กาล่าดินเนอร์อลังการ ณ มฤคทายวัน
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ด้วยอาหารสุดพิเศษ รังสรรค์ โดย เชฟ FUZIO การันตีด้วยรางวัลระดับโลก
กับเมนูสุดหรูชูวัฒนธรรมไทยแต่โบราณของชาววัง
มี ช่อม่วง กุ้งโสร่ง กุ้งพันอ้อย แกงจืดเจ้าเงาะ
อกไก่เสริฟพร้อมมันฝรั่งกับซอสมะขาม ผักโขม พานาก็อตต้า และซอสมะม่วง พร้อมผลไม้
พร้อมดื่มด่ำกับเสียงบรรเลงเพลงสุดคลาสสิคจากวงออเคสตร้า 25 ชิ้น
โดยมีลูกหว้า พิจิกา จิตตะปุตตะ
ศิลปินชื่อดังนำเพลงไพเราะทั้งสากลและไทยสากลมาขับกล่อม รุ่งเช้าเดินทางไปชมความงดงามของวัดใหญ่สุวรรณาราม
ที่อ.เมือง เพชรบุรี รับประทานมื้อเที่ยงที่ร้านชื่อดังเปลญวน
เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
นายไพรัชช์ ทุมเสน ผู้อำนวยการกองตลาดภาคกลาง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า
จากปรากฏการณ์สำคัญหนึ่งในกระแสการท่องเที่ยวช่วงปี 2561 ที่ผ่านมา
คือกระแสการเดินทางท่องเที่ยวแบบย้อนยุค หรือที่เรียกว่า Nostalgia Tourism
เป็นการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งที่ตอบสนองความต้องการ “โหยหาอดีต”
และนำมาสู่ความต้องการที่จะหวนย้อนกลับไปมีประสบการณ์
ในอดีตที่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เจริญรุ่งเรือง หรือมีความงดงามทางวัฒนธรรม
ดังนั้นททท.ภูมิภาคภาคกลาง
ได้นำจุดเด่นเกี่ยวกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ความเป็นราชธานีที่เจริญรุ่งเรืองมายาวนานกว่า
600 ปี ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์
ซึ่งมีความอุดมไปด้วยศิลปกรรมหัตถกรรม วิถีการกินชั้นสูง และหลักฐานการหลอมรวมวัฒนธรรมนานาชาติในดินแดนที่เป็นศูนย์กลางการค้าและการทูต
เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปร่วมสัมผัสเส้นทางมรดกแห่งสยาม: Premium
Nostalgia More Legacy
โดยครั้งนี้เป็นเป็นทริปต์พิเศษ
ที่คณะผู้จัดซึ่งเป็นพันธมิตรซึ่งมีแนวคิดเดียวกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
นำนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อ เดินทางท่องเที่ยวใน "เส้นทางมรดกสยาม"
จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์
ตามรอยสยาม วัด วัง เป็นครั้งแรกของการจัดกิจกรรมรูปแบบนี้
ถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่าย และเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพได้ร่วมเดินทางในโอกาสต่อไป นักท่องเที่ยวชุดแรกในทริปต์พิเศษนี้
ได้สัมผัส ความงดงามของ วัง วัด
ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ได้รับประทานอาหารโบราณ หน้าเรือนของเจ้าพระยารามราฆพ ชมการ
เดินแบบจากนางแบบชั้นแนวหน้าในชุดผ้าไทยพร้อมครื่องประดับทองโบราณฝีมือช่างเมืองเพชรที่สืบทอดการทำทองดั้งเดิมแบบอยุธยา
และยังมาเปิดบูธให้ได้ชื่นชมและจับจ่ายในงานในราคาพิเศษด้วย
"ถือเป็นโครงการ พรีเมี่ยม
ซึ่งเราอยากให้นักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพหรือมีกำลังซื้อได้ท่องเที่ยวในประเทศของเรา
เงินทองไม่รั่วไหล หากนักท่องเที่ยวสนใจทริปต์ไฮเอ็นแบบนี้สอบถามได้ที่ 1672 เมื่อมีกลุ่มพันธมิตรใดจัด
ทางททท.จะทำหน้าประสานและให้ความช่วยเหลือ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการนำร่อง"
ผอ.กองการตลาดภาคกลาง ททท.กล่าว
