เที่ยวทั่วไทย อร่อยทั่วโลก อัพเดทข่าวรายวัน Lifestyle บันเทิง ทันทุกกระแสข่าว!

28 กุมภาพันธ์ 2566

พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ม.ร.ว. สมลาภ กิติยากร เลขานุการในกรมหมื่นสุทธนารีนาถ

ภาพบรรยากาศ พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ  เต็มเป็นด้วยความอาลัย โดยภายในพิธี ราชสกุลต่างๆรวมถึงบุคคลสำคัญ ในวงการต่างๆมาร่วมแสดงความอาลัย ต่อการจากไปของ ของคุณชายอ้อ  ม.ร.ว.สมลาภ กิติยากร  เลขานุการในกรมหมื่นสุทธนารีนาถ ที่ถึงแก่อนิจกรรม ด้วยโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร สิริอายุได้ 72 ปี  ณ วัดเทพศิรินทราวาส  



หลังจาก ‘คุณวงเวียน ม.ล. ภัทรสุดา กิติยากร’ ธิดา ของคุณชายอ้อ  ม.ร.ว.สมลาภ กิติยากร เลขานุการในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ได้ออกมาแจ้งข่าวเศร้าว่าท่านพ่อได้จากไปแล้วเมื่อวันที่ ( 25-02-66 ) ในเวลา 20.20น. โดยก่อนหน้านี้ทาง  ม.ร.ว.สมลาภ กิติยากร ได้รักษาอาการป่วยมาได้ซักระยะนึงแล้วก่อนถึงแก่อนิจกรรม ด้วยโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร สิริอายุได้ 72 ปี 

โดยค่ำคืนที่ผ่านมา (วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธุ์ 2566) ได้มีพิธี สวดอภิธรรม ณ ศาลา 14 วัดเทพศิรินทราวาส ทางครอบครัวได้ทำพิธีรดน้ำศพ และ พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โดยมี ราชสกุลต่างๆรวมถึงผู้หลักผู่ใหญ่ในวงการต่างๆมาร่วมแสดงความอาลัย ต่อการจากไปของ ของคุณชายอ้อ  ม.ร.ว.สมลาภ กิติยากร  โดย วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 5 มีนาคม 2566  เวลา 18.30 น. จะมีการสวดพระอภิธรรม และ วันที่ 6 มีนาคม 2566(งดสวด1วัน) โดยพิธีพระราชทานเพลิง วันที่ 7 มีนาคม 2566 ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส  



หม่อมราชวงศ์สมลาภ กิติยากรเลขานุการใน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีกรมหมื่นสุทธนารีนา รับราชการทำงานถวายเต็มกำลังความสามารถอย่างต่อเนื่องจนสิ้นอายุขัย  คุณชายเป็นบุตรของหม่อมเจ้า สมาคม กิติยากร กับ ม.ร.ว. สมัยการ กิติยากร (ราชสกุลเดิม เทวกุล) ม.จ. สมาคม กิติยากร เป็นโอรสของ มหาอำมาตย์เอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ (พระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ เป็นพระอัยกาฝ่ายพระบิดาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระราชปัยกาฝ่ายพระบรมราชชนนีในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว) กับหม่อมจอน (สกุลเดิม วิชยาภัย) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ เป็นองค์ต้นราชสกุลกิติยากร

ชีวิตส่วนตัว สมรสกับคุณนวรัตน์ กิติยากร ณ อยุธยา (โขมพัตร)  มีบุตรธิดาคือ ม.ล.ปวริศร์ กิติยากร และม.ล.ภัทรสุดา กิติยากร หม่อมราชวงศ์สมลาภ กิติยากร เลขานุการใน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีกรมหมื่นสุทธนารีนา หรือที่เพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการบันเทิง เรียกกันติดปากว่า คุณชายอ้อ คุณชายใจดี เป็นที่รักใคร่นับถือ ด้วยความเป็นคนมีน้ำใจ จิตใจดีงาม ชอบให้ความช่วยเหลือ และมักให้เกียรติร่วมในกิจกรรมการกุศล และงานของคนในวงการบันเทิงสม่ำเสมอ 











