ชวนย้อนเวลาสนุกไปกับบรรยากาศงานเทศกาลของไทยสมัยก่อนกับ Deus Ex Machina &
Moto Guzzi Present Lorm Pha Film & Art Night ดำดิ่งสู่ห้วงความคิดสร้างสรรค์แบบไร้กรอบผ่านภาพยนตร์และศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของ Deus ที่ผสานเข้ากับความเป็นไทย และการเผยโฉม
ครั้งแรกของ Moto Guzzi V7 III Carbon Shine Limited Edition
เมื่อเร็วๆ นี้ Deus Ex Machina (เดอัส เอ็กซ์ มาคิน่า) คัลท์แบรนด์ไลฟ์สไตล์และขบถทางวัฒนธรรม
จากออสเตรเลีย จับมือกับ Moto Guzzi (โมโต กุซซี่) สุดยอดสองล้อแฮนด์เมดสัญชาติอิตาเลี่ยนสุดคลาสสิค ร่วมจัดกิจกรรมความสนุกตามแบบฉบับของ Deus ในงาน “Deus Ex Machina & Moto Guzzi Present Lorm Pha Film & Art Night ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากเหล่าสาวก Deus และบรรดาไบค์เกอร์ในไทยกว่า 300 คน ได้ร่วมสนุกและสัมผัสวัฒนธรรมขบถนอกกรอบ พร้อมดำดิ่งสู่ห้วงแห่งความคิดสร้างสรรค์แบบไร้ขีดจำกัดผ่านหนังสั้น 2 เรื่องในรูปแบบ Ride-in Cinema และชมศิลปะซึ่งเป็นหนึ่งในอัตลักษณ์ของแบรนด์ที่ผสานเข้ากับความเป็นไทยอย่างลงตัว พิเศษไปกับ Live Painting โดย Paul McNeil ศิลปินอัลเทอร์เนทีฟ ชาวออสซี่ พร้อมด้วย Deus Art Exhibition สตรีทฟู้ดส์ เกมส์ ดีเจ ปาร์ตี้ และ Pop-Up Store จาก Deus นอกจากนี้ยังเป็นการเผยโฉมครั้งแรกของสุดยอดมอเตอร์ไซค์คลาสสิคระดับตำนานของอิตาลี Moto Guzzi V7 III Carbon Shine Limited Edition สนนราคาที่ 675,000บาท โดยงานนี้จัดขึ้น ณ ACMEN เอกมัย คอมเพล็กซ์
โดยกิจกรรม Deus Ex Machina & Moto Guzzi Present Lorm Pha Film & Art Night เป็นการมอบประสบการณ์พิเศษให้บรรดาสาวกแบรนด์และเหล่าไบค์เกอร์ได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมแบบ Deus โดยนำมาผสานเข้ากับความเป็นไทยได้อย่างลงตัว เพื่อสัมผัสถึงจิตวิญญาณของความสนุก ความคิดสร้างสรรค์ในการใช้ชีวิตอย่างไร้ขีดจำกัดภายใต้แนวคิดที่ พาทุกคนย้อนเวลาไปสนุกกับบรรยากาศงานเทศกาลของไทยสมัยก่อนด้วยการฉายหนังสั้นที่ถ่ายทำขึ้นโดย Deus ในรูปแบบ “หนังล้อมผ้า” และสนุกไปกับการให้ผู้ชมสามารถขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจเข้าชมหนังสั้นได้เลยทันทีในสไตล์ Ride-in Cinema ประกอบด้วย 2 เรื่อง ได้แก่ BLACKBOY และ Painted in Dust ใครที่พลาดงานนี้ สามารถรับชมได้ผ่านทางเฟซบุ๊ก Deus Thailand ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และยังมีโชว์ Live Painting จาก Paul McNeil ศิลปินอัลเทอร์เนทีฟที่โดดเด่นด้วยการใช้ฝีแปรงและแอร์บรัชพร้อมสัญลักษณ์ดวงตากลมโตสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ ผลงานของเขามาในคอนเซ็ปต์ Italian - Californian Beach ยุค 70 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการขับขี่ในแบบฉบับอิตาเลี่ยน ผสานเข้ากับบรรยากาศของความสนุกที่ไร้ขอบเขตบนชายหาดแคลิฟอร์เนีย รวมถึงเซิร์ฟ ภาพยนตร์ และดนตรีในยุคพั้งก์ร็อค ทั้งนี้ Paul McNeil ยังได้นำผลงานของเขามาแสดงให้แฟนๆ ในไทยได้รับชมเป็นครั้งแรกอีกด้วย
สำหรับไฮไลท์อื่นๆ ในงาน ยังอัดแน่นไปด้วย จุดถ่ายรูปที่ให้บรรดาแฟนๆที่ขี่มอเตอร์ไซค์เข้าร่วมงานได้ถ่ายภาพกับรถของตัวเองพร้อมดาวน์โหลดเข้าสมาร์ทโฟนได้เลย พร้อมด้วย Deus Art Exhibition แสดงคอลเลคชั่นโปสเตอร์สร้างสรรค์โดย Carby Tuckwell, Creative Director แห่ง Deus พร้อมด้วยห้องฉายโลโก้แบรนด์หลากหลายรูปแบบสำหรับถ่ายรูปเป็นที่ระลึก นอกจาก Art & Film แล้ว ยังได้เนรมิตงานวัดย่อมๆ พร้อมเกมส์ความสนุกต่างๆ อาทิ เกมส์ปากระป๋อง ยิงปืน และปาลูกดอกเพื่อลุ้นรับของรางวัลพิเศษจาก Deus แถมบรรยากาศความสนุกอบอวลไปด้วยเสียงดนตรีจาก DJ Tom Funky Gangster ที่คัดสรรสุดยอดเพลงจากแผ่นไวนิล ลิ้มรสกับความอร่อยอย่างมีสไตล์แบบย้อนเวลา อาทิ ปลาหมึกบด ข้าวเกรียบว่าว กาแฟรสเข้มกลิ่นหอมละมุน รวมถึงยาดองออแกนิคที่รังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับงานนี้เท่านั้น
ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ของ Deus Ex Machina ได้ที่
เฟซบุ๊ก Deus Thailand
อินสตาแกรม @inbenzinveritas_thailand
สำหรับโมโต กุซซี่ ติดตามได้ที่เฟซบุ๊ก Moto Guzzi Thailand
อินสตาแกรม @Motoguzzi_thailand
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น