แฟลกซ์ชิพสโตร์กาแฟสเปเชียลตี้ แห่งแรกในไทย ใจกลางสีลม
อโรม่า กรุ๊ปตอกย้ำผู้นำธุรกิจกาแฟคั่วบด และเครื่องดื่มแบบครบวงจร จับมือ ฮาริโอะ ผู้นำอุปกรณ์การชงกาแฟแบบ slow bar แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น รุกตลาดกาแฟกลุ่ม Specialty ต่อยอดธุรกิจแบบครบวงจร เปิด Hario Café (ฮาริโอะ คาเฟ่) แฟลกซ์ชิพสโตร์เอาใจคอกาแฟครบทุกกลุ่ม ทั้ง Speed Bar, Slow Bar รวมถึงอุปกรณ์ฮาริโอะ ที่นำมาให้เลือกซื้อครบทุกไลน์ ตั้งแต่อุปกรณ์ชงกาแฟ เครื่องครัว และอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง พร้อมเมล็ดกาแฟระดับพรีเมื่ยมจากหลายแหล่งผลิตชั้นนำระดับโลกมาให้เลือกมากที่สุด และบาริต้าที่ชำนาญงาน ที่พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำ ในระดับราคาที่เข้าถึงได้ ใจกลางสีลม พร้อมดึงกลยุทธ์การแชร์ประสบการณ์ร่วม มั่นใจศักยภาพของฮาริโอะ และความเป็นผู้นำในตลาดกาแฟคั่วบด และเครื่องดื่มแบบครบวงจรของอโรม่า จะช่วยผลักดันฮาริโอะ เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 50% และสร้างศักยภาพทางธุรกิจของกลุ่มอโรม่าให้ครอบคลุมกลุ่มสินค้าของตลาดกาแฟในประเทศไทย เพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายทั้งหมดของกลุ่มให้เพิ่มมากขึ้น อืกไม่ต่ำกว่า 30% ในปีนี้ โดยฮาริโอะคาเฟ่ จะเป็นส่วนสนับสนุนให้อโรม่าขยายตลาดไปสู่กลุ่มผู้บริโภคได้หลากหลายเพิ่มมากขึ้น แม้โดยภาพรวมทุกธุรกิจจะได้ผลกระทบจากโควิด-19นายกิจจา วงศ์วารี กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือ อโรม่า กรุ๊ป (Aroma Group) |
ความสำเร็จจากการเปิด Hario Café ในรูปแบบ Slow Bar แบบชิคแอนด์คูลแนวเจแปนนิส สาขาแรกย่านลาดพร้าว เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ที่สุดพิเศษในคาเฟ่แบบ slow bar พร้อมศิลปะการชงทั้งแบบ drip, syphon, cold brew มาเสิร์ฟให้ลูกค้า ควบคู่ไปกับการให้ความรู้กับลูกค้าเสมือนเป็น Coffee Community โดยลูกค้าสามารถพูดคุยสอบถามข้อมูลต่างๆกับบาริสต้า พร้อมแนะนำการใช้อุปกรณ์การชงที่ทันสมัย จากการสร้างสรรค์และพัฒนาโดย Hario ที่บาริสต้าใช้ประจำอยู่ที่ร้าน ให้ลูกค้าสามารถหาซื้อไปใช้ในการรังสรรค์เครื่องดื่มด้วยตัวเองที่บ้านได้อย่างสะดวก ผลักดันให้ผู้บริโภครู้จักการใช้งานเพิ่มมากขึ้น เป็นการสร้างประสบการณ์ร่วมกัน จึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก ท่ามกลางภาวการณ์วิกฤตโควิด-19 และส่งผลให้กลุ่มอโรม่าได้รับความสนใจจากลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ในฐานะของ new entry ในการเข้าสู่ตลาด Specialty และทำให้อโรม่า เข้าถึง consumer ได้เพิ่มมากขึ้น พร้อมกวาดรายได้ไปกว่า 1,700 ล้านบาท เมื่อปีที่ผ่านมา และ เติบโตขึ้นเกือบ 20%” นายกิจจากล่าวและเพิ่มเติมว่า
“การขยาย Hario Café ในรูปแบบ flagship store ที่อาคารธนิยะพล่าซ่าในครั้งนี้ นอกจากจะนับเป็น flagship store ที่ใหญ่ที่สุด ของฮาริโอะด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 30 ล้านบาท บนพื้นที่ใช้สอยถึง 480 ตร.เมตร แล้ว ยังนับเป็นร้านกาแฟที่สอดรับความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่ต้องการความรวดเร็ว ทั้งสำหรับคอกาแฟและที่ไม่ใช่คอกาแฟ จากเมนูเครื่องดื่มที่เข้ามาร่วมสร้างสีสัน ให้ได้สนุกไปกับการดื่มในแนว Speed Bar หรือผู้ที่นิยมการดื่มกาแฟแนว Specialty ในรูปแบบ Slow Bar ที่พร้อมร่วมสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้บริโภคให้เกิดการแลกเปลี่ยนทั้งประสบการณ์ทางสายตา และการพูดคุย ในขณะเดียวกัน บาริสต้าก็เลือกที่จะใช้การสื่อสารที่เข้าใจง่าย เพื่อให้ความรู้ กับผู้บริโภคและทำให้เกิดการพัฒนา เอาประสบการณ์ที่ใช่ให้กับลูกค้าได้ทดสอบ ใช้ได้จริง ทั้งจากเครื่องชงกาแฟแนว Specialty แบบต่าง ๆ จากฮาริโอะ แทนการเปิดพื้นที่ให้นั่งพูดคุยกันเองเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ Hario Café Bangkok ที่ธนิยะพลาซ่า ยังนับเป็นแหล่งรวมเมล็ดกาแฟ specialty ที่หลากหลายมากที่สุดในประเทศไทยจากการนำเข้าโดยอโรม่า ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาแฟคั่วบดมายาวนานกว่า 70 ปี
ที่คัดสรรเมล็ดกาแฟพิเศษ หายากตาม Seasonal จากแหล่งผลิตกาแฟที่ดีที่สุดของโลก รวมถึงกาแฟ COE (Cup of Excellence) ที่ทางอโรม่าประมูลมาได้จากหลากหลายประเทศ เช่น โคลัมเบีย คอสตาริก้า นิการากัว มาคอยบริการให้ลูกค้าได้ลิ้มลองเมล็ดพิเศษๆ ใหม่ๆ อยู่เสมอ และพร้อมจำหน่ายในราคาที่เหมาะสม เพื่อให้คนเข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งความร่วมมือกับฮาริโอะ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านเครื่องแก้วที่หลากหลาย มีการสร้างสรรค์ และพัฒนาสินค้า อุปกรณ์การชงเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ ให้เข้าถึงความต้องการ และสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสม อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับว่า Hario Café สาขาธนิยะพลาซ่า เป็น Community ของคนรักกาแฟที่สมบูรณ์แบบและดีที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย จึงคาดว่าการเติบโตในปีนี้ของฮาริโอะจะไม่ต่ำกว่า 50 % จากปีที่ผ่าน โดยแบ่งเป็นการขายจากส่วนอุปกรณ์การชง และรายได้จากเครื่องดื่มเมนูต่างๆ แม้ว่า ในส่วนของ Hario Café จะไม่เน้นการเร่งขยายสาขา แต่ก็คาดว่า จะมีการขยายสาขา Hario Café เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2-3 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ ” นายกิจจากล่าวสรุป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น