้ 365วัน ตลอดทั้งปี 2566

นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ให้ข่าวว่า กุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก เป็นเดือนแห่งสีชมพู(ความรัก) ดังนั้น ททท.ภูมิภาคภาคใต้ จึงได้นำเสนอจุดขายท่องเที่ยวThemeเทศกาลเดือนแห่งความรัก14จังหวัดในภาคใต้มาเป็นอีกหนึ่งจุดขายใหม่เพิ่มสร้างคุณค่ามูลค่าเพื่อเพิ่มสีสันเมืองใต้ตามกระแสท่องเที่ยวตามเทรนด์ในเดือนแห่งความรักเที่ยวได้ตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์2566ที่สามารถต่อยอดการท่องเที่ยว “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน” กับ “หรอยแรงแหล่งใต้” 14จังหวัด Theme12เดือนมหัศจรรย์เที่ยวใต้ได้ตลอดปี2566 






หรอยแรงแหล่งใต้ นักท่องเที่ยวมาเที่ยว 14 จังหวัดภาคใต้ในช่วง  “เทศกาลเดือนแห่งความรัก : ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2566”  ใน 14 แหล่งท่องเที่ยวใน 14 จังหวัด มาบอกรักปักหมุดในมุมของท่าน โดยถ่ายรูป เช็คอินที่ปักษ์ใต้ พื้นที่จังหวัดไหนก็ได้ หรือ มุมUnseen14จังหวัดภาคใต้ ก็ได้ แล้วติดเครื่องหมายและข้อความว่า #เที่ยวบอกรักปักหมุดที่ปักษ์ใต้ โพสต์อวดกันในเฟสบุ๊คของคุณเอง (เราจะสุ่มมอบของที่ระลึก ททท.ให้ในวันที่ 1 เดือนมีนาคม 2566 โดยทีมงานจะค้นหาผ่าน #เที่ยวบอกรักปักหมุดที่ปักษ์ใต้  มอบกับท่านโดยตรงกับรูปและโพสต์ที่ถูกใจทีมAdminเพจ เที่ยวใต้by ททท.)

ตัวอย่างแนะนำ 14 จังหวัดกับ 14 แหล่งท่องเที่ยวเชิงสัญลักษณ์ Theme #เที่ยวบอกรักปักหมุดที่ปักษ์ใต้ ต้องไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวอันงดงามของภาคใต้ที่มีความหมายพิเศษกับเดือนแห่งความรัก จะไปเป็นคู่รัก หรือ ความรักของคนโสด ก็ได้14 แหล่งท่องเที่ยว #เที่ยวบอกรักปักหมุดที่ปักษ์ใต้ ในเดือนแห่งความรัก ตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2566  ประกอบด้วย Theme 14 จังหวัดดังนี้




#เทศกาลเดือนแห่งความรักชวนคู่รักไปเช็คอินที่ร้านกาแฟมหานครแห่โรบัสต้า @จังหวัดชุมพร

#เทศกาลเดือนแห่งความรักระนองมหานครน้ำแร่กับKhaoYaFestEcoOfLove ภูเขาหญ้า เมือง @จังหวัดระนอง

#เทศกาลเดือนแห่งความรักเมืองร้อยเกาะเงาะอร่อยหอยใหญ่ไข่แดงแหล่งธรรมะ @สุราษฎร์ธานี

#เทศกาลเดือนแห่งความรัก”กุมภาพันธ์โนราพาหารักษ์” ทะเลน้อย @พัทลุง

#เทศกาลเดือนแห่งความรัก”กุมภาพันธ์มานครฯมาหารัก”วัดสีชมพูหรือวัดยางใหญ่ ตาพรานบุญ ท่าศาลา @นครศรีธรรมราช

#เทศกาลเดือนแห่งความรักเที่ยวใต้ให้ปังต้องพังงา @จังหวัดพังงา

#เทศกาลเดือนแห่งความรัก365วันColorfulภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ @จังหวัดภูเก็ต 

#เทศกาลเดือนแห่งความรักษ์กระบี่GoGreenเมืองท่องเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน @จังหวัดกระบี่

#เทศกาลเดือนแห่งความรักเมืองตรังปังปุริเย่ ตรังยุทธจักรความอร่อย เสน่ห์อันดามัน สวรรค์นักกิน @จังหวัดตรัง

