ในวันที่ 29 มกราคม 2562 เวลา 09.00 น. ณ ห้องรับรอง ชั้น 3 กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) รับคำร้องจากนิสิตคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 3 คน ซึ่งเป็นนิสิตข้ามเพศ ในฐานะที่ สค. เป็นผู้รับผิดชอบพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558
นายเลิศปัญญา กล่าวว่า พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ถูกกระทำให้สามารถใช้สิทธิเพื่อให้ได้รับการพิทักษ์ คุ้มครอง และป้องกันสิทธิของตนเองในสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด โดยสาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ คือ ห้ามแบ่งแยก ห้ามกีดกัน ห้ามจำกัดสิทธิประโยชน์ ห้ามเลือกปฏิบัติ เพราะเหตุแห่งเพศ และ พ.ร.บ. ฉบับนี้ ให้การคุ้มครองบุคคลทุกเพศ ไม่ว่าจะเป็นเพศชาย เพศหญิง และผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ (กฎหมายเรียกว่า ผู้แสดงออกที่แตกต่างจากเพศโดยกำเนิด)
โดยเฉพาะประเด็นที่กล่าวว่า “กะเทยไม่สมควรจะไปสอนใคร” ทำให้ผู้ร้องที่ 1 ได้รับความอับอายและถูกกระทำความรุนแรงทางวาจาและจิตใจ ซึ่ง สค. จะเร่งนำคำร้องของนิสิตทั้งสามยื่นต่อคณะกรรมการ วพล. เพื่อพิจารณาโดยเร็ว โดยจะนำเข้าสู่วาระการประชุมคณะกรรมการ วลพ. ครั้งที่ 2/2562 ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 ที่จะถึงนี้
“สค. ยินดีที่จะรับคำร้องเกี่ยวกับการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีเพศใดก็ตาม ทั้งเพศหญิง เพศชาย หรือ บุคคลที่มีเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด เนื่องจากพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้ความคุ้มครองแก่ทุกบุคคลที่ถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ โดยสามารถยื่นคำร้องมาที่ สค. ทั้งการมายื่นด้วยตนเอง
หรือส่งจดหมายทางไปรษณีย์ หรือส่ง E-mail มาที่ช่องรับเรื่องร้องเรียนในเว็บไซต์
www.dwf.go.th ของ สค. ได้” นายเลิศปัญญากล่าวในตอนท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น