โดยให้เกียรติเป็นที่ปรึกษากิติมศักดิ์ของ สมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย และ รับตำแหน่งประธานที่ปรึกษา สภาวัฒนธรรมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคเหนือสหรัฐอเมริกา ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทยในสหรัฐอเมริกา

สวส.เปิดงาน Open House “Digital Marketing FAST forward for Social Enterprise”

โครงการติดตามประเมินผลการดำเนินงานวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี ๒๕๖๖


วันอังคารที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๓๐ น. นางนภา เศรษฐกร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม เป็นประธานเปิดเปิดงาน Open House “Digital Marketing FAST forward for Social Enterprise” โครงการติดตามประเมินผลการดำเนินงานวิสาหกิจเพื่อสังคม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคม ผู้เข้าร่วมโครงการ ณ หอสมุดปรีดี พนมยงค์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

นางนภา กล่าวว่า ปัจจุบัน Social Enterprise เป็นการดำเนินกิจการเพื่อสังคมที่ต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ทางสังคม ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่สำคัญที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และรากฐานเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของประเทศไทย วิสาหกิจเพื่อสังคมจึงต้องมีความเข้มแข็งและแข็งแรงในด้านต่างๆ อย่างลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะการทำธุรกิจทางสังคมไม่ใช่แค่คืนกำไรสู่สังคมเท่านั้น หากแต่ยังต้องทำกำไรให้กับธุรกิจของตนเองด้วยจึงจะอยู่รอดอย่างยั่งยืน ซึ่งการพัฒนาศักยภาพของวิสาหกิจเพื่อสังคม  ด้านธุรกิจ ด้านการบริหาร ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงเป็นภารกิจที่สำคัญของสำนักส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม

​นางนภา กล่าวต่อว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมจึงร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีเป้าหมายในการเพิ่มขีดความสามารถและความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคม  ให้ได้รับการพัฒนาความรู้และทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการประกอบธุรกิจ โดยการให้คำปรึกษาแนะนำกิจการ และจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการบริหารธุรกิจเพื่อสังคม พร้อมทั้งเฟ้นหาต้นแบบวิสาหกิจเพื่อสังคมที่มีผลการพัฒนาที่โดดเด่นและมีการประเมินผลลัพธ์ทางสังคมที่ดี ดังนั้นสำนักงานฯ จึงจัดกิจกรรม Open House: Digital marketing FAST forward for Social Enterprise ภายใต้โครงการติดตามประเมินผลการดำเนินงานวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี ๒๕๖๖ ในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนด้านธุรกิจให้กับวิสาหกิจเพื่อสังคมในประเทศไทย  ผ่านการให้คำปรึกษาแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ พัฒนาเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมให้เกิดความร่วมมือ (Collaboration) และส่งเสริมให้เกิดมาตรฐานการสร้างรายงานผลลัพธ์ทางสังคมสำหรับวิสาหกิจเพื่อสังคม




​​กิจกรรมในครั้งนี้นับว่าเป็นการส่งเสริมความก้าวหน้าของนวัตกรรมเพื่อสังคม และนวัตกรรมการตลาดที่
ก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัล การสร้างแบรนด์ การสร้างตัวตน ในโลกออนไลน์ มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะยกระดับวิสาหกิจเพื่อสังคมที่มีอยู่ในประเทศไทยให้สามารถแข่งขันในมิติของการตลาดสากลได้อย่างไม่เป็นรองนานาชาติ อันจะก่อให้เกิดการขยายตัวของธุรกิจเพื่อสังคม และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งนำมาสู่ความเข้มแข็งของวิสาหกิจเพื่อสังคมได้ในอนาคต... นางนภา กล่าวทิ้งท้าย

ททท. เชิญชวนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวส่งผลงานเข้าร่วมประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ประจำปี 2566 เปิดวิสัยทัศน์สู่ยุค Low Carbon
ททท. ยกระดับเติบโตอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน


ททท. เปิดตัวโครงการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 เพิ่มประเภทรางวัล Low Carbon & Sustainability มุ่งสู่เป้าหมาย การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำพร้อมยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน (High Value and Sustainability) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญชวนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวส่งผลงานเข้าร่วมประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566


นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย Thailand Tourism Awards นับเป็นรางวัลที่ทรงเกียรติ ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่ง ททท. จัดประกวดอย่างต่อเนื่องทุก ๆ 2 ปี และในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 14 โดยเปิดรับสมัครทั้งหมด 5 ประเภท คือ 1.แหล่งท่องเที่ยว (Attraction) 2.ที่พักนักท่องเที่ยว (Accommodation) 3.การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health and Wellness Tourism) 4.รายการนำเที่ยว (Tour Programmes) และ 5.การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน (Low Carbon & Sustainability) เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมตามยุทธศาสตร์ STGs (Sustainable Tourism Goals) ซึ่งรางวัลประเภทการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืนนั้น จะช่วยเพิ่มมูลค่า สร้างจุดเด่น และเพิ่มโอกาสทางการท่องเที่ยวในการเข้าถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม รวมถึงเป็นการสร้างความตระหนักรู้และคุณค่าในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างคุณค่า และมูลค่าของสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทยสู่สากล เป็นการยกระดับภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวได้ว่า เมื่อเลือกใช้สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย Thailand Tourism Awards ที่มีสัญลักษณ์เป็นกินรี มั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการจากผู้ประกอบการที่มีการการันตีมาตรฐานและคุณภาพ ทั้งในด้านการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและยั่งยืน (Safe and Sustainable Tourism) รวมทั้งการรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism)  





โดยกรอบแนวคิดในการพิจารณาตัดสินรางวัล ครั้งที่ 14 ในปี 2566 นี้ อยู่บนพื้นฐานของ 3 แนวคิดหลัก คือ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) ภายใต้กระบวนการจัดการที่คำนึงถึงสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมโดยมีกลไกสำคัญ คือ โมเดลเศรษฐกิจยั่งยืนแบบใหม่ BCG Economy Model ผสานกับการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) และการบริหารจัดการคาร์บอนต่ำ (Low Carbon & Sustainability management) และอีก 2 แนวคิดหลัก คือ ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Safety & Health Administration) และความสนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยว (Customers Interest)

การประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566

แบ่งเป็น 5 ประเภทหลัก 14 สาขาย่อย ดังนี้

1. ประเภทแหล่งท่องเที่ยว (Attraction) แบ่งประเภทรางวัลย่อยออกเป็น 6 สาขา ประกอบด้วย

1.1 สาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการผจญภัย (Outdoor & Adventure Activities)

1.2 สาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ (Learning & Doing)

1.3 สาขาแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ (Nature & Park)

1.4 สาขาแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการและความบันเทิง (Recreation & Entertainment)

1.5 สาขาแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม (Historical & Culture)

1.6 สาขาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน (Local & Community)

 2. ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว (Accommodation) แบ่งประเภทรางวัลย่อยออกเป็น 4 สาขา ประกอบด้วย

2.1 สาขาลักซ์ชูรี โฮเทล (Luxury Hotel)

2.2 สาขาโลเคชั่น โฮเทล (Location Hotel)

2.3 สาขารีสอร์ต (Resort)

2.4 สาขาดีไซน์ โฮเทล (Design Hotel)

3. ประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health and Wellness Tourism) แบ่งประเภทรางวัลย่อยออกเป็น 4 สาขา ประกอบด้วย

3.1 สาขาสปา (Spa)

3.2 สาขาเวลเนส สปา (Wellness Spa)

3.3 สาขาเวลเนส แอนด์ สปา รีทรีต (Wellness & Spa Retreat)

3.4 สาขานวดไทย (Nuad Thai for Health)