#เที่ยวบอกรักแก้ชงปีกระต่ายทอง8สถานที่เอาใจสายมู หาดใหญ่-สงขลา@จังหวัดสงขลา

#เทศกาลความรักข้ามกาลเวลา ณ สะพานข้ามกาลเวลา อุทยานแห่งชาติเภตรา อำเภอละงู @จังหวัดสตูล

#วาเลนไทน์ทะเลหมอกสองแผ่นดิน มหัศจรรย์สวรรค์แดนใต้ ไปบอกรักษ์ป่าฮาลาบาลา 

ทามกลางสักขีพยานความรัก “นกคู่รัก” นกเงือก @จังหวัดนราธิวาส

#เช็คอินมัสยิดกลาง ต้นแบบจากอนุสรณ์สถานแห่งความรักจากทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย เป็นเสมือนศูนย์

ศักดิ์คู่บ้านคู่เมือง @ปัตตานี

#โมเมนต์ที่ใช่สร้างได้ไม่ต้องรอ

#วาเลนไทน์ในสายหมอก เที่ยวเมืองงามแดนใต้ สกายวอร์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เบตง @จังหวัดยะลา

เอสซีจี เซรามิกส์เดินหน้าชวนเด็ก และชุมชนสร้างพื้นที่คุณภาพชีวิตเพื่อความยั่งยืน


บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อหุ้น COTTO  ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้แบรนด์คอตโต้ (COTTO) คัมพานา(CAMPANA) โสสุโก้ (SOSUCO) สานต่อแนวคิด เดินหน้าร่วมกับชุมชน ชวนเด็กและผู้ใหญ่ ร่วมพัฒนาพื้นที่คุณภาพชีวิตเพื่อความยั่งยืน ผ่าน โครงการเติมความรู้ เปลี่ยนสิ่งที่ถูกทิ้ง ให้เป็นสิ่งที่ถูกเลือก ซึ่งเป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชน ที่เริ่มต้นด้วยการจัดการขยะประเภทต่าง ๆ ในโรงเรียน  ผ่านการให้ความรู้แก่สมาชิกของชุมชนที่เป็นหน่วยเล็กที่สุด คือ เด็กและเยาวชน ปลูกฝังการคัดแยกขยะที่ถูกต้องตามแต่ละประเภท  รวมถึงการคัดแยกขยะเพื่อสร้างสังคมที่เข้มแข็ง ลดการเกิดขยะต้นทาง และสามารถสร้างรายได้ให้แก่ตนเอง ครอบครัว และโรงเรียน โดยมี นายอภิเชษฐ ชำนิ  Sustainable Development Manager (ที่ 7 จากขวา)และทีมงานเข้าร่วมให้ความรู้ คำแนะนำ และสนับสนุนการจัดกิจกรรมให้ครั้งนี้ ให้กับคณะกรรมการสถานศึกษาและเด็กนักเรียน  โรงเรียนวัดหนองผักชี ตำบลโคกแย้ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี




เปิดตัวแบรนด์ “Jono Hotels” ผุดโรงแรม2 แห่งแรกในกรุงเทพฯ และภูเก็ต

เปิดตัวแบรนด์ “Jono Hotels” ผุดโรงแรม 2 แห่งแรกในกรุงเทพฯ และภูเก็ตตอบรับเทรนด์นักเดินทาง
ยุคใหม่และ Digital Nomad จากทั่วโลกที่มองหาความคุ้มค่า Jono Hotels แบรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ ที่นำเสนอทุกสิ่งที่นักเดินทางยุคใหม่ต้องการแบบครบวงจร ตั้งแต่การเข้าพักที่มีสไตล์และเป็นกันเองใจกลางกรุงเทพฯ หรือภูเก็ต ไปจนถึงมอบการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อกับจุดหมายปลายทาง

Jono Bangkok Asok ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท หนึ่งในโรงแรมสองแห่งแรกภายใต้แบรนด์ใหม่ Jono Hotels เปิดให้บริการเมื่อปลายปี 2565

