เมื่อวันที่ 27-29 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง นำโดย นายอัครวิทย์ เทพาสิต ผู้อํานวยภูมิภาค ภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. ผอ.อาชวันต์ กงกะนันทน์ ผอ.ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ นำคณะสื่อมวลชนและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวร่วมห้าสิบกว่าชีวิต เพื่อเดินทางไปสัมผัสเส้นทางท่องเที่ยวกับกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวเพื่อตอกย้ำคำพูดที่ว่า … ความสุขง่าย ๆ หาได้ที่ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมค้นหาแหล่งเที่ยวเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ การเดินทางที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติและสภาพอากาศและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ กิจกรรมนี้จะช่วยเร่งผลักดันการเสนอขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทยของพื้นที่
เช้าตรู่ของวันที่ 27 สิงหาคม 2567 รถตู้ 8 คัน เตรียมพร้อมด้านหน้าอาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ หลังเช็คชื่อเสร็จก็ต้องถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึกก่อนออกเดินทางและแล้วก็ได้เวลาล้อหมุน นำพาขบวนรถตู้ มุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
โดยจุดแรก วัดอ่าวน้อย เป็นวัดที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอ่าวน้อย ตำบลอ่าวน้อย
วัดอ่าวน้อย วัดสวย ประจวบคีรีขันธ์ สักการะ ขอพร ถ้ำพระนอน โดดเด่นด้านความงดงามของอุโบสถไม้สัก ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาวจากเมียนมา มีภาพวาดเกี่ยวกับพระพุทธศาสนารอบผนังโบสถ์และมีรูปปั้นพญานาคล้อมรอบอุโบสถส่วนฝั่งตรงข้ามบนภูเขาด้านติดทะเลอ่าวน้อย จะมีถ้ำพระนอน อ่าวน้อยคือ ถ้ำพระนอน ที่ตั้งอยู่บนภูเขาฝั่งติดทะเลอ่าวน้อย นักท่องเที่ยวจะต้องเดินขึ้นไปตามบันได พร้อมชมวิวทะเลจากมุมสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะมีจุดพักให้หนึ่งจุดสำหรับคนที่เดินระยะยาวไม่ไหว ...
หากจะขึ้นไปสักการะก็เดินขึ้นไปตามขั้นบันไดราว 10-15 นาที ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ศิลปะร่วมสมัยอู่ทอง-รัตนโกสินทร์ ห่มจีวรเหลืองลักษณะเดียวกันเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่งดงามและหาชมได้ยาก ในอดีตถ้ำแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่ชาวเรือมักเข้ามาอาศัยหลบพายุฝนอีกด้วย
วัดอ่าวน้อย : 215 ตำบล อ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ประจวบคีรีขันธ์ 77000
พิกัด : https://goo.gl/maps/9GyvLLnwv9434Qrb9
เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ (Prachuap Khiri Khan City Pillar Shrine)
หลังจากทานอาหารมื้อแรกกันที่ อ่าวน้อยซีฟู้ด ก็เดินทางกันต่อไปยัง ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตั้งอยู่ถนนสละชีพ ตรงข้ามศาลากลางจังหวัด เป็นหลักชัยคู่บ้านคู่เมืองประจวบคีรีขันธ์ และยังเป็นศาลหลักเมืองที่มีขนาดใหญ่และสวยงาม ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ที่นี่ คุณสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และคณะผู้ดูแลศาลหลักเมืองและผู้บริหารของเมือง ให้การต้อนรับคณะของเราอย่างอบอุ่น พร้อมกับเตรียมข้อมูลประวัติความเป็นมาของศาลหลักเมืองให้ผู้มาเยือนได้รับรู้ถึงความสำคัญของสถานที่
โดยศาลแห่งนี้ ออกแบบเป็นศิลปะแบบลพบุรี มีจตุรมุขยอดปรางค์ 9 ชั้นตามแบบสยามลพบุรี ชั้นสูงสุดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและชั้นที่เหลือประดิษฐานองค์เทพต่าง ๆ ส่วนหน้าบันแรกนั้น เป็นรูปรอยตราพญาราหูอมจันทร์ และหน้าบันที่เหลือประดิษฐานองค์เทพล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วสองชั้นองค์หลักเมืองมีนามว่า “จตุโชค” ทำจากไม้ตะเคียน ส่วนยอดแกะเป็นรูป 4 เศียร 4 พักตร์ ศิลปะศรีวิชัย และลงรักปิดทองด้วยอัญมณีทั้งองค์ ศาลหลักเมืองแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นในสมัย ร.ต.อำนวย ไทยานนท์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ในขณะนั้น และวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2536 ต่อมาวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2537 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ แทนพระองค์เป็นประธานศาลหลักเมืองแห่งนี้
ศาลหลักเมือง ประจวบคีรีขันธ์
ที่อยู่ : ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พิกัด : https://goo.gl/maps/uHGx3NNeC1fSwMTY8
เปิดให้เข้าชม : 08.00-19.00 น.
คาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์ & ร่อนทองบางสะพาน ทองนพคุณ
หลังจากสักการะศาลหลักเมืองเป็นสิริมงคลแก่คณะกันแล้วก็เริ่มเดินทางกันต่อ คราวนี้ไปยังพื้นที่ที่มีการร่อนทองแถบบางสะพาน ซึ่งจริงๆ แล้วก็มีแหล่งร่อนทองหลายแห่ง แต่ที่นี่นอกจากจะเป็นแหล่งร่อนทองแล้ว ยังพัฒนาสถานที่ผืนดินแห่งนี้ให้เป็นที่กางเต๊นท์ และบริการร่อนทองพร้อมกับเปิดร้านกาแฟเล็กๆ รองรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเข้ามาสัมผัสกับชุมชนวิถีในอดีตด้วย บริหารโดย คุณพัชรินทร์ สุขสุรัตน์ หรือแอปเปิ้ล เจ้าของคาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์ อดีตพนักงานแบงค์ที่ผันตัวเองมาเริ่มต้นธุรกิจในบ้านเกิด
จากข้อมูลตำนานการร่อนทอง… เล่ากันต่อมาว่า มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าบรมโกศ ปี 2289 ผู้ตั้งเมืองกุยได้ส่งทองร่อนหนัก 3 ตำลึง ถวายพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระองค์จึงเกณฑ์ไพร่จำนวน 2,000 กว่าคน ไปร่อนทองที่บางสะพานเป็นเวลาปีเศษ ได้ทองคำหนัก 90 ชั่งเศษ คิดเป็นน้ำหนัก 54 กิโลกรัม หรือ 3,600 บาทในสมัยนั้น จากนั้นนำทองทั้งหมดไปแผ่เป็นทองแผ่นใหญ่หุ้มยอดมณฑป พระพุทธบาทสระบุรี
สำหรับคุณสมบัติของทองบางสะพานหรือทองบางตะพานมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ‘ทองนพคุณ’ หรือ ‘นพคุณเนื้อเก้า’ เป็นทองที่พบในธรรมชาติ ทองร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องถลุงจะเห็นเป็น ‘Nuggest’
ร่อนทองบางสะพานถือว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในไทย เพราะ สถานที่แห่งนี้ มี สิ่งล้ำค่า อยุ่ในดิน คือทองบางสะพานนั่นเอง เป็นพื้นที่เดียวที่มีทองให้ร่อน สามารถหาทองได้ตามคลองบริเวณนั้น สามารถหาทองโดยการร่อนไม่ต้องผ่านการถลุง
สำหรับลูกค้าที่ต้องการร่อนทองมีค่าบริการ
- เช่าเพียงอุปกรณ์ 100บาท/วัน (สอนวิธีการร่อน การดูดิน การสังเกตุทอง )
- เตรียมชุดพร้อมเลอะพร้อมเปียก. หมวก เสื้อแขนยาว มาให้เรียบร้อย
เส้นทาง=เกาะยายฉิม เลี้ยวเข้าซอย รร.ธนาคารออมสิน แล้วตรงมา 7 กิโล
เลยหมูทะใบเหลียง. ข้ามสะพาน เลี้ยวขวา ตรงไป 200 เมตร
คาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์ & ร่อนทองบางสะพาน ทองนพคุณ
https://maps.app.goo.gl/LZjVMp9xPr41toXW9
โทร. 0997028068
Line:banfangklong
หลังจากนั้นปิดทริปวันแรกกันด้วย ร้านอาหารหนูโภชนา ก่อนจะเข้าพักผ่อนกันที่ บ้านกรูด อคาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา
เริ่มต้นทริปเช้าวันที่สองเริ่มต้นด้วยการสักการะกราบพระเพื่อเป็นศิริมงคล ที่ วัดทางสาย วัดสวย ที่สร้างขึ้นจาก พลังแห่งศรัทธา
เริ่มเช้าวันใหม่ เดินทางกันต่อไปสักการะ พระพุทธกิติสิริชัย ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อใหญ่ เป็นพระพุทธรูปที่ทางคณะสงฆ์วัดทางสายร่วมกับชาวบ้านสร้างขึ้นถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบโดยสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกประธานถวายนามว่า “พระพุทธกิติสิริชัย” ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าบนยอดเขาธงชัย เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ปางสมาธิแบบคันธาระ ศิลปะอินเดีย ลักษณะประทับขัดสมาธิดอกบัว หันพระพักตร์ออกสู่ทะเล ใกล้กัน เป็นทางขึ้นสู่ วัดทางสาย วัดสวย ริมทะเลบ้านกรูด ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นหนึ่งในที่เที่ยวสวยห้ามพลาด
ไฮไลท์คือ พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ เจดีย์เก้ายอด