 4. ประเภทรายการนำเที่ยว (Tour Programmes) 

 5. ประเภทการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน Low Carbon & Sustainability 

รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย แบ่งออกเป็น 3 รางวัล ดังนี้ 

 1. รางวัลยอดเยี่ยม (Thailand Tourism Gold Award) 

 2. รางวัลดีเด่น (Thailand Tourism Silver Award) 

 3. เกียรติบัตรรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Certificate) 

***โดยผลงานที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Gold Award จำนวน 3 ครั้งติดต่อกัน โดยไม่จำเป็นต้องได้รับรางวัลประเภทเดียวกัน จะได้รับรางวัล Hall of Fame 




สิทธิประโยชน์จากทางโครงการ ฯ ผลงานที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จะได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย Thailand Tourism Awards 

ที่มีสัญลักษณ์เป็นกินรี เป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ด้วยมาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดในการเสนอขายสินค้าและบริการแก่นักท่องเที่ยว และได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1. ส่งเสริมการขายและการตลาด ผลงานที่ได้รับรางวัลได้รับสิทธิ์ร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาดกับ ททท. ดังต่อไปนี้

● ได้รับเชิญเข้าร่วมงานส่งเสริมการขาย Trade Show/Road Show/Consumer Fair ของ ททท. และพันธมิตรที่ ททท. สนับสนุน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละกลุ่มตลาด 

● ได้รับสิทธิ์ส่วนลดค่าใช้จ่าย 50% ในการเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายกับ ททท. ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละกลุ่มตลาด 

● ได้รับการนำเสนอข้อมูลขายผ่านสื่อการตลาดดิจิทัลของ ททท.
ได้แก่ Video clip/E-Book/Digital Brochure  

2. ประชาสัมพันธ์ ผลงานที่ได้รับรางวัลจะได้รับการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ดังต่อไปนี้

● ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออฟไลน์ และออนไลน์ของ ททท. ได้แก่ เพจ Amazing Thailand และเพจ Thailand Tourism Awards/อนุสาร อสท.

● ประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ข่าวออนไลน์และสื่อสิ่งพิมพ์ 

● ประชาสัมพันธ์ผ่าน Blog/สื่อโซเชียลมีเดียท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง

3. ยกระดับพัฒนาองค์กร Upskill - Reskill

● ได้รับสิทธิ์ร่วมกิจกรรม Seminar/Workshop อาทิเช่น Online Digital Marketing Workshop และงานสัมมนาเจ้าบ้านที่ดี 2566 เป็นต้น

ทั้งนี้จะเปิดรับสมัครในวันที่ 1 มีนาคม - 30 เมษายน 2566 และประกาศผลรางวัลวันที่ 8 กันยายน 2566 

โดยจะมีพิธีมอบรางวัลในวันท่องเที่ยวโลก (World Tourism Day) วันที่ 27 กันยายน 2566  






ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ประสงค์เข้าร่วมการประกวด สามารถศึกษาข้อมูลคุณสมบัติ
และเกณฑ์การตัดสินเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนสมัครได้ที่
 

www.thailandtourismawards.com

www.facebook.com/ThailandTourismAwardsNew 

Line Official Account หลักของโครงการประกวดอุสาหกรรมท่องเที่ยวไทย : @tourismawards 

Line Official Account แยกตามประเภทรางวัล

ประเภทแหล่งท่องเที่ยว : @tourismawards1

ประเภทที่พัก : @tourismawards2

ประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ : @tourismawards3

ประเภทรายการนำเที่ยว : @tourismawards4

ประเภทการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน : @tourismawards5


27 กุมภาพันธ์ 2566

บอย โกสิยพงษ์ เปิดใจหลังปล่อยเพลง หัวใจผูกกัน เวอร์ชั่น Happiness is All Around

เชิญชวนร่วมชมมิวสิควิดีโอ กดไลค์และแชร์ รับสิทธิพิเศษจาก CP LAND 

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 - บอย โกสิยพงษ์ นักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ชื่อดัง เปิดใจหลังร่วมมือกับ CP LAND ซึ่งได้ปล่อยมิวสิควิดีโอเพลง หัวใจผูกกัน เวอร์ชั่น ‘Happiness is All Around’ ไปเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมเชิญชวนร่วมฟัง และชมมิวสิควิดีโอ กดไลค์และแชร์ รับสิทธิพิเศษมากมายจาก CP LAND