ด้านคุณประวิทย์ โนนทิง หรือช่างหน่อย เจ้าของร้านบ้านรักษ์ทองโบราณ
เรียนและสืบทอดการทำทองตั้งแต่อายุ20 ปี ปัจจุบัน 37 ปี
ซึ่งได้นำเครื่องทองรูปพรรณงดงามวิจิตร
ให้นางแบบใส่โชว์และนำมาร่วมออกบูธในงานกาล่าดินเนอร์ เปิดเผยว่า
ปลาบปลื้มและถือเป็นเกียรติแห่งชีวิตเป็นอย่างยิ่ง
เพราะตนเป็นเพียงช่างบ้านๆที่มีความรักในงานโบราณและสืบทอดการทำจากพี่ชายซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อตนรับการถ่ายทอดงานเพียง
5 ปี
แต่เพราะใจรักได้รับจ้างร้านอื่นๆจนเปิดร้านของตัวเองเมื่อปี2556
และยึดเอกลักษณ์ลายทองโบราณเฉพาะตัว
ผลงานทำมือทุกชิ้น งานโซน จ.อยุธยามาทางถึงโซนเพชรบุรีจะออกแนวอยุธยา
จะไม่เหมือนทางด้านสุโขทัย เน้นตอกลาย
ดุลลาย ความละเอียดในการวางดอกพิกุล
การเป่าไข่ปลา งานจะแตกต่างกัน เช่น แหวนนพเก้า แหวนพญานาค ทับทรวง อุบะ เน้นการตอกลาย สำหรับบ้านรักษ์ทอง
ตั้งอยู่ที่เลขที่ 368 ถ.ดำเนินเกษม ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรีT.084-102-3889
/088670-9191
ขณะที่คุณบุญเลิศ ศิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม ออสสิริส
ซึ่งสืบทอดกิจการร้านทองโบราณมาจากคุณปู่ที่เป็นช่างทองเพชรบุรีเมื่อ 70
ปีที่ผ่านมาสืบทอดการทำทองมาจากช่างทองยุคอยุธยาแล้วแตกสายกันมาที่เพชรบุรีนำทองสวยงามมาร่วมให้นางแบบใส่เดินโชว์ด้วยเช่นกัน
สำหรับ"มฤคทายวันราชนิเวศน์" มรดกแห่งสยาม
สร้างขึ้นโดยพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เพื่อเป็นที่ประทับระหว่างเสด็จแปรพระราชฐานในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากในช่วงนั้นทรงพระประชวร
แพทย์หลวงจึงถวายคำแนะนำให้เสด็จไปประทับ ณ สถานที่ตากอากาศชายทะเล ได้ดำเนินการก่อสร้างในปี พุทธศักราช 2466
-2467 ขณะนี้อยู่ระหว่างการบูรณะเพื่อเฉลิมฉลองอายุ100ปีในพ.ศ.2567
ประกอบด้วยพระที่นั่ง 3 หมู่ ได้แก่
หมู่พระที่นั่งสมุทรพิมาน เป็นส่วนของฝ่ายใน ตั้งอยู่ทางทิศใต้
หมู่พระที่นั่งพิศาลสาคร เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่
ณส่วนกลาง และสโมสรเสวกามาตย์ เป็นอาคารโถง มี 2
ชั้น ใช้เป็นโรงละครและท้องพระโรง
พระที่นั่งเหล่านี้เชื่อมต่อถึงกันด้วยสะพานไม้มีหลังคาคลุม สำหรับตัวอาคารเป็นอาคารยกพื้นสูง
สร้างด้วยไม้สักทอง ตอม่อเป็นเสาคอนกรีต หลังคามุงกระเบื้องว่าวโดยรวมมีลักษณะโปร่งเบา
เหมาะกับภูมิอากาศ และบรรยากาศของชายทะเล
"วัดใหญ่สุวรรณาราม"
เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร
ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าราบ
อ.เมือง เพชรบุรี มีการปฏิสังขรณ์ในรัชกาลที่ 4
สันนิษฐานว่าเป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
ดังจะเห็นได้จากหลักฐานตามพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ที่ทรงไว้ว่า “ภาพและลายในพระอุโบสถนี้คงเขียนมา
ก่อน 300 ปีขึ้นไป…”
ความโดดเด่นอยู่ที่รูปแบบของสถาปัตยกรรม
งานจิตรกรรม และประติมากรรม ที่รวบรวมช่างฝีมือไว้หลายสาขา โดยเฉพาะฝีมือช่างเพชรสมัยกรุงศรีอยุธยาที่เห็นได้ในพระอุโบสถและศาลาการเปรียญ
และหอเก็บพระไตรปิฏก
เป็นอาคารไม้ผนังฝาปะกน รองรับด้วยเสาไม้ 3 เสา จากแนวคิดที่ว่า พระไตรปิฎก
ประกอบด้วย 3 ปิฎกคือ พระธรรมปิฏก
พระไตรปิฏก และพระสุตันตปิฎก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น