กรุงเทพฯ ประเทศไทย – “JONO HOTELS” (โจโน่ โฮเทลส์)​ แบรนด์โรงแรมใหม่คอนเซปต์ไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัล ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ชวนนักเดินทางทั่วโลกสัมผัสเมืองไทยอย่างไร้รอยต่อในรูปแบบที่ฉลาดกว่า คุ้มค่ากว่า และไร้รอยต่อ ชูการวางตำแหน่งการตลาดที่ไม่เหมือนใคร ในฐานะแบรนด์ที่สนุกสนานและมีความสุข 

ในช่วงปลายปี 2565 Jono (ซึ่งมาจากคำว่า "Journey of the Nomad") ได้เปิดให้บริการโรงแรม 2 แห่งแรกใจกลางกรุงเทพฯ และภูเก็ต นำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างของการพักผ่อนในมุมมองที่ต่างกัน แต่มีจุดหมายเดียวกันตามคอนเซปต์แบรนด์ คือต้องการเติมพลังด้วยความสนุกสนาน และการค้นพบสิ่งใหม่ที่เข้าใกล้จุดหมายปลายทางมากขึ้นกว่าเดิม ผสานบริการมาตรฐานโรงแรมระดับโลก ห้องพักกว้างขวาง สะอาด พื้นที่ใช้สอยคุ้มค่า อินเทอร์เน็ตแรง ครบวงจรด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก 

ภายในห้องพักของโรงแรมในเครือ JONO HOTELS ทุกห้องออกแบบทันสมัย พร้อมสรรพสิ่งอำนวยความสะดวกไฮเทค ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ตทีวีพร้อมช่องเคเบิลและช่องสตรีมมิ่งอย่าง Netflix หรือ YouTube ฝักบัวแรงดันสูงแบบวอล์กอิน ตู้นิรภัยดิจิทัล มินิบาร์ในห้องพักพร้อมน้ำดื่มฟรี และอินเทอร์เน็ตแรง นอกจากนั้น JONO ยังทำให้ชีวิตง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำด้วยการรวมบริการทั้งหมดมาไว้ที่ปลายนิ้ว เพียงแค่คลิกแอปพลิเคชัน JONO จากสมาร์ตโฟนของผู้เข้าพัก ก็สามารถพูดคุยกับแผนกต้อนรับ สั่งรูมเซอร์วิส จัดเตรียมการเดินทาง จองกิจกรรม และอื่น ๆ อีกมากมาย 

ยังมีพื้นที่คอนเนกต์ผู้คนไว้ด้วยที่ “Co-Working Space” ซึ่งเป็นศูนย์รวมคนยุคใหม่เอาไว้ด้วยกัน โดยบริเวณล็อบบี้จะมีโซนครัว ไมโครเวฟ ชาและกาแฟบริการฟรีตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ เป้าหมายของ JONO คือการตอบโจทย์คนยุคใหม่วัย Gen x – Gen Z รวมถึง “Digital Nomad” หรือกลุ่มนักเดินทางที่ทำงานจากที่ไหนก็ได้ในโลกผ่านดิจิทัล และทำให้ทุกวันหยุดเป็นวันที่สนุก สบาย ๆ ไร้กังวล ไม่ว่าจะทำงานหรือเล่น วันหยุดสั้นหรือวันหยุดยาว JONO HOTELS ก็จะดูแลผู้มาเยือนเหมือนคนในครอบครั 


สระว่ายอินฟินิตี้บนชั้นดาดฟ้าของ JonoX Phuket Karon ห้อง RechargeX ที่ Jono Bangkok Asok JonoX Phuket Karon (โจโน่เอ็กซ์ ภูเก็ต กะรน) เป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ Jono แห่งแรกของโลกเมื่อ เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2565 ตั้งอยู่บนหาดกะรน บริเวณริมทะเลอันงดงามบนชายฝั่งพระอาทิตย์ตกของภูเก็ต มีห้องพักร่วมสมัย 121 ห้อง มีตั้งแต่ห้อง “Recharge Room” ขนาด 21 ตร.ม. ไปจนถึงห้อง “RechargeX” ขนาด 35 ตร.ม. ซึ่งมีเตียงสองชั้นสำหรับหนูน้อย ทุกห้องได้รับการตกแต่งแนวร่วมสมัย โทนสีสว่างสะอาดตา พร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้งานง่าย อาทิ สมาร์ตทีวี Wi-Fi ความเร็วสูง ฝักบัวแรงดันสูง ห้องน้ำแบบวอล์กอิน กาต้มน้ำดิจิทัล และอีกมากมาย ด้านบนสุดชั้นดาดฟ้าของโรงแรมเป็นสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ ที่มาพร้อม ‘Altitude Rooftop Bar’ เสิร์ฟเครื่องดื่มสุดเก๋ตลอดทั้งวัน ยังมี “ห้องเด็กเล่น” ให้บริการเมื่อผู้ปกครองต้องการพักผ่อน ส่วนนักชิมสามารถเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นฟินแบบชาวใต้ได้ที่ห้องอาหาร “360 Restaurant” และนักเดินทางหรือคนทำงานก็มีบริการห้องประชุมแบบส่วนตัว รองรับได้ถึง 10 คน พร้อมด้วยอุปกรณ์ประชุมสุดไฮเทค และผนังกันเสียง