คุณบอย โกสิยพงษ์ เจ้าของและผู้เรียบเรียงเพลงหัวใจผูกกัน เวอร์ชั่น Happiness is All Around เปิดเผยว่า “หลังจากที่ปล่อยเพลง หัวใจผูกกัน เวอร์ชั่น Happiness is All Around ที่ได้ร่วมมือ กับบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND ผมรู้สึกดีใจมาก ที่ได้เห็นถึงการเติบโตและพัฒนาของเพลงนี้ ซึ่งเพลงนี้เป็นเวอร์ชั่นที่ผมชอบมากที่สุดอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง”

เพลงเวอร์ชั่นนี้ จะมีความสดใสและบอกเล่าเรื่องราวที่ผมคิดว่าร่วมสมัยกับปัจจุบัน  ซึ่งถ้าเปรียบเพลงนี้เหมือนกับบ้าน ก็คงเป็นบ้านอบอุ่น อบอวลไปด้วยความรัก และเป็นที่อยู่ของคนหลายๆเจน โดยความหมายของเพลงหัวใจผูกกันเวอร์ชั่นนี้  ที่ตั้งใจจะสื่อคือ ครอบครัวที่มีสมาชิกที่หลากหลายเจนเนอเรชั่นและไม่ว่าสมาชิกในครอบครัวจะแยกย้ายไปเติบโตที่ไหนก็ตาม ทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้ก็อยากให้รู้ว่าที่ตรงนี้ยังมีความรักอยู่ กลับมาเข้าหาอ้อมแขนที่อบอุ่นของกันและกัน

การหยิบยกเอาเพลงหัวใจผูกกันมาเรียบเรียงใหม่ครั้งนี้ มีความตั้งใจที่จะสื่อถึงประเด็นที่ง่ายและตรงไปตรงมา ผมจึงใช้ส่วนประกอบของดนตรีและคอร์ดในเพลงให้น้อยลงและเพิ่มเติมเนื้อหาในส่วนของท่อนแร็พ โดย ZENTYARB (เซ้นท์ ไทยพัฒน์ โชคสิริเกษม) แร็พเปอร์หนุ่มรุ่นใหม่ ที่ผมชื่นชมในฝีมือมากๆ มาช่วยบอกเล่าเรื่องราวที่ให้เหมาะกับ แคมเปญนี้มากขึ้นให้ชัดมากขึ้น โดยมีเป้าหมายคือเรียบง่าย และสามารถฟังได้ทุกคน

“ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้รับโจทย์ที่ท้าทาย และมีโอกาสทำงานร่วมกับ CP LAND ซึ่งตอนแรกที่ผมรู้ว่าต้องร่วมงานกัน ผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก เพราะเพลงนี้เป็นหนึ่งในผลงานที่ผมชอบมาก และทาง CP LAND ก็มีเป้าหมายอย่างชัดที่อยากให้เพลงนี้ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมายและสร้างแบรนด์เลิฟ ผมจึงมองภาพที่ใหญ่ขึ้น เรียบเรียงเพลงให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น” คุณบอย กล่าวทิ้งท้ายพร้อมเชิญชวนร่วมฟัง และชมมิวสิควิดีโอ กดไลค์และแชร์เพลง หัวใจผูกกัน เวอร์ชั่น ‘Happiness is All Around’ รับสิทธิพิเศษมากมายจาก CP LAND