สวยอลังการยิ่งใหญ่ ของ วัดทางสาย เป็นมหาธาตุเจดีย์ที่ในหลวงร.9 ทรงพระราชทานชื่อให้ เป็นสถาปัตยกรรมไทยในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อพระมหากษัตริย์ โดยไม่ใช้เงินของทางราชการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลโดยเฉพาะในวโรกาสครองราชย์ครบรอบ 50 ปี โดยเจดีย์ทรงระฆังนี้ จะตั้งอยู่บนฐานไพที รูปสี่เหลี่ยมจตุรัส มีอาคารสูง 5 ชั้น ที่หมายถึง การครองราชย์ครบ 50 ปี หรือมีความหมายถึงขันธ์ 5 และมีเจดีย์หมู่ 9 องค์ ที่หมายถึงวัดประจำ
รัชกาลที่ 9
วัดทางสาย ประจวบคีรีขันธ์
ที่อยู่ : ริมทะเลบ้านกรูด ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พิกัด : https://goo.gl/maps/KyUU8qooBH4Ypmzu6
เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.30 น.
วัดเขาถ้ำม้าร้อง (Wat Khao Tham Ma Rong)
หลังจากสักการะองค์หลวงพ่อใหญ่กันแล้ว คณะเราก็เดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากๆอีกแห่งหนึ่ง นั่นคือ วัดเขาถ้ำม้าร้องวันนี้ นายอำเภอ “สุทิน ประเสริฐศักดิ์” แห่งบ้านม้าร้อง และชาวชุมชนท่องเที่ยวม้าร้องซิตี้หรือบ้านม้าร้อง ร่วมกันต้อนรับขับสู้ทั้งอาหารคาวหวาน กาแฟ และผลิตภัณฑ์ที่ชาวบ้านผลิตมาจำหน่ายด้วยตัวเอง นอกจากจะจัดอาหารพื้นถิ่นแสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็นใบเหลียงผัดไข่ คั่วเคย โดยเฉพาะแกงไก่เหมงมะพร้าว อาหารพื้นบ้านที่ใช้ผลมะพร้าวอ่อน(ซึ่งยังไม่สร้างเนื้อมะพร้าว) นำมาแกงไก่ใส่กะทิ อร่อยเลิศจนต้องขอเพิ่มมีผลิตภัณฑ์ชุมชนเช่นไข่เค็มสมุนไพรบ้านม้าร้อง หมวกถัก น้ำผึ้งป่า บาล์มสมุนไพร น้ำยาอเนกประสงค์ ส่วนด้านการท่องเที่ยวก็มีกิจกรรมเช่น มีรถซาเล้งพานำชมสวนป่าชุมชน มีนำเที่ยวถ้ำม้าร้อง มีฐานผึ้งโพรง กิจกรรมทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ต่างๆ เหล่านี้สามารถสอบถามได้ที่ คุณประวิทย์ รัตนพงศ์ 081 292 8141
วัดเขาถ้ำม้าร้อง ประจวบคีรีขันธ์
ที่อยู่ : ตำบลพงค์ประสาสน์ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พิกัด : https://goo.gl/maps/Bj7ZGU7opjbauZeVA
เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด
หลังจากเมื่อวานเราไปเมล่อน เมล่อนกัน วันนี้ได้เดินทางยังศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด ที่นี่มี หนุ่มโจ้ –จิรฐกรณ์ อิสระพาณิชย์ ชาวอำเภอบางสะพาน ที่หลงใหลเรื่องราวของทองบางสะพานมานานหลายปี พร้อมกับเริ่มสะสมทองและศึกษาความเป็นมา ศูนย์เรียนบ้านทองเม็ด เป็นสถานที่ท่องเที่ยงเชิงอัตตลักษณ์ของจังหวัด ไว้สำหรับมาเรียนรู็วิถีชีวิตการร่อนทองบางสะพาน จำหน่ายเครื่องประดับจากทองบางสะพาน ปรับพื้นที่บ้านส่วนหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่ ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเป็น “ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด” มีการนำทองบางสะพานในรูปแบบต่างๆ ทั้งทองผง-ทองเกล็ด-ทองเม็ดและทองอมหิน พร้อมข้อมูลที่รวบรวมประวัติความเป็นมาของทองบางสะพานมาจัดแสดง นอกจากนี้ยังพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับทองจำหน่ายให้ผู้เข้าเยี่ยมชมอีกด้วย
ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โจ้ บ้านทองเม็ด โทร 0875565697
DAY 3 : Mega Fam Trip ความสุขง่าย ๆ หาได้ที่ประจวบคีรีขันธ์
วนอุทยานปราณบุรี (Pran Buri Forest)
