เที่ยวทั่วไทย อร่อยทั่วโลก อัพเดทข่าวรายวัน Lifestyle บันเทิง ทันทุกกระแสข่าว!

01 ธันวาคม 2564

ข่าวดี วันเอดส์โลก APCO ประกาศความสำเร็จนักวิทยาศาสตร์ไทย ครั้งแรกในโลก

เผยผลวิจัย นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด ช่วยผู้ติดเชื้อHIV/AIDS ตรวจไม่พบเชื้อ โดยไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัสพร้อมตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาช่วยผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS  ทั่วโลก

เนื่องในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม พ.ศ. 2564    โครงการวิจัยนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด  Operation  BIMบริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO ซึ่งมุ่งมั่นพัฒนาสูตรนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดจากพืชกินได้ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคร้ายให้พ้นจากความทุกข์ทรมาน ประกาศความก้าวหน้าผลการวิจัยนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดล่าสุด ที่นับเป็นข่าวดี และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ของประเทศไทย ที่วันนี้ได้ก้าวล้ำไปอีกขั้น  และเป็นความหวังของผู้ติดเชื้อHIV/AIDS ทั่วโลกว่าประสบความสำเร็จในการใช้สูตรนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดจากพืชกินได้ เข้าไปช่วยฟื้นฟูสุขภาพผู้ติดเชื้อ HIV/AIDSที่เข้ามาขอคำปรึกษาใช้นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดแล้วกว่า 2,000 ราย  โดยล่าสุดอาสาสมัครผู้ติดเชื้อ  3 ราย  ซึ่งกินยาต้านไวรัส HIV/AIDS   มานานหลายปี  สามารถหยุดใช้ยาต้านไวรัสได้เป็นผลสำเร็จ นับเป็นครั้งแรกของโลก  โดยตรวจไม่พบเชื้อ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน 1 ปี 




ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา  หัวหน้าคณะนักวิจัย Operation BIM  และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด  (มหาชน)  หรือ APCO  ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทย 100% กล่าวว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ มีความหมายยิ่งต่อหมู่มวลมนุษยชาติ  โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคร้าย และผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS
ที่ปัจจุบันมีจำนวนมากถึง 38 ล้านคนทั่วโลกและกว่า 5 แสนคนในประเทศไทยซึ่งที่ผ่านมาผู้ติดเชื้อโรคร้ายเหล่านี้ ไม่มีทางเลือกในการรักษาอื่น นอกจากกินยาต้านไวรัสHIV/AIDS ไปตลอดชีวิต  เพราะหากหยุดใช้ยาต้านไวรัส เมื่อใด  เชื้อร้ายในร่างกายก็จะกลับมาเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ  ขณะที่ผู้ติดเชื้อจำนวนไม่น้อยต้องทุกข์ทรมานจากผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยาต้านไวรัสต่อระบบประสาทส่วนกลาง หัวใจและหลอดเลือด ทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ กล้ามเนื้อและกระดูก ผิวหนังและเนื้อเยื่ออ่อน ต่อมไร้ท่อ

จากการศึกษากลไกทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะเม็ดเลือดขาว Th1 และ Th17  ที่หากได้รับการกระตุ้น จะทำให้ Killer T Cell  หรือ เซลล์T พิฆาต   ที่เปรียบเหมือนเซลล์อัศวินของร่างกาย  ให้มีความแข็งแรงสามารถทำหน้าที่ขจัดและทำลายเชื้อโรคร้ายที่อยู่ในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น   โดยไม่ไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวตัวดีอื่นๆ ในปีพ.ศ. 2553คณะนักวิจัยOperation BIM ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พิสูจน์ว่า สูตรหนึ่งที่พัฒนาได้จากการเสริมฤทธิ์ของสารสกัดพืชกินได้5 ชนิด คือ มังคุด ใบบัวบก ฝรั่ง ถั่วเหลือง และงาดำ สามารถกระตุ้นเม็ดเลือดขาว Th1 ได้อย่างมีนัยสำคัญ และกระตุ้นเม็ดเลือดขาว Th17 ได้อย่างโดดเด่น  ซึ่งมีผลทำให้มีประสิทธิภาพของ Killer T Cell (เซลล์Tพิฆาต) มากขึ้น จึงได้นำไปใช้ฟื้นฟูและดูแลสุขภาพผู้ป่วยมะเร็งได้เป็นผลสำเร็จ  จากนั้นจึงได้ก้าวไปอีกขั้นในการค้นคว้าวิจัยพัฒนาสูตรนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดเพื่อทำลายเชื้อ HIV/AIDS ที่ฝังตัวอยู่ในเซลล์ภูมิคุ้มกัน CD4 ให้สลายไปพร้อมๆ กับเซลล์ที่เชื้อฝังตัวอยู่ จนตรวจไม่พบเชื้ออย่างต่อเนื่องในที่สุด