การเปิดตัว JonoX ภูเก็ตกะรน ประสบความสำเร็จอย่างสูง สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของนักเดินทางใน Next Normal โดยภายในไม่กี่วันหลังจากเปิดให้บริการ JonoX มีอัตราการเข้าพักถึง 90% เกือบทุกวันในช่วงสองเดือนที่เหลือของไตรมาสที่ 4 ปี 2565 ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ต่อเนื่องไปถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 นอกจากนี้ JonoX Phuket Karon ยังได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากพันธมิตร และนักเดินทางจากตลาดสหรัฐอเมริกา ยุโรป และกลุ่มตลาด CIS (รัสเซีย ยูเครน และคาซัคสถาน)

“Jono Bangkok Asok” (โจโน่ กรุงเทพ อโศก)  เปิดให้บริการครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2565 ซิตี้โฮเทลที่มาพร้อมสไตล์และการบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักเดินทางยุคใหม่ บนทำเลทองใจกลางย่านสุขุมวิท ตั้งอยู่ในย่านอโศก ซึ่งเป็นย่านที่คึกคักมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ รายล้อมด้วยศูนย์การค้าชั้นนำ ร้านอาหาร ความบันเทิง อาคารสำนักงานที่เต็มไปด้วยบริษัทข้ามชาติชื่อดัง ใกล้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และติดรถไฟฟ้า BTS (สถานีอโศก) และ MRT (สถานีสุขุมวิท) ซึ่งจะเชื่อมต่อผู้เข้าพักเข้าสู่เมืองหลวงของไทยได้อย่างสะดวกสบาย ไร้รอยต่อ ในขณะที่ภายในโรงแรมจะให้บริการแบบครบวงจร ภายใต้บรรยากาศที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อการพักผ่อนอย่างลงตัว ซึ่งนับเป็นโรงแรมในเมืองแห่งใหม่ที่จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับชาว Digital Nomad (นักเดินทางที่ทำงานจากที่ไหนก็ได้ในโลก) 



ภายในอาคาร Low Rise ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 65 ห้อง มีให้เลือกตั้งแต่ “Recharge” (ห้องรีชาร์จ) ขนาด 14 ตารางเมตร ที่มาพร้อมเตียงคิงไซส์แสนสบาย “RechargeX” (ห้องรีชาร์จเอ็กซ์) ขนาด 17 ตารางเมตร แบบเตียงแฝด และ “Snooze Blackout” (ห้องสนูซ แบล็คเอาท์) หรือห้องไม่มีหน้าต่าง ขนาด 16 ตารางเมตร พิเศษด้วยประตูทึบกันเสียงสำหรับผู้ที่ต้องการความเงียบสงบอย่างแท้จริง มีให้เลือกทั้งแบบเตียงคิงไซส์หรือเตียงแฝดคุณภาพพรีเมียม ห้องพักทุกห้องออกแบบทันสมัย พร้อมสรรพสิ่งอำนวยความสะดวกไฮเทค 


