ไวน์จากภูมิปัญญาชาวบ้าน ภูมิปัญญาการหมักแบบดั้งเดิม แต่มีการปรับปรุงกระบวนการให้ได้มาตรฐาน ใครจะเชื่อว่า บักโค่ย หรือ "องุ่นป่าสารพัดประโยชน์" จะกลายเป็นผลผลิตในการผลิตไวน์ที่คุณภาพสูง องุ่นป่า หรือส้มโก่ยนั้น เป็นพืชไม้เลื้อย ลำต้นเป็นเถา มีใบและผลเป็นพวงคล้ายกับองุ่นทั่วไปอย่างมาก ตอนดิบจะมีสีเขียวอ่อน เริ่มห่ามจะมีสีแดง และเมื่อสุกงอมจะเป็นสีม่วง สีสันสวยงาม ภายในป่าตำบลหินซ้อน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูฝน บักส้มโก่ย กำลังเริ่มสุกงอม พร้อมนำไปผลิตไวน์
"บักโค่ย" หรือที่เรียกอีกอย่างว่า "ส้มโก่ย" ที่หายากและเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นผลไม้ป่าชนิดหนึ่งที่คล้ายองุ่น มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว และมักพบได้ในฤดูฝน ผลไม้ชนิดนี้มีทั้งการรับประทานสด หรือแปรรูปเป็นไวน์ได้ ......ซึ่งอยู่ห่างจากแหล่งปลูกไวน์ จะสามารถผลิตไวน์คุณภาพสูง ผลิตไวน์ ที่มีรสชาติมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว.
📌 ทำไม “หินซ้อน สระบุรี” ถึงกลายเป็นแหล่งผลิตไวน์ ไวน์บักโค่ย เกิดจากความรักและความเอาใจใส่ของชุมชน ต.หินซ้อน ซึ่งถือเป็นว่าเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม เป็นมรดกทางใจ ของชุมชนหินซ้อน ด้วยเอกลักษณ์และศิลปะของไวน์ Buck Koei Red จากวิสาหกิจ ชุมชนฮัก-ป่าสัก หินซ้อน ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนา ตั้งใจจะรักษาไว้ให้เป็นมรดกอันล้ำค่าของตำบลหินซ้อน โดยผ่านความพยายามในการทำงานเพื่อเชื่อมโยงชุมชนท้องถิ่นไปสู่ตลาดสากล
📌 จากองุ่นป่า สู่ไวน์คุณภาพ
โดยองุ่นแต่ละลูกจะมีความสมบูรณ์ สะท้อนถึงแก่นแท้ของแหล่งกำเนิดที่อุดมสมบูรณ์ได้อย่างดี องุ่นหายากเหล่านี้ให้ผลเพียงปีละ 1 ครั้ง จึงทำให้สามารถผลิตเป็นไวน์ได้เพียงประมาณไม่มากต่อปีอุตสาหกรรมไวน์ไทย และเป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ที่อยากเข้ามาสร้างสรรค์ไวน์ในประเทศตัวเอง เพราะต่อให้เราไม่ได้อยู่ใน “พื้นที่ทองคำของไวน์” แต่ด้วยความตั้งใจ วิทยาศาสตร์ และความกล้าสามารถสร้างไวน์คุณภาพระดับโลกได้เหมือนกัน
ใครจะคิดว่า “จังหวัดสระบุรี” ซึ่งอยู่ห่างจากแหล่งปลูกไวน์ระดับโลก สามารถผลิตไวน์คุณภาพสูง กลายเป็นแหล่งผลิตไวน์ โดยกการผลิตไวน์บักโค่ย เกิดจากความรักและความเอาใจใส่ของชุมชน ต.หินซ้อน“รสชาติมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว” จากดิน น้ำ และอากาศของเขาใหญ่โดยเฉพาะ!
📌 จากอลุ่นป่าบักโค่ย กลายเป็นแหล่งผลิตไวน์
ไวน์บักโค่ย เกิดจากความรักและความเอาใจใส่ของชุมชน ต.หินคุณภาพระดับโลกได้เหมือนกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น