นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ลงพื้นที่ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ณ บริษัท เจมส์ เอ็กซิบิชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่อยู่ในจุดเกิดเหตุร่วมให้ข้อมูล ตลอดจนตรวจสอบภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ พบว่าภาพวันดังกล่าวมีบุคคลที่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ชาวไทยเดินนำกรุ๊ปทัวร์ตามปกติ ต่อมาเกิดเหตุการณ์มีปากเสียงระหว่างชายชาวจีนรายหนึ่งมีปากเสียงกับนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน และชายคนดังกล่าวได้พูดภาษาจีนห้ามปรามการถ่ายคลิปวิดีโอ พร้อมผลักกล้องมือถือออก เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวต้องร้องขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของร้านเข้าระงับเหตุไว้
เหตุการณ์ดังกล่าวกระทบต่อภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งกรมการท่องเที่ยวจะเร่งตรวจสอบเรื่องนี้ และจะให้บริษัททัวร์และมัคคุเทศก์เข้ามาชี้แจงเพื่อขยายผลและสืบหาข้อเท็จจริงให้ทราบต้นตอของปัญหา สำหรับชายที่มีพฤติกรรมทำร้ายนักท่องเที่ยวซึ่งข่าวลงว่าเป็นมัคคุเทศก์ผิดกฎหมาย หรือมัคคุเทศก์เถื่อน จะประสานงานให้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป หรือหากพบว่าเป็นมัคคุเทศก์ที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย แต่มีความประพฤติและการปฏิบัติหน้าที่ไม่เหมาะสม เข้าข่ายการกระทำผิดต่อระเบียบคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ว่าด้วยมาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ของมัคคุเทศก์ กรมการท่องเที่ยวจะดำเนินการปรับเป็นพินัยและพักใช้ใบอนุญาตมัคคุเทศก์รายนี้ทันที
กรมการท่องเที่ยวขอย้ำว่า การจัดนำเที่ยวทุกครั้ง บริษัทนำเที่ยวจะต้องใช้มัคคุเทศก์ที่มีใบอนุญาตฯ ถูกต้องเท่านั้น โดยต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยและประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ เพราะมัคคุเทศก์ไทยที่มีใบอนุญาตฯ จะผ่านการอบรมและทดสอบความรู้ความสามารถในการเป็นมัคคุเทศก์ที่ถูกต้อง นอกจากจะเป็นผู้บรรยายให้ข้อมูลในการนำเที่ยวแล้ว ยังปฏิบัติหน้าที่สำคัญในการสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น