บียอร์น ริชาร์ดสัน (Björn Richardson) รองประธานอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการการบริการและอสังหาริมทรัพย์ บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "Jono Hotels นำความรู้สึกของการค้นพบกลับคืนมาสู่การเดินทาง สำหรับคนยุคดิจิทัล โรงแรมจะไม่ใช่จุดหมายปลายทางอีกต่อไป แต่เป็นฐานที่พวกเขาสามารถค้นพบประสบการณ์และการผจญภัยใหม่ ๆ ที่ได้ ออกแบบมาเพื่อมอบทุกสิ่งที่จำเป็นแก่นักเดินทางในยุคปัจจุบัน โดยโรงแรมของเราได้ขจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป และก้าวข้ามการนำเสนอโรงแรมแบบเดิม ๆ เราต้องการให้ลูกค้าของเราได้สัมผัสจุดหมายปลายทางอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะใจกลางกรุงเทพฯ หรือเพลิดเพลินกับการพักผ่อนริมชายหาดอย่างสนุกสนาน Jono Hotels อยู่ที่นี่เพื่อทำให้ทุกวันหยุดพักผ่อนสบาย ๆ และไร้กังวลด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ทำให้ปลายทางทั้งหมดอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้ว"

Jono Hotels จะช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวยุโรปค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่และชายหาดที่เงียบสงบของประเทศไทยการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จของ JonoX Phuket Karon และ Jono Bangkok Asok ในปี 2565 ส่งผลให้ Jono Hotels จะยังคงเพิ่มจำนวนโรงแรมใหม่และน่าตื่นเต้นต่อไปในปี 2566 โดยกรุงเทพฯ เป็นที่จับตามองสำหรับสถานที่พักของ Digital Nomad แห่งต่อไป 

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ JONO HOTELS ได้บนเว็บไซต์ www.jonohotels.com
หรือทางอีเมล stay@jonohotels.com

28 มกราคม 2566

มูลนิธิสังคมสุขใจ ร่วมกับภาคี จัดงาน"รวมพลังขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ เพื่อเรา เพื่อโลก"

ในงานสังคมสุขใจ ครั้งที่ 8”  ชวนช้อปผลผลิตอินทรีย์จากทั่วประเทศ 7-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่ สวนสามพราน จ.นครปฐม     

กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ “งานสังคมสุขใจ ครั้งที่ 8 ” โดย มูลนิธิสังคมสุขใจ ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ องค์การมหาชน (สสปน.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)                  กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มมิตรผล PTTGC SCG Packaging Rxv Wellness Village สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศ เตรียมจัดขึ้น ภายใต้แนวคิด "รวมพลังขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ เพื่อเรา...เพื่อโลก”          รวมพลังคนอินทรีย์ทั้งห่วงโซ่ร่วมผลักดันเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ในงาน        พบกับ 8 ไฮไลท์กิจกรรม เต็มอิ่มกับองค์ความรู้มากมาย สนุกกับเวิร์คช็อปดีดี และช้อปสินค้าเกษตรอินทรีย์คุณภาพดีจากเครือข่ายทั่วประเทศกว่า 200 บูธ 

นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีและชื่นชมมูลนิธิสังคมสุขใจ ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ ภายใต้สามพรานโมเดลอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลากว่า            10 ปี  ทำให้ เรื่องเกษตรอินทรีย์เป็นที่รู้จักเป็นวงกว้าง เกษตรกรจำนวนไม่น้อยหันมาทำเกษตรอินทรีย์ ทำให้ผู้บริโภคได้มีแหล่งอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของจังหวัดนครปฐม ในการส่งเสริมและสนับสนุนการขยายสังคมอินทรีย์ทั้งห่วงโซ่ ซี่งไม่เพียงตอบโจทย์ในเรื่องอาหาร แต่ยังสามารถเชื่อมโยงในเรื่องท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน   ทางจังหวัดจึงยินดีเป็นอย่างยิ่ง  ที่มีการจัดงานสังคมสุขใจขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นว่าทั้งผู้บริโภค เกษตรกร และประชาชน  จะได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลง ดังแนวคิดการจัดงาน เพื่อเรา...เพื่อโลก 

นายอรุษ นวราช เลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ

นายอรุษ นวราช เลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ และนายกสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย หรือ TOCA  ในฐานะประธานจัดงานสังคมสุขใจครั้งที่ 8  กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ปลุกให้ทุกคนหันมาใส่ใจกับการดูแลสุขภาพเชิงรุกมากขึ้น รวมทั้งให้ความสำคัญกับการเลือกอาหารปลอดภัยที่ผลิตในระบบอินทรีย์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเองและครอบครัว ดังนั้น การกลับมาของงาน "รวมพลังขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ เพื่อเรา...เพื่อโลก” กับงานสังคมสุขใจ ครั้งที่ 8 นอกจากจะพุ่งเป้าตอกย้ำในเรื่องสุขภาพสำหรับคนทุกกลุ่มวัยเป็นหลัก ที่สามารถเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงตัวเอง  ยังมุ่งเน้นการดูแลสังคมให้เกื้อกูลกัน และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนควบคู่กันไปด้วย 






จุดเด่นของงานสังคมสุขใจ คือ เป็นงานประจำปีที่รวมคนอินทรีย์ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งการผลิต การจำหน่าย การตลาด นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งการเชื่อมโยงพันธมิตรใหม่ๆ โดยเฉพาะเกษตรกรที่เป็นต้นน้ำ นอกจากมีผลผลิตออกมานำเสนอยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจขณะที่ผู้ประกอบการก็จะได้มีโอกาสพบผู้ผลิตที่หลากหลาย ส่วนผู้บริโภคได้มาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าอินทรีย์ที่มีคุณภาพจากเกษตรกรตัวจริง พร้อมทั้งยังมีองค์ความรู้มากมายที่นำกลับไปใช้ประโยชน์ เรียกว่ามางานนี้ คุ้มค่า ได้เห็นการขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ในทุกมิติ   สำหรับ 8 ไฮไลท์กิจกรรมที่ห้ามพลาด ได้แก่

1. สินค้าเกษตรอินทรีย์คุณภาพดีจากทั่วประเทศกว่า 200 บูธ มีทั้ง ข้าว ผัก ผลไม้ สินค้าแปรรูป
งาน Art & Craft ต่างๆ ระดมกันมาให้ช้อป
2. เวิร์คช็อปสุดชิค ที่สนุกได้ทุกวัย เน้นสอนจริง ทำเองเป็น
3. Business Matching เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร จับคู่ธุรกิจ
ซื้อสิ้นค้าอินทรีย์ตรงจากเกษตรกร กว่า 20 ราย
4.แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำที่มีให้เลือกหลากหลายเส้นทาง
5.ร่วมขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ง่ายๆ ผ่าน แอพพลิเคชั่น TOCA Platform 
6.สนุกกับกิจกรรมสะสม Earth Points แต้มรักษ์โลก แลกรับสิทธิมากมายภายในงาน
7.พบกับ Organic Hero  และคนอินทรีย์ต้นแบบหลากหลายด้าน ที่ยินดีมาแบ่งปันความรู้
และสร้างแรงบันดาลใจ
8.นิทรรศการความรู้ และเวทีเสวนาในหัวข้ออินเทรนด์ต่างๆ  เช่น การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ
การจัดการขยะอาหาร ขยะพลาสติก Carbon Farming และ Bio Dynamic กับการทำเกษตรอินทรีย์ เป็นต้น 

“งานนี้เราอยากให้คนรุ่นใหม่ หรือ คนที่ทำงานด้านซีเอสอาร์ การพัฒนาที่ยั่งยืน สิ่งแวดล้อม รวมถึงน้องๆ    ที่เรียนด้านเกษตร การตลาด  ได้มาสัมผัส  เพราะ กิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในงานสังคมสุขใจครั้งที่ 8            ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ BCG Economy Model ซึ่งเป็นนโยบายของภาครัฐ และเทรนด์ของโลก              อย่างชัดเจน  ซึ่งทุกคนจะเห็นความเชื่อมโยงของสังคมอินทรีย์ กับเรื่อง Bio Economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน และGreen Economy หรือเศรษฐกิจสีเขียว ที่เป็นยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนประเทศไทยทั้งยังสอดรับกับกระแสโลกที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม” 

งานสังคมสุขใจครั้งที่ 8 จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2566
ณ สวนสามพราน   จ.นครปฐม ตั้งแต่ เวลา 09.00-17.00 น. ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ 




สามารถจอดรถในโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ มีบริการรถรับ-ส่งเข้างานฟรี ตลอดทั้ง 3 วัน
ข้อมูลการเดินทาง สอบถามได้ที่ โทร 034 322 588-93

หรือติดตามกิจกรรมที่ Facebook/ งานสังคมสุขใจ สวนสามพราน https://www.facebook.com/SangkomSookjai