ย่างเข้าสู่วันที่สามของการร่วมทริป สำรวจเส้นทางท่องเที่ยว Mega Fam Trip กันแล้ว วันนี้ก่อนกลับกรุงเทพมหานคร ทางททท.ได้พาเราไปชมพื้นที่ป่าโกงกางขนาดใหญ่ ชมป่าชายเลน วนอุทยานปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาทุกคนไปเที่ยวกันในวันนี้ เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาเที่ยวทั้งครอบครัว สถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ตั้งอยู่ใน ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยป่าไม้ และบริเวณของชายหาด มีบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่น เป็นโครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่มีเส้นทางให้เดินศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลนเป็นระยะทางยาวกว่า 1,000 เมตร
ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 50 ปีก่อน ป่าชายเลนด้านทิศเหนือของแม่น้ำปราณบุรี ได้ถูกบุกรุกทำลายกลายเป็นป่าเสื่อมโทรม ในปี พ.ศ. 2517 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร บริเวณหมู่บ้านปากน้ำปราณบุรี ทรงมีความสนพระทัยเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ป่าชายเลน และทรงมีพระราชเสาวนีย์สนับสนุนให้มีการปลูกพันธุ์ไม้ต่าง ๆ บริเวณชายทะเลปากน้ำปราณบุรี เพื่อพัฒนาเป็นป่าอเนกประโยชน์ผลิตไม้ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ป้องกันลมพายุ และเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงอนุบาลสัตว์น้ำกรมป่าไม้ จึงได้จัดทำ โครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้น ในปี 2517 ครอบคลุมพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองเก่า คลองคอย ประกอบด้วย ป่าชายเลน และมีแม่น้ำปราณบุรีไหลผ่านตอนกลางของพื้นที่ป่า ซึ่งภายหลังได้มีการจัดตั้งเป็น “วนอุทยานปราณบุรี” เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2525
…. ณ ปัจจุบัน ผืนป่าโกงกางที่งดงามแห่งนี้ ถือแหล่งเรียนรู้ด้านระบบนิเวศน์ป่าชายเลนอันสำคัญ ที่เป็นมรดกส่งต่อให้กับลูกหลานคนไทยได้ร่วมกันสืบทอดเจตนารมณ์ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรด้านสิ่งแวดล้อมที่ทรงคุณค่านี้ต่อไปตราบนานเท่านาน
วนอุทยานปราณบุรี
ที่อยู่ : วนอุทยานปราณบุรี 14 ผาสุกวนิช 16 ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พิกัด : https://goo.gl/maps/BkhG9dpcsnpudRnC7
เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
“ประจวบคีรีขันธ์ เมืองมหัศจรรย์สามอ่าวของท้องทะเลอ่าวไทย เป็นจังหวัดตอนใต้สุดของภาคกลาง มีความยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้กว่า 212 กิโลเมตรจนได้ชื่อว่า ประจวบย๊าวยาว แต่ยังคงมีสถานที่น่าสนใจและสวยงามซุกซ่อนเอาไว้รอให้นักท่องเที่ยวได้มาค้นหาและรับรู้ว่าประจวบคีรีขันธ์ มีอะไรให้เที่ยว ให้ชม ให้อร่อย”
ข้อมูลจากททท.แนะนำการท่องเที่ยวของทริป Mega Fam Trip ครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จไม่ได้เลยหากปราศจากซึ่งผู้มาเยือน … ผู้มาร่วมค้นหา… ผู้มาร่วมติดตามรับรู้ความเป็นเมืองมหัศจรรย์ประจวบคีรีขันธ์ ….แล้วคุณล่ะพร้อมหรือยัง ? กับการตามรอย ทริป “ประจวบ…ย๊าว…ยาว”
ขอขอบคุณ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ผอ.อัครวิชย์ เทพาสิต
ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ผอ.อาชวันต์ กงกะนันทน์
ชาวบ้านชุมชนวัดเขาม้าร้อง นายอำเภอ สุทิน ประเสริฐศักดิ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสมคิด จันทมฤก
รองผอ.ททท.ภูมิภาคภาคกลาง นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ
ทีมงาน ททท. น้องแพค น้องเก้า น้องตั๊กและอีกหลายท่านที่ไม่ได้เอ่ยนาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น