สำหรับความก้าวหน้าผลการวิจัยนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดเพื่อช่วยผู้ติดเชื้อHIV/AIDS   ล่าสุด   ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา  กล่าวว่า   เกิดจากความมุ่งมั่นเพื่อพิชิตความท้าทายใหม่ ว่าจะสามารถช่วยให้ผู้ติดเชื้อHIV/AIDSที่ใช้ยาต้านไวรัสมาระยะเวลาหนึ่ง ให้สามารถลดและหยุดยาต้านไวรัสได้หรือไม่  โดยผลการวิจัยล่าสุดที่นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของโลก และถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่  ที่ก้าวข้ามความเชื่อเดิมๆ พบว่าอาสาสมัครผู้ติดเชื้อ 3 ราย ที่เข้าร่วมโครงการภูมิคุ้มกันบำบัด มาตลอด1-2ปี  และการให้คำปรึกษาผ่านระบบ  Remote Monitoringสามารถหยุดใช้ยาต้านไวรัสแล้ว 1-12 เดือน และมีสุขภาพแข็งแรง  โดยตรวจไม่พบเชื้อ HIV/AIDS นับเป็นผู้ติดเชื้อ HIV 3 รายแรกของโลก ที่สามารถหยุดใช้ยาต้านไวรัสได้สำเร็จ 

ก่อนหน้านี้ ในปี 2563  คณะนักวิจัย Operation BIM   ได้ประกาศประสบความสำเร็จครั้งแรกในโลก กับการนำนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดจากพืชกินได้ ไปใช้ในอาสาสมัครผู้ติดเชื้อHIV/AIDS 8 รายที่ยังไม่ได้รับยาต้านไวรัสใดๆ เลย  โดยมีสุขภาพดี แข็งแรง และตรวจไม่พบเชื้อเป็นระยะเวลา20-30  เดือนแล้ว รายที่นานที่สุด มีสุขภาพดีต่อเนื่องมา 7 ปีแล้ว  บางรายได้หยุดใช้นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดครบ 1 ปี ก็ยังมีสุขภาพแข็งแรงมากเหมือนเช่นเดิม

“คุณเจมส์”  ซึ่งสามารถหยุดยาต้านไวรัสรวม 12 เดือน แล้ว คือตั้งแต่เดือนธ.ค.2563 ถึง พ.ย.2564  โดยนับเป็นเป็นรายแรกของโลก  กล่าวว่า ทราบว่าติดเชื้อเอชไอวีและเริ่มใช้ยาต้านไวรัสในเดือนก.ค.2560  หลังใช้ยาต้านไวรัสเป็นเวลา 2 ปี เป็นไขมันในเลือดสูง ชาตามปลายมือและเท้า ค่าตับสูง กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีอาการภูมิแพ้ เป็นหวัดบ่อย นอนหลับไม่สนิท ได้เข้าร่วมโครงการเพื่อใช้นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดในเดือนก.ค.2562 ผลการตรวจเลือดครั้งล่าสุด CD4 เท่ากับ 724 cells/cu.mm. และยังคงตรวจไม่พบเชื้อ แข็งแรงเทียบเท่าคนปกติเป้าหมายสูงสุดคืออยากให้ร่างกายปลอดจากเชื้อเอชไอวี

เนื่องในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม พ.ศ. 2564    โครงการวิจัยนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด  Operation  BIM   บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO  ยังได้ประกาศตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาแก่ผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS  ทั่วโลก ผ่านRemote Monitoringพร้อมเปิดรับนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย รุ่นใหม่ๆ นอกจากนี้ ศ.ดร. พิเชษฐ์ ยังมอบเงิน 1 ล้านบาท สนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิสิทธิเด็ก บ้านแกร์ด้า จ.ลพบุรี   ซึ่งดูแลเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ โดยหลายปีมานี้ บริษัทฯ ได้ทำโครงการซีเอสอาร์ นำนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดไปช่วยเหลือ ทำให้น้องๆ มีสุขภาพแข็งแรง ต่อเนื่อง

“ผมอยากทำความเข้าใจให้กับสังคมด้วยว่า เชื้อเอชไอวี ไม่ใช่เป็นเชื้อที่น่ารังเกียจ และปัจจุบันนี้เรามีวิธีการที่จะควบคุมได้แล้ว   หากเราสามารถดูแลเขา จนเขาตรวจไม่พบเชื้อได้ต่อเนื่อง  ให้ถือว่าเขาเป็นปกติ  เมื่อเขาหายแล้ว  ต้องให้โอกาสรับเขาเข้าไปในสังคม เป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป”

กว่า 15 ปี  โครงการวิจัยนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดจากพืชกินได้Operation BIM (Balancing Immunity) ได้รับความร่วมมือจากสถาบันการศึกษา และหน่วยงานของรัฐ หลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)โดยในปี 2558 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ยังประกาศรับรอง นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดด้วยสารสกัดจากพืชกินได้APCOcap ให้เป็นนวัตกรรมของชาติไทย สำหรับเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ติดเชื้อเอชไอวี และในปี 2559  ยังได้รับรางวัลนวัตกรรมดีเด่นจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงได้รับเชิญไปบรรยายในการประชุมระดับโลก EuroScicon 2019  ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อประกาศความสำเร็จที่ทำให้เชื้อเอชไอวีอยู่ในภาวะสงบ หรือ Functional Cure  เป็นครั้งแรกในโลก

ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดAPCO ได้ที่ www.apco.co.th 
หรือติดตามที่Facebook Live:ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ทุกวันอังคาร เวลา 19.00น.
หรือสายด่วน 1154 / 02-646-4800

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น