โดยทาง CP LAND จัดทำโปรโมชั่นในกลุ่มธุรกิจภายในเครือ CP LAND ได้แก่ ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ โรงแรมในเครือฟอร์จูนกรุ๊ป 13 แห่งทั่วประเทศ ศูนย์ประชุมนานาชาติขอนแก่น KICE และ กลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัย เพียงแค่ร่วมกดไลค์และแชร์มิวสิควิดีโอเพลง หัวใจผูกกัน เวอร์ชั่น ‘Happiness is All Around บนช่องทางโซเชียลมีเดียของท่านและนำมาแสดงเมื่อใช้บริการธุรกิจในเครือ รับส่วนลดสูงสุดถึง 10% และของรางวัลอื่นเพิ่มเติมมากมาย โดยทุกท่านสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่หน้าเพจ Facebook : CP LAND

รับชมพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ผ่านทุกช่องทางของ CP LAND
Social Media 

Youtube : CPLANDOfficial https://www.youtube.com/watch?v=CkDzqCAnYM4 

FB : CPLAND https://www.facebook.com/CPLAND.Offcial/videos/525039686423889/?extid=NS-UNK-UNK-UNK-IOS_GK0T-GK1C&mibextid=2Rb1fB 

IG : CPLAND.Official

Tiktok : CPLAND.Official

Music Streaming

Spotify: Boyd Kosiyabong Playlist: ความสุขรอบตัวคุณ CP LAND https://spoti.fi/3XfFI6b 

Joox: บอย โกสิยพงษ์ Playlist: ความสุขรอบตัวคุณ CP LAND https://bit.ly/3XufmxH 

Apple Music: Boyd Kosiyabong

#CPLAND #CPLANDProperty #HappinessIsAllAround #หัวใจผูกกัน #คฺณภาพเพื่อทุกชีวิต #AccessibleCommunitiesForLife #ซีพีแลนด์คุณภาพเพื่อทุกชีวิต #BrandRefresh #BrandLove #Rebranding #ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกที่รอบตัว #ความสุขเดินทางได้ #บอยโกสิยพงษ์ #ให้แรงบันดาลใจเกิดขึ้นที่บ้าน #หัวใจผูกกัน #TeamCPLAND #Y2K #วัยรุ่นY2K

เช้าวันใหม่!“จุรินทร์”มอบ 35 รางวัล ข้าวหอมมะลิ-ข้าวถุงคุณภาพดีไทยปี 65

คาดปี 66 ส่งออกข้าวไทยทะลุ 8 ล้านตัน ขึ้นแท่นอันดับ 2 ของโลก สร้างเงิน สร้างอนาคตชาวนาไทย 

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 14.30 น.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานมอบรางวัลผู้ชนะการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย ประจำปี 2565 ครั้งที่ 40 และการประกวดข้าวถุงคุณภาพดี ประจำปี 2565 พร้อมด้วย นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน เพื่อรักษาระดับมาตรฐานคุณภาพข้าวหอมมะลิ และข้าวสารบรรจุถุงของไทย ส่งเสริมการเพาะปลูกและสร้างต้นแบบการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพ การผลิตและจำหน่ายข้าวสารคุณภาพดี และเชิดชูชาวนาและผู้ประกอบการผู้รักษาคุณภาพข้าวไทย








นายจุรินทร์ กล่าวว่า ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สำคัญอย่างยิ่งของไทย สถานการณ์ราคาข้าววันนี้ดีขึ้นเป็นลำดับ และถ้าวันไหนราคาข้าวตกต่ำ รัฐบาลนี้ก็ยังมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวชดเชยเงินส่วนต่างผ่านบัญชี ธ.ก.ส.โดยตรง ให้มีรายได้ตามที่ประกันไว้ โดย 4 ปี ที่ผ่านมาจ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกรไปแล้วถึง 180,000 ล้านบาท ช่วยเติมเงินเข้ากระเป๋าเกษตรกร มีครอบครัวได้เงินส่วนต่างสูงสุดถึง 76,600 บาท และมีเงินอีกก้อนคือไร่ละพัน ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน อีกก้อนเข้ากระเป๋าชาวนา


สำหรับข้าวหอมมะลิ เป็นข้าวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ปีที่แล้วส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 18% 1.25 ล้านตัน รวมข้าวทุกชนิดปี 64 ส่งออกทั้งปี 6.3 ล้านตัน ปี 65 รวมข้าวทุกชนิดส่งออก 7.7 ล้านตัน เป็นที่ 2 ของโลก ที่ 1 อินเดีย เราแซงเวียดนามมาเป็นที่สอง ในปี 65 และปีนี้คาดการณ์ว่าส่งออกจะเกิน 8 ล้านตัน มีส่วนช่วยให้ราคาข้าวดีขึ้น ช่วยเกษตรกร ช่วยสร้างเงินให้กับประเทศ 

“โดยวันนี้จะมีการมอบรางวัล 2 ชุด 1.รางวัลประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทยประจำปี 2565 ครั้งที่ 40 มีผู้ได้รับรางวัล 21 ราย และประกวดข้าวถุงมีผู้ได้รับรางวัล 14 ราย รวม 35 รางวัล จากผู้เข้าประกวด 425 ราย ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลทุกท่าน ตนเชื่อมั่นว่างานวันนี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญและเป็นพลังในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้าวไทย นำประเทศไทยไปสู่การเป็นผู้นำด้านการผลิต การส่งออกข้าว และผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพของโลก” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว





ข้อมูลจากกรมการค้าภายในระบุว่า ผู้ชนะการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทยประจำปี 2565 ครั้งที่ 40 ประเภทเกษตรกรรายบุคคล รางวัลที่ 1 นายสำรวย สร้อยแก้ว จ.ยโสธร รางวัลที่ 2 นางสาวกงใจ คำมีนาม จ.สุรินทร์ รางวัลที่ 3 นางทัศนีย์ อำขำ จ.พะเยา และประเภทสถาบันเกษตรกร รางวัลที่ 1 กลุ่มแปลงใหญ่ข้าว ต.ไผ่ใหญ่ จ.อุบลราชธานี รางวัลที่ 2 วิสาหกิจชุมชนนาแปลงใหญ่ ต.เกาะแก้ว จ.สุรินทร์ รางวัลที่ 3 กลุ่มนาแปลงใหญ่ข้าว ต.คำเตย จ.ยโสธร และผู้ชนะการประกวดข้าวสารบรรจุถุงคุณภาพดี ประเภทผู้ประกอบการโรงสี/สหกรณ์ ชนิดข้าวหอมมะลิ รางวัลที่ 1 ตรา A-Rice รางวัลที่ 2 ตราผูกปิ่นโต รางวัลที่ 3 ตราไดโนเสาร์ ข้าวหอมไทย รางวัลที่ 1 ตราเอิร์ธไรซ์ รางวัลที่ 2 ตราลูกโลก รางวัลที่ 3 ตราดอกมะลิ ข้าวเหนียว รางวัลที่ 1 ตรานกนางนวล รางวัลที่ 2 ตราไหสี่หู รางวัลที่ 3 ตรานกคาบรวงข้าว ข้าวขาวพื้นนุ่ม รางวัลที่ 1 ตราต้มยำกุ้ง ข้าวขาวพื้นแข็ง รางวัลที่ 1 ตรากระต่ายทอง และสำหรับประเภทกลุ่มเกษตรกร ชนิดข้าวหอมมะลิ รางวัลที่ 1 ตราข้าวเล่าชีวิต จากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุข จ.กาฬสินธุ์ รางวัลชมเชย ตรากำนันดี จากวิสาหกิจชุมชนเมล็ดพันธุ์พืชและผลิตปุ๋ยชีวภาพและแปรรูป  จ.สกลนคร รางวัลชมเชย ตราขวัญยโสธร จากวิสาหกิจชุมชนเกษตรธรรมชาติหนองยอ (บ้านกุดหิน) จ.ยโสธร และภายในงานได้มีการลงนาม MOU ซื้อข้าวหอมมะลิร่วม 1,066 ตัน ในราคานำตลาด ระหว่างเกษตรกร/กลุ่มเกษตรกร กับโรงสี 5 